ฮั่วหมิงเป็นผู้ฝึกตนที่ทรงพลังเขาถูกบังคับให้หนีออกเอกภพ และได้พบกับจักรวาลเวทย์มนตร์ (นิยายเรื่องนี้ไม่ได้เน้นความเป็นวิทยาศาสตร์ แต่เน้นแฟนตาซีมากกว่า.)

ฝึกตนแห่งจักรวาลเวทย์มนตร์ (Immortal Cultivator in Magic Universe) - ตอนที่ 2 เกิดใหม่ โดย maxip33 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ไซไฟ,ผจญภัย,แอคชั่น,อวกาศ,ทะลุมิติ,ผู้บ่มเพาะ,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ฝึกตนแห่งจักรวาลเวทย์มนตร์ (Immortal Cultivator in Magic Universe)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ไซไฟ,ผจญภัย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อวกาศ,ทะลุมิติ,ผู้บ่มเพาะ,แฟนตาซี,ต่างโลก

รายละเอียด

ฮั่วหมิงเป็นผู้ฝึกตนที่ทรงพลังเขาถูกบังคับให้หนีออกเอกภพ และได้พบกับจักรวาลเวทย์มนตร์ (นิยายเรื่องนี้ไม่ได้เน้นความเป็นวิทยาศาสตร์ แต่เน้นแฟนตาซีมากกว่า.)

ผู้แต่ง

maxip33

เรื่องย่อ

สารบัญ

ฝึกตนแห่งจักรวาลเวทย์มนตร์ (Immortal Cultivator in Magic Universe)-ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น,ฝึกตนแห่งจักรวาลเวทย์มนตร์ (Immortal Cultivator in Magic Universe)-ตอนที่ 2 เกิดใหม่,ฝึกตนแห่งจักรวาลเวทย์มนตร์ (Immortal Cultivator in Magic Universe)-ตอนที่ 3 เดินทางไปโบสถ์สามเทพต้นกำเนิด

เนื้อหา

ตอนที่ 2 เกิดใหม่

ดาวบริวารฉายแสงพร้อมกับดวงดาวมากมายที่ประดับอยู่บนท้องฟ้า




จากสายตาของมนุษย์เมื่อมองไปที่ท้องฟ้าในค่ำคืนนี้มันค่อนข้างสวยงาม




บนพื้นผิวของดวงดาวถูกย้อมไปด้วยสีน้ำเงินเข้มของความมืดมิดในยามค่ำคืน




เวลาสามทุ่ม




คฤหาสน์ตระกูลเซอร์เก็น




คฤหาสน์ตระกูลเซอร์เก็นตั้งอยู่ภายในอาณาจักรสตาร์เรลทางตอนเหนือ




คฤหาสน์มีรูปลักษณ์คล้ายกับปราสาทหินสีเทา มีฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส




ในแต่ละมุมประกอบด้วยหอสังเกตการณ์ที่เชื่อมต่อกับโครงสร้างของตัวคฤหาสน์




ตัวคฤหาสน์ไม่มีหลังคาแต่บนเพดานประกอบด้วยหินที่ติดกันภายในมีสี่ชั้น




ชั้นแรกสำหรับการอำนวยความสะดวกทั่วไป เช่น ห้องน้ำ ห้องครัวห้องรับแขก และอื่นๆ




ชั้นที่สองเป็นชั้นสำหรับคนรับใช้และลูกจ้างของตระกูลเซอร์เก็น ไม่ว่าจะเป็นการนอน การพักผ่อน การอาบน้ำ และอื่นๆ




ชั้นที่สามสำหรับการทำงานของตระกูลเซอร์เก็น




ชั้นที่สี่ เป็นห้องส่วนตัวของบุคคลในตระกูลเซอร์เก็น




ในแต่ละชั้นก็จะมีห้องที่ต่างกันไป




ที่ตั้งของคฤหาสน์ถูกล้อมไปด้วยที่อยู่ของหน่วยรบที่ประจำการอยู่บริเวณที่ห่างจากตัวคฤหาสน์เป็นสี่เหลี่ยมด้านละห้าร้อยเมตร




อย่างไรก็ตามยังมีหน่วยรบบางส่วน ประจำการอยู่ที่จุดต่างๆ ในตอนกลางคืน เพื่อตรวจสอบความผิดปกติและความเรียบร้อยของพื้นที่




ชั้นที่สี่ในบ้านของตระกูลเซอร์เก็น




ห้องของนายน้อยตระกูลเซอร์เก็น




ห้องของนายน้อยตระกูลเซอร์เก็นเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีความกว้างอยู่ที่หกเมตร ยาวสิบเมตร ภายในมีสีขาวหม่น




ในห้องประกอบไปด้วยเตียงนอน โต๊ะทำงาน โคมไฟ ตู้เก็บของ และตู้เสื้อผ้า




“เปโตร เซอร์เก็น” เขาเป็นนายน้อยเพียงคนเดียวของตระกูลเซอร์เก็น เขาเป็นผู้สืบทอดที่จะเป็นผู้นำตระกูลคนต่อไป




เขามีรูปร่างที่เหมือนเด็กชายอายุเจ็ดหรือแปดปี เปโตรมีผมสีดำ ดวงตาสีดำ ผิวสีขาว ใบหน้าบอบบาง รูปร่างสมส่วน สวมชุดนอนสีขาวที่ดูเรียบง่าย




และด้วยท่าทางในการนอนหลับของเขาในตอนนี้มันยิ่งทำให้เขาดูน่ารัก ไม่ต่างจากเด็กชายทั่วไปเลยแม้แต่น้อย




แต่ในจังหวะนี้ เขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างกระทันหัน และพยายามตะโกนเพื่อพูดบางอย่าง




อย่างไรก็ตามราวกับว่าร่างกาย ไม่เป็นไปตามการควบคุมของเขา




กล่องเสียงของเปโตร กลับไม่มีเสียงใดๆ ออกมาสักคำ




ยิ่งไปกว่านั้นเขากลับรู้สึกว่ามีบางอย่างพยายามแย่งชิงอำนาจในการควบคุมร่างกายไปจากเขา




มันเหมือนกับปีศาจที่ต้องการร่างกายของเขา ยิ่งเปโตรพยายามต่อต้านมันเท่าไหร่




มันก็ยิ่งกระทำมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น เขาเริ่มรู้สึกว่าการรับรู้ของตัวเองกำลังจะหายไปอย่างช้าๆ




ด้วยความกลัวเขาจึงเริ่มลุกออกจากเตียงด้วยความยากลำบาก




เพื่อเข้าไปหาบางอย่างในตู้เก็บของ แต่ทว่าด้วยร่างกายที่ไม่เป็นไปตามการควบคุม




มันจึงทำให้กระบวนการดังกล่าวเป็นไปได้อย่างยากลำบาก




ทว่าในที่สุดเขาก็สามารถ เข้าไปที่ตู้เก็บของและเปิดประตูได้สำเร็จ




เผยให้เห็นสิ่งของมากมายที่อยู่ภายใน แต่ขณะนี้สายตาของเด็กน้อยกลับมองไปที่มีดเล่มหนึ่งและใช้มือหยิบมันขึ้นมา




อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะได้ทำเช่นนั้นมือของเขากลับต่อยไปที่ร่างกายของตนเองอย่างกระทันหัน




ชัดเจนว่ามือและแขนไม่ได้อยู่ในการควบคุมของเขาอีกต่อไป




มันพยายามต่อยไปที่ร่างกายของเปโตรเพื่อทำลายส่วนต่างๆ ของร่างกายของเขา ไม่ว่าจะเป็น แขน ขา มือ นิ้ว ลำตัว หรือแม้แต่ศีรษะ




จนกระทั่งเขาล้มลงบนพื้นห้อง อย่างไรก็ตามมันยังเข้ามาบีบคอของเขาก่อนที่เปโตรจะหมดสติลงไป




ไม่กี่นาทีต่อมา




เปโตรลืมตาและรุกขึ้น ไปเปิดหน้าต่างที่ปิดอยู่ก่อนที่แสงจันทร์ของดาวบริวารจะกระทบอยู่บนหน้าของเขา




แต่ตอนนี้แววตาของเขากลับแตกต่างจากก่อนหน้าไปอย่างสิ้นเชิง




ด้วยตาสีดำของเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าและยิ้ม




ก่อนที่ความทรงจำก่อนหน้าจะปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา




“ฮืม..การตัดสินที่ชอบธรรมพวกเจ้า คิดจริงหรอว่าจะหยุดข้าได้”




“สิ่งมีชีวิตระดับราชันย์เทพ...ตอนนี้ข้าหนีพวกเจ้าได้แล้ว แม้ว่าจะต้องเสียค่าตอบแทนที่มหาศาล”




“แต่...เรื่องนี้ไม่สำคัญ..เรื่องที่สำคัญตอนนี้คือข้าต้องตรวจสอบเอกภพใหม่ที่ข้ามาอยู่อาศัย”




“ข้าจะสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างไร...ข้าต้องการความรู้...ข้าต้องการข้อมูล”




“เพียงแค่ความทรงจำของเด็กเพียงคนเดียว มันยังไม่เพียงพอ”




ชัดเจนว่านี่ไม่ใช่เปโตร เซอร์เก็น แต่เป็นฮั่วหมิงที่แย่งชิงร่างกายมาจากเด็กน้อยที่น่าสงสาร




อย่างไรก็ตามฮั่วหมิงกลับไม่ได้สนใจเรื่องนี้ และลืมมันไปอย่างสิ้นเชิง




“ในตอนนี้ ข้าควรทบทวนความทรงจำของเด็กน้อยคนนี้ก่อน”




จากนั้นเขาจึงเริ่มทวบทนความทรงจำของจิตวิญญาณที่เขาพึ่งกลืนกินมา




เปโตร เซอร์เก็น เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของดยุค อดัม เซอร์เก็น และ ดัชเชส เมโลดี้ เซอร์เก็น




ที่ซึ่งเป็นตระกูลขุนนางระดับสูงของอาณาจักรสตาร์เรล และมีอำนาจในกองทัพอาณาจักรสตาร์เรล




อย่างไรก็ตามนายน้อยของตระกูลเซอร์เก็นเป็นคนที่บ้าคลั่งการสังหารอันเป็นที่สุด




รวมถึงความยึดถือในศักดิ์ศรีของเด็กคนนี้ มันจึงทำให้แม้ว่าบุคคลจะเคารพนับถือนายน้อยคนนี้




แต่ก็หวาดกลัวในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้เป็นวันที่เขาจะอายุแปดขวบแล้ว




และจำเป็นต้องเข้าพิธีเพื่อให้ หัวใจเวทย์มนตร์และเส้นเลือดเวทย์มนตร์ทำงาน




เมื่อสามารถทบทวนความทรงจำทั้งหมดได้แล้ว




ฮั่วหมิงจึงเดินเข้าไปนอนหลับ เพื่อเก็บแรงไว้สำหรับวันพรุ่งนี้




….




“นายน้อย...ตื่นได้แล้ว..นี่ใกล้ถึงเวลาที่ต้องตื่นแล้ว”




เสียงของหญิงสาวกระทบเข้ามาในการได้ยินของฮั่วหมิง มันทำให้เขาตื่นจากการหลับใหล




ฮั่วหมิงลืมตาขึ้น แสงของดาวฤกษ์เข้ามาในการรับรู้ของเขา




นั่นทำให้เขาต้องยกมือขึ้นปัดป้องแสงนี้ออกจากดวงตาของเขา




เขารุกขึ้นมาจากเตียงและเดินไปที่มุมหนึ่งของห้อง จากนั้นจึงพูดด้วยเสียงที่เรียบง่ายว่า




“ข้าต้องการพักผ่อนสักเล็กน้อย ประมาณสองนาที หากหลังจากนี้เป็นเวลาสามนาที ข้ายังไม่ขยับตัว เจ้าสามารถเรียกข้าได้”




หญิงสาวมึนงงกับการกระทำของฮั่วหมิงก่อนที่จะตอบรับ




“ได้เจ้าค่ะ..นายน้อย..ข้าทราบแล้ว”




จากนั้นฮั่วหมิงจึงได้นั่งสมาธิที่มุมห้อง และเริ่มกำหนดลมหายใจ




แต่ในขณะนี้สาวใช้ที่อยู่ในห้องกับฮั่วหมิงแปลกใจกับการกระทำของนายน้อยของตัวเอง




“เขากำลังทำอะไรอยู่ เขาคงไม่ได้โกรธข้าใช่ไหม”




โดยปกติแล้วเปโตร มักจะโกรธเมื่อมีคนปลุกให้เขาตื่น ในทำนองเดียวกันเมื่อไม่มีใครปลุกเขา และทำให้เขาตื่นสาย เขาก็จะโกรธเช่นกัน




อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาถึงสามนาทีแล้ว เธอก็ยังเรียกสติเขาเช่นเดิม




“นายน้อยเจ้าคะ..ถึงเวลาแล้วนะเจ้าคะนายน้อย”




เมื่อฮั่วหมิงได้ยินเสียงของเธอ เขาจึงรุกขึ้นและเริ่มเดินออกจากประตู




เขาเดินลงมาชั้นล่างสุด และเดินเข้าไปในห้องน้ำ




เมื่อเปิดประตูเข้าไปแล้ว




สายตาของเขาก็เจอเข้ากับเหล่าคนรับใช้ที่กำลังเตรียมน้ำให้เขาอาบ




ทว่าเมื่อฮั่วหมิงเข้ามาในห้องทุกคนกลับเงียบและตกใจไปหลายวินาที




ก่อนที่จะสามารถตอบสนองได้ เหล่าคนรับใช้นับสิบรีบหลบสายตาเขาอย่างรวดเร็ว




และก้มหน้าทำงานของพวกเขาต่อไปจนกระทั่งเวลาผ่านไประยะหนึ่ง




ชายชราคนหนึ่งเดินมาหาเขาและกล่าวว่า




“นายน้อยครับน้ำสำหรับล้างตัวของนายน้อยเสร็จแล้วครับ”




ด้วยน้ำเสียงที่หวาดกลัวและสุภาพ




วินาทีต่อมาฮั่วหมิงเขาก็เดินเข้าไปที่อ่างอาบน้ำก่อนจะออกคำสั่งว่า




“พวกเจ้าออกไปได้แล้ว..ข้าต้องการอาบน้ำเอง”




แม้ว่าเสียงนี้จะกล่าวด้วยความสงบแต่เหล่าคนรับใช้ก็หน้าซิดด้วยความกลัว




เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเคยออกคำสั่งเช่นนี้ตลอดมานายน้อยของพวกเขามักจะให้พวกเขาล้างตัวของเขาให้สะอาด




แต่ในรอบนี้เขากลับให้คนรับใช้ทั้งหมดออกไป นี่ทำให้บรรยากาศในห้องกลายเป็นตึงเครียด แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากเชื่อฟังและทำตามเท่านั้น




หลังจากทุกคนเดินออกไปจากห้องน้ำแล้ว ฮั่วหมิงจึงถอดชุดนอนออกไป




เผยให้เห็นร่างกายที่บาดเจ็บประมาณหนึ่ง เนื่องจากบาดแผลจากการต่อสู้เพื่อชิงอำนาจการเป็นเจ้าของร่างจากเมื่อคืนนี้




จากนั้นเขาจึงเริ่มอาบน้ำและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่เงียบสงบ




สามสิบนาทีต่อมา




ฮั่วหมิงเดินออกมาพร้อมชุดใหม่ที่หรูหราและสูงส่ง




รูปลักษณ์ในตอนนี้ของเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง




เขามีผมสีดำที่เงางาม ตาสีดำ ผิวสีขาวซิดที่ เปล่งประกาย รูปร่างที่สมส่วน




เขาสวมใส่ชุดหนังสีดำหน้าอกข้างซ้ายมีสัญลักษณ์ดาบที่ทิ่มแทงลงบนก้อนหิน




บนดาบมีมงกุฏของราชา มันคือสัญลักษณ์ของตระกูลเซอร์เก็น




อกข้างขวามีภาษาของอาณาจักรสตาร์เรลเขียนว่า “ตระกูลเซอร์เก็น”




ฮั่วหมิงกวาดตามองคนรับใช้และออกคำสั่งว่า




“พวกเจ้าเข้าไปทำความสะอาดได้แล้ว”




นิ้วของเขาชี้ไปที่ห้องน้ำ




อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจคนรับใช้และเดินไปที่หน้าประตูของคฤหาสน์




ฮั่วหมิงเปิดประตูออกไป วิสัยทัศน์ภายนอกคฤหาสน์เผยให้เห็นพื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณห้าร้อยเมตรที่กว้างใหญ่ไพศาล




พื้นที่บริเวณนี้เป็นทุ่งหญ้าเกือบทั้งหมด แต่ยังมีต้นไม้ใหญ่อยู่บ้างเป็นบางที่




ฮั่วหมิงสูดหายใจเข้าไปด้วยอากาศที่สดชื่นนั่นทำให้สติของเขาเพิ่มขึ้น




“ถือว่าเป็นดวงดาวที่ดี ออกซิเจนถือว่าเหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัย” เขาคิดอยู่ในใจ




แต่ในจังหวะนี้ชายหญิงคู่หนึ่งกลับเข้ามาหาเขา และผู้ชายพูดว่า




“วันนี้ลูกตื่นเช้าจังนะ ตื่นเต้นกับวันนี้หรอ”




ผู้ชายคนที่พูด มีผมสีดำ ดวงตาสีดำ ใบหน้าหล่อเหลา แต่รูปร่างของเขาค่อนข้างสูงและแข็งแรง เขามีอายุประมาณสามสิบปี




เขาใส่ชุดเหล็กสีเงินที่ชั้นในทอด้วยผ้าบางชนิด และเช่นเดียวกับฮั่วหมิง




เขาเองก็มีสัญลักษณ์ของตระกูลเซอร์เก็นและมีอักษรเขียนว่า ตระกูลเซอร์เก็น




เขาคือผู้นำตระกูลเซอร์เก็นคนปัจจุบัน “ดยุค อดัม เซอร์เก็น”




ส่วนผู้หญิง เธอมีผมสีขาวอมม่วง ดวงตาของเธอเองก็เป็นสีขาวอมม่วง ใบหน้าของเธอเล็กและน่ารักราวกับเด็กสาว




เธอใส่ชุดสีม่วงเข้มที่มีกระโปรงยาวถึงข้อเท้า แขนเสื้อยาวถึงข้อมือ เธอเองก็มีสัญลักษณ์และคำที่บ่งบอกว่าเธอเป็นคนตระกูลเซอร์เก็นเช่นกัน




เธอคนนี้คือ “ดัชเชส เมโลดี้ เซอร์เก็น”




เมื่อได้ยินสิ่งที่บิดาคนใหม่พูดฮั่วหมิงจึง พยักหน้าตอบรับและพูด “ครับท่านพ่อ”




“เอาละงั้นพวกเราไปได้แล้ว” อดัมพูดขึ้น




หลังจากนั้นนกอินทรีย์ขนาดใหญ่สิบเมตรจึงบินลงมาหยุดบนพื้น




มันเป็นนกอินทรีย์สูงสิบเมตร ลำตัวกว้างห้าเมตร มีขนสีดำ ดวงตาสีแดงสองคู่ ขาเทา มันมีปีกขนาดใหญ่ที่ยาวแปดเมตร




มันชื่อว่า “อินทรีย์ทำลายล้าง”




จากนั้นอดัมจึงได้อุ้มฮั่วหมิง และกระโดดขึ้นไปบนหลังของอินทรีย์ตัวนี้




หลังจากนั้นเมโลดี้จึงได้กระโดดขึ้นมาตามทั้งคู่




เมื่อเห็นทุกคนอยู่บนหลังอินทรีย์แล้ว อดัมจึงสั่งให้อินทรีย์ไปที่จุดหมาย




“เอาละ บินไปที่โบสถ์หลักของศาสนาสามเทพต้นกำเนิด”