ฮั่วหมิงเป็นผู้ฝึกตนที่ทรงพลังเขาถูกบังคับให้หนีออกเอกภพ และได้พบกับจักรวาลเวทย์มนตร์ (นิยายเรื่องนี้ไม่ได้เน้นความเป็นวิทยาศาสตร์ แต่เน้นแฟนตาซีมากกว่า.)

ฝึกตนแห่งจักรวาลเวทย์มนตร์ (Immortal Cultivator in Magic Universe) - ตอนที่ 3 เดินทางไปโบสถ์สามเทพต้นกำเนิด โดย maxip33 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ไซไฟ,ผจญภัย,แอคชั่น,อวกาศ,ทะลุมิติ,ผู้บ่มเพาะ,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ฝึกตนแห่งจักรวาลเวทย์มนตร์ (Immortal Cultivator in Magic Universe)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ไซไฟ,ผจญภัย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

อวกาศ,ทะลุมิติ,ผู้บ่มเพาะ,แฟนตาซี,ต่างโลก

รายละเอียด

ฮั่วหมิงเป็นผู้ฝึกตนที่ทรงพลังเขาถูกบังคับให้หนีออกเอกภพ และได้พบกับจักรวาลเวทย์มนตร์ (นิยายเรื่องนี้ไม่ได้เน้นความเป็นวิทยาศาสตร์ แต่เน้นแฟนตาซีมากกว่า.)

ผู้แต่ง

maxip33

เรื่องย่อ

สารบัญ

ฝึกตนแห่งจักรวาลเวทย์มนตร์ (Immortal Cultivator in Magic Universe)-ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น,ฝึกตนแห่งจักรวาลเวทย์มนตร์ (Immortal Cultivator in Magic Universe)-ตอนที่ 2 เกิดใหม่,ฝึกตนแห่งจักรวาลเวทย์มนตร์ (Immortal Cultivator in Magic Universe)-ตอนที่ 3 เดินทางไปโบสถ์สามเทพต้นกำเนิด

เนื้อหา

ตอนที่ 3 เดินทางไปโบสถ์สามเทพต้นกำเนิด

*หมายเหตุเรื่องราวใดๆ ในต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น อาจมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*



หลังจากขึ้นบนแผ่นหลังของอินทรีย์ทำลายล้าง อดัมยืนสายรัดข้อมือเหล็กให้กับฮั่วหมิง



สายรัดข้อมือเหล็กมันมีรูปลักษณ์คล้ายกับนาฬิการาคาถูกบนดาวโลกที่ประกอบด้วย หน้าจอสี่เหลี่ยม ด้านข้างของมันมีปุ่มอยู่สองปุ่ม


มันถูกเรียกว่า "สายรัดกันกระแทก" 


ฮั่วหมิงเขารับสายรัดกันกระแทกก่อนที่จะใส่มันไปที่ข้อมือด้านซ้าย


หลังจากใส่มันแล้ว เขาจึงได้กดปุ่มที่สองตรงบริเวณด้านข้างของสายรัดกันกระแทก


จากนั้นรัศมีแสงปรากฏขึ้นมาอย่างช้าๆ และห่อหุ้มร่างกายของเด็กน้อย


ฮั่วหมิงเขาสังเกตุกระบวนการดังกล่าวด้วยความสนใจ


แสงเริ่มก่อตัวขึ้นรอบตัวของเขาจนกลายเป็นเส้นแสงสีขาวที่ห่อหุ้มตัวของฮั่วหมิงไว้


หลังจากกระบวนการดังกล่าวเสร็จสิ้น อดัมจึงควบคุมให้อินทรีย์ทำลายล้างบินขึ้นไปบนท้องฟ้า


อินทรีย์ทำลายล้างกระพือปีกขึ้นไปทำให้เกิดเสียงหวีดร้องราวกับภูติผี


มันกระพือปีกอยู่หลายครั้งจากนั้นอินทรีย์ทำลายล้างจึงลอยตัวขึ้นบนอากาศ


มันบินขึ้นไปด้านหน้าด้วยความเร็วสูง นั่นทำให้ฮั่วหมิงเสียหลักจนเกือบร่วงจากแผ่นหลังของมัน


อย่างไรก็ตามเขายังสามารถกลับมาทรงตัวได้อีกครั้ง


หลังจากนั้นไม่กี่นาที


ฮั่วหมิงตั้งข้อสังเกตว่าอินทรีย์ทำลายล้างเดินทางด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อมาก ในสายตาของคนปกติ


จากการประเมินด้วยสายตาของเขา ฮั่วหมิงคาดการได้ว่ามันน่าจะกำลังเดินทางด้วยความเร็วสามร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นอย่างน้อย


แต่เขากลับไม่ถูกแรงลมกระแทกเลยแม้แต่น้อย นี่เป็นเพราะสายรัดกันกระแทกที่ช่วยเขาไว้


....


สองชั่วโมงต่อมา


เมืองหลวงของอาณาจักรสตาร์เรล


เมืองคานบาร์


จากสายตาของนก เมืองหลวงของอาณาจักรสตาร์เรลค่อนข้างกว้างใหญ่


มันมีพื้นที่หลายสิบตารางกิโลเมตร ใจกลางมีปราสาทหลังใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากทั่วทุกมุมเมือง


มันคือโบสถ์สามเทพต้นกำเนิดสาขาอาณาจักรสตาร์เรล


นกอินทรีย์สีดำบินลงมาจากท้องฟ้าลงจอดอยู่หน้าโบสถ์สามเทพกำเนิด


บุคคลทั้งสามกระโดดลงมาบนพื้น พร้อมกับคุกเข่าอยู่หน้าโบสถ์ขนาดใหญ่เบื่องหน้า


และพูดว่า "ข้าพเจ้าเป็นมนุษย์ที่มาจากตระกูลเซอร์เก็นผู้ดำรงอยู่บนโลกมนุษย์ขอเข้าไปที่โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ด้วย"


พวกเขารออยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่ประตูจะเปิดออกเผยให้เห็นกลุ่มคนที่แต่งตัวด้วยชุดคลุมสีน้ำเงิน


กลางหน้าอกมีสัญลักษณ์สามเหลี่ยมขนาดใหญ่ ในแต่ละด้านของสามเหลี่ยมมีภาพวาดหัวของสิ่งมีชีวิตบางประเภทที่แตกต่างกัน


มุมบนเป็นหัวของสิ่งมีชีวิตบางชนิดที่คล้ายมนุษย์ แต่มีผมสีขาว ดวงตาสีแดง ผิวขาวซีด และมีเคี่ยวสองเล่มงอกออกมาจากปาก


ด้านล่างซ้ายมือ มีหัวสิงโต แผงคอสีแดง ดวงตาสีน้ำเงิน และด้านล่างขวาของสามเหลี่ยมมีหัวของหมีสีขาว


แต่มีหนึ่งในกลุ่มคนดังกล่าวที่ใส่ชุดคลุมสีแดงแต่มีสัญลักษณ์เดียวกันอยู่บนหน้าอก ใบหน้าของเขาไม่สามารถเห็นได้ชัดเจน


เนื่องจากมันถูกปกคลุมด้วยผ้าคลุมหัวสีแดง แต่เขามีผมสีขาวที่เล็ดลอดออกมาจากผ้าคลุม


"ยืนขึ้นได้แล้ว" เสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยพลังงานของเขาแทรกผ่านการรับรู้ของบุคคลทั้งสามอย่างรวดเร็ว


เมื่อได้รับคำสั่งดังกล่าวพวกเขาจึงยืนขึ้น


อย่างไรก็ตามเขากลับชี้ไปที่ฮั่วหมิงและกล่าวขึ้นว่า 


"เด็กคนนี้ใช่หรือไม่ที่พวกเจ้าต้องการให้เข้าพิธีปลุกเวทย์มนตร์"


"ใช่แล้วครับ ท่านผู้นำโบสถ์" อดัมกล่าวด้วยเสียงที่สุภาพ


"เดินเข้าไปพร้อมกับพวกเขาซะ ข้าจะอยู่กับอินทรีย์น้อยของเจ้า"


ผู้นำโบสถ์เดินไปที่อินทรีย์ทำลายล้างอย่างช้าๆ และยื่นมือให้กับมัน


แต่เป็นเพียงเวลานี้ที่ฮั่วหมิงสามารถสังเกตเห็นบางอย่าง


เขาพบว่าผู้นำโบสถ์ มีผิวขาวซีดเผือด และมีสี่แขน


จากความทรงจำของเปโตร เซอร์เก็น ฮั่วหมิงสามารถระบุตัวตนของผู้นำโบสถ์คนนี้ได้ทันทีเขาเป็นแวมไพร์ 


บนดาวเคราะห์แห่งนี้รูปแบบชีวิตที่เรียกว่าแวมไพร์นั้น จะมีรูปลักษณ์คล้ายคลึงกับมนุษย์ แต่มีผิวสีขาวซีด ดวงตาสีแดง ผมสีขาว และมีสี่แขน


นอกจากนี้ตามความเชื่อของศาสนาสามเทพต้นกำเนิดพวกเขายังถือว่าเป็นผู้มอบชีวิต ผู้สร้างสรรค์ และผู้รักษา 


เพราะเลือดของแวมไพร์นั้นสามารถส่งเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายให้กับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น และยังสามารถใช้ในการถ่ายเลือดในกับเผ่าพันธุ์อื่นได้อีกด้วย


และพวกเขายังถือว่าเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดสายเลือดโดยตรงมาจากเทพผู้สร้าง ครอนล์โบลลาสอีกด้วย


อดัม เมโลดี้ และฮั่วหมิง เดินตามนักบวชเข้าที่โบสถ์ระหว่างทางพวกเขาเห็นรูปปั้นของเทพเจ้าหลายองค์ที่ถูกประดับเรียงอยู่ที่ข้างทางเดิน


แต่มีรูปปั้นเทพเจ้าอยู่สามองค์ที่โดดเด่นที่สุด


แตกต่างจากเทพองค์อื่นที่ไม่มีการลงสีสันใดๆ แต่รูปปั้นของเทพสามองค์นี้มีการลงสีสันที่สวยงามอย่างชัดเจน


พวกเขาคือสามเทพสูงสุดที่ประกอบด้วย เทพผู้สร้างครอนล์โบลลาสที่เป็นบรรพบุรุษของแวมไพร์ เทพแห่งการดำรงอยู่เพลย์เซนน์ที่มีรูปร่างเป็นมนุษย์สิงโต และเทพแห่งการทำลายล้าง ดีไซน์


นักบวชทั้งห้าคนนั่งคุกเข่าทั้งสองข้างลงบนพื้น และยืดหลังตรง พร้อมกับกำมือผสานให้กับรูปปั้นของเทพทั้งสาม


และเอ่ยคำสวดศักดิ์สิทธิ์ออกมา


ในด้านของฮั่วหมิงและครอบครัวพวกเขานั่งลงและทำตามเหล่านักบวชในทุกๆอริยาบท


อย่างไรก็ตามการสวดคำสวดศักดิ์สิทธิ์กลับดำเนินไปถึงสามสิบนาทีก่อนที่จะจบลงไป


สำหรับคนอื่นแล้วมันอาจจะเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างนานและช้า แต่สำหรับฮั่วหมิงมันเร็วมากเพียงแค่ชั่วระยะเวลานึงเท่านั้น


"เท่านี้ เด็กคนนี้ก็สามารถขึ้นไปที่ห้องแห่งการตื่นรู้ได้แล้ว"


หลังจากนั้นเหล่านักบวชจึงนำทางพวกเขาขึ้นไปที่ชั้นบนสุดของปราสาท 


โบสถ์สามเทพต้นกำเนิดชั้นสูงสุด


มันเป็นห้องสี่เหลี่ยมสีขาวเรืองแสง ขนาดใหญ่ที่กว้างถึงยี่สิบเมตร ยาวถึงสามสิบเมตร สูงถึงยี่สิบห้าเมตร


บนพื้นห้องเต็มไปด้วยดินร่วนที่ราบเรียบ ซึ่งประกอบด้วยต้นหญ้าและพืชพันธุ์หลายชนิด


ใจกลางของมันมีต้นไม้ขนาดใหญ่ต้นหนึ่ง มันมีรูปร่างที่สูงถึงสิบเมตร กว้างประมาณเมตรครึ่ง รากของมันโผล่พ้นขึ้นมาจากพื้นดิน


ต้นของมันเป็นสีน้ำเงิน ใบสีทอง และผลสีแดง


เหล่านักบวช ฮั่วหมิง อดัม และเมโลดี้ เดินเข้ามาในห้องอย่างช้าๆ ฮั่วหมิงกวาดสายตามองห้องด้วยความสนใจ


ไม่เพียงแค่สวยงามเท่านั้น แต่ห้องนี้ยังเต็มไปด้วยอากาศบริสุทธิ์อีกด้วย


นักบวชคนหนึ่งพาฮั่วหมิงเดินไปที่ต้นไม้ประหลาดพร้อมชี้ไปที่ผลของมัน และพูดว่า


"เจ้าหนู เจ้าอยากได้ผลไหน เจ้าสามารถบอกข้าได้"


ฮั่วหมิงชี้ไปที่ผลไม้ประหลาดลูกหนึ่งพร้อมบอกว่า 


"ท่านนักบวช ข้าต้องการผลนี้"


นักบวชคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อย เขาชูมือขึ้น ก่อนที่แสงสีขาวจะห่อหุ้มผลไม้ผลนั้นและค่อยๆลงมาที่มือของฮั่วหมิง


"เสร็จขั้นตอนแรกแล้ว ขั้นตอนต่อไปของพิธีคือเจ้าต้องกินผลไม้ลูกนี้ เจ้าหนู"


ฮั่วหมิงเขากินผลไม้ประหลาดตามคำสั่งของนักบวชคนนั้นในทันที


ลิ้นของเขาสัมผัสกับความสดชื่น ความหวาน และความเย็นของผลไม้ประหลาดผลนี้อย่างรวดเร็ว


เมื่อเขากลืนมันลงท้อง ร่างกายของเขาก็รู้สึกสบายและผ่อนคลายราวกับได้พบกับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิต


เมื่อเขากลืนส่วนสุดท้ายของผลไม้แล้ว เขารู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังแหวกอยู่ที่บริเวณหน้าอกของเขา


ฮั่วหมิงสามารถจำความรู้สึกนี้ได้มันคือ "มิติที่3.5"