‘ดรัณภพ ดลประสบแพร้ว’ นักแสดงหนุ่มเจ้าของฉายาเดือนค้างฟ้าตัดสินใจปลิดชีวิตในวัยยี่สิบห้า จวบจนถึงตอนนี้ก็นับเป็นเวลา ๔๐ ปีแล้ว ที่เรื่องราวของเขาถูกสลักไว้เป็นอนุสรณ์แห่งวงการบันเทิง

ดั่งเดือนค้างฟ้า - อารัมภบท จันทร์บนฟ้า โดย โสมสิริ💐 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ดราม่า,ย้อนยุค,ข้ามเวลา,ไทย,นักแสดง,พีเรียดไทย,ย้อนเวลา,วงการบันเทิง,ข้ามเวลา,ดราม่า,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ดั่งเดือนค้างฟ้า

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ดราม่า,ย้อนยุค,ข้ามเวลา,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นักแสดง,พีเรียดไทย,ย้อนเวลา,วงการบันเทิง,ข้ามเวลา,ดราม่า,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

‘ดรัณภพ ดลประสบแพร้ว’ นักแสดงหนุ่มเจ้าของฉายาเดือนค้างฟ้าตัดสินใจปลิดชีวิตในวัยยี่สิบห้า จวบจนถึงตอนนี้ก็นับเป็นเวลา ๔๐ ปีแล้ว ที่เรื่องราวของเขาถูกสลักไว้เป็นอนุสรณ์แห่งวงการบันเทิง

ผู้แต่ง

โสมสิริ💐

เรื่องย่อ

#ดั่งเดือนค้างฟ้า

เมื่อปาฏิหาริย์นำพาคุณไปยังสถานที่อันไม่คุ้นชิน แต่ร่างกายกลับคุ้นเคยเหมือนว่าที่แห่งนี้คือนิยามแห่งรักนิรันดร์ที่หัวใจมิอาจลืมเลือน

เรื่องราวของนักแสดงตัวประกอบหนุ่ม ‘ผกาย’ ผู้ตกหลุมรักพระเอกหนังอย่าง ‘เดือน ดรัณภพ’ เจ้าของฉายาเดือนค้างฟ้าแห่งวงการบันเทิงไทย จากภาพยนตร์ในตำนานปี ๒๕๒๖ ซึ่งเป็นการปิดฉากชีวิตนักแสดงผ่านผลงานเรื่องสุดท้าย เพราะในวันแถลงข่าวเปิดตัวหนังเรื่องนี้ เดือนได้ตัดสินใจปลิดชีวิตลงในที่สุด แม้ผกายจะรู้ว่าอีกคนไม่มีตัวตนบนโลกแล้ว ทว่าหัวใจกลับรู้ซึ้งถึงความรู้สึกบางอย่าง…ประหนึ่งความผูกพันอันยากจะบรรจบ กำลังจะกลับมาพบกันอีกครั้ง


สารบัญ

ดั่งเดือนค้างฟ้า-คำปรารภจากข้าผู้ประพันธ์ โดย โสมสิริ,ดั่งเดือนค้างฟ้า-อารัมภบท จันทร์บนฟ้า

เนื้อหา

อารัมภบท จันทร์บนฟ้า

ดั่งเดือนค้างฟ้า

โสมสิริ


อารัมภบท

จันทร์บนฟ้า


‘การอยู่คนเดียวเพียงลำพัง มักจะรู้สึกโดดเดี่ยวก็ต่อเมื่อ เราคำนึงถึงคนที่เคยยืนข้างกาย’

ครั้นยามรัตติกาลคืบคลานมาถึง มีชายหนุ่มร่างเพรียวยืนท้าทายลมหนาวในฤดูเหมันต์อยู่นอกระเบียงห้องนอน เจ้าของดวงหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราได้แต่สูดอากาศสดชื่นเข้าปอด มวลบรรยากาศค่ำคืนนี้อบอุ่นราวกับมีเตาผิงโอบล้อมดวงจิตอันเหม่อลอย แม้จะมีสายลมหนาวเหน็บพัดผ่านเป็นระลอก ทว่าความสบายใจจากธรรมชาติกลับทดแทนทุกสรรพสิ่งที่ทำให้ไม่สบายกายได้เป็นอย่างดี

ความรู้สึกในตอนนี้คงเปรียบเสมือนแสงไฟจากตะเกียงดวงน้อยที่เฝ้าคอยส่องสว่างในยามราตรี…และเป็นอย่างที่แม่เคยบอก ‘ต่อให้จะพบเจอความหนาวเย็นสักเพียงใด แต่อุ่นไอสุดท้ายที่ชีวิตหนึ่งจะหลงเหลืออยู่ คือความเชื่อใจจากตัวเรา’

อันที่จริง ‘ผกาย’ มักได้ยินประโยคนี้อยู่บ่อยครั้ง เพราะผู้เป็นมารดาสาธยายให้ฟังตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อตอนนั้นเขาเองก็ไม่ได้เข้าใจกับเนื้อความนี้สักเท่าไร แต่จู่ ๆ วันดีคืนดีเพียงปรารถนาอยากเชยชมความงดงามของสิ่งแวดล้อมโดยรอบของบ้านริมน้ำ กลับทำให้ผกายเข้าใจกับคำกล่าวที่ว่าอย่างลึกซึ้งโดยสมบูรณ์

แววตาสุกสกาวทอดมองไปยังทัศนียภาพตรงหน้าด้วยความว่างเปล่า รถราบนท้องถนน ไฟจราจร และตึกรามบ้านช่องที่เคยเห็นเมื่อตอนอยู่คอนโด เวลานี้กลับเปลี่ยนผันหลงเหลือเพียงแต่ต้นไม้ใบหญ้าริมฝั่งคลองก็เท่านั้น

หากลดระดับสายตาลงมาหน่อย ก็จะมีต้นกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์ดึงดูดความสนใจบริเวณริมระเบียง กรุ่นกลิ่นไม้ดอกแสนงดงามไม่ได้หอมฟุ้งจนรับรู้ได้ในทีแรก ต้องขยับปลายจมูกเข้าใกล้เสียหน่อย จึงสัมผัสถึงความละมุนที่แทรกอยู่ตามกลีบดอกได้

เมื่อเจ้าของใบหน้าเกลี้ยงเกลาได้ยินเสียงนกขับขานคอยกล่อมใจ จึงแหงนมองบนนภากว้างอันมืดมิดราวไร้จุดสิ้นสุด มันน่าแปลกตรงที่จุดประสงค์แรกของผกายคือตามหาต้นตอเสียง หากแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นไปพบหมู่ดาวบนท้องฟ้า…เขาเองกลับได้แต่จ้องมองอย่างไม่ละสายตา

ดารานับพันต่างส่องประกายระยิบระยับละลานตา ขอบฟ้าครามในเวลานี้ ไร้ซึ่งก้อนเมฆบดบังแสงสว่างจากดวงดาว เพียงเสี้ยววินาทีแค่ได้เหลียวมอง ใบหน้าหมองหม่นก็แปรเปลี่ยนมีรอยยิ้มพริ้มพรายประดับขึ้น

ยิ่งมองไปยังพระจันทร์เบื้องหน้าก็ยิ่งสุขใจ แม้คืนนี้จันทร์ดวงนั้นหลงเหลือเพียงเศษเสี้ยวหนึ่ง ไม่ได้เปล่งประกายเต็มดวง แต่เขาทราบดีว่า...ต่อให้จะเป็นคืนเดือนดับ หรือมีเมฆมากั้นแสง มีข้างขึ้นข้างแรม สว่างน้อยมากเพียงใด ท้ายที่สุด…ดวงจันทร์ก็ไม่เคยจากไปไหน จันทร์ก็ยังเป็นจันทร์อยู่วันยังค่ำ

ยังอยู่บนฟ้ามาตลอด…อาจจะเลือนหายไปจากการมองเห็น แต่ไม่เคยเลือนหายไปจากความทรงจำ

ดวงตาเด็กหนุ่มผู้โดดเดี่ยว ค่อย ๆ ปิดลงอย่างเชื่องช้าไม่เร่งรีบทั้งที่ยืนอยู่ รอยยิ้มที่เคยมีพลอยจางหายไปจากดวงหน้าหวาน หยาดน้ำตาจากคนโลเลไหลรินลงมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ผกายไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่

ทำไมถึงทรมานมากขนาดนี้?

ความเศร้าสลดเวียนกลับมาเยือนดวงจิต เปลือกตาสีมุกเปิดขึ้นมาอีกคราว เพียงไม่กี่วินาทีที่หัวใจดวงนี้ถูกครอบงำยามคิดถึงใครบางคน ย่อมทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดกัดกินหัวใจไปทีละส่วน

‘ผมเคยบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าอย่าร้องไห้บ่อย’

เสียงคุ้นเคยของคนคุ้นตาดังขึ้นจากทางด้านหลัง เมื่อร่างบางเหลียวกลับไปมอง ภาพตรงหน้าก็เปลี่ยนแปลงไปภายในชั่วพริบตา บ้านที่อยู่ในปัจจุบันเคยตกแต่งด้วยสีขาวสะอาดสะอ้านควบคู่กับเฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลอ่อน กลับกลายเป็นบ้านไม้โบราณเปี่ยมไปด้วยความเป็นไทย บ้างก็มีแจกันดอกไม้ทั้งจริงและปลอมสลับตกแต่งกันไป ทุกอย่างเบื้องหน้าที่เห็นอยู่นี้ ไม่ได้ดูเก่าคร่ำครึถึงหลายสิบปี เพราะความโบราณที่ว่าอาจจะเป็นรสนิยมของผู้ตกแต่งเสียมากกว่า...

ร่างอรชรย่างเข้าหาคนเสียงอ่อนโยนอย่างไม่เร่งรีบ ทันใดนั้นราวกับว่าเวลาเดินช้าลง มือเรียวสัมผัสไปที่หัวใจของคนตรงหน้า เจ้าของแววตาเปี่ยมล้นไปด้วยคราบน้ำใส ๆ เผลอหลุดยิ้มออกมาด้วยความดีใจ

‘เดือน…เราคิดถึงคุณ คิดถึงมาก ๆ’

‘เลิกร้องไห้ได้แล้ว คุณเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอว่าไม่ชอบตัวเองตอนตาบวม’

อีกฝ่ายไม่พูดเปล่าเพียงกางแขนรอรับอ้อมกอดแห่งความคิดถึง ทว่าเมื่อคนตัวเล็กโผเข้ากอด ร่างกายของชายที่เขารัก ก็จางหายไปจนเป็นหนึ่งเดียวกับธาตุอากาศ ความอบอุ่นที่ผกายควรจะได้รับ หลงเหลือเพียงกระแสลมอันหนาวเหน็บปกคลุมจิตใจ

คนบอบช้ำในรักทรุดตัวลงไปอยู่กับพื้นด้วยความเศร้าโศก เมื่อรู้ว่าสิ่งตรงหน้าเป็นเพียงภาพลวงตา ผกายค่อย ๆ เงยขึ้นมองผนังห้องด้วยความทุกข์ทรมาน

ก่อนทุกอย่างตรงหน้าจะเหลือเพียงกรอบรูปและกระถางธูปบนหิ้งก็เท่านั้น…


ดรัณภพ ดลประสบแพร้ว

ชาตะ ๑๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๐๑

มรณะ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๒๖




‘อาจจะเลือนหายไปจากการมองเห็น แต่ไม่เคยเลือนหายไปจากความทรงจำ’

- ผกาย ; ดั่งเดือนค้างฟ้า -

Hashtag : #ดั่งเดือนค้างฟ้า