เล่ม 1 (1-21) เรื่องราวของการสร้างรักในโลกแฟนตาซี ของชายต่างโลก สองสาวกำพร้า และมีอีก? ออกทำงาน ฝึกฝนเพื่อความแข็งแกร่ง แก้ปัญหาแห่งรักน่ารักๆ กับโลกใบใหม่พร้อมคนรักต่างโลก สองสาวและคนอื่นๆ? รัก!สู้!ทำงาน! เล่ม 2 (22-41) เริ่มเข้าสู่วัยทำงานเป็นครั้งแรกในชีวิตที่สอง กับการได้มาทำงานสายสู้ที่ซ่องใหญ่ เป็นเด็กคุมประตู การบอกข่าวร้ายกับเพื่อนสนิท สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยร้านใหม่ในโลกใหม่ และการเจอคนในฝัน เจ้าหญิงต่างแดน เล่ม 3 (42-61) การย้ายมาวังต่างประเทศตามแฟนเพื่อสร้างชีวิิตใหม่ รัก! ทำงาน! สู้!
รัก,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ไซไฟ,ทำงาน,สร้างตัว,ฝึกฝน,เกิดใหม่ ,รักวัยรุ่น,นางเอกเก่ง,พระเอกเก่ง,หญิง-หญิง,ฟููตะนาริ,yaoi,หญิงรุก,ชาย-ชาย,ชาย-หญิง,ฮาเร็ม,แอ็คชั่น ,ต่อสู้,โรแมนติก ,โรแมนซ์,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
กำพร้า ณ ต่างโลก (ตอนใหม่อ่านฟรี 90 วัน ก่อนติดเหรียญ!!!)เล่ม 1 (1-21) เรื่องราวของการสร้างรักในโลกแฟนตาซี ของชายต่างโลก สองสาวกำพร้า และมีอีก? ออกทำงาน ฝึกฝนเพื่อความแข็งแกร่ง แก้ปัญหาแห่งรักน่ารักๆ กับโลกใบใหม่พร้อมคนรักต่างโลก สองสาวและคนอื่นๆ? รัก!สู้!ทำงาน! เล่ม 2 (22-41) เริ่มเข้าสู่วัยทำงานเป็นครั้งแรกในชีวิตที่สอง กับการได้มาทำงานสายสู้ที่ซ่องใหญ่ เป็นเด็กคุมประตู การบอกข่าวร้ายกับเพื่อนสนิท สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยร้านใหม่ในโลกใหม่ และการเจอคนในฝัน เจ้าหญิงต่างแดน เล่ม 3 (42-61) การย้ายมาวังต่างประเทศตามแฟนเพื่อสร้างชีวิิตใหม่ รัก! ทำงาน! สู้!
เขาเป็นคนไม่ชอบตัวเองและชีวิตจนติดสื่อบันเทิง เขาเบื่อหน่ายกับงานซ้ำๆ
แต่เขาโชคดีได้มาเกิดใหม่ต่างโลก ในโลกแฟนตาซี
เขาเปลี่ยนตัวเองเป็นวารี หัดรักคนอื่นตั้งแต่เล็ก และรักษาเพื่อนที่ดีไว้เพื่อโตไปด้วยกัน
เขาเริ่มจากการออกกำลังแล้วปกป้องบ้านที่ถูกรังแกกับเพื่อนด้วยศิลปะการต่อสู้
จากนั้นเขาหาเงินและรวยขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ยังเป็นกำพร้า
พอเขาไปทำงานซ่องเจ๊ก็ใจดีเปิดร้านให้เลยยิ่งรวยเข้าไปอีก
และเริ่มโตขึ้น เริ่มคลั่งรักคนอื่นได้ เขาเลือกไม่ทิ้งสองสาวแฝดเพื่อนสมัยเด็กที่ฝึกตามเขาและเชื่อเขาทุกอย่าง วีมนุษย์กึ่งแมวและวิวมนุษย์กึ่งแมงมุม
เขาก็ยังไม่หยุดหาคนรักเพิ่มไปเรื่อยๆ แต่เขาเป็นคนพอใจง่าย เขาพอใจกับฮาเร็มเล็กๆ
แต่เขาฝันไว้ว่าอยากอยู่วัง จนโชคดีได้มาเจอเจ้าหญิงต่างแดนที่เก่งกาจ วาโร และเคยชนะเขาแม้ฝึกแต่เด็กตั้งแต่เขาวัยฟิตสุด
พอตัวเจ้าหญิงสุดสวยชวนเขาไปวัง ชีวิตรักเศรษฐีในบ้านข้างวังกับฮาเร็มน้อยและห้างใหญ่เบิ้มเลยเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนนั้นมา
ปก: หนมปัง แพ
รายละเอียดรายตอน
เล่มละ 20 ตอน+
ความยาว 11,000 ตัวอักษร (3,000 คำ+)
ระยะเวลาอ่าน 15 นาที
ตั้งแต่เล่ม 3+ (ตอนที่ 42-61+) มีภาพ ai ประกอบ
ตั้งแต่เล่ม 4+ (ตอนที่ 62+) เริ่มรับโดเนทภาพประกอบ
ราคาตอนละ 3 บาท (4 บาทเมื่อมีภาพ ai)
ตอนใหม่ฟรี 90 วัน! ถึง 101 จากนั้น 14 วัน
https://www.facebook.com/profile.php?id=100087843892571&mibextid=LQQJ4d
bluesky
https://bsky.app/profile/wayuwayutl.bsky.social
5 ต้มข่าไก่
2 ปีผ่านไป
*จิ้บจิ้บ จิ้บจิ้วจุ๊บจุ๊บ*
นกร้อง
ผมตื่น ผมเริ่มออกกำลังที่เตียงและในห้องไปบ้างแต่มันไม่ได้เยอะ ตอนนี้ผมขยับทุกอย่างในร่างกายได้อย่างคล่องตัว แต่มันไม่มีลานดีๆให้ออกกำลังอย่างถูกต้อง ผมจึงไม่เคยได้ทำ
ผมมองเตียงเลขหนึ่ง กับเลขสอง
หนึ่งกับสองเริ่มโตแล้วและย้ายออกแยกกัน ในใจผมเรียกเด็กแมวว่าวี แล้วเรียกเด็กแมงมุมว่าวิว
ส่วนตัวผมนั้นชื่อวารี มันเหมือนไม่คิดเท่าไหร่ แต่ผมไม่ค่อยสนใจหนักหนา
ผมมองพวกเธออีกครั้ง พวกเธอหลับอย่างสบาย ผมยิ้ม
พวกเธอเริ่มตีสนิทกับผม แต่ไม่ได้เข้าสนิทสนมมากขนาดนั้นยังทำตัวห่างๆอยู่ แล้วทำไมผมนึกถึงแต่พวกเธอ ไม่รู้สิ
ผมเห็นพวกเธอเป็นคนแรก พอพวกเธอคลานได้ก็มาหาผมเราเลยพอได้เล่นกันบ้าง
วี เด็กแมวตื่น
เธอลืมตา ขยี้ตาแล้วพลิกตัวคว่ำหน้า จากนั้นชูบั้นท้ายขึ้นสูงแล้วก้มตัวแนบพื้นยืดหลัง เธอทำแบบนั้นทุกเช้า จากนั้นเธอชำเลืองมาทางผม
ผมโบกมือเบาๆ
เธอยิ้มนิดๆแล้วกลับไปนอนต่อ จากนั้นวิว เด็กแมงมุมหมายเลขสอง ตื่น เธอนั่งอย่างเร็ว ลุกอย่างเร็ว กระโดดลงเตียงอย่างเร็ววิ่งออกจากห้องแปดขาไปอย่างเร็ว
*ต่อกต่อกต่อกต่อกต่อกต่อกต่อกต่อก*
เสียงฝีเท้าแปดขาอันไม่แข็งเดินแปดขาไป
ผมลงจากเตียง
วีดีดขึ้นมาแล้วมองตามผมตอนผมผ่านผมขยี้หัวเธอเบาๆ ไม่ไปจับหูเธอ เธอแค่ยกหัวขึ้นลงอย่างช้าๆ ทำหน้าสงสัย แล้วกลับไปไร้สีหน้าแล้วมองต่อไม่กระพริบตา
จากนั้นผมเปิดประตู หมายเลขหนึ่ง เด็กแมว วิ่งผ่านผมไป มันไร้ซึ่งเสียงสักหนึ่งน้อย ผมตกใจเปิดตากว้างนิดหน่อย จากนั้นก็เดินตามเธอไป พวกเราไปที่ห้องน้ำ
ห้องกินข้าว
เราอยู่ในห้องกินข้าว อาบน้ำต่างโลกมันค่อนข้าง เอ่อ ผมบอกได้แค่ว่า สบู่มันประหลาดมันเป็นแมงกระพรุน ผมยังไม่ได้ถามอะไรใครถึงรายละเอียดของมัน และผมไม่ถูมันใส่ร่างกายแต่ถูมันใส่มือแล้วเอามาทาตัว ที่ทำเพราะมันหอมและสะอาดแต่ว่ามันประหลาดมาก
“เอ้านั่งๆ”
“““ครับ””” “““ค่ะ”””
พวกเราพากันนั่ง
อลิสนำหม้ออาหารมาวางที่โต๊ะและเริ่มตักข้าวเม็ดกลมๆเหมือนลูกอมช็อกโกแลตโลกเก่าที่ชื่อซ้ำกันและซ้ำกัน มันเหมือนข้าวหอมมะลิโลกเก่าแต่ผมไม่เคยถามชื่อมันเลย
พื้นฐานแล้วสองปีที่ผ่านมานี้ผมสนแต่การพาร่างกายไปให้ถึงวัยสามขวบและมากกว่านั้น ผมพยายามไปหลายอย่าง ทั้งวิ่ง เดิน พุ่งเข่าเข้าจับเหมือนนัดมวยผสม ซ้อมมวยทุกประเภทที่ผมรู้จักอยู่ข้างเตียง
แต่ผมพอทำได้พื้นฐานอย่างคล่องแคล่วอยู่กับที่ ผมเคยตะโกนชื่อท่าแล้วทำซ้ำๆ แต่โดนว่าเนสซ่าดุว่าเล่นเสียงดัง ผมเลยไม่ทำอีก ผมต้องหาทาง หาสถานที่ฝึกดีๆกับคู่ซ้อมดีๆ
ผมเล็งหมายเลขหนึ่งกับหมายเลขสองไว้ เด็กแมวผู้ผมเรียกว่าวีในใจ เด็กแมงมุมผู้ผมเรียกว่าวิวในใจ ผมมีชื่อเต็มแต่มันยาว ผมเลยไม่เรียกพวกเธอด้วยชื่อเต็มแม้จะในใจ
ผมมองวี เด็กแมว เธอรอคอยอาหารอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อเธอเห็นต้มสีขาวนั้นเธอเอียงหัวสงสัยไม่เคยเห็น
ต้มนี้นั้นไม่เคยมาเลย แต่เมื่อวานมีผู้บริจากมาเป็นวิสเคานต์ พี่โดโรเธียน่าจะได้เงินเยอะ
เมื่อแกงมาถึงผม ผมเขี่ยดู มีเนื้อคล้ายไก่อันผมเคยกิน มีน้ำสีขาว มันข้นเหมือนกะทิ เมื่อดูใกล้บนเม็ดข้าวที่โดนราดมันมีเม็ดน้ำมันอยู่ มันมีใบไม้ มีต้นอะไรสักอย่างแข็งๆ และก้อนแข็งๆที่น่าจะเป็นข่ากับตะไคร้
เมื่ออาหารแจกเสร็จผมไหว้อาหาร มันแปลกเพราะไม่มีใครทำ แต่มันสำคัญสำหรับผม ผมเห็นค่าของอาหารมาก มันทำให้ผมได้ออกกำลังกายซึ่งผมชอบ
เมื่อผมไหว้เสร็จ ผมคลุก ผมเห็นอะไรที่คล้ายมะขามเปียกสีน้ำตาลผมชิมๆดูและมันเปรี้ยว ชัดแล้ว นี่ใช่แน่ๆ ความเปรี้ยวนี้และน้ำกะทิ มันต้องใช่แน่ๆ
แล้วเมื่อคลุกไปมีนั่นด้วยอะไรที่คล้ายพริกกินแล้วเผ็ดที่ผมเลี่ยงมาตลอด เมื่อกัดออกมามันมีเม็ดเหมือนแมงลักไหลออกมาแล้วมันจะเผ็ดมาก
และอะไรที่คล้ายหอมแดงใสๆสีแดงเป็นชั้นๆ ผมลองยกมาชิมมันออกหวานๆหอมๆ กับเห็ดที่บานเป็นทรงปีกนกสองปีก ผมลองชิมมันคือเห็ดนางฟ้า!
ผมตักแต่ข้าวกับน้ำคล้ายน้ำกะทิ แล้วนำใส่ปาก ข้นและมัน เค็มและหวานมาพร้อมกัน จากนั้นอมเปรี้ยวตามมาแล้วหอมใบคล้ายใบมะกรูด, คล้ายข่า, คล้ายตะใคร้ กับกลิ่นวัตถุดิบทั้งหมด
ผมรีบตักคำต่อไปพร้อมหอมแดงกับไก่ คราวนี้มันเพิ่มความหวานจากหอมแดงพร้อมเนื้อเคี้ยวสนุกปากเหมือนเนื้อไก่
คราวนี้ผมตักพร้อมเห็ดกับข้าว กลิ่นหอมเห็ด และรสนุ่มจากการเคี้ยวมันนั้น ผมรีบตักไก่ตามและตักข้าวอีกคำ ไม่นานผมก็กินถึงครี่งจาน
มันเป็นต้มข่าไก่ของโปรดผม!
“พี่อลิสครับ แกงนี้เรียกว่าอะไร”
“ต้มข่าไก่จ้ะ”
โอ้ แม้ชื่อมันก็เหมือนกันช่างโชคดีจริงๆ ผมตักเครื่องเทศมาทีละอย่างเพื่อถาม ผมตักอะไรที่น่าจะเจอบ่อยๆ อย่างเนื้อไก่นี้
“นี่อะไรครับ!”
ผมชูเนื้อไก่ในช้อนให้อลิสดู
“นั่นไก่จ้ะ มันเป็นเนื้อหลักของโลกนี้ เนื้อ, หมู, และไก่ ไก่แพงสุดเลย เพราะคนที่นี่ชอบจืดๆ”
“แล้วอาหารอะไรแพงสุดครับ”
“ไข่ต้มจ้ะ”
“เออออออ๋”
พี่อลิสตอบมา อาหารเลิศรสคือไข่ต้มจืดๆอย่างนั้นหรือ
“มันกินกับอะไรหรือเปล่าครับ”
“กินกับผักจ้ะ แล้วใส่น้ำสลัดน้อยๆ”
เอ๋ น้ำสลัดก็น้อย มันก็เป็นเมนูที่ดี แต่มันขาดพลังงาน ขาดโปรตีน น้ำมันก็ไม่มีเนื้อก็ไม่มีแล้วจะเอาพลังงานมาจากไหน
“แล้วธัญพืชมั้ยครับ พวกถั่ว”
“ธัญพืชพอมีอยู่นะ สูตรคนมั่งมีใส่นิดเดียว สูตรคนไม่มีใส่ๆเยอะๆ แต่ถั่วคืออะไรเหรอ?"
“ที่เคี้ยวมันๆกรึบๆเม็ดเล็กๆกินทีหลายๆเม็ดจะมันปากเคี้ยวมันมาก แล้วอยากเคี้ยวอีกเรื่อยๆ"”
อลิสนิ่งๆน่าจะคิด
“นั่นอะไรอ่ะหนูอยากกินๆ”
วิวดูสนใจ จากนั้นอลิสทุบมือ
“เจี้ยนกั๋วรึเปล่า”
นั่นน่าจะเป็นถั่วภาษาจีนแต่ผมไม่แน่ใจ
“น่าจะใช่ครับ พวกเขากิน เจี้ยน กั๋ว กันเยอะหรือเปล่า คนมั่งมีน่ะ”
“เขาไม่กินจ้ะ มันมาจากตำนานเซอร์สเลอนาบองผู้ชักดาบคนแรก นักรบที่ร่ำรวยมหาศาลผู้คนติดตามมากมาย ผู้มีเกียรตินักรบคนแรก มันเลยเป็นอาหารที่นิยมของคนมั่งมีผู้อยากมีเกียรติ”
“เอ อย่างนั้นเหรอครับ”
“แล้วความเชื่อที่ผันมาจากนั่นก็คือ”
พี่อลิสนิ่งไปสักพัก เหมือนไม่อยากพูด
“การทำอาหารอร่อยมีรสชาติผสมหลากหลายถือว่าไม่มีเกียรติ”
จากนั้นเธอดูหน้าเศร้าๆ ผมรีบพูด
“อย่าไปคิดอย่างนั้นเลยครับ การทำอาหารอร่อยถือว่าเราสนใจตั้งใจทำให้มันดีมีรสชาตินั้นถือว่าเป็นเกียรติทั้งคนทำและคนได้กินครับ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า แหมอย่างนั้นเหรอจะ น้องไม่ต้องปลอบพี่หรอก พี่ไม่คิดมากเรื่องนั้น กินต่อให้หมดเถอะนะ จะได้มีแรงเล่น”
“ครับ!”
ผมถามวัตถุดิบในจานผมต่อ ผมตักอะไรที่คล้ายพริก
“นี่อะไรครับ”
“ฮิฮิ นั่นเม็ดซี้ดซี้ด มันเผ็ดนะ แต่กินแล้วดีถ้ากินไหวกินๆเข้าไปเถอะ อย่าให้มันโดนแผลเชียวนา มันไม่ดี”
“ครับ!”
ผมไม่ได้ถามต่อเพราะอาหารตรงหน้า ผมรีบกัดพริกเทคลุกๆ
กินหนึ่งคำ
โอ้ความเผ็ด แม้มันเม็ดเล็กๆสีแดง กับเด็กสามขวบ ผมต้องอดทนเพื่อประโยชน์ของมัน เผาพลาญพลังงาน!
“ซี้ดดดด”
“นั่นไง เผ็ดดีไหมเล่า”
“ครับ มันอร่อย!”
ผมมองดูรอบห้องหมายเลขเก้า เด็กคล้ายไก่ที่ตอนนี้สีแดงเริ่มชัดกินอย่างมูมมาม หมายเลขเจ็ดผู้ผิวคล้ำกินหมดแล้ว หมายเลขหก มนุษย์? กินไปเรื่อยๆ
ผมหันไปดูหมายเลขหนึ่งกับสอง วีกับวิว วีหันมามองผมอยู่ ของเธอกินไปครึ่งหนึ่ง แล้วทำท่าเหมือนจะลุก ทำให้วิวจะลุกตามอย่างรวดเร็ว ของวิวใกล้หมดแล้ว
“ไม่กินให้หมดเหรอ?”
“มันไม่มีเกียรติ”
พี่อลิสดูหน้าเศร้าๆ
“จะเป็นนักรบเธอต้องมีพลังงาน ต้องกินเยอะๆ”
“พี่รู้ได้ไง!”
“หนังสือความรู้ยังไงเล่า หิวๆจะไปออกแรงอย่างไรล่ะ”
ผมบอกพวกเธอวีเงียบไป วิวทำท่าจะนั่งแล้ว
“แง้ว!”
วีนั่งกัดพริกเทคลุกๆตักกิน
“ซี้ดดดด”
เมื่อวิวเห็นวิวก็กินมั่ง
“ซี้ดดดด”
ผมมองหมายเลขสิบเอ็ดผู้ตัวเตี้ย เขายังดูไม่หนา เขาไม่ค่อยกิน วันนี้ก็ด้วย
“ไม่กินเหรอหมายเลขสิบเอ็ด”
“มันไม่มีเกียรติ! ฉันจะเป็นช่างเหล็กแล้วซื้อกินแต่ไข่ต้มแบบนักรบ!”
“คิดอย่างนั้นมันก็ไม่ถูกนักหรอก ก่อนนายจะตีเหล็ก หรือการไปรบกับโลหะแข็งๆ นายต้องมีแรงเหวี่ยงค้อน อาหารอร่อยจะสร้างเกียรติให้นาย”
เขาเคยยืมค้อนมาเล่นอยู่และเขาน่าจะรู้ แต่เขาดื้อ เขาดูหงุดหงิดแต่เขายอมกิน
ผมกินหมดแล้วขอจานสอง ผมรอคนอื่นๆกินเสร็จกันระหว่างนั้นผมคิดถึงทำไมอาหารรสจืดถึงเป็นที่นิยม
เพราะเซอร์เสลอนาบองดันชักดาบเป็นคนแรกคนพากันชักดาบแล้วเอาเขาเป็นแบบอย่าง มันเลยอยู่ในช่วงยุคนิยม และอาหารอร่อยนั้นยังคงแพร่หลายอยู่ในคนหมู่มาก
วันหนึ่งมันจะล้าสมัยไปตามยุค
จากนั้นอลิสพาพวกเราเดินกันมาห้องรวม โดโรเธียอ่านหนังสืออยู่ วาเนสซ่ากำลังบริการน้ำชาสีเขียว มันชื่อชาเหมือนเดิมกับโลกเก่า
พี่โดโรเธียหันมา
“มากันแล้วเหรอ?”
“ค่ะ”
อลิสตอบ
วาเนสซ่าขมวดคิ้วแล้วเก็บแก้วชา จากนั้นพี่โดโรเธียลุกขึ้นยืนแล้วออกจากห้องไปพร้อมหนังสือ วาเนสซ่าถือชาตามไปหลังจากนั้น
อลิสไปนั่งที่โต๊ะ
“เอาล่ะ หยิบของเล่นกันคนละชิ้น แล้วห้ามทะเลาะกัน เล่นกันดีๆ พี่จะอ่านหนังสือ”
“““คร้าบ/ค่าาาา”””
อลิสเดินไปเลือกหนังสือ
วิวเด็กแมงมุมหมายเลขสองวิ่งออกไปที่กล่องตุ๊กตาเร็วที่สุดก่อนใครทั้งนั้น ผมรีบตามไป จากนั้นเด็กแมว วี ตามมา
วิวไปถึงกล่องแล้วเลือกตุ๊กตาผู้หญิงซึ่งสวยที่สุด เธอเล่นตัวนั้นประจำ แต่โดนขอไปเล่นบ่อย เธอหยิบ กอด ยิ้ม วิ่งไปนั่ง
ผมไปหยิบตัวประจำของผม ตุ๊กตาตัวนี้ไม่มีใครชอบเล่นเพราะหน้าตามันประหลาด
ผมมองดูตุ๊กตา งานเย็บมันไม่คอยดี แต่นั่นไม่ใช่เจตนาผม มันชูสองมือมาข้างหน้าเหมือนหุ่นฝึกทุ่มโลกที่แล้ว ผมใช้นี่เพื่อทดลองการจับ ดึง เหวี่ยงได้ ลองท่าทุ่มพื้นฐานได้
จากนั้นวี เด็กแมวแทรกเบียดเข้ามาแล้วหยิบตุ๊กตาคนหูแมว แล้วตามวิวไป
ผมไปพาตุ๊กตาไปหาที่นั่ง คนอื่นๆพากันหยิบ อลิสอ่านหนังสือ
ผมจับหุ่นทุ่ม จับ ผลัก ดึง ยก วางแล้วทับ ทำไปเรื่อยลองท่านั้นท่านี้แปลกๆ ไม่ได้คิดอะไรจริงจัง
จริงๆแล้วผมอยากฝึกร่างกายเลยแต่มันจะแปลกเด็กไปถ้าทำที่นี่
“ปัง ฮ่าฮ่าฮ่า”
“อ้ะ ของพี่ล้มเลย”
พวกวีเด็กแมว กับวิว เด็กแมงมุมเล่นจับชนกัน พวกเธอสู้กันหรือ?
ผมมอง
“นี่แน่ะๆ”
“อ๊ะ ของน้องล้มเลย”
“ฮ่าๆ”
วีจับชนแล้วของวิวล้ม ผมยิ้ม แล้วกลับไปสนตุ๊กตาผม ผมจะลองจับทุ่มของนักมวยปล้ำ มันต้องยังไงแล้ว จับล่างละโพกนิดหน่อยมั้ง ผมจับล่างสะโพก
ยก จากนั้นเหวี่ยงไปข้างๆ ตุ๊กตายกขึ้น ใต้สะโพกเบี่ยงออกข้างแล้วตกลงอย่างเร็ว
จากนั้น กดลงแล้วเอาตัวทับมั้ง ผมกดลงนิดหน่อยแล้วเอามือดันค้าง มันตกลงไปแล้วเด้งเบาๆหนึ่งครั้ง จากศูนย์กลางน้ำหนักของตุ๊กตา มันน่าจะประมาณนี้ ที่เหลือคือต้องทดลอง
ผมมองหมายเลขหนึ่ง เด็กแมว กับหมายเลขสอง เด็กแมงมุม
พวกเธอเล่นกันอย่างสนุนสนาน หน้ายิ้ม สีหน้ามีความสุข
เด็กดวอร์ฟเดินมาหาพวกเธอ
“ให้ฉันเล่นมันบ้าง”
วิว หมายเลขสอง ดึงตุ๊กตาไปกอดไว้แล้วบิดตัวออกข้าง
จากเด็กดวอร์ฟหมายเลขสิบเอ็ด มันไม่มีหมายเลขสิบด้วยเหตุผลบางอย่าง จากนั้นเด็กดวอร์ฟพูด
“เอามา ฉันจะเล่น เอาตัวนี้ไปแลกกัน”
เขาเอาตุ๊กตาสัตว์ประหลาดเหมือนสุนัขมีเขาสีดำๆมาให้ให้วิว เด็กแมงมุมดู วิวส่ายหัวอย่างแรง สีหน้าเหมือนอย่างไรก็ไม่ให้
เด็กดวอร์ฟขมวดคิ้วแล้วเข้าหาวิว
“เอามา!”
จากนั้นเด็กดวอร์ฟจับตุ๊กตากระชาก
พวกเธอยื้อกัน ผมวิ่งเข้าไป
ระหว่างผมวิ่ง
*แคว่ก*
ใต้วงแขนมันเริ่มขาดแต่เด็กดวอร์ฟไม่ปล่อย เด็กแมงมุมก็ไม่ปล่อย เมื่อผมใกล้ถึง ผมต้องคิดถึงท่าที่ไม่ทำให้เด็กดวอร์ฟเจ็บและใช้งาน ท่านั้น
เมื่อผมไปถึง ผมจับตุ๊กตาเบาๆจับมือเขากดลงเบาๆงัดขึ้นเบาๆ จนมันหลุด
“อ๊ะ อะไรกัน พี่มายุ่งทำไม!”
“นายทำของเสียหาย!”
“อะไรกัน ฮึ้”
อลิสพูดมาอย่างดังวิวรีบพูดขึ้นมา วีหันไปหันมาทำอะไรไม่ถูกตั้งแต่แรก
“หมายเลขสิบเอ็ดจะเอาของตัวเองมาเปลี่ยนกับของหนู!”
“แล้วใครหยิบก่อน”
อลิสถาม วิวพูดขึ้นมา
“หนูหยิบก่อน”
“ถ้าอย่างนั้นมันเป็นของหมายเลขสอง”
“อะไรกัน แต่มันเป็นตัวสวยที่สุด ทำไมไม่แบ่งล่ะพี่!”
“มาก่อนได้ก่อน มันเป็นกฎ!”
“บ้าเอ้ย! เพราะพี่แท้ๆ”
หมายเลขสิบเอ็ดโยนตุ๊กตาสุนัขสีดำมา ผมหยิบ
“นี่สิทธิ์ของนาย เอาไป”
“ฉันไม่เอา ให้ตายสิ อย่ามายุ่ง”
เขาหันมาแยกเขี้ยว
อืม อย่างนั้นเหรอมันเรื่องของเขาแล้ว ต้องปล่อยเขาสงบอารมณ์ก่อน
ผมเดินไปหาวิว
“ให้พี่เอาไปถามอลิสมั้ยว่าซ่อมได้รึเปล่า”
“อย่างนั้นเหรอ”
จากนั้นเธอมองด้วยสีหน้าเศร้า จะร้องไห้ แล้วก็ยื่นมาให้
ผมนำไปถามพี่อลิส
“พี่อลิสซ่อมนี่ได้มั้ยครับ”
“ได้สิ ว่างแล้วจะซ่อมให้นะ”
“ขอบคุณมากๆครับ”
ผมเดินยิ้มกลับไปหาวิว เธอปิดตาไม่มีเสียง ขาคู่ที่สองเหมือนนำมากอดอก
ผมเดินไปหาเธอ
“พี่อลิสว่างแล้วพี่เขาจะซ่อมให้”
“เอ๋”
เธอดูไม่ค่อยเชื่อจดๆจ้องๆ
“แต่มันขาด หนูไม่เล่นมันแล้ว”
ท่าทางเธอจะงอน ถ้าอย่างนั้นเอาไปฝากอลิสไว้ก่อนเดี๋ยวมันขาดมากขึ้น
“พี่อลิสผมฝากตัวนี้หน่อยครับ”
“ได้สิ”
พี่อลิสหยิบตุ๊กตาผู้หญิงที่ขาดใต้วงแขน
วีดูทำท่าจะเล่น แต่วิวไม่เล่นด้วย ผมจับตัวสุนัขสีดำเล่นกับวี
“ฟิ้วววว”
“โอ๊ะของหนูล้ม”
จากนั้นเธอก็เอาของเธอชนกับผม
เราเล่นกันอยู่สักพัก ผมหันไปดูเด็กดวอร์ฟหมายเลขสิบเอ็ด เขากอดอกและงอนทุกอย่าง ถ้าอย่างนั้นเขาดื้อ ผมต้องทำอะไรสักอย่าง
ผมดูเด็กๆคนอื่น หมายเลขสามเด็กเอล์ฟตัวคล้ำเล่นขุดพื้นเหมือนกำลังทำงาน หมายเลขสี่ เอลฟ์ผิวขาว นั่งอยู่กับเด็กดวอร์ฟผู้กอดอก พยายามหาคู่สู้
หมายเลขห้า เด็กกิ้งก่า? จิ้งจก? ไดโนเสาร์ เล่นกับหมายเลขหกมนุษย์กันชนเบาๆ
หมายเลขเจ็ดตัวคล้ำกำลังวิ่งไปทั่วห้องแล้วไปข้างหมายเลขสาม พวกเขากำลังจะเปลี่ยนไปเล่นชนกัน
“ปั้ง”
วีเอาตุ๊กตาชนกับของผม
ผมเล่นกับเธอต่อ
“ปัง”
ผมชนเบาๆ ตอนนี้ผมมีตุ๊กตาจับทุ่มกับตุ๊กตาสุนัขมีเขาสีดำ
เอาล่ะผมต้องปลอบวิว ผมจะทำยังไงดี นึกย้อนไป นึกย้อนไปตอนเด็กๆ เด็กมีอะไร เด็กอ่อนและเด็กๆ สามารถยกตัวเองข้ามกำแพงได้ง่ายๆโดยยังไม่ต้องออกกำลังกาย
แล้วมีอะไรอีก หา หา หา พวกเธอใฝ่หาความรู้ แล้วอะไรต่อ ความรู้ต่อยอดเป็น นั่นไง! จินตนาการ!