เล่ม 1 (1-21) เรื่องราวของการสร้างรักในโลกแฟนตาซี ของชายต่างโลก สองสาวกำพร้า และมีอีก? ออกทำงาน ฝึกฝนเพื่อความแข็งแกร่ง แก้ปัญหาแห่งรักน่ารักๆ กับโลกใบใหม่พร้อมคนรักต่างโลก สองสาวและคนอื่นๆ? รัก!สู้!ทำงาน! เล่ม 2 (22-41) เริ่มเข้าสู่วัยทำงานเป็นครั้งแรกในชีวิตที่สอง กับการได้มาทำงานสายสู้ที่ซ่องใหญ่ เป็นเด็กคุมประตู การบอกข่าวร้ายกับเพื่อนสนิท สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยร้านใหม่ในโลกใหม่ และการเจอคนในฝัน เจ้าหญิงต่างแดน เล่ม 3 (42-61) การย้ายมาวังต่างประเทศตามแฟนเพื่อสร้างชีวิิตใหม่ รัก! ทำงาน! สู้!
รัก,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,เกิดใหม่,ไซไฟ,ทำงาน,สร้างตัว,ฝึกฝน,เกิดใหม่ ,รักวัยรุ่น,นางเอกเก่ง,พระเอกเก่ง,หญิง-หญิง,ฟููตะนาริ,yaoi,หญิงรุก,ชาย-ชาย,ชาย-หญิง,ฮาเร็ม,แอ็คชั่น ,ต่อสู้,โรแมนติก ,โรแมนซ์,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
กำพร้า ณ ต่างโลก (ตอนใหม่อ่านฟรี 90 วัน ก่อนติดเหรียญ!!!)เล่ม 1 (1-21) เรื่องราวของการสร้างรักในโลกแฟนตาซี ของชายต่างโลก สองสาวกำพร้า และมีอีก? ออกทำงาน ฝึกฝนเพื่อความแข็งแกร่ง แก้ปัญหาแห่งรักน่ารักๆ กับโลกใบใหม่พร้อมคนรักต่างโลก สองสาวและคนอื่นๆ? รัก!สู้!ทำงาน! เล่ม 2 (22-41) เริ่มเข้าสู่วัยทำงานเป็นครั้งแรกในชีวิตที่สอง กับการได้มาทำงานสายสู้ที่ซ่องใหญ่ เป็นเด็กคุมประตู การบอกข่าวร้ายกับเพื่อนสนิท สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยร้านใหม่ในโลกใหม่ และการเจอคนในฝัน เจ้าหญิงต่างแดน เล่ม 3 (42-61) การย้ายมาวังต่างประเทศตามแฟนเพื่อสร้างชีวิิตใหม่ รัก! ทำงาน! สู้!
เขาเป็นคนไม่ชอบตัวเองและชีวิตจนติดสื่อบันเทิง เขาเบื่อหน่ายกับงานซ้ำๆ
แต่เขาโชคดีได้มาเกิดใหม่ต่างโลก ในโลกแฟนตาซี
เขาเปลี่ยนตัวเองเป็นวารี หัดรักคนอื่นตั้งแต่เล็ก และรักษาเพื่อนที่ดีไว้เพื่อโตไปด้วยกัน
เขาเริ่มจากการออกกำลังแล้วปกป้องบ้านที่ถูกรังแกกับเพื่อนด้วยศิลปะการต่อสู้
จากนั้นเขาหาเงินและรวยขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ยังเป็นกำพร้า
พอเขาไปทำงานซ่องเจ๊ก็ใจดีเปิดร้านให้เลยยิ่งรวยเข้าไปอีก
และเริ่มโตขึ้น เริ่มคลั่งรักคนอื่นได้ เขาเลือกไม่ทิ้งสองสาวแฝดเพื่อนสมัยเด็กที่ฝึกตามเขาและเชื่อเขาทุกอย่าง วีมนุษย์กึ่งแมวและวิวมนุษย์กึ่งแมงมุม
เขาก็ยังไม่หยุดหาคนรักเพิ่มไปเรื่อยๆ แต่เขาเป็นคนพอใจง่าย เขาพอใจกับฮาเร็มเล็กๆ
แต่เขาฝันไว้ว่าอยากอยู่วัง จนโชคดีได้มาเจอเจ้าหญิงต่างแดนที่เก่งกาจ วาโร และเคยชนะเขาแม้ฝึกแต่เด็กตั้งแต่เขาวัยฟิตสุด
พอตัวเจ้าหญิงสุดสวยชวนเขาไปวัง ชีวิตรักเศรษฐีในบ้านข้างวังกับฮาเร็มน้อยและห้างใหญ่เบิ้มเลยเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนนั้นมา
ปก: หนมปัง แพ
รายละเอียดรายตอน
เล่มละ 20 ตอน+
ความยาว 11,000 ตัวอักษร (3,000 คำ+)
ระยะเวลาอ่าน 15 นาที
ตั้งแต่เล่ม 3+ (ตอนที่ 42-61+) มีภาพ ai ประกอบ
ตั้งแต่เล่ม 4+ (ตอนที่ 62+) เริ่มรับโดเนทภาพประกอบ
ราคาตอนละ 3 บาท (4 บาทเมื่อมีภาพ ai)
ตอนใหม่ฟรี 90 วัน! ถึง 101 จากนั้น 14 วัน
https://www.facebook.com/profile.php?id=100087843892571&mibextid=LQQJ4d
bluesky
https://bsky.app/profile/wayuwayutl.bsky.social
52 ศัตรูรุกราน
มุมมองบุคคลที่สาม
เดือน 3 ยุคตีกันปี 122
มุมมองบุคคลที่ 3
เขตโคเบน
ณ เขตโคเบน เขตชายแดนวาโรซีเมียเรีย
มันสงบสุขมามากกว่า 10 ปีแล้วและแม้มันเป็นเขตชายแดนก็จริง แต่มันสงบสุขอยู่ตลอด
ทหารที่ดูแลภายในเขตเป็นทหารหน้าใหม่ไฟแรง แต่เมื่อได้มาเจอที่สงบสุขแบบนี้ เขาก็ทำเหมือนทุกวัน
เขานั่งหาวไปดูไป
“ไม่เห็นมีอะไรเลยจริงๆว่ะ”
“มันก็เหมือนทุกวันนั่นแหละ”
ทหารหนุ่มผิวเข้มหน้าเหมือนรูปไข่ พูดกับเพื่อนทหารผิวขาวหน้าเหมือนสามเหลี่ยมกลับหัว
“รู้งี้ทำเรื่องย้ายดีกว่า”
“โถ่ ฝันไปเถอะ เพิ่งเข้ามาเป็นทหารแบบนายก็อยู่ที่นี่กันหมดแหละ ฉันก็ไม่รู้เหตุผลหรอก แต่มันเป็นระบบแบบนั้น”
หลังหน้าไข่ผิวเข้มพูดเรื่องย้ายไปอยู่ที่อื่น เพื่อนหน้าสามเหลี่ยมขัดความฝันเขาทันตาเห็น
“เล่นไพ่ป่ะล่ะ?”
“เออ ก็ยังดี มีอะไรทำ ตาละเท่าไหร่ 10 เงิน?”
“โห่ แกก็จะกินไพ่ฉันหมดตัวตลอด ฉันเล่นไม่เคยชนะแกเลย ใช้ลูกไม้อะไรวะ”
“มันเป็นเรื่องตัวเลขเว้ย ตัวเลข ข้าน่ะ เก่งเลขมาตั้งแต่สมัยเด็ก เพราะตอนนั้นร้านค้าพ่อข้าขายดี แล้วมีเงินส่งค่าเรียน ข้าได้เรียนก็เลยเก่ง”
“คนอย่างข้าที่มาจากบ้านไม่ค่อยจะมีไม่มีสิทธิ์ได้เรียนอย่างแกหรอกน่า”
เมื่อคนหน้าสามเหลี่ยมพูดถึงชีวิตสมัยเด็กของตัวเอง ทหารหน้าไข่ตัดพ้อ
ครืน
พื้นสั่นไหวเล็กน้อย
มันเกือบจะไม่รู้สึก แต่ยังรับรู้ได้ว่ามีการสั่นไหว
มัน ไม่เหมือน ปรกติ
“แผ่นดินไหวเหรอวะ?”
“พูดบ้าๆน่า ไม่มีเรื่องอย่างนั้นมาเป็นพันปีแล้วมั้ง มันมีแค่ในนิทานเท่านั้นแหละ”
เมื่อทหารหน้าไข่ได้รับความรู้สึกขอองพื้นที่สั่นไหว เพื่อนเขาวว่าเขาพูดไร้สาระ
พื้นสั่นแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ข้าต้องดูข้างนอกก่อนว่ะ”
“โห่ กำลังจั่วไพ่ดี”
ทหารหน้าไข่มีลางสังหรณ์ไม่ดี แต่ทหารหน้าสามเหลี่ยมสนใจไพ่เกมละ 10 เงินมากกว่า
ทหารหน้าไข่มองไปยังข้างนอก
มีทหารกลุ่มใหญ่ใส่เครื่องแบบสีน้ำเงินแดงถือดาบอยู่ในมือเรียงแถวกันเดินมา
ทหารหน้าไข่ขยี้ตา
เขาคิดว่าจะได้มองที่ราบกว้างเขียวๆเหมือนเดิม แต่ผิดคาด
“ดูอะไรวะ?”
ทหารหน้าสามเหลี่ยมมองแล้วเปิดตากว้างตกใจ
เขาเป็นทหารหน้าใหม่ที่ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาอยู่ชายแดน
เขาแจ้งความประสงค์อย่างดิบดีว่าเขาจะไปทำงานแผนกเอกสาร เขาเป็นคนนั่งทำงานที่โต๊ะ ไม่ใช่นักรบ
“ศะ, ศัตรู”
“ชุดสีนั้นมันประเทศอะไรวะ?”
“มีสองสีมันมาจากสหพันธรัฐโคเม่ไง! ไปลั่นระฆังดิ๊! ข้าเข่าเปลี้ยไปซะแล้ว”
“เรื่องจริงเหรอวะ? ระฆังข้าศึกบุกอ่ะนะ?”
“มาขนาดนี้แล้วมันเห็นชัดๆแล้วโว้ย! ไปตีระฆังให้ดังๆเลย ประเทศในโคเม่บุกวาโรซิเมียเรีย!”
ทหารหน้าไข่รีบไปลั่นระฆังเตือนข้าศึกที่อยู่ ณ ป้อมทหารเขตชายแดน
เมื่อป้อมทหารที่อยู่ใกล้ๆได้ยิน เขาก็ลั่นระฆังด้วย
เสียงระฆังที่ชายแดนเขตโคเบนของวาโรซีเมียเรียตกแต่งด้วยเสียงระฆังใสสวยงาม
ระฆังที่ใช้เป็นแบบระฆังทำมาอย่างดีที่เสียงกังวานและได้ยินไกลมาก
เสียงประสานของระฆังทำให้หมู่บ้านที่ใกล้เคียงตื่นตัว
พวกเขารู้ว่าข้าศึกกำลังมา
แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอะไร
มีการซ้อมข้าศึกบุกโจมตีที่จัดทุกปีจริงอยู่
แต่ชาวชายแดนเห็นว่ามันเป็นเทศกาลที่คนในครอบครัวจะได้หยุดงานและอยู่รวมหน้ากัน
วันนั้นเขาเลยห่วงว่าจะกินอะไรกันมากกว่าเป็นส่วนใหญ่
ไม่มีใครสนใจเลยว่า ถ้าข้าศึกมาจริงๆแล้วจะทำอย่างไร
ทุกคนดูลนลาน บางคนยังเดินเฉยเหมือนไม่มีอะไรเพราะคิดว่าเป็นการซ้อม
แต่นี่ไม่ใช่การซ้อม
ทหารรุกเข้ามาเรื่อยๆจนถึงเขตป้อมยาม
แม้ลั่นระฆังเตือนแล้วก็จริง แต่กองทหารชายแดนชุดสกัดกั้นศัตรูยังมาไม่ทัน
เพราะพวกเขาก็ไม่คิดว่าจะมีคนบุกมาจริงๆเหมือนกัน
วาโรซีเมียเรียเป็นประเทศใหญ่ที่มีอำนาจมหาศาล
ถ้าใครมาเป็นศัตรูวาโรซีเมียเรีย ทุกคนจะเห็นว่าชะตาขาด
แต่ทหารชุดสีน้ำเงินแดงดูไม่กลัว
เขาบุกเข้าไปในห้อง จัดการทหารหน้าไข่และทหารหน้าสามเหลี่ยม
แถมหยิบเงินบนโต๊ะไพ่ไปเสียหมด
ชาวบ้านไม่รู้จะหนีออกไปไหน คนที่มีแรงพาครอบครัววิ่งลงใต้ ไปทิศทางที่ทหารของประเทศเขาจะมา
แต่บางคนตัดสินใจวิ่งเข้าบ้าน
หมู่บ้านนี้อยู่มานาน
ทุกคนรักบ้านตัวเอง
ทหารเริ่มใกล้หมู่บ้านเข้าไปเขาจุดไฟคบเพลิง แล้วง้างใส่บ้าน
เสียงแตรศึกดังเป็นเพลงปลุกใจ
มีเสียงกลองใหญ่ดังสนั่นทั่วทั้งหมู่บ้าน
ถ้ามองไปจะเห็นทหารชุดขาวแต่งด้วยทองเรียงแถวเดินกันเรียบร้อย พวกเขามีเสื้อคลุมไหล่สีเขียวเหมือนสีธง
เสียงเดินที่พร้อมกันดังเท่ากลองศึกใหญ่
มีธงของวาโรซีเมียเรีย
ธงลายมังกรขาวในวงกลมทองคำ
ทหารหญิงที่อยู่หน้าโบกธง
ธงลายมังกรโบกสะบัด
มุมมองวารี
ผมตื่นมาเจอวีกับวิว
วีใส่เสื้อกล้ามนอนวันนี้ แต่หน้าอกเธอแลบออกมาเพราะของเธอมีเกือบน้อย
ผมหันไปดูวิว
วิวก็ใส่เสื้อกล้ามและนมกับหัวนมวางกองอยู่ที่เตียงนอกเสื้อ
ผมเลิกดูแล้วลุกไปอาบน้ำเตรียมออกกำลังกาย
ไม่นานวีกับวิวก็ตื่นมาหลังผมอาบน้ำเสร็จพอดี
วิววิ่งมาหาจูบ วีเช็ควันติดสัตว์
วันนี้ไม่มีน้ำจากการมีอารมณ์ มันไม่ใช่วันติดสัตว์ของเธอ
เธอดูรำคาญกับวันนั้นมากกว่า เพราะช่วงนี้เธอมีงานแล้ว แล้วเธอเป็นคนทำงานจริงจัง
คอนเสิร์ตเมื่อวานของเธอไปได้สวย
มีคนมาดูวีแสดง และซื้อของร้านวิวมากขึ้นเรื่อยๆ
ร้านวิวกับคอนเสิร์ตของวีแน่นตลอด
“เมื่อวานดีมั้ย?”
“ดีสิ มีคนหน้าใหม่มาเยอะ ฉันล่ะตื่นเต้น อาบน้ำก่อนนะ”
วีถอดเสื้อกล้ามนุ่งผ้าเช็ดตัวไปห้องน้ำ
“เมื่อวานของหมดร้านอีกแล้ว มันเริ่มเติมยากอ่ะ”
“เอาแหล่งผลิตมาใกล้ๆ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวขายไม่ทันที่ลูกค้าต้องการ”
เมื่อวิวพูดถึงปัญหา ผมก็พูดทางแก้ที่ผมคิดได้
วิวนุ่งผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำ
เมื่อพวกเธออาบน้ำเสร็จ เราไปแต่งตัวออกกำลัง
เมื่อออกกำลังได้ซักพักวาโรเดินมาพร้อมทหาร
“มีประชุมด่วน ไปกับฉัน”
“ได้สิ พวกเธอถ้าฉันกลับช้าก็ทำงานเหมือนปรกตินะ นา ดูการประชุมแทนฉันด้วย”
นาพยักหน้าแล้วออกกำลังกายต่อ
มีเรื่องอะไรหรือ?
ผมตามวาโรเข้าไปในวัง
ผมพาวีกับวิวไปห้องประชุม เพราะเมื่อพวกเธอเห็นหน้าวาโรแล้วสงสัยว่ามีอะไรกัน
เราเดินไปถึงห้องประชุมใหญ่
มีทหารเดินกันทั่วห้อง มีแผนที่กางอยู่บนกระดานหน้าห้อง
ผมหาที่นั่งแล้ววาโรเริ่มประชุม
“เมื่อวาน มีข้าศึกบุกเรา”
ทุกคนดูเหมือนรู้แล้วนอกจากผม
“ข้าศึกบุก ทำยังไงดีอ่ะ วารี”
วีถามผมด้วยหน้าตาสงสัย
“ตอนนี้เราไม่รู้อะไร มันต้องให้วาโรประชุมก่อน”
เมื่อวีได้ยิน เธอทำสีหน้าทำอะไรไม่ถูก
“ศัตรูบุกเข้ามาทางเหนือ เข้าที่หมู่บ้านชายแดนเขตโคเบน ตอนแรกเราคาดว่ามาจากประเทศหนึ่งของสหพันธรัฐโคเม่ พวกเขาใส่เครื่องแบบสีน้ำเงินแดง”
เมื่อวาโรพูดด้วยหน้าตาดุดัน ทหารเริ่มคุยกัน
เขตโคเบนเป็นเขตชายแดนของวาโรซีเมียเรีย ที่แยกไว้เพื่อต่อสู้ข้าศึกที่บุกมาจากทางเหนือ
และสหพันธรัฐโคเม่ เท่าที่ผมจำได้เป็นสหพันธรัฐที่ประเทศไม่ได้ใหญ่มากในทวีปเหนือ
“ทำไมพวกเขาถึงบุก?”
เมื่อวาโรได้ยินผมถามด้วยหน้าตาจริงจัง เธอทำหน้าหนักใจ
“ทหารสืบเมื่อเอาชนะพวกเขาได้ เราสืบได้ว่าคนให้อาวุธเป็นจักรวรรดิอารูสิเย เราคาดว่าจักรวรรดิอารูสิเยให้อาวุธสหพันธรัฐโคเม่ เพื่อให้พวกเขามาโจมตีเรา และต่อจากนั้นเพื่อให้เราบุกเข้าไปในสหพันธรัฐโคเม่ จากนั้นพวกเขาจะหาว่าเราบุกเข้าทวีปเหนือเพื่อรุกรานพื้นที่”
เมื่อวาโรพูดออกมาผมคิด ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่สหพันธรัฐโคเม่ทำก็เข้าแผนของจักรวรรดิอารูสิเย
ถ้าอย่างนั้นเราจะทำอย่างไร
“เราไม่มีทางเลือกนอกจากโจมตีสวนกลับเข้าไปในโคเม่ เราคาดว่าจักรวรรดิอารูสิเยอยากให้ชายแดนเราติดกันเพื่ออ้างหาเรื่องโจมตี เราคิดว่าจักรวรรดิอารูสิเยเตรียมอาวุธพร้อมโจมตีเราแล้ว”
ทุกคนเริ่มเสียงดัง
“มันกล้าดียังไง”
“เราต้องบุกมันก่อน”
“เราปล่อยพวกเขาไว้ไม่ได้แล้ว”
ทหารเริ่มรู้สึกปลุกเร้า
ผมว่ามันเป็นเพราะไม่มีข้าศึกบุกมานานแล้ว ทหารตามหาสงคราม
วาโรส่ายหน้า
“เราจะยังไม่บุกเข้าไปในสหพันธรัฐโคเม่ เราจะปล่อยไปก่อน แต่มีรายงานจากสายลับในสหพันธรัฐโคเม่ว่าเขตชายแดนของประเทศเมชมีการเครื่องไหว พวกเขาใส่ชุดสีน้ำเงินแดงเหมือนกัน เราคาดว่าน่าจะเป็นประเทศที่บุกเราแล้วคิดจะบุกซ้ำ เราคาดว่าประเทศที่บุกเราคือประเทศเมช”
ผมไม่เคยได้ยินชื่อประเทศเมช
วาโรหน้าโกรธนิดหน่อย
ทหารคุยกันเสียงดัง
“เราจะส่งทัพหลักไปทิศเหนือเพื่อป้องกันและกันการมีผู้เสียชีวิต เริ่มเดินทัพได้!”
วาโรสั่งทหาร แล้วทหารเริ่มเคลื่อนไหว
ผมเดินไปหาวาโร
“แล้วพวกเราล่ะ?”
“พวกเธอต้องไปด้วย”
เมื่อผมได้ยินวาโรผมพยักหน้า
ผมเดินกลับไปนั่งที่ แล้วบอกวีกับวิว
“สงครามเหรอ? งานมันกำลังไปได้ดีเลย”
เมื่อวิวพูดผมส่ายหน้า
“ประเทศในสหพันธรัฐโคเม่อย่างประเทศเมชน่าจะเป็นประเทศเล็กๆ พวกเราไม่มีอะไรต้องกลัว”
ผมบอกพวกเธอแล้วพวกเธอทำหน้าหนักใจ
เราและวาโรออกจากห้องแล้วผมตามเธอไป
เมื่อไปถึงหน้าวังเราขึ้นนกฟาเนิคกันที่บ้าน
เราควบนกไปหลังวาโร แล้วไปถึงค่ายทหาร
ทหารจัดแถวเหน็บดาบในเครื่องแบบ
มีธงของวาโรซีเมียเรียอยู่เยอะและทหารดูดุดันเมื่อมีข้าศึก
พวกเขาดูพร้อมต่อสู้มากกว่าเมื่อตอนฝึก
หัวหน้าหน่วยเริ่มสั่งการทหารให้จัดแถวเมื่อวาโรมา
วาโรสั่งทหาร
“เราจะไปเขตโคเบน! ทุกคนเตรียมพร้อมสู้”
รถเราขี่นกฟาเนิคอยู่ข้างหน้ากองทหารใหญ่
ทหารเริ่มเดินทัพ
กระบองผมพร้อม แต่ผมใส่เสื้อผ้าออกกำลังกาย
ทหารรีบเดินทัพอย่างเร็ว
ทุกคนดูแข็งแรงขึ้นกว่าเมื่อตอนเริ่มฝึกใหม่ๆ
กองทหารเดินทางมาไกล
มันผ่านไปสองสามวันและผม, วี, และวิวใส่เครื่องแบบทหารวาโรซีเมียเรียยศสูงแล้ว
และในที่สุดมันก็เป็นเขตโคเบน
ไม่มีเมืองและส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านข้างทาง
เราแวะตั้งแคมป์ที่ข้างหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
พวกเราคุยกันไปด้วยหน้าตาจริงจังไปตลอดทาง
วีกับวิวดูตื่นเต้น
พวกเราไม่ได้สู้จริงนานแล้ว แต่เราฝึกกันทุกวัน
ผมจับกระบองด้วยความหนักใจ
ต้องสู้อีกแล้วหรือเนี่ย?
วีมองผมแล้วทำสีหน้าสงสัย วิวดูหมู่บ้านอย่างตื่นเต้น แต่ก็ทำสีหน้าหนักใจอยู่เหมือนกัน
เรากินอาหารเช้าแบบทหารแล้วเตรียมไปต่อ
เราใกล้ถึงชายแดนมากแล้วและมันยังไม่ถึงเที่ยง
เราได้นอนเต็มอิ่ม กินอาหารเต็มอิ่ม และทหารทุกคนดูพร้อมรบ แต่เพราะเดินทางมาไกล เลยยังล้าอยู่
เราเดินไปต่อเรื่อยๆ และไม่ถึงสองชั่วโมงมันก็มาถึงชายแดนของเขตโคเบนที่ติดกับสหพันธรัฐโคเม่
มีกลุ่มทหารศัตรูเดินมาพอดี พวกเขาดูหน้าตาดุดันและพร้อมเริ่มต่อสู้
แต่ทหารศัตรูหยุดก่อน และรออะไรซักอย่าง
ผมเคยดูตามหนังว่าต้องมีนายพลไปคุยกันตกลงก่อน
วาโรเตรียมออกไป และหันมามองผมด้วยสีหน้าเหมือนอยากให้ไปด้วย
ผมเดินตามเธอไป แม้ผมไม่รู้ว่าผมมีประโยชน์อะไร เพราะผมไม่ใช่แม่ทัพ
เมื่อเราเดินไปถึงข้างหน้า เราเจอคนที่แต่งตัวเหมือาทหารยศสูง
หน้าตาเขาเหี้ยมๆ ผิวออกเข้มๆเหมือนตากแดดมาเยอะ และพอมีกล้ามเหมือนนักสู้
วาโรดูไม่กลัวเขาซักนิดเดียวและเธอพร้อมรบ
“เราจะมาเอาอาหาร ถ้าไม่ให้เรา เราจะเริ่มโจมตี”
เมื่อเขาพูดเสร็จ เขาทำหน้าหนักใจ
ถ้าอย่างนั้นดูเหมือนเขาจำเป็นต้องทำ
เพราะประเทศเมชไม่มีอาหารหรือ เขาถึงต้องบุกประเทศอื่นเพื่อให้อิ่มท้อง?
“เราไม่มีอาหารจะให้คนที่ทำให้ประเทศเราสูญเสีย”
วาโรพูดแล้วกลับนกฟาเนิค
ผมมองเธอแล้วมองเขา ผมไม่พูดอะไรกับเขาแล้วกลับเข้ากองทัพ
“เตรียมอาวุธ!”
ตอนนี้วาโรเอาเอาธนูไว้ข้างหน้า ลงนกฟาเนิค แล้วเดินทัพ
ผมลงนกฟาเนิค ชักกระบอง และวีกับวิวลงนก ด้วยหน้าที่ดูพร้อมสู้และชักกระบอง
พอเดินไปซักพักมันก็เข้าระยะการยิงธนู พลธนูของเราเริ่มยิงธนู
ทหารพากันล้มและดูสับสนกับอาวุธระยะไกลแล้วเริ่มเดินทัพ
พวกเขาตอบสนองได้เร็วอยู่ พวกเขาไม่ได้ฝีมืออ่อนหัด
ทหารดาบเดินมาอยู่หน้านักธนู แต่ยังไม่เดินทัพ
ทหารศัตรูเดินมาเรื่อยๆ และล้มตายเรื่อยๆ
แต่พวกเขามีทหารอยู่เยอะ และพลธนูของเรามีน้อย
มันเป็นกลุ่มนักธนูที่มีประมาณไม่ถึง 1,000 คน
เมื่อเดินมาถึงระยะใกล้พลธนูพากันหยุดยิงทั้งหมด
เราเดินทัพหน้าอย่างเร็วจนถึงระยะแล้วเริ่มวิ่ง
เพราะเราวิ่งเร็วกว่าทหารทั้งหมด เรา 4 คนวิ่งนำหน้าคนอื่นทั้งหมด
เราวิ่งไปและมันถึงระยะเข้าปะทะ
ผมเจอคนหนึ่งง้างจะฟันผม ผมเอาไหล่กระแทกเขากระเด็นแล้วไถลไป
วาโรฟันคอคนที่อยู่ข้างหน้าและฟันซ้ายขวาคนละครั้ง จากนั้นคนที่โดนฟันพากันล้ม
วีกระโดดถีบขาคู่ ส่วนวิวเอียงตัวตีศอกใส่คนข้างหน้าหัวแตก
ผมฟาดเข้าคอคนทางซ้ายและฟาดเข้าคอคนทางขวา
พวกเขาล้มลงพื้นและจับคอเหมือนหายใจไม่ออก
มีคนฟันใส่แขนซ้ายผมแต่โดนเข้าที่เกราะโซ่เหล็กไร้มลทิน
ผมไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรและสู้ได้เหมือนเดิมปรกติ
ศัตรูเยอะกว่าที่เราคิด การสู้คนเยอะๆมันสู้ยากกว่าปรกติ
ผม, วี, วิว, วาโร หวดและฟันคนล้มซ้ายขวาอย่างเร็ว
ทหารเริ่มถอยและหน้าตาดูหวั่นกลัวกับความเก่งของเรา
ผมดูทหารฝ่ายเรากับทหารฝ่ายศัตรูสู้กัน มันเป็นฝ่ายเราได้เปรียบเยอะ
มันไม่มีกลยุทธ์เหมือนการล้อมศัตรู
แต่กลุ่มเรา 4 คนอยู่ลึกและเหล่าทหารตามกันมาอย่างเร็ว
ผมพุ่งไปข้างหน้าและฟาดกระบองจากข้างบน
เมื่อคนโดนฟาดหัวเขาหัวแตกและจับหัวล้มลง
ตำแหน่งผมอยู่เลยวาโรกับวีและวิวมาแล้ว ผมเหวี่ยงกระบองหมุนตัวเพื่อกวาดทีเดียวหลายคน
ผมฟาดหัวเข่าอีกคนหนึ่งล้มลงแล้วทหารศัตรูเริ่มถอยจากผม
แต่ทหารศัตรูถอยจากวาโรไกลกว่าเพราะเธอพุ่งเร็วและใช้ดาบฟันศัตรูอย่างรวดเร็ว
ทหารดูบุกไปทางวีเพราะตัวดูเพรียว แต่วีรวดเร็วและไม่มีปัญหา
ทหารถอยจากวิวเพราะน่าจะกลัวขนาดของเธอ
ผมต่อสู้ไปเรื่อยๆและทหารเราเริ่มตั้งใจสู้หนักขึ้น
นายพลมาหาผมและง้างดาบจากข้างบน
ผมป้องกันและต่อยหน้าเขาด้วยหมัดซ้ายตรง
มันเหมือนเกิดมาเขาไม่เคยเจอต่อยและเขาดั้งหักทันที
เขาจับจมูกไปและเริ่มฟันมั่วซั่วไม่มีท่า
ผมกันได้หมดและผมหาจังหวะหวดหน้าเขาสวนไป
เขาก้มหลบแล้ววิ่งหนีแหวกทหารที่อยู่ข้างหลัง
เขาผลักทหารที่อยู่ใกล้เขามาข้างหน้าให้สู้กับผมแทน
ทหารศัตรูเริ่มถอยทัพ
“ตามไป! จัดการให้หมด!”
เราตามไปโจมตีพวกเขาอย่างรวดเร็ว และไม่ให้พวกเขาหนีไปไหน
แต่พวกเขาวิ่งเร็วกว่าและทหารเราเริ่มเหนื่อยเพราะเดินทางมา 2-3 วันแล้ว
เราวิ่งช้ากว่าพวกเขาและตามพวกเขาไม่ทัน
ทหารศัตรูวิ่งเข้าชายแดนสหพันธรัฐโคเม่ และวาโรหยุด ไม่ตามไป และทำหน้าตาเหมือนเสียดาย
ทหารเรารอกันอยู่ที่ชายแดนเขตโคเบนและไม่บุกเข้าไปในสหพันธรัฐโคเม่
เธอไม่ให้สหพันธรัฐโคเม่ หรือจักรวรรดิอารูสิเยอ้างว่าพวกเราบุกทวีปเหนือก่อน
มันเป็นเรื่องน่าหนักใจ
ทหารศัตรูจัดแถวใหม่และทำท้าเหมือนจะสู้อีกครั้ง
“ตั้งแคมป์”
นายพลศัตรูสั่งตั้งแคมป์ใกล้ๆเราโดยที่ไม่กลัวอะไรเลย
พวกเขาจะพักแล้วบุกใหม่หรือ?
“จึ ถอยทัพ!”
เหล่าทหารดูเสียดายและเริ่มถอยทัพเดินไปได้ซักระยะหนึ่ง
“หยุด ให้พลธนูอยู่ข้างหน้าและตั้งแคมป์”
ทหารมองหน้ากันเพราะพวกเขาคงคิดว่าจะได้กลับกันเร็ว
พวกเขาแข็งแรงและตอนสู้กันพวกเขาได้เปรียบกว่ามาก
เราตั้งแคมป์ที่ระยะธนูถึงชายแดนและวาโรสั่งการ
“แยกทหารนอนตอนกลางวันและกลางคืน!”
วีกับวิวมองหน้ากัน
พวกเธอก็จัดการไปได้เยอะมากไม่แพ้ผมเหมือนกัน
เราฝึกกันมาดีผมเลยไม่ต้องเป็นห่วงเธอมาก
แต่ความเป็นห่วงยังมีอยู่เพราะพวกเธอทั้งหมดรวมทั้งวาโรเป็นแฟนผม
ผมกินอาหารพร้อมกินและเดินหาราชินีวล็อดซีเมีย
เมื่อผมเจอเธอสั่งทหารอยู่เธอหันหลังมามองผมและหันหน้าหาผม
“เธอจะทำยังไงต่อ?”
“เรายังไม่รู้ว่าพวกเขามีทัพเสริมมั้ย จากนักกลยุทธ์บอกมา เขาบอกว่าพวกเขาดูน้อยกว่าปรกติ เธอกับแฟนไปพักเถอะ”
หลังผมถามเธอแล้วเธอตอบมาผมพยักหน้า
ผมเชื่อฟังเธอและทหารพาผมกับวีและวิวไปเข้าแคมป์
เราเดินทางกันมาไกลแล้วสู้ ผมกับวีและวิวเริ่มเหนื่อยกันเยอะ
วีหลับแล้วกรนก่อนส่วนวิวก็ตั้งใจนอนไม่พูดอะไร
ผมนอนที่เตียงผม