เล่ม 1 (1-21) เรื่องราวของการสร้างรักในโลกแฟนตาซี ของชายต่างโลก สองสาวกำพร้า และมีอีก? ออกทำงาน ฝึกฝนเพื่อความแข็งแกร่ง แก้ปัญหาแห่งรักน่ารักๆ กับโลกใบใหม่พร้อมคนรักต่างโลก สองสาวและคนอื่นๆ? รัก!สู้!ทำงาน! เล่ม 2 (22-41) เริ่มเข้าสู่วัยทำงานเป็นครั้งแรกในชีวิตที่สอง กับการได้มาทำงานสายสู้ที่ซ่องใหญ่ เป็นเด็กคุมประตู การบอกข่าวร้ายกับเพื่อนสนิท สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยร้านใหม่ในโลกใหม่ และการเจอคนในฝัน เจ้าหญิงต่างแดน เล่ม 3 (42-61) การย้ายมาวังต่างประเทศตามแฟนเพื่อสร้างชีวิิตใหม่ รัก! ทำงาน! สู้!
รัก,แฟนตาซี,เกิดใหม่,ไซไฟ,ชาย-หญิง,รัก,คลั่งรัก,ชาย-ชาย,ทำงาน,สร้างตัว,ฝึกฝน,เกิดใหม่ ,รักวัยรุ่น,นางเอกเก่ง,พระเอกเก่ง,yaoi,หญิงรุก,ชาย-หญิง,ฮาเร็ม,แอ็คชั่น ,ต่อสู้,โรแมนติก ,โรแมนซ์,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
กำพร้า ณ ต่างโลกเล่ม 1 (1-21) เรื่องราวของการสร้างรักในโลกแฟนตาซี ของชายต่างโลก สองสาวกำพร้า และมีอีก? ออกทำงาน ฝึกฝนเพื่อความแข็งแกร่ง แก้ปัญหาแห่งรักน่ารักๆ กับโลกใบใหม่พร้อมคนรักต่างโลก สองสาวและคนอื่นๆ? รัก!สู้!ทำงาน! เล่ม 2 (22-41) เริ่มเข้าสู่วัยทำงานเป็นครั้งแรกในชีวิตที่สอง กับการได้มาทำงานสายสู้ที่ซ่องใหญ่ เป็นเด็กคุมประตู การบอกข่าวร้ายกับเพื่อนสนิท สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยร้านใหม่ในโลกใหม่ และการเจอคนในฝัน เจ้าหญิงต่างแดน เล่ม 3 (42-61) การย้ายมาวังต่างประเทศตามแฟนเพื่อสร้างชีวิิตใหม่ รัก! ทำงาน! สู้!
เขาเป็นคนไม่ชอบตัวเองและชีวิตจนติดสื่อบันเทิง เขาเบื่อหน่ายกับงานซ้ำๆ
แต่เขาโชคดีได้มาเกิดใหม่ต่างโลก ในโลกแฟนตาซี
เขาเปลี่ยนตัวเองเป็นวารี หัดรักคนอื่นตั้งแต่เล็ก และรักษาเพื่อนที่ดีไว้เพื่อโตไปด้วยกัน
เขาเริ่มจากการออกกำลังแล้วปกป้องบ้านที่ถูกรังแกกับเพื่อนด้วยศิลปะการต่อสู้
จากนั้นเขาหาเงินและรวยขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ยังเป็นกำพร้า
พอเขาไปทำงานซ่องเจ๊ก็ใจดีเปิดร้านให้เลยยิ่งรวยเข้าไปอีก
และเริ่มโตขึ้น เริ่มคลั่งรักคนอื่นได้ เขาเลือกไม่ทิ้งสองสาวแฝดเพื่อนสมัยเด็กที่ฝึกตามเขาและเชื่อเขาทุกอย่าง วีมนุษย์กึ่งแมวและวิวมนุษย์กึ่งแมงมุม
เขาก็ยังไม่หยุดหาคนรักเพิ่มไปเรื่อยๆ แต่เขาเป็นคนพอใจง่าย เขาพอใจกับฮาเร็มเล็กๆ
แต่เขาฝันไว้ว่าอยากอยู่วัง จนโชคดีได้มาเจอเจ้าหญิงต่างแดนที่เก่งกาจ วาโร และเคยชนะเขาแม้ฝึกแต่เด็กตั้งแต่เขาวัยฟิตสุด
พอตัวเจ้าหญิงสุดสวยชวนเขาไปวัง ชีวิตรักเศรษฐีในบ้านข้างวังกับฮาเร็มน้อยและห้างใหญ่เบิ้มเลยเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนนั้นมา
รายละเอียดซีรีย์
แนวซีรีย์ : แฟนตาซี, โรมานซ์, แอ็กชัน
ปกจะปกนักวาด เล่มไหนปกซ้ำจะอัพเดตภายหลังเมื่อขายได้แน่นอน แต่บอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่
เล่มละ 21 ตอน (1-21)
ความยาวตอนละ 11,000 ตัวอักษร+ (3000 คำ+)
ระยะเวลาอ่าน 15 นาที+
ราคาตอน: ช่วงแรกจะ 3-4 บาท มี 3 ver.
ver. 1 เต็ม 4 บาท (มีภาพเอไอประกอบ, อาจมีภาพนักวาด)
ver. 2 เล็ก 3.5 บาท (มีภาพเอไอประกอบ, ลดขนาดภาพในตอนครึ่งหนึ่ง, ใน Dek-D)
ver. 3 สะอาด 3 บาท (มีแต่ตัวอักษร, มีภาพนักวาดประกอบ, ใน Pinto)
เนื้อเรื่องแต่ละเล่มจะเรียงลำดับเวลา แต่ช่วงชีวิตจะพูดถึงเรื่องที่ไม่เหมือนกัน เลือกอ่านได้ตามสะดวก
จะมีการอัพเดตเรื่อยๆ แต่เนื้อเรื่องตอนและภาพถ้าไม่จำเป็นต้องลบจริงๆจะไม่เปลี่ยน
ซีรีย์นี้ทั้งหมดเรต ฉ.20 แต่บางเล่มจะเรต PG-13
ไม่มีเรื่องผิดศีลธรรม
พระเอกและผู้ชายทั้งหมดไม่สนคนอายุยังไม่ถึง 18
https://www.facebook.com/profile.php?id=100087843892571&mibextid=LQQJ4d
bluesky
https://bsky.app/profile/wayuwayutl.bsky.social
100 มาหมั้นใหม่ไหม
“เกิดชาติหน้าขออย่าได้มาเจอกันอีกเลย” เสียงผู้หญิงดังมาจากไหนไม่ทราบได้
“ไม่!” วารีตื่นแล้วเด้งขึ้นมานั่งเหงื่อท่วมตัว
ต้นเดือน 5 วารีอายุ 23 ปี
มุมมองบุคคลที่สาม
วารีนั่งอยู่ซักพักเพื่อเรียบเรียงความคิด
มันเป็นอดีตนั้นที่เขาไม่อยากจำ
เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปมวนอุ้ย
แล้ววารีก็ไปนั่งที่หน้าต่างจุดดูด
ในความมืดตอนเช้าตรู่วารีมองเห็นแต่ความว่างเปล่าในความมืดมิด
ความมืดมันใกล้เข้ามา
มันกัดกินหัวใจเขา
วารีเริ่มใจสั่นและกลัวอดีตกลับมาหาเขา
“ทำไมเป็นอย่างนี้? ทำไมใจไม่แข็งเลย?” วารีบ่นกับตัวเอง
เขาพยายามหาเหตุผลแต่เมื่อวานก็เป็นวันธรรมดา และวันนี้ก็ไม่ได้มีธุระอะไรใหญ่โต
ก๊อกก๊อก “พ่อ”
“เฟท! ซักครู่นะลูก” วารีดับอุ้ยแล้วรีบเดินไปหยิบพัดลมให้เป่าออกนอกหน้าต่าง
เขารอประมาณ 1 นาทีให้ควันอุ้ยออกไปให้หมด
วารีเปิดประตูให้ลูกเลี้ยง แต่ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น
วารีเห็นลูกตัวเองถือปืนพร้อมมีดาบลอยได้อยู่ด้านข้างพร้อมฝัก
“ซิ่นเนี่ยนบอกหนูว่ามีปีศาจร้ายเข้ามาในเขตบ้าน น่าจะอยู่แถวห้องพ่อ เราก็เลยจะมาตรวจดู” เฟทมองตาพูดจาฉะฉานแม้สิ่งที่เธอพูดดูเพ้อเจ้อหลุดโลก
วารีหันไปมองห้องที่ว่างเปล่าของตัวเอง “เอิ่ม แล้วมันปีศาจจริงๆมั้ย?” วารีมองแล้วเริ่มหวั่นๆใจ
“ตรงนั้น” เฟทชี้ไปที่บนเตียง
ดาบที่ลอยได้ลอยมากันตรงระหว่างเตียงและเฟท
“แล้วพ่อต้องทำยังไง?” วารีถามลูกตรงๆเพราะสับสนไม่รู้จะทำอะไรดี ปีศาจก็กลัว ลูกก็เป็นห่วง
“เดี๋ยวหนูดูแลพ่อให้เอง” เฟทล้วงกระเป๋าที่เข็มขัดแล้วหยิบที่เก็บเสียงของปืนพกขึ้นมา
เฟทใส่ที่เก็บเสียงเหมือนคนชำนาญและเคยทำมาแล้วหลายรอบ
เฟทเล็งปืนไปบนเตียง ดาบลอยออกด้านข้างไม่บังวิถีการยิง
ชุ่วชุ่วชุ่ว เฟทยิงปืนไปสามนัดโดนกำแพงทำให้กำแพงเป็นรูและเศษกำแพงหล่นไปเลอะเตียง
เฟทหยิบผ้ายางที่กางเป็นแผ่นไม้ใหญ่มากางกลางห้อง
จากนั้นหยิบเหมือนสิ่งที่เหมือนถุงปูนซีเมนต์เล็กๆมาจากกระเป๋าเข็มขัด
มันไม่น่าอยู่ในกระเป๋านั้นได้แต่มันอยู่ได้
เฟทหยิบถุงทรายและไปหยิบขันน้ำที่ห้องน้ำมาผสมภูเขาซีเมนต์เล็กๆ
เฟทผสมปูนแล้วหยิบเกียงออกมาจากกระเป๋า
วารีมองดูเฟทฉาบรูกระสุนอย่างงุนงง
เฟทเอาผ้ายางไปล้างในห้องน้ำแล้วเก็บจากนั้นออกมาอีกครั้ง
จากนั้นเฟทหยิบสีสเปรย์กระป๋องออกมาจากกระเป๋าอีก “หนูต้องวาดรูปที่กำแพงพ่อไว้เป็นแหล่งพลังมงคลป้องกันปีศาจ มันจะป้องกันปีศาจตัวเล็กๆที่ทำให้ใจเสียเหมือนวันนี้ได้”
“เอาตามที่ลูกว่าดีแหละ เฟท” วารีหวั่นๆแต่ยอมให้เฟททำทุกอย่างที่เธอเห็นว่าดี
เฟทพ่นสีสเปรย์บรรเลงวาดกำแพง
เฟทไม่ได้พกมาแค่สีเดียวและพกมาหลายสี
เมื่อเฟทบรรเลงวาดได้ครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ
“โห ลูกวาดรูปสวยนะ” วารีเห็นรูปของลูกแล้วภูมิใจ
มันเป็นรูปเทพกระต่ายถือกระบองพร้อมมีอักขระภาษาแปลกตรงนั้นตรงนี้
มันดูขลังและสวยงาม และเป็นภาพที่เข้ากับห้องเพราะอาวุธเป็นกระบอง
“หนูพยายามให้ภาพมันเข้ากับห้องพ่อ หวังว่าพ่อคงชอบนะคะ” เฟทก้มหัวให้พ่อตัวเอง
วารีลูบหัวเฟท “มันสวยลูก ขอบคุณนะ ซิ่นเนี่ยนด้วยนะ ขอบคุณ”
เฟทมองรอบห้องอีกครั้ง เอี้ยวตัวถือปืนออกไปนอกหน้าต่างแล้วดูทั้งบนล่างซ้ายขวาทุกทิศทาง
เมื่อเธอไม่เห็นอะไรเธอหมุนกระบอกเก็บเสียงเอาใส่กระเป๋าเครื่องมือแล้วเก็บปืนเข้าซองที่เอว
ดาบลอยไปใส่ฝักที่ลอยอยู่ได้เองกลางอากาศเหมือนมายากล
“ไปแล้วค่ะพ่อ” เฟทเดินไปทางประตูแล้วเปิดมันออก
แต่เฟทนิ่งชั่วครู่
“พ่อเดือนนี้มันจะมีวันมงคลช่วงปลายเดือน หนูค้นพบว่ามันเป็นมงคลเพราะหลายดาวเรียงตัวกันดี หนูช่วยกันหากับอาจารย์ที่วัดนั้น” เฟทบอกวันดีกับพ่อตัวเอง
“อย่างนั้นเหรอ? เอ… ให้มันเป็นวันอะไรดีล่ะ?” วารีไม่รู้จะเอาวันมงคลไปทำอะไร
“เหล่าแม่ระรอกสองรอพ่อใส่แหวนอยู่นี่พ่อ” เฟทบอกใบ้ให้พ่อตัวเองใส่ใจแฟนบ้าง
“อ้อ แต่มันจะใกล้งานหมั้นแรกที่ล่มไม่เป็นท่าไปมั้ยอ่ะ? พ่อกลัวคนมองไม่ดีแบบว่า ‘งานที่แล้วยังล่มเลย หน้าด้านหมั้นอีกแล้ว’ อะไรประมาณนี้” วารีกลัวจากประวัติเมื่อปีที่แล้ว
“ไม่มีใครสนหรอกพ่อ แขกไม่ใกล้ชิดก็มากินเหล้าฟรีดูภาพโรแมนติกแล้วกลับบ้านเป็นปรกติสำหรับงานพวกนี้แหละ ยิ่งมีอะไรป่วนๆแบบคราวที่แล้วคนยิ่งชอบ” เฟทพูดเรื่องโลกแห่งความจริง
“งั้นเหรอ? ถ้าลูกคิดว่าดีมันคงดีแหละ พ่อจะเอาไปบอกกับสาวๆแล้วกัน” วารีทำใจมุ่งมั่นเพื่อหมั้นหมาย
“แม่ๆอยากให้พ่อมีเวลากับพวกท่านบ้าง แต่ทุกคนรู้ว่าพ่อทำงาน” เฟทพูดทำหน้าเศร้าๆ
“ก็นะ เราอยู่ด้วยกันตลอด แต่เวลาส่วนตัวมันหายากแล้ว พ่อไม่คิดว่าชีวิตกำพร้าของพ่อจะมายืนจุดนี้เลย มันเลยใหม่สำหรับพ่อเหมือนกัน” วารีทำหน้าเศร้าๆอธิบายให้ลูกฟัง
“นั่นแหละยิ่งแม่อ็อกโธยิ่งนินทาพ่อว่าเกลียดต่างๆนาๆ แต่บ่นอยู่ตลอดว่าเธอเป็นเมียหลักสิบแล้วพ่อไม่ใส่ใจ” เฟทเล่าเรื่องที่อ็อกโธมาบ่นกับเธอเวลาเจอกันบ่อยๆให้ฟัง
วารีเกาหัวเหมือนไม่รู้จะทำอะไร
“หนูไปจริงๆแล้วพ่อ บาย อย่าจิตตกให้ปีศาจมาอีกล่ะ” เฟทพูดหน้าประตูอย่างเป็นห่วงเป็นใย
“ว่าแต่…” วารีทิ้งท้ายก่อนเฟทออกไป
เฟทเอียงคอขึ้นด้านบนแล้วหันมา เธอเหงื่อตกนิดๆ
“ลูกไปวัดได้ยังไง?” วารีถามเรื่องที่เฟทติดต่อกับอาจารย์
“เอิ่ม… โดรนสองใบพัด ไปแล้วค่ะบาย” เฟทกับดาบในฟักลอยได้พุ่งออกประตูแล้วปิดอย่างเร็ว
“ดะ… เดี๋ยว ไปเอามาจากไหน!” วารีเปิดประตูชะโงกคอไปข้างนอกหันซ้ายขวาไม่เจอใคร
เมื่อเขาคิดว่าลูกโตจนขับโดรนซิ่งได้แล้วเขาก็ยิ่งหวั่นกับอนาคตของเธอ
เมื่อเฟทออกไปห้องก็เงียบ
วารีหยิบมือถือโทรหานา
“ว่าไงวารี” เสียงนาตื่นเต็มที่แล้ว
“ชงกาแฟให้หน่อยสิ เธอชงแล้วมันอร่อยกว่าสูตรที่เธอเคยสอนอ่ะ ได้มั้ย?” วารีอ้อนเมียเหมือนเด็กอ่อนแต่เขาไม่อายเลย
“เดี๋ยวไปหา” นาพูดแล้วตัดสาย
วารีอยากดูดอุ้ยแต่ระงับใจไว้เพราะกลัวกลิ่นติดตัว
เพราะเมียเขาท้องอยู่และมันไม่สมควรเลย
วารีรีบไปล้างแขนขาหน้าตาในห้องน้ำเพราะกลิ่นมวนที่แล้วอาจยังอยู่
จากนั้นเขามานั่งนึกถึงลูกที่จะออกมา
สิบสามคน แค่เฟทคนเดียวก็เป็นเรื่องใหญ่มากแล้ว แต่เขาจะมีลูกอีก 13 รวมของหัวหน้าแผนกอีก 3 คนก็จะเป็น 16 คน
วารีนึกไม่ออกเลยว่าจะต้องเลี้ยงอย่างไรและเริ่มตรงไหนให้แต่ละคนโตมาอย่างดีที่สุด
มันเป็นเรื่องที่เขาหนักใจ
ก๊อกก๊อก เสียงประตูดังอีกครั้ง
วารียังไม่ทันออกเสียงนาก็เข้ามาเหมือนเจ้าของห้องหน้างัวเงีย
วันนี้เธอไม่ได้ใส่แว่นและยังไม่แต่งหน้า
เมื่อเธอมองวารีหรี่ตาหน้าดุๆ มันทำให้วารีกลัว “ทำไมหน้าดุจัง”
นาส่ายหน้าแล้วพูดบ่น “ไม่ใส่แว่นแล้วมันเป็นแบบนี้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน”
“เธอผ่าตัดแล้วนี่ ไปหามหัศศรีกับคิเซกิอีกรึยัง?” วารีถามเรื่องสุขภาพคู่หมั้นตัวเอง
“ถามแล้ว สองหมอบอกมันเสื่อมเพราะอ่านเยอะไปอีกแล้ว ฉันไม่อยากผ่าตัดบ่อยๆเลยใส่แว่น” นาชี้แจงสุขภาพตัวเองให้วารีฟังแล้วไปชงกาแฟ
นาชงอย่างคล่องแคล่วตีนมให้ขึ้นฟอง ใส่นมทำลาย
“อ่ะ คาปูชิโน่นาจ๋าที่ชอบนักชอบหนา” นาพูดเชิงบ่นแต่เธอยินดีที่ได้ทำให้คนรักทุกครั้งไป
แต่เธอไม่บอกเรื่องนั้นกับวารีแน่นอน
วารีดูรูปนมในแก้ว มันเป็นรูปหน้าแมวน้อย
จากนั้นวารีกินกาแฟอย่างเอร็ดอร่อย “เฟทบอกมีวันมงคลอยู่ปลายเดือน ฉันว่าจะหมั้นกับสาวๆที่เหลือ”
“ก็ดี พวกเธอเสียใจกับคราวที่แล้วหนัก ที่ตัวเองไม่ได้หมั้นแถมงานยังล่มอีก พวกเธอกลัวเธอไม่กล้าหมั้นอีกครั้งอยู่ในใจ ถ้าประกาศตอนนี้ มันจะเป็นเรื่องดีที่ทำให้ทุกคนมีไฟ” นาชี้แจงสภาพจิตใจของสาวๆแฟนวารี
แม้มันไม่ใช่งานเธอที่ต้องติดตามเหล่าแฟนคนอื่น แต่เธอทำเพราะเธอเป็นเมียที่ดีและเป็นเพื่อนที่ดีกับเหล่าสาวทั้งหมด
“ช่วยประกาศให้หน่อยได้มั้ย?” วารีวานนา
“ได้ ฉันจะได้จัดวันนัดเลือกชุดด้วยอะไรด้วย ให้ฉันนัดให้ทีเดียวเลยมั้ย? จะได้เตรียมพร้อมกว่าคราวที่แล้ว ว่าแต่จะจัดที่ไหน?” นาถามเรื่องสถานที่จัด
“จัดในฮาโมนี่แหละ ลานหน้าร้านวีกับวิว คราวนี้ให้วีร้องเพลงกับเครื่องดนตรีเบาๆไม่ใช้ไฟฟ้า ให้เพลงออกมาเรื่อยๆ นุ่มๆ” วารีอยากได้เพลงอะคูสติกเคล้างานหมั้น
“เดี๋ยวฉันจัดการให้ ขอกลับห้องไปทำธุระก่อนนะ ไปล่ะ” นาเดินไปทางประตูเปิดห้องออกไป
วารีอยากให้เธออยู่นานกว่านี้ แต่ในใจก็รู้ว่าเธอไปทำธุระเลยไม่รั้งไว้
วารีนุ่งผ้าเช็ดตัวแล้วไปอาบน้ำออกกำลังกาย
งานหมั้น ปลายเดือน 5
เรดจำปา, ท่านหญิงเสือดำ, ไอซิส, อ็อกโธ, และหวาน กำลังเลือกเครื่องประดับ
“วารีฝากมาให้ฉันดูแลเธอเรื่องการแต่งตัว เธอยังดูไม่เป็นซ้อแล้วต้องใส่เครื่องประดับมากกว่านี้อีก” ท่านหญิงเสือดำยืนอยู่หลังเรดจำปา
เธอถือสร้อยทองเส้นใหญ่มาแล้วใส่ที่คอของเรดจำปาจากด้านหลัง
เรดจำปารู้สึกอายที่มีคนแต่งตัวให้
วารีเปลี่ยนห้องร้องเพลงของวีเป็นห้องแต่งตัว และในห้องยังมีเครื่องประดับสำหรับไอดอลกับสร้อยทองหลายลายมาก
ท่านหญิงเสือดำเป็นเจ๊ที่มีรสนิยมดี เธอเลือกสร้อยได้เหมาะกับชุดของเรดจำปามาก
ส่วนตัวเธอใส่เต็มยศหมดแล้ว
ไอซิสมองค้อนเจ๊รสนิยมดีแล้วมองตัวเองใส่ทองที่ดูไม่ขึ้นในกระจก
เธอโกรธท่านหญิงที่ตำแหน่งของเธอมาแทรกระหว่างพี่อลิสกับตัวเธอ
แต่การต่อสู้ของเธอจบไปแล้วและเธอแพ้
“มานี่มา” แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ท่านหญิงเสือดำที่ใส่เครื่องประดับให้เรดจำปาเสร็จเดินมาหาเธอแล้วดูเครื่องประดับตรงหน้าเธอให้
ท่านหญิงเสือดำคุ้ยไปเลือกไป “สำหรับเธอ เธอต้องเน้นเรื่องอายุ เธออายุยังน้อยและหน้าตายังเปล่งปลั่งไปด้วยไฟของชีวิต อย่าพยายามเอาทองใหญ่ๆมาบังรัศมีของอายุ เธอต้องใส่เส้นเล็กเส้นน้อยเพื่อให้พลังความเยาว์ของเธอเด่นขึ้น” ท่านหญิงเสือดำเลือกทองเส้นเล็กๆมีหินดิบแบบเป็นผลึกในกรอบเป็นจี้ห้อยคอ
“อึ่ก” เมื่อท่านหญิงเลือกสร้อยทองใหญ่ๆที่ไม่เหมาะกับเธอออกแล้วใส่เส้นเล็ก ไอซิสเห็นหน้าตาตัวเองเด่นขึ้นจนกระอักเสน่ห์
“พี่ไม่แค้นหนูเหรอ? ที่หนูไปท้าพี่” ไอซิสทำหน้าเศร้าเพราะรู้สึกเหมือนแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้สู้
“ชีวิตมันมีการแข่งขันเสมอ ฉันเข้าใจว่าเป็นเด็กแล้วไฟมันแรง ชีวิตที่เปิดซ่องมา 15 ปีสอนให้ฉันไม่คิดเล็กคิดน้อย” ท่านหญิงเสือดำบอกประวัติคร่าวๆให้ไอซิสได้รู้
“15 ปี… พี่เก่งจัง” ไอซิสเริ่มรู้สึกเคารพศัตรูตัวเองอย่างจริงจังในครั้งนี้ เธอต้องยอมรับก่อนว่าท่านหญิงเสือดำประสบการณ์มากกว่าเธอ
ท่านหญิงเสือดำเดินไปหาอ็อกโธ
เธอมองอ็อกโธแล้วประทับใจที่อ็อกโธแต่งตัวและเลือกเครื่องประดับเป็น “รสนิยมเธอดีเหมือนกันนี่นา ทำไมพออยู่บ้านชอบใส่แต่เสื้อผ้าง่ายๆ”
“หนูไม่อยากให้วารีได้ใจ” อ็อกโธไม่รู้สึกอะไรเป็นศัตรูกับเจ๊คนนี้และบอกความจริงไป
“แต่เธอนอนกับวารีทีไรก็ใจลอยไปสวรรค์ทุกที แต่ยังเกลียดเขาอยู่เหรอ?” ท่านหญิงเสือดำยิงคำถามส่วนตัวสุดๆแบบฉับพลันเหมือนคาวบอยปืนไว
“อ๊ะ! อ่า… เอิ่ม… คือว่า… ก็ตอนเริ่มมันเป็นแบบนั้นล่ะมั้ง หนูถึงวางไม่ได้” อ็อกโธเริ่มเหงื่อตกเมื่อโดนรู้เรื่องส่วนเตียงกับแฟน
“ที่ทึกทักไปเองแล้วแค้นเขามากอ่ะนะ? แต่ก็ดีไม่ใช่เหรอที่สุดท้ายได้กับเขา พ่อเธอก็ภูมิใจด้วยนี่? มันยังไม่ดีอีกเหรอ?” ท่านหญิงเสือดำถามถึงช่วงแรกๆที่อ็อกโธมา
“ก็จริงค่ะ ฟู่ว… หนูคงต้องเปลี่ยนความคิดแล้วแหละมั้ง” อ็อกโธคิดเรื่องการเปลี่ยนนิสัยตัวเอง
“ก็ดี ถ้าชีวิตดีแล้วยังตัดพ้อ ระวังจะดวงซวย จำไว้ ผัวดีอยู่ฟรีกินฟรีก็หรูเท่าไหร่แล้ว” ท่านหญิงเสือดำพยายามเปลี่ยนความคิดอ็อกโธให้คิดดีๆกับวารีมากขึ้น
เธอทำหน้าที่เจ๊มากประสบการณ์ได้อย่างดี
“อื้ออื้อ ใครก็ได้ช่วยที” หวานแต่งตัวไม่เป็นแล้วทำผ้ายาวประดับของเสื้อผ้าแต่งงานพันหน้าตัวเองปิดปากปิดจมูก
ทุกคนวิ่งไปล้อมเธอแล้วแกะชุดออกพยายามไม่ให้ขาด
แต่แกะเท่าไหร่ก็แกะไม่ได้
ท่านหญิงเสือดำวิ่งไปหยิบกรรไกรมาตัด
มันเป็นผ้ายาวที่อยู่ใต้แขนให้ดูสวย แต่ตอนนี้มันขาดหมดแล้ว
“แฮ่กๆ หนูขอโทษ หนูมันไม่ได้เรื่อง” หวานต่อว่าตัวเอง
วารีบอกว่าอยากให้หวานเป็นตัวของตัวเอง และหวานเลือกร่างคนขาสุดล่ำ
“ก่อนหน้านี้ไม่ถึงปี เธอยังเป็นกระต่ายอยู่เลย มาวันนี้เธอได้ผัว ตั้งท้อง แต่งตัวมาหมั้นแล้ว อย่าว่าตัวเองนักเลย ช่วงนี้ฉันเห็นบ่อยนะ อย่าทำ” ท่านหญิงเสือดำใช้อำนาจเจ๊สั่งกระต่ายขาใหญ่
หวานได้แต่ก้มหน้าซึมๆ
ก๊อกก๊อก เสียงประตูดัง
“ได้เวลาแล้วครับ” ทีมงานวันหมั้นเดินเข้ามาบอกคิว
“มา ตามฉันมา เธอด้วยหวาน! อย่าไหล่ห่อให้ผัวเห็น วันนี้วันดี เชิดหน้า! ลุย!” ท่านหญิงเสือดำเรียกกำลังใจแทบเหมือนไปออกรบ
เมื่อออกมาเธอเห็นวารีรออยู่ข้างหน้า “หวานเปลี่ยนเสื้อเหรอ?” เพราะชุดหวานไม่เหมือนเดินวารีเลยทัก
“อุบัติเหตุนิดหน่อย อย่าคิดมากแล้วพาเราไปด้านหน้า สาวๆประกบสองข้างของเขาเลย ใช้เดินให้เหมือนเมียที่มั่นหน้า” ท่านหญิงเสือดำชี้แจง
สาวๆประกบข้างวารีกอดแขนด้วยสาวสี่คนเดินเชิด
กลุ่มแฟนที่หมั้นรอบแรกดูตาเป็นมันและรู้ว่างานนี้ไม่ล่มแน่
วารีเดินนำสาวๆมาประจำที่นั่งรอใส่แหวน
“เชิญเจ้าบ่าวบอกรักแล้วใส่แหวน” วารีพูดต้อนรับแขกไปแล้วรอบหนึ่ง เลยงงที่มีการให้บอกรักก่อน
แต่เพราะคนที่เหมือนบาทหลวงเปลี่ยนเลยไม่คิดมาก
วารีหายใจลึกๆและพูดมั่นๆ “ฉันรักทุกคนจริงๆ และขอบคุณที่เธอรักฉันเหมือนกัน ชาตินี้เป็นชาติที่ดีที่สุดในชีวิตของฉันไม่ว่าจะชาติไหน ที่มีแฟนที่รักและเข้าใจฉันดีอย่างนี้ขอบคุณที่รักกันนะ ทุกคน”
ทุกคนหน้าแดงไม่เว้นแม้แต่เจ๊เสือดำที่โชกโชนชีวิตที่คิดในใจ ‘คนอย่างฉันมีผัวแล้วเหรอเนี่ย ชีวิตมันช่างมหัศจรรย์จริงๆ’
วารีใส่แหวนให้เรดจำปาสองคนมองหน้ากันเขินๆ
วารีใส่แหวนท่านหญิงเสือดำ แต่ทั้งคู่ยิ้มมุมปากเหมือนรู้กัน
วารีใส่แหวนให้ไอซิสที่พองแก้ม “ฉันต้องการเวลาส่วนตัวเยอะขึ้น”
“ฉันจะหาให้นะ” วารีรับปาก
วารีใส่แหวนให้หวาน หวานมือสั่นเพราะตื่นคน
“ไหวจนจบงานไหมหวาน ให้ฉันพาไปเข้าหออยู่เงียบๆก่อนไหม?” วารีเริ่มเป็นห่วงกระต่ายใหญ่ข้างหน้า
“ฉันต้องทำได้ ฉันต้องทำได้ ฉันต้องทำได้ วารี เชื่อใจฉันนะ” เธอพูดเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเอง
แต่เพราะจิตใจของเธอมุ่งมั่นแน่วแน่จริงๆ วารีเลยอยากให้เธออยู่จนจบงาน
“เอาล่ะ ใส่แหวนเสร็จแล้วก็เจ้าบ่าวมายืนด้านหน้าแล้วให้เจ้าสาวจูบหน้าพร้อมกันสี่คนปิดงานก่อนไปเข้าหอ” บาทหลวงกล่าวถึงสิ่งสุดท้ายที่ต้องทำ
ใหญ่ใหญ่รีบเตรียมพนักงานที่ถือกล้องถ่ายรูปใหญ่มาเรียงแถวหน้ากล้องถ่ายทอดสดหลายคน
สาวๆจูบวารีทั้ง 4 คนแบบไม่มีปัญหา
วารีคิดในใจ ชีวิตมันช่างดีจริงๆ
“เชิญเข้าหอได้ ทุกคนเชิญไปส่งเขาที่ด้านหน้า” บาทหลวงกล่าวปิดงาน
วารีเดินควงแขนสาวสี่คนเดินออกฮาโมนี่ที่ประตูหน้าโดยมีคนที่มางานหมั้นเดินตามมามากมาย
วารีให้สาวๆขึ้นโดรนก่อนแล้วค่อยขึ้นคนสุดท้าย
จากนั้นเขาเปิดโดรนแล้วขึ้นบิน
เสียงกระพรวนที่แขวนไว้มากมายใต้โดรนดัง
สาวๆที่หมั้นกลุ่มแรกอยากได้งานแบบนี้ แต่พวกเธอยินดีรองานแต่ง
วีกับวิวทำใจตอนวารีอยู่กับสาวอื่นได้อย่างบริสุทธิ์ใจแล้วเลยไม่รู้สึกอะไรไม่ดีในวันนี้
วารีบินเหนือเมฆไปถึงยอดภูเขาลูกหนึ่ง
วารีให้บุญมีและบุญมาสร้างเรือนหอนี้อย่างเร่งด่วนและเสียเงินไปหนึ่งก้อน
มันเป็นบ้านใหญ่ๆสองชั้นที่รองรับคนได้ 20 คน
การออกแบบมันดูโปร่งให้คนในบ้านได้เห็นทิวทัศน์เหนือก้อนเมฆ
วารีจอดโดรนตรงที่จอดด้านข้างแล้วพาสาวๆเข้าบ้าน
“จะอาบน้ำก่อนไหม?” เมื่อเขาพูดแค่เท่านี้ ท่านหญิงเสือดำก็ถอดชุดเหมือนนินจาลอกคราบ
สาวๆเริ่มแก้ผ้าแล้วช่วยหวานแก้ผ้า
วารีและคู่หมั้นใหม่พากันไปอาบน้ำ
ท่านหญิงเสือดำพูดขึ้นมา “ฉันรู้สึกมีอารมณ์อยู่นะ แต่วันนี้มันดี และมันเป็นมากกว่าเซ็กส์ มันเป็นวันที่ฉันอิ่มตรงนั้นโดยไม่ต้องมีเซ็กส์ มันแปลกจริงๆ หรือเพราะฉันท้อง?”
ไอซิสพยักหน้าเห็นด้วย อ็อกโธก็ด้วย แต่หวานพยักหน้าตามแบบไม่รู้เรื่อง
“ถ้างั้นก็นอนกอดกันเฉยๆแล้วกัน วารีก็เริ่มเหนื่อยเพราะงานหมั้นเหมือนกับสาวๆทุกคน
ทุกคนเช็ดตัวแล้วเข้าห้องไปนอนเบียดกันอย่างมีความสุข