เล่ม 1 (1-21) เรื่องราวของการสร้างรักในโลกแฟนตาซี ของชายต่างโลก สองสาวกำพร้า และมีอีก? ออกทำงาน ฝึกฝนเพื่อความแข็งแกร่ง แก้ปัญหาแห่งรักน่ารักๆ กับโลกใบใหม่พร้อมคนรักต่างโลก สองสาวและคนอื่นๆ? รัก!สู้!ทำงาน! เล่ม 2 (22-41) เริ่มเข้าสู่วัยทำงานเป็นครั้งแรกในชีวิตที่สอง กับการได้มาทำงานสายสู้ที่ซ่องใหญ่ เป็นเด็กคุมประตู การบอกข่าวร้ายกับเพื่อนสนิท สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยร้านใหม่ในโลกใหม่ และการเจอคนในฝัน เจ้าหญิงต่างแดน เล่ม 3 (42-61) การย้ายมาวังต่างประเทศตามแฟนเพื่อสร้างชีวิิตใหม่ รัก! ทำงาน! สู้!
รัก,แฟนตาซี,เกิดใหม่,ไซไฟ,ชาย-หญิง,รัก,คลั่งรัก,ชาย-ชาย,ทำงาน,สร้างตัว,ฝึกฝน,เกิดใหม่ ,รักวัยรุ่น,นางเอกเก่ง,พระเอกเก่ง,yaoi,หญิงรุก,ชาย-หญิง,ฮาเร็ม,แอ็คชั่น ,ต่อสู้,โรแมนติก ,โรแมนซ์,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
กำพร้า ณ ต่างโลกเล่ม 1 (1-21) เรื่องราวของการสร้างรักในโลกแฟนตาซี ของชายต่างโลก สองสาวกำพร้า และมีอีก? ออกทำงาน ฝึกฝนเพื่อความแข็งแกร่ง แก้ปัญหาแห่งรักน่ารักๆ กับโลกใบใหม่พร้อมคนรักต่างโลก สองสาวและคนอื่นๆ? รัก!สู้!ทำงาน! เล่ม 2 (22-41) เริ่มเข้าสู่วัยทำงานเป็นครั้งแรกในชีวิตที่สอง กับการได้มาทำงานสายสู้ที่ซ่องใหญ่ เป็นเด็กคุมประตู การบอกข่าวร้ายกับเพื่อนสนิท สร้างเนื้อสร้างตัวด้วยร้านใหม่ในโลกใหม่ และการเจอคนในฝัน เจ้าหญิงต่างแดน เล่ม 3 (42-61) การย้ายมาวังต่างประเทศตามแฟนเพื่อสร้างชีวิิตใหม่ รัก! ทำงาน! สู้!
เขาเป็นคนไม่ชอบตัวเองและชีวิตจนติดสื่อบันเทิง เขาเบื่อหน่ายกับงานซ้ำๆ
แต่เขาโชคดีได้มาเกิดใหม่ต่างโลก ในโลกแฟนตาซี
เขาเปลี่ยนตัวเองเป็นวารี หัดรักคนอื่นตั้งแต่เล็ก และรักษาเพื่อนที่ดีไว้เพื่อโตไปด้วยกัน
เขาเริ่มจากการออกกำลังแล้วปกป้องบ้านที่ถูกรังแกกับเพื่อนด้วยศิลปะการต่อสู้
จากนั้นเขาหาเงินและรวยขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ยังเป็นกำพร้า
พอเขาไปทำงานซ่องเจ๊ก็ใจดีเปิดร้านให้เลยยิ่งรวยเข้าไปอีก
และเริ่มโตขึ้น เริ่มคลั่งรักคนอื่นได้ เขาเลือกไม่ทิ้งสองสาวแฝดเพื่อนสมัยเด็กที่ฝึกตามเขาและเชื่อเขาทุกอย่าง วีมนุษย์กึ่งแมวและวิวมนุษย์กึ่งแมงมุม
เขาก็ยังไม่หยุดหาคนรักเพิ่มไปเรื่อยๆ แต่เขาเป็นคนพอใจง่าย เขาพอใจกับฮาเร็มเล็กๆ
แต่เขาฝันไว้ว่าอยากอยู่วัง จนโชคดีได้มาเจอเจ้าหญิงต่างแดนที่เก่งกาจ วาโร และเคยชนะเขาแม้ฝึกแต่เด็กตั้งแต่เขาวัยฟิตสุด
พอตัวเจ้าหญิงสุดสวยชวนเขาไปวัง ชีวิตรักเศรษฐีในบ้านข้างวังกับฮาเร็มน้อยและห้างใหญ่เบิ้มเลยเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนนั้นมา
รายละเอียดซีรีย์
แนวซีรีย์ : แฟนตาซี, โรมานซ์, แอ็กชัน
ปกจะปกนักวาด เล่มไหนปกซ้ำจะอัพเดตภายหลังเมื่อขายได้แน่นอน แต่บอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่
เล่มละ 21 ตอน (1-21)
ความยาวตอนละ 11,000 ตัวอักษร+ (3000 คำ+)
ระยะเวลาอ่าน 15 นาที+
ราคาตอน: ช่วงแรกจะ 3-4 บาท มี 3 ver.
ver. 1 เต็ม 4 บาท (มีภาพเอไอประกอบ, อาจมีภาพนักวาด)
ver. 2 เล็ก 3.5 บาท (มีภาพเอไอประกอบ, ลดขนาดภาพในตอนครึ่งหนึ่ง, ใน Dek-D)
ver. 3 สะอาด 3 บาท (มีแต่ตัวอักษร, มีภาพนักวาดประกอบ, ใน Pinto)
เนื้อเรื่องแต่ละเล่มจะเรียงลำดับเวลา แต่ช่วงชีวิตจะพูดถึงเรื่องที่ไม่เหมือนกัน เลือกอ่านได้ตามสะดวก
จะมีการอัพเดตเรื่อยๆ แต่เนื้อเรื่องตอนและภาพถ้าไม่จำเป็นต้องลบจริงๆจะไม่เปลี่ยน
ซีรีย์นี้ทั้งหมดเรต ฉ.20 แต่บางเล่มจะเรต PG-13
ไม่มีเรื่องผิดศีลธรรม
พระเอกและผู้ชายทั้งหมดไม่สนคนอายุยังไม่ถึง 18
https://www.facebook.com/profile.php?id=100087843892571&mibextid=LQQJ4d
bluesky
https://bsky.app/profile/wayuwayutl.bsky.social
101 ลูก
วารีเดินอยู่ในฮาโมนี่ดูร้านค้าของตัวเองและตรวจความเรียบร้อย
ปลายเดือน 6 วารีอายุ 23 ปี
มุมมองบุคคลที่สาม
ต้นเดือนหกไม่ได้มีอะไรมากและส่วนใหญ่เป็นแค่งานของชำร่วยหรือเครื่องเล่นแปลกๆเท่านั้น
วารีเดินไปเรื่อยเปื่อยและแค่ดูผลงานตัวเองที่ช่วยกันสร้างมากับเหล่าลูกน้องหัวหน้าแผนกและพนักงาน
วารีเดินเข้าร้านเครื่องประดับทองและเพชรพลอยของเรฟเนส
เมื่อเข้ามาวารีเจอเฟทกำลังคุยฉะฉานกับเรฟเนส
วารีมองทั่วร้านดูเครื่องประดับที่แขวนที่กำแพง
จากนั้นเขามองไปในตู้กระจกแล้วนึกถึงตอนที่มาเลือกกันกับเหล่าคู่หมั้นชุด 2
วารีเดินไปอยู่ข้างลูกเลี้ยงตัวเอง
“สวัสดีค่ะพ่อ” เฟทยกมือไหว้พ่อตัวเอง
“อุ้ย พ่อใหญ่มา สวัสดีค่ะพ่อใหญ่” เรฟเนสเล่นตลกและไหว้ย่อใส่วารีซะอย่างนั้น
“อย่าเล่นแบบนี้สิ เดี๋ยวคนก็นินทาแปลกๆอีก” วารีบอกกับเมียตัวเอง
“มีคนนินทาอยู่แล้วไม่ว่าทำหรือไม่ทำ อย่าไปสนเรื่องนั้นเลยน่า วารี” เรฟเนสพองแก้มข้างหนึ่งเพราะวารีไม่เล่นด้วยและพูดเหมือนเธอเล่นไม่ดูเวล่ำเวลา
“ว่าแต่ลูกมาทำอะไร? เฟท” วารีมองบนตู้กระจกด้านหน้าเฟท
เขาเห็นพิมพ์แว็กซ์ และจี้รูปปั้นที่ตั้งได้สีทองขนาดประมาน 1 นิ้วอยู่ในกรอบพลาสติกมีทองหุ้มและฝังเพชรรอบจี้
“หนูจะทำจี้ท่านนั้นรอบสอง ทำแบบหรูหราให้พ่อแม่ได้ใส่นอกเสื้อแบบไม่ต้องอาย พ่อลองดูงานที่หนูทำสิ” เฟทยิ้มชูมือไว้ด้านหน้าเหมือนให้กำลังใจตัวเองและดูมั่นใจกับผลงานตัวเอง
เมื่อวารีมองงาน เขาเห็นได้แต่ความปราณีตและงานหล่อที่ไร้ที่ติ “สวยดีนะลูก กว่าจะได้แต่ละองค์มันนานมั้ย?”
“แกะแม่พิมพ์มันก็นานอยู่นะ แต่แกะทีเดียวใช้ได้หลายครั้งมันก็คุ้มอยู่ หนูว่าจะเอาไว้ขายที่ร้านแม่เรฟเนสด้วย” เฟทยิ้มและเอากล้องมาตีดูเพชรด้านข้างกรอบจี้เทพกระต่ายที่ออกท่าทางเท่ๆ
วารีเห็นเรฟเนสทำหน้าไม่ค่อยพอใจ
จากนั้นเรฟเนสวางจี้เก็บกล้อง “แม่อ่ะ หนูบอกให้ใช้เพชรที่เนื้อไม่เกลี้ยงและมีตำหนิเล็กหนึ่งจุด ราคามันจะได้ถูกจนหนูซื้อได้ แม่เล่นใส่เพชรไร้ตำหนิมาแบบนี้หนูจะจ่ายค่างานยังไง เพราะหนูต้องทำหลายองค์”
“เอาน่า แม่ออกค่าส่วนต่างให้ แม่จะคิดเงินเท่าเพชรมีตำหนิเล็กๆ มันเป็นงานฝีมือของลูก แม่ไม่จัดการให้มันเต็มที่ไม่ได้หรอก เห็นใจแม่ด้วย” เรฟเนสยิ้มๆแล้วลูบหัวเฟท
“พ่อออกค่าทุนให้หมดเลยก็ได้ พ่อขอกำไร 3 เปอร์เซ็นต์พอ เอามั้ย?” วารีทำทรงป๋าจะออกเงินค่าทุนให้ลูกทั้งหมด
“3 เปอร์เซ็นมันไม่พอได้อะไรหรอกค่ะพ่อ หนูให้แค่นั้นไม่ได้ ถ้าพ่อออกทุนค่าทองค่าเพชรแพงๆ หนูต้องให้ส่วนแบ่งกำไรซัก 20 เปอร์เซ็นต์” เฟทพูดเป็นการเป็นงานและดูมั่นใจมาก
“ลูกไม่ยอมให้พ่อได้เอาใจเลยนะ อ่ะพ่อเก็บส่วนแบ่งกำไร 10 เปอร์เซ็นต์แล้วกัน” วารียอมลูก แต่ยังเก็บเงินเต็มๆแบบที่ลูกขอไม่ได้
“ถ้าอย่างนั้นร้านเราออกค่าแรง ค่าประสานงาน ค่าเศษทองที่หลุดระหว่างพิมพ์กับอะไรพวกนั้นให้ทั้งหมด แล้วร้านแม่ขอ 5 เปอร์เซ็นต์ของส่วนแบ่งกำไรแล้วกัน ดีมั้ยลูก?” เรฟเนสเสนอให้ลูกตัวเอง
“พ่อกับแม่อ่ะ หนูพยายามหาเรื่องให้ตัวลำบากเพื่อจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็ง แต่พ่อกับแม่ทำให้งานหนูง่ายขึ้นอย่างนี้ หนูจะแข็งพอสำหรับอนาคตมั้ยเล่า” เรฟเนสพองแก้มน่ารักๆแล้วบ่นอุบ
“ชีวิตมันไม่ต้องลำบากตลอดหรอกลูกเอ้ย แล้วแค่การแกะพิมพ์และประสานงานมาเป็นจี้มันก็งานยากแค่ไหนแล้ว มองดูรอบๆสิลูก จะมีซักกี่คนที่อายุ 15 แล้วกล้าทำอย่างลูก แถมลูกเปิดให้คำปรึกษาเรื่องจิตใจสำหรับคนใจป่วยทางอินเตอร์เน็ตฟรีอีก ลูกงานเยอะพอแล้ว แค่นี้พ่อก็ภูมิใจสุดๆแล้ว” วารีบอกกับลูกตัวเอง
“พ่อรู้… ไม่ห้ามหนูเหรอ? หนูแค่เด็ก 15” เฟทมีปมกับอายุตัวเอง และเธออยากเป็นผู้ใหญ่เร็วๆ
“พ่อจะสนับสนุนลูกทุกอย่าง เฟท ไม่ว่าอะไร” วารียิ้มแล้วพูดบอกเฟทจากใจ จากนั้นเฟทหันไปหน้าประตูร้านแล้วทำตาโต
ไม่มีใครเดินเข้าร้านในตอนนั้นและเฟทยกมือไหว้ไปทางนั้น
วารีเห็นหวานนั่งกินขนมอยู่ม้านั่งแถวๆหน้าร้าน
เธอกำลังมองเพชรที่นิ้วแล้วแกว่งขากินมะม่วงเปรี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
“ว่าไงนะคะ อ๋อ… ได้ค่ะ หนูจะให้พ่อรีบเตรียมตัวนะคะ” เฟทพูดกับความว่างเปล่าด้านหน้าเธอ
จากนั้นเฟทคำนับไปด้านหน้า
ประตูหน้าร้านแง้มแล้วปิดเองอย่างมหัศจรรย์
วารีรู้ว่ามันเป็นเรื่องของอีกโลกเลยไม่ได้ตกใจอะไร
แต่เรฟเนสทำได้แค่มองตาโตจับต้นชนปลายไม่ถูก
“พ่อ! มากับหนู!” เฟทรีบจับมือพ่อแล้ววิ่งออกนอกร้าน
วารีสับสนแต่ยอมให้เฟทลากไปโดยไม่ได้บ่นอะไร
เฟทวิ่งไปที่ร้านคอนเสิร์ตของวี
วีกำลังนั่งลูบท้องร้องเพลงอะคูสติก
วารีเห็นวิวตัวสูงเด่นอยู่ด้านหน้าเลยจูงลูกเดินไปหาเธอ
เฟทตามพ่อไปเพราะภารกิจเธอสำเร็จแล้ว เธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น รู้แต่ว่าต้องมาที่นี่
วีกำลังร้องเพลงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ไม่ว่ากี่ปีก็ตัดกันไม่ขาด
วารี, เฟท, และวิวฟังเพลงที่ดูมีเวทมนตร์ดึงดูดคนกันเงียบๆ
มันอยู่ช่วงท้ายของเพลงและมันจบด้วยความอลังการ
“เอาล่ะเพลงต่อไป อุ้ย… เอ๋ อะไรอ่ะ” มีน้ำไหลเจิ่งออกมาราดเก้าอี้ที่เธอนั่ง
ทีมงานรีบเอาผ้าขนหนูออกมาปิดช่วงล่างของวี
วารี, เฟท, และวิวกระโดดขึ้นเวทีอย่างรวดเร็ว
“วิวนิ่งๆ! เธอท้องช่วงท้ายแล้ว!” วารีมองวิวค้อนๆแล้วสั่งวิว
“อย่าดุแบบนั้นสิ อุ้ย… วารี มาแล้วเหมือนกันอ่ะ” วิวมีน้ำออกมาจากช่วงล่าง
ทีมงานรีบเอาผ้าขนหนูมาปิดอย่างรวดเร็วเหมือนกัน
“เฟท! อุ้มแม่วีเดินไหวมั้ย?” วารีหยิบมือถือ
“ไหวค่ะพ่อ!” ตาเฟทแทบลุกเป็นไฟ
วารีกดเบอร์คิเซกิและเขารับเพราะช่วงนี้เป็นช่วงใกล้คลอดและสองหมอตื่นตัวมาก
“คิเซกิ วีกับวิวน้ำคร่ำแตก เตรียมตัว!” จากนั้นวารีตัดสายแล้วอุ้มวิวเหมือนเจ้าหญิงเพราะเขาแข็งแรง
เฟทอุ้มท่าเจ้าหญิงบ้างแล้ววางวีงงๆ จากนั้นยองลงให้วีขึ้นหลัง “ขึ้นมาเลยแม่ อุ้มแบบนั้นเดี๋ยวหนูวิ่งไม่ทันพ่อ
“ลูกแม่ แม่จะเชื่อลูกนะ” วียอมขึ้นหลังเฟท
วารีและเฟทอุ้มวีกับวิววิ่งออกฮาโมนี่ด้านหน้า
สองคนวางสองท้องบนโดรนแล้ววารีบินอย่างเร่งรีบไปบ้าน
เฟทหอบไม่หยุดเพราะวีกล้ามเนื้อเยอะและหนักไม่ใช่เล่นเหมือนกัน
วีรับรู้ได้ว่าเฟทขาสั่นช่วงหลังๆเพราะสัญชาตญาณของเชื้อแมว แม้เจ็บท้องมาก เธอยังเค้นคำพูดออกมา “เฟท ลูกไม่ต้องอุ้มแม่แล้ว ลูกไม่ไหวแล้ว”
วารีหันไปมองสภาพเฟทแม้ต้องอันตรายนิดหน่อยที่ไม่ได้ดูด้านหน้า
วารีตกใจที่ลูกเฟททำหน้าโกรธทั้งๆที่ตลอดเวลาที่อยู่กันมาไม่เคยเห็นเธอโกรธซักครั้ง
วารีรีบหันกลับไปมองด้านหน้าด้วยใจที่สับสน
“แม่! อย่ามาทำกับหนูอย่างนี้นะ! นี่คือโอกาสครั้งเดียวที่หนูจะได้ทำเต็มที่เพื่อแม่ แม่อย่าเอาโอกาสตอบแทนพระคุณครั้งเดียวในชีวิตของหนูไปนะ!” เฟทพูดดังลั่นน้ำตานองหน้าทั้งๆที่โกรธ
“เฟท…” วีพูดอะไรไม่ออก
วีหายใจเข้าลึกๆ ปัดเป่าความสับสน และหันกลับมามองลูกตัวเองดีๆ
“ลูกจะอุ้มสองชีวิต แม่จะฝากทั้งสองไว้กับลูก ลูกไหวนะ เฟทลูกแม่” วีไม่เคยมองตัวเองว่าสัมพันธ์ใกล้กับเฟทขนาดนี้มาก่อน
วีเป็นแมวรักสันโดษ เธอรักเฟท วารีรู้ข้อนั้น แต่เธอไม่เคยทำตัวเป็นแม่ของเฟทเลยซักครั้ง
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกเฟทว่าลูกจากใจ และเธอจะฝากชีวิตไว้กับลูกเลี้ยงคนนี้ ทั้งชีวิตเธอ และลูกของเธอ
วารีลงจอดอย่างรีบแต่ยังนิ่มเหมือนปุยฝ้ายตกพื้น จากนั้นเปิดกระจกกลับหลังไปอุ้มวิวแล้วกระโดดออกจากโดรน
วีรู้ว่าถ้าเฟทต้องอุ้มเธอเดินข้ามประตูโดรนที่ทำมาสูงมันอาจทำให้ต้นขาของเฟทหมดแรง
“ให้แม่ไปที่ประตูเอง ฟังแม่!” วีลงเดิน เจ็บท้อง ล้มไปคลานสี่ขาปีนทางขึ้นประตู
วีรอที่ขอบประตูซึ่งข้างล่างเป็นพื้นต่างระดับแค่เตี้ยๆเอง
ถ้าลงตอนนี้มันจะมีแรงกระแทกและจะอันตราย
“เฟทลงไปรับแม่ รับให้ได้ ถ่ายน้ำหนักตอนกระแทกให้เป็น” วีสั่งลูกตัวเอง
เฟททำหน้าฮึดสู้กระโดดลงและเล็งหลังให้แม่ลงไปพอดี
วีปล่อยตัวลงเนินที่เตี้ยเท่าเอวแค่นั้น
เมื่อเฟทรับเธอรีบย่อตัวลดแรงกระแทกอย่างรวดเร็ว “ย้ากกกกก!”
เฟทยืนขึ้นช้าแต่ยังขึ้นมาได้ และเธอวิ่งตามหลังพ่อที่วิ่งเข้าบ้านไปแล้ว
วารีไว้ใจเฟทมากขนาดนั้นโดยไม่ย้อนกลับมาเป็นห่วงเธอและไปให้ถึงห้องหมออย่างเดียว
เฟทวิ่ง
ภาพที่เฟทเห็นเริ่มมีหมอกลง ภาพที่เห็นเริ่มเล็กลง
มีเลือดออกจมูกเธอ
แต่เธอไม่หยุด
เธอมาได้ครึ่งทางแล้ว
อีกนิดเดียว
เธอวิ่งเร็วมาก
ในที่สุดก็ถึงประตูห้องหมอ พ่อเธอเข้าไปแล้ว
เฟทวางแม่วีลงแล้วโอบไหล่พยุงให้แม่เดินเอง
วียังพอไหว
เฟทเปิดประตูเข้าไปเห็นสองหมอกำลังดูแลแม่วิวอยู่
“แม่วีมาแล้วค่ะ ช่วยหนูด้วย หนู… ไม่… ไหว” เฟทเอนไปด้านหน้า แม่วีรับรู้ได้ว่าเธอสลบจึงรีบตั้งหลักไม่ให้ตัวล้มไปด้วย
แม่วีกำหลังเสื้อเฟทแล้วดึงไว้สุดชีวิตมันเลยทำให้เฟทล้มช้า
มหัศศรีวิ่งเข้ามาสไลด์เข่ารองรับเฟทก่อนถึงพื้นจากนั้นเขาให้เฟทนอนราบไปก่อน
จากนั้นมหัศศรีอุ้มวี วีรู้สึกปั่นป่วนและกลัวทั้งๆที่เธอไม่ค่อยได้กลัวอะไรในชีวิต “เขาจะออกมาได้มั้ย?”
“เขาจะออกเหมือนคนปรกตินั่นแหละ อย่าไปคิดอะไรเยอะ ถ้าเธอเครียดมดลูกมันเกร็งแล้วยิ่งออกยาก ฟังแต่คำหมอที่มีวิชาแล้วไม่ต้องคิดอะไรเกินเลย มันจะไม่ช่วยเธอตอนนี้” มหัศศรีมองหน้าวีอย่างมุ่งมั่น
“อื้ม!” วียิ้มให้เพื่อนหมอที่เธอไว้ใจ
จากนั้นวีได้นอนบนเตียงแล้ว เธอบังคับตัวเองให้รู้สึกผ่อนคลายเธอหายใจเข้าสุดลึกแล้วปล่อยลมออกมา “ฟู่ว”
วิวที่ปลอดภัยมาตลอดทางเพราะวารีแข็งแรงกลับเป็นคนที่สับสนเพราะเป็นคนตัวใหญ่ที่ไม่เคยอ่อนแอต้องมาโดนอุ้มแบบนี้ตลอดมา “พี่วี หนูจะเป็นอะไรมั้ย?”
หลังวิวได้ยินเสียงร้องขอกำลังใจของน้องแฝด เธอรีบแผดเสียง “อย่าคิดเยอะ! เตรียมพร้อม! หายใจเหมือนพร้อมสู้! มันจะดีกับตัวเธอ ผ่อนคลาย แล้วคิดถึงหน้าที่ของเราที่ต้องทำ!”
วิวเชื่อพี่สาว สูดหายใจลึกๆแล้วปล่อยมันออกมา “ฟู่ว”
เธอผ่อนคลายแล้วนิดหน่อย แต่เธอชอบคิดร้ายกับตัวเองเพราะมีร่างล่างเป็นแมงมุมที่คนเดินหลีกมาตลอดชีวิต แม้ตอนนี้จะเป็นขาแท้ๆแล้ว แต่จิตสำนึกของเธอยังเป็นครึ่งแมงมุมอยู่
ทีมหมอผู้ช่วยเหลือเข้ามาทีละคนสองคนจนสุดท้ายมีหมอหนุ่มๆสาวๆเหมือนหมอฝึกงานเกือบสิบคน
หมอผลัดกันหยิบของจนได้ที่วางขาเตรียมคลอด ผ้าสะอาด มีดผ่าตัด และอื่นๆ
หมอฝึกงานให้ออกซิเจนกับวีและวิวแล้วหน้าตาเธอดูดีขึ้น วารีได้แต่สับสน ตอนแรกเขาเดินไปมาทั้งเตียงวีและวิว แต่พอเริ่มรู้ว่าเกะกะหมอจริงๆเลยออกมายืนตรงมุมและจ้องเขม็ง
หมอบางคนเริ่มกลัวการจ้องเพราะมันจริงจังที่สุดเท่าที่คนคนหนึ่งจะจ้องได้
“เฮ้ยคิเซกิเสร็จยัง” มหัศศรีถามเพื่อน
“พร้อมเว้ย เอาเลย” คิเซกิชูนิ้วโป้งให้เพื่อน
““3 4 เบ่ง!!!”” สองหมอตะโกนพร้อมกันให้การเริ่มคลอดลูกดูมีไฟเหมือนศึกใหญ่
““ย้ากกกกก!!!”” วีและวิวเบ่งลูกสุดกำลัง
เฟทตื่นด้วยเสียงแม่ทั้งสองและเห็นสิ่งหนึ่งอยู่ข้างเตียงแม่ของตัวเอง กางแขนแบมือส่งอะไรบางอย่างใส่ทั้งสองคน
เฟทเอามือมาประสานกันข้างหน้าและภาวนาสุดกำลังให้พลังตัวเอง ทั้งแรงกาย แรงใจ ดวง ไปให้ถึงตัวตนนั้นที่อยู่ตรงกลาง “ขอให้แม่ๆหนูปลอดภัยนะคะ หนูขอร้อง”
เฟทอ้อนวอนตัวตนตรงนั้น น้ำตานองหน้าไปเปื้อนรวมกับเลือดกำเดาที่ปาดขึ้นหน้าเพราะล้มแก้มถูพื้น
“ครึ่งตัว นายอ่ะ คิเซกิ” มหัศศรีมองเด็กที่ออกมาแบบไม่ปล่อยมือจากลูกของวารี
“เหมือนกัน ต่อเลย” คิเซกิทำเหมือนเพื่อนและพร้อมลุยต่อ
““3 4 เบ่ง!!!”” สองหมอเรียกแรงเบ่งต่อหลังจากครั้งแรก
“ออกแล้ว!!! มึงอ่ะเพื่อน!?” มหัศศรีถามคิเซกิ
ลูกของวียังเงียบอยู่
“รกพันขา อ่ะตัดแล้ว เบ่งอีกทีเต็มที่เลยวิว!!!” คิเซกิที่ทำคลอดวิวบอกกับเธอ
“ย้ากกกกก!!!” วิวเบ่งสุดแรง
“ออกแล้ว!!! จงฟัง!!!” คิเซกิตีก้นลูกวิวเบาๆ
“อะแว้ อะแว้ อะแว้” ลูกวิวร้องอย่างจริงจังสุดดัง
“ฟังนี่นะ วี เสียงของลูกเธอ” มหัศศรีตีก้นลูกวีบ้าง
“อะแว้ ฟ่อ!!! อะแว้” ลูกวีร้องและมีขู่แบบวีได้ด้วย
วารีได้แต่ร้องไห้และดีใจ ลูกสองคนมีขาปรกติ
“ครบมั้ยหมอ?” วีหอบและถามหมอ
“กำลังดู… ครบ! ลูกชาย ยินดีด้วยวี เขามีหูแมวดำ อ่ะน้องเอาน้ำมาเดี๋ยวพี่ทำความสะอาดเด็กเอง” มหัศศรีบอกหมอฝึกงานที่บางคนหูอื้อจากเสียงวีกับวิว
“ฉันก็ครบ! ลูกสาวนะวิว ยินดีด้วย แต่หน้าผากมีเส้นแปลกๆอยู่หกเส้น กำลังตรวจ สักครู่…” คิเซกิเห็นบางอย่างแปลกๆกับลูกของวิวที่หน้าผาก
“ลูกฉันเป็นอะไร? หมอ!” วิวตื่นตัวน้ำตาแตก
คิเซกิลองแหวกเส้นเล็กๆดูว่าคืออะไร และเห็นได้แต่ลูกกลมๆสีดำที่เหมือนตาแมงมุมในร่างล่างของวิว “เส้นบางๆแทบมองไม่เห็นที่หน้าผากน่าจะเป็นตาแบบแมงมุม ลูกเธอมีเชื้อแมงมุมเยอะพอดูนะวิว”
“ฟู่ว ขอแค่เธอครบฉันก็ดีใจแล้ว ขอบคุณนะ คิเซกิ” วิวบอกเพื่อนหมอของเธอ
“เอาน้ำมาเด็กๆ ขออาบน้ำให้ลูกเพื่อนหน่อย” คิเซกิบอกหมอหนุ่มสาว
“กดปุ่มให้หัวเตียงขึ้นให้คนไข้ได้เห็นเร็วเข้าเด็กๆ ไวหน่อยๆ” มหัศศรีสั่งหมอสาวที่ยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่สองคน
สองสาววิ่งไปกดปุ่มให้ตัววีและวิวได้ยกขึ้นมาเป็นกึ่งนั่ง
“อ่ะเสร็จแล้ว! ห่อก่อนนะวิว อ่ะ… ได้ละ” คิเซกิห่อเด็กอย่างรวดเร็ว
“ทางนี้ก็เหมือนกัน” มหัศศรีก็ห่อเด็กเสร็จแล้ว
““อ่ะ ลูกเธอ”” สองหมอยื่นเด็กให้แม่เด็กพร้อมกัน
วีอุ้มแบบกลัวลูกเจ็บ เก้ๆกังๆไม่กล้าจับ
วิวกล้าอุ้มแต่เมื่อได้อุ้มแล้วทำอะไรไม่ถูก “ฉันต้องทำยังไงต่ออ่ะ?”
“ให้อาหารสิ เธอทำได้ วิว” คิเซกิยิ้มมุมปากแล้วบอกวิว
วิวรีบเอาหัวนมจ่อปากเด็ก
ด้วยสัญชาตญาณเด็กอ่อน น้องก็งับและดูดทันที
วีมองวิวและทำแบบนั้นบ้างแต่หน้าอกเธอแบน “ขอโทษนะลูก แม่ไม่ค่อยมี…”
“เด็กไม่ห่วงหรอกน่า… อย่าคิดมาก เด็กรับรู้ได้นะ ระวังด้วย” คิเซกิเตือนเพื่อนแมวที่ตอนนี้ดูบอบบางอย่างมาก
“แต่เบ่งสองสามทีลูกพุ่งออกมา พวกเธอนี่แข็งแรงเป็นบ้าไปเลยนะเนี่ย” คิเซกิชมพลังของเพื่อน
ลูกวิวลืมตาเป็นครั้งแรก ตอนแรกมันมีสองดวง จากนั้นตาบนหน้าผากทั้งหกดวงเปิดเพื่อมองแม่ของเธอ
“สวัดดีจ้ะ แม่เอง ฝากตัวด้วยนะ สาวน้อย” วิวที่มนุษยสัมพันธ์ดีพูดกับลูกตัวเองก่อน
ลูกวิวมองแม่ตัวเองไม่มองอย่างอื่นเลย
วีมองลูกตัวเองแล้วเกาหลังหูแมวของลูกเบาๆ มันทำให้หูหันและกระดิกตามสัญชาตญาณ แล้วลูกเธอก็ลืมตาขึ้่น
ลูกเธอตาสีเหลือง มันทำให้วีพูด “เอาเชื้อแม่มาทำไมเยอะแยะลูกเอ้ย น่าจะเอาเชื้อพ่อ จะได้ฉลาดๆ”
“แบบนั้นไม่ดีนะ เธอไม่ได้โง่และเธอเป็นบุคคลมหัศจรรย์ที่มีค่า สำหรับฉัน… ที่สุดในชีวิต” วารีเดินมาดูลูกตัวเอง แต่ไม่ขออุ้มเพราะลูกกินอยู่
แต่ลูกสองคนหันมามองพ่อตัวเอง
วารีอยู่กลางระหว่างสองเตียง
เฟทยังภาวนาไม่หยุด
“อุ้มสิ” วิวยื่นเด็กให้วารี
วารีอุ้มลูกสาว เธอผิวขาว มีตาแมงมุม ผมออกขาว “ให้ลูกกินนมดีกว่า”
“อ่ะ ของฉันบ้าง อุ้มน้องน้ำเร็วเข้า” วียื่นเด็กที่ปรากฏว่าชื่อน้องน้ำโดยไม่ได้ตกลงกับวารีมาก่อนให้วารี
วารีอุ้มลูกชายผิวขาว ผมดำ ตาสีเหลือง
“น้ำลูกพ่อ… ลูกคนแรกของพ่อ” วารียิ้มกริ่มหัวโล่งคิดอะไรไม่ออก เพราะภาพลูกทั้งสองคนมันเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของเขา
เฟทเลิกประสานมือ วารีมองเฟทพยายามยืน คืนลูกให้วี เฟทยืนขึ้น และอยู่ดีๆหัวเธอฟูเหมือนถูกคนลูบอย่างแรงทำให้ผมเธอยุ่ง
“มีอะไรอยู่ในนี้เหรอลูก?” วารีถามลูกไม่แท้ ที่เขาคิดว่าเธอแท้และมหัศจรรย์ที่ได้เลี้ยงมา
เฟทพยักหน้า เดินกระเผลกไปหาลูกวารี
“โอ้ย เช็ดหน้าเช็ดตาก่อนลูกเอ้ย” คิเซกิเอาผ้าสะอาดจุ่มน้ำวิ่งมาเช็ดหน้าเฟท
“ขอบคุณค่ะ” เฟทยกมือไหว้พ่อหมอ
“โทษทีพ่อดูลูกไม่ทัน เมื่อกี้” มหัศศรีรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรค่ะ” เฟทยิ้มให้แม้ตาแดง แถมขี้มูกย้อยออกมาอีกแล้วทั้งๆที่เพิ่งเช็ด
เฟทไปยืนมองลูกแม่วี นั่นเป็นลูกคนแรกของแท้ และเธอเป็นลูกเลี้ยงคนแรก
มันทำให้เธอรู้สึกสับสนในจิตใจ
แต่มีมือสองมือที่ทำให้ภาพที่เห็นกว้างชัดเหมือนเดิมมาจับไหล่
เธอรู้ว่าแม่วิวและพ่อเธอให้กำลังใจเธอเงียบๆ
เฟทหลับตา และยิ้มมองเด็กได้อีกครั้ง
“พร้อมเป็นพี่มั้ยลูก…” วารีถามอย่างเป็นห่วง
“อย่ากังวลค่ะพ่อ หนูพร้อม” เฟทชูกำปั้นไว้ด้านหน้าโชว์ท่าว่าตัวเองมีไฟแต่หน้าตาโทรมเพิ่งร้องไห้หนัก
“อุ้มมั้ย? เฟท” วีถามเฟท
“อุ้มค่ะ” เฟทมุ่งมั่นแม้ขาสั่นๆ แต่เด็กคนเดียวเธออุ้มไหว
“น้ำหลับไปแล้ว สงสัยนมแม่วีอร่อยแน่เลย” เฟทพูดเล่นเพราะอารมณ์ดีสุดๆที่ได้เห็นน้องชายตัวเองขึ้นมา
มันทำให้วารีเกาหัวเพราะคนรักเซ็กส์อย่างเขาอยากชิมขึ้นมา
เฟทคืนลูกให้วี วีหลับอุ้มลูกหลับตา และหลับไปทันที มหัศศรีมาอุ้มลูกวีออกไป มีการยื้อเกิดขึ้นแม้วีหลับแล้ว “ฉันจะเอาไปอบก่อน จะได้แข็งแรง”
เมื่อมหัศศรีพูดเสร็จมือก็ปล่อยและวีหันไปนอนตะแคง
ทุกอย่างที่เพิ่งเห็นเป็นสัญชาตญาณแมวล้วนๆ
“อุ้มมั้ย? เฟท” คราวนี้วิวพูดบ้าง
“แน่นอนค่ะ อุ้ย หนักนะเนี่ยเราอ่ะ ตาก็น่ารักกลมแบ้วดำๆใสๆ ขอหอมทีซิน้องเอ้ย” เฟทพูดไปยิ้มไปแล้วหอมแก้มลูกของวิว
“พ่อยังไม่รู้เลยว่าเธอจะชื่ออะไร” วารีคิดชื่อไม่ค่อยเก่งแถมมัวแต่คิดเรื่องงานเลยไม่ได้ตั้งชื่อลูกไว้เลยซักคน
“เธอจะชื่ออาย เหมือนตาเธอที่มีเยอะ น่ารักมั้ย?” วิวถามผัว
วารียิ้มแป้นและมองหน้าวิว “อื้ม!”
เฟทคืนอาย เมื่อวิวเห็นว่าอายหลับ เธอก็หลับตาบ้าง
คิเซกิมมาอุ้มอายออกไปอบ
“พ่อล่ะ ไหวมั้ย? ต้องมีอีกเป็นสิบนะ สองคนยังเต็มมือเลย” เฟทแซวพ่อตัวเอง
“ถ้าลูกช่วย พ่อไหวแน่ แล้วหนูล่ะ พี่คนโต พร้อมดูน้องมั้ย?” วารียิ้มแป้นมีความสุขและถามลูกเลี้ยงตัวเองบ้าง
“แน่นอนค่ะพ่อ!” เฟทยิ้มสวยที่สุดตั้งแต่ที่ดูแลกันมาให้พ่อเห็น
วารีดีใจที่สุดในชีวิต ทั้งสองชีวิต และเขารักต่างโลกมากขึ้น มากขึ้น ตลอดไป