ถ้าโลกนี้มีเส้นแบ่งระหว่างความดีและความชั่ว ตอนนี้ขาของผมก็ข้ามเส้นมาก้าวหนึ่งแล้ว — อ่า... เผลอทำผิดศีลข้อ 1 ซะแล้วสิ
สืบสวนสอบสวน,ลึกลับ,พารานอมอล,ชาย-ชาย,ระทึกขวัญ,นิยายวาย,ไสยศาสตร์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Dangerous Sense สัมผัสอันตราย (In Danger Spin Off)ถ้าโลกนี้มีเส้นแบ่งระหว่างความดีและความชั่ว ตอนนี้ขาของผมก็ข้ามเส้นมาก้าวหนึ่งแล้ว — อ่า... เผลอทำผิดศีลข้อ 1 ซะแล้วสิ
Content Warning
Blood เลือด, Corpse ศพ, Dead Body ศพ, Gore เลือดและอวัยวะภายใน, Ghost วิญญาณ, Murder การฆาตกรรม, Paranormal อธิบายไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์, PTSD ปัญหาทางจิตหลังจากเหตุการ์สะเทือนขวัญ, Supernatural เหนือธรรมชาติ, Violence การใช้ความรุนแรง
Genre: Horror/Suspense/Mystery/Crime/Boy Love
แนะนำเรื่อง:
หลังจากที่ทีมของเธียรไธเข้าบุกล้อมแก๊งค้าอวัยวะที่โรงงานร้าง คนร้ายทุกคนถูกจับและส่งตัวไปเข้ากระบวนการพิจารณาโทษ แม้จะปิดคดีได้แล้ว แต่ตัวเขารู้ดีว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ สัมผัสพิเศษบอกเขาว่าตัวการที่ถูกเขาวิสามัญไปไม่ใช่หัวหน้าตัวจริง มีใครบางคนกำลังมองดูเขาอยู่ และความรู้สึกแปลกประหลาดที่คืบคลานเข้ามาก็ยิ่งทำให้เขารับรู้ได้ถึง 'อันตราย' ที่กำลังจะเกิดขึ้น
เรื่องนี้เป็น Spin Off จากเรื่อง In Danger สัมผัสมรณะค่ะ (เรื่องหลักเป็นนิยายวายนะคะ) เนื้อหาตอนต้นจะมีการรีแคปเหตุการณ์ก่อนหน้าให้นิดหน่อย แต่เพื่อให้ได้อรรถรสและซึมซับบรรยากาศ อลิซแนะนำให้อ่านเรื่อง In Danger สัมผัสมรณะ ด้วยนะคะ ^^
ซ่า! ซ่า!
เสียงของเม็ดฝนตกลงมาจากกลุ่มก้อนท้องฟ้าสีทะมึน หยดน้ำนับไม่ถ้วนตกกระทบพื้นจนเกิดเสียงดัง ห่าฝนที่กระหน่ำลงมาตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ
ภายใต้ผืนฟ้าสีเทาที่ผมกำลังตากฝนอันหนาวเย็นนี้ มีคนที่ผมอยากระเบิดหัวกำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้า
“มึงเป็นใครวะ?!” เสียงร้องแหบพร่าจากชายที่ร่างกายชุ่มโชกไปด้วยเลือด เนื้อตัวของเขาเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำจากการโดนซ้อม สายฝนที่ตกลงมาไม่หยุดชะล้างคราบเลือดออกจากใบหน้าชายผู้นั้น
“มึงไม่ใช่คนที่ชื่อไกรศร มึงเป็นตัวตายตัวแทนของมันหรือไง” ผมถามมัน ในมือของผมถือปืนสั้นลงอาคมและกำลังจ่อปลายกระบอกไปที่หน้าผากของคนผู้นั้น
สายฟ้าฟาดผ่านท้องฟ้าสีครึ้มส่องแสงแสบตา ประจุไฟฟ้าที่วิ่งผ่านสายฝนส่งเสียงคำรามน่าเกรงขาม
เปรี้ยง!
ชายคนนั้นยกยิ้มหัวเราะเยาะ ใบหน้าของมันเป็นคนเดียวกับหุ่นพยนต์ที่ผมเคยเจอในโรงงานร้าง มันคือตัวการของคดีค้าอวัยวะที่ทีมของผมเพิ่งเข้าจับกุม แต่ว่าสัมผัสพิเศษในตัวของผมกลับบอกว่ามันยังไม่ใช่ตัวการใหญ่ของเรื่องนี้
เซนส์ในร่างกายต่างพากันตะโกนบอกผมว่าชายคนนี้ไม่ใช่ตัวหัวหน้า ยังมีอีกคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด
“หัวหน้าแกอยู่ที่ไหน?” ผมวางปลายกระบอกปืนลงแนบติดกับหน้าผากของมัน
“ฉันนี่แหละ หัวหน้า” มันแสยะยิ้มยียวน
“มันใช้อาคมอะไร?”
“หึหึ คนมีฝีมืออย่างนาย ทำไมไม่มาเข้ากับเราล่ะ” มันพยายามเค้นคำพูดออกมาแม้จะแทบไม่มีแรงเหลือ ใบหน้าฟกช้ำเพราะถูกทรมานฉีกยิ้มราวกับกำลังเยาะเย้ยใส่ผม “แค่ไสยขาวมันจะไปทำอะไรได้”
“พวกไสยดำมันปากดีกันทุกตัวเลยหรือเปล่า” ผมดันกระบอกปืนกดลึกจนหน้าผากของมันเป็นรอย
“นายไม่มีทางเข้าถึงตัวท่านผู้นั้นได้”
ผมเลิกคิ้วขึ้น มีคนที่อยู่เบื้องหลังจริง ๆ ด้วย แต่ใบหน้าที่เอาแต่แย้มยิ้มอย่างกับคนบ้าแบบนี้ ดูท่ามันคงไม่กลัวตายเลยสินะ
“มีอะไรจะพูดอีกไหม” ผมถามพร้อมกับมองจ้องเข้าไปในดวงตาอันน่ารังเกียจของมัน
เม็ดฝนชะล้างเลือดเก่า กระนั้นแผลสดบนใบหน้าของมันก็ยังมีเลือดไหลออกมาเรื่อย ๆ มันเหลือบตาขึ้นมองผม สัมผัสพิเศษบอกผมว่ามีใครอีกคนหนึ่งกำลังมองดูผมผ่านสายตาคู่นี้อยู่
“น้องสาวนาย... ไม่สิ ทั้งตัวนายและตระกูลของนาย...”
จู่ ๆ ก็มีความรู้สึกน่าขนลุกแปลกประหลาดคืบคลานเข้ามา คล้ายสัมผัสเย็นเยียบน่าขนลุกกำลังแตะที่มือของผม ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่หากว่ามันคือสิ่งอันตรายที่กำลังเข้ามาโจมตี ผมต้องกำจัดมันเดี๋ยวนี้ก่อนที่มันจะเข้ามาใกล้จนเกินไป
ปัง!
ร่างของมันล้มพับลงกับพื้น กระสุนเจาะกะโหลกของมันทะลุเป็นรูสองฝั่ง เลือดสีแดงไหลออกมาพร้อมกับเนื้อสมองสีขาวขุ่น
ผมเก็บปืนแล้วมองดูศพของมัน ร่างของมันกระตุกสองสามครั้งก่อนจะแน่นิ่งไป โลกนี้มีคนชั่วอยู่เยอะเกินไปจริง ๆ
วันนี้ผมไม่เป็นตัวเองเอาเสียเลย ควบคุมตัวเองก็ไม่ได้ แล้วยังความรู้สึกน่าขนลุกนั่นอีก
ความรู้สึกที่ ‘อันตราย’ นั่นคืออะไรกันแน่?
ทว่านอกจากความรู้สึกสงสัยแล้วก็ยังมีอีกความรู้สึกหนึ่ง ผมยกมือขึ้นเสยผมที่เปียกฝนแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้า
“อ่า... เผลอทำผิดศีลข้อ 1 ซะแล้วสิ”