ถ้าโลกนี้มีเส้นแบ่งระหว่างความดีและความชั่ว ตอนนี้ขาของผมก็ข้ามเส้นมาก้าวหนึ่งแล้ว — อ่า... เผลอทำผิดศีลข้อ 1 ซะแล้วสิ

Dangerous Sense สัมผัสอันตราย (In Danger Spin Off) - Episode 1 โดย wandery @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

สืบสวนสอบสวน,ลึกลับ,พารานอมอล,ชาย-ชาย,ระทึกขวัญ,นิยายวาย,ไสยศาสตร์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Dangerous Sense สัมผัสอันตราย (In Danger Spin Off)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

สืบสวนสอบสวน,ลึกลับ,พารานอมอล,ชาย-ชาย,ระทึกขวัญ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายวาย,ไสยศาสตร์

รายละเอียด

Dangerous Sense สัมผัสอันตราย (In Danger Spin Off) โดย wandery @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ถ้าโลกนี้มีเส้นแบ่งระหว่างความดีและความชั่ว ตอนนี้ขาของผมก็ข้ามเส้นมาก้าวหนึ่งแล้ว — อ่า... เผลอทำผิดศีลข้อ 1 ซะแล้วสิ

ผู้แต่ง

wandery

เรื่องย่อ

Content Warning

 

Blood เลือด, Corpse ศพ, Dead Body ศพ, Gore เลือดและอวัยวะภายใน, Ghost วิญญาณ, Murder การฆาตกรรม, Paranormal อธิบายไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์, PTSD ปัญหาทางจิตหลังจากเหตุการ์สะเทือนขวัญ, Supernatural เหนือธรรมชาติ, Violence การใช้ความรุนแรง

 

Genre: Horror/Suspense/Mystery/Crime/Boy Love

แนะนำเรื่อง:

หลังจากที่ทีมของเธียรไธเข้าบุกล้อมแก๊งค้าอวัยวะที่โรงงานร้าง คนร้ายทุกคนถูกจับและส่งตัวไปเข้ากระบวนการพิจารณาโทษ แม้จะปิดคดีได้แล้ว แต่ตัวเขารู้ดีว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ สัมผัสพิเศษบอกเขาว่าตัวการที่ถูกเขาวิสามัญไปไม่ใช่หัวหน้าตัวจริง มีใครบางคนกำลังมองดูเขาอยู่ และความรู้สึกแปลกประหลาดที่คืบคลานเข้ามาก็ยิ่งทำให้เขารับรู้ได้ถึง 'อันตราย' ที่กำลังจะเกิดขึ้น

 

เรื่องนี้เป็น Spin Off จากเรื่อง In Danger สัมผัสมรณะค่ะ (เรื่องหลักเป็นนิยายวายนะคะ) เนื้อหาตอนต้นจะมีการรีแคปเหตุการณ์ก่อนหน้าให้นิดหน่อย แต่เพื่อให้ได้อรรถรสและซึมซับบรรยากาศ อลิซแนะนำให้อ่านเรื่อง In Danger สัมผัสมรณะ ด้วยนะคะ ^^ 

สารบัญ

Dangerous Sense สัมผัสอันตราย (In Danger Spin Off)-Episode 0,Dangerous Sense สัมผัสอันตราย (In Danger Spin Off)-Episode 1,Dangerous Sense สัมผัสอันตราย (In Danger Spin Off)-Episode 2,Dangerous Sense สัมผัสอันตราย (In Danger Spin Off)-Episode 3,Dangerous Sense สัมผัสอันตราย (In Danger Spin Off)-Episode 4,Dangerous Sense สัมผัสอันตราย (In Danger Spin Off)-Episode 5,Dangerous Sense สัมผัสอันตราย (In Danger Spin Off)-Episode 6,Dangerous Sense สัมผัสอันตราย (In Danger Spin Off)-Episode 7,Dangerous Sense สัมผัสอันตราย (In Danger Spin Off)-Episode 8,Dangerous Sense สัมผัสอันตราย (In Danger Spin Off)-Episode 9,Dangerous Sense สัมผัสอันตราย (In Danger Spin Off)-Episode 10 [END],Dangerous Sense สัมผัสอันตราย (In Danger Spin Off)-Extra Episode

เนื้อหา

Episode 1

ปัง!

เสียงของลูกปืนที่เจาะผ่านกะโหลกของไอ้เวรนั่นยังคงกึกก้องอยู่ในหัวของผม เสียงลูกตะกั่วที่ถูกจุดชนวนจากรังเพลิงสะเทือนหูดังสนั่นจนปลุกให้ผมสะดุ้งตื่นจากฝัน แม้เปลือกตาจะเปิดขึ้นมารับความจริงแล้ว แต่ภาพใบหน้าของคนที่ถูกผมยิงก็ยังคงติดตาอยู่

ในดวงตาโสโครกของมันมีใครบางคนกำลังมองดูผม และผมต้องตามหาตัวมันให้เจอ ฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนผมมาตลอดหลายคืนนี้จะได้จบลงสักที

“พี่เธียร ภูไปเรียนแล้วนะครับ” หนึ่งในนักศึกษาที่เกือบตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้าอวัยวะกำลังจัดแต่งทรงผมของตัวเองอยู่ตรงหน้ากระจก

หลังจากที่ทลายโรงงานซึ่งเป็นแหล่งกบดานของพวกมันและช่วยเหลือเหยื่อได้ คดีที่ยืดเยื้อมานานก็ได้เวลาปิดสักที

เด็กคนนี้เป็นหนึ่งในเหยื่อของพวกมัน แม้เหตุการณ์สะเทือนขวัญจะจบลง ทว่าสภาพจิตใจของน้องก็ยังฟื้นฟูไม่เต็มร้อย ถึงภายนอกจะดูเป็นคนร่าเริง แต่ผมก็ยังสัมผัสได้ถึงอารมณ์ด้านลบที่ยังหลงเหลืออยู่

ผมพาน้องมาอยู่ด้วยเพื่อให้ใกล้ต่อการดูแล แม้ผมจะไม่รู้ว่าเรามาอยู่ในจุดนี้กันได้ยังไง แต่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราในตอนนี้มันถอยกลับไม่ได้แล้ว ทั้งเรื่องที่น้องโดนทำของใส่ โดนแก๊งค้าอวัยวะจับตัวไป แล้วยังเรื่องที่น้องเป็นคนสุดท้ายที่ติดต่อกับน้องสาวของผมก่อนเธอจะตายอีก เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเชื่อมโยงกันมาตลอด

“เลิกเรียนให้พี่ไปรับไหม?”

ภูมิ์วาหันมามองผมที่ยังนอนอยู่บนเตียง น้องสะพายกระเป๋าก่อนส่งยิ้มให้ผมเหมือนทุกครั้ง “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวภูกลับเอง วันนี้ไม่ได้เลิกดึก ตอนบ่ายภูเลิกเรียนแล้วจะไปทำพาร์ตไทม์ที่ร้านพี่รามิลต่อครับ”

“โอเค งั้นเดี๋ยวบ่ายพี่ไปรอที่ร้านไอ้มิล”

น้องภูยืนเท้าสะเอวไม่ยอมไปเรียนสักที ใบหน้าที่เหมือนกำลังพูดคำว่า ‘เอิ่ม’ มองมาที่ผม “ไปทำงานบ้างเถอะพี่เธียร ตอนนี้ไม่มีใครมาทำอะไรภูแล้ว”

ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ผมก็ยังวางใจไม่ได้อยู่ดี แม้จะกวาดล้างแหล่งกบดานไปได้ก็จริง แต่ผมรู้ดีว่าตัวหัวหน้าใหญ่ของพวกมันยังลอยนวลอยู่

“มานี่หน่อยสิ” ผมกวักมือเรียกน้องให้เข้ามาใกล้ ก่อนจะเช็กดูที่ลำคอเรียวว่าเจ้าของได้ใส่สร้อยที่ผมให้ไปหรือยัง เมื่อสัมผัสเจอของสิ่งนั้นผมก็โล่งใจได้ในระดับหนึ่ง เบี้ยแก้ที่ลุงชัยไปหามาให้ใหม่ตอนนี้กำลังทำหน้าที่ปกป้องคนที่ผมรักอย่างเงียบ ๆ “อย่าถอดเด็ดขาดนะ”

“ไม่ถอดหรอกครับ ...ยกเว้นพี่จะบอกให้ผมถอด” ประโยคท้ายน้องพูดเสียงแผ่วลง ขณะเดียวกันแก้มขาวก็ขึ้นสีของความร้อน

ผมหัวเราะเสียงต่ำก่อนขยี้หัวคนที่ชอบคิดเรื่องทะลึ่ง

“โอ้ย! พี่เธียรอย่า! ภูเพิ่งเซตผมมานะ” คนที่กลัวว่าตัวเองจะไม่หล่อโวยวายพลางเอามือเล็ก ๆ มาหยุดผม “หมดหล่อเลย”

“ไม่หล่อน่ะดีแล้ว แมลงพวกนั้นจะได้เลิกมาตอมสักที” ก็ตามนั้นแหละ ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมภูถึงได้เนื้อหอมขนาดนี้ แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าเนื้อหอมแค่กับคน...

“มีแต่เพื่อนภูทั้งนั้น” คนน่ารักพูดแก้ต่างให้ผู้ชายคนอื่น เด็กกิจกรรมแบบภูนี่เสน่ห์แรงกันทุกคนเลยหรือเปล่า

ให้ตายเถอะ อยากจับน้องมาขึงไว้จริง ๆ จะได้ไม่ต้องมีใครมายุ่ง แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความคิด ถึงจะหวงแค่ไหน แต่ก็คงไม่มีใครอยากอยู่กับคนที่ทำให้ตัวเองต้องรู้สึกอึดอัดหรอก “เข้ามาตอมภู พี่ก็นับเป็นแมลงหมดนั่นแหละ”

“พอเลยครับ” น้องดันหน้าผมที่โน้มเข้าไปใกล้จนเกือบหอมแก้มออก ก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาให้ผมดู มันคือแอปพลิเคชันติดตามที่น้องเพิ่งดาวน์โหลดมาเมื่อวาน

ผมมองสัญลักษณ์รูปวงกลมสีแดงและสีน้ำเงินที่ซ้อนทับอยู่ตรงจุดเดียวกันแล้วเลิกคิ้ว หรือว่าที่น้องเอาโทรศัพท์ผมไปใช้อย่างน่าสงสัยเมื่อวานก็เพื่อเอาไปติดตั้งแอปพลิเคชันติดตามตัวนี่?

จากนั้นภูมิ์วาก็หยิบโทรศัพท์ของผมที่วางอยู่ตรงหัวเตียงมา แล้วเปิดแอปพลิเคชันเดียวกัน

อืม เป็นแบบที่ผมคิดนั่นแหละ

“ภูเชื่อมต่อไอดีของเราไว้ด้วยกันแล้วครับ แบบนี้พี่จะได้รู้ว่าภูอยู่ที่ไหน”

ผมยิ้มให้คนตัวเล็กที่กำลังทำหน้าภูมิใจ “แล้วถ้าภูลืมโทรศัพท์ล่ะ?”

“ไม่หรอกครับ ภูจะพกติดตัวตลอด”

“แล้วถ้าหายล่ะ?”

“ไม่มีทาง”

ผมหัวเราะเบา ๆ

ก็จริง คนติดโซเชียลอย่างน้องภู ไม่มีทางห่างโทรศัพท์ได้หรอก

“หัวเราะอะไรครับ พี่เธียร”

แต่ถึงยังไงผมก็ยังกังวลอยู่ คราวที่แล้วแค่น้องคลาดสายตาผมแป๊บเดียว คนชั่วพวกนั้นก็มาจับตัวน้องไปทันที

“ภูไปเรียนก่อนนะครับ” ว่าจบเจ้าเด็กคนนี้ก็แอบมาจุ๊บแก้มโดยไม่ให้ผมตั้งตัว

“เดี๋ยวเถอะ” ก่อนที่น้องจะหนีไป ผมฉวยโอกาสตีตูดเด็กซนไปหนึ่งที “ถึงมหา’ ลัยแล้วแชตมาบอกพี่ด้วยนะ”

เสียงครับแบบลากยาวดังแว่วเข้ามา

สักพักเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น เป็นเบอร์ของสารวัตรเด่นที่โทรเข้ามา

“ครับ สารวัตร”

“บ่ายนี้จะมีประชุมสรุปคดีค้าอวัยวะ ห้ามขาดนะ” เสียงสารวัตรเน้นย้ำคำสุดท้าย

ผมเงียบไปครู่หนึ่งก่อนตอบออกไป “เข้าใจแล้วครับ”

“งั้นก็ดี แล้วเจอกันผู้กอง”

จากนั้นก็วางสายไป ผมล้มตัวลงนอน มองเพดานพร้อมถอนหายใจ ตอนแรกว่าจะไปรอภูที่ร้านไอ้มิลตอนบ่ายแท้ ๆ สงสัยจะไม่ได้แล้วแฮะ พิมพ์ข้อความส่งไปบอกไว้ก่อนดีกว่า

 

 

 

หลายเดือนก่อนน้องสาวของผมถูกลักพาตัวไป ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาแฟนของผมก็ถูกลักพาตัวไปเหมือนกัน โชคดีที่แฟนผมไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก ผมพากำลังตำรวจเข้าบุกที่แหล่งกบดานของมันได้ทันก่อนที่พวกมันจะทำอะไรแฟนผม ภูมิ์วาโชคดีที่ผมเข้าไปหยุดพวกมันทัน แต่ว่าน้องสาวของผมไม่ได้โชคดีแบบนั้น

เรื่องนั้นถ้าจะโทษว่าเป็นความผิดของใคร ก็คงต้องโทษตัวผมนี่แหละ แต่ทว่าน้องสาวผู้เอาแต่ใจไม่ยอมให้ผมคิดแบบนั้น

ในตัวของผมมีสัมผัสพิเศษที่คนทั่วไปไม่มี ประสาทสัมผัสที่ดีเกินมนุษย์อย่างการรับรู้ถึงพลังงานอื่น ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และการสัมผัสถึงความตาย เมื่อครั้งอดีตมันเคยเป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิตของผม แต่เมื่อผมเริ่มทำความเข้าใจกับมัน รู้ตัวอีกทีผมก็ยืนอยู่บนสองโลกที่ซ้อนทับกันไปซะแล้ว โลกที่มีสิ่งมีชีวิตและอีกโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งที่ไร้ชีวิตอย่างวิญญาณ

ผมเคยรังเกียจดวงตาคู่นี้ที่มองเห็นสิ่งเหล่านั้นเพราะมันทำให้ผมแปลกแยกจากคนอื่น กระทั่งหลายเดือนก่อนหลังจากเกิดคดีได้ไม่นาน ผมก็มองเห็นร่างเลือนรางของน้องสาว สมองที่เหนื่อยล้าจากการทำคดีกลับประมวลผลได้ทันทีว่าน้องสาวตรงหน้าไม่ใช่คนอีกต่อไป

วันนั้นผมไม่รู้ว่าตัวเองต้องรู้สึกยังไงเมื่อดวงตาที่ผมรังเกียจมองเห็นภาพของน้องสาวที่จากไปแล้ว กระนั้นเธอที่เลือนรางกลับพยายามทำทุกวิถีทางไม่ให้ผมจมไปกับความเศร้า

‘ธาราไม่ได้ไปไหนสักหน่อย!’

เธอบอกผมแบบนั้น แต่แล้ววันนี้วันที่ผมปิดคดีได้สำเร็จ ดวงตาที่มองเห็นความตายคู่นี้จู่ ๆ ก็มองไม่เห็นวิญญาณของน้องสาว ราวกับว่าดวงวิญญาณของเธอหมดห่วงและพร้อมที่จะไปสู่สุคติ ซึ่งก็เหมือนกับวิญญาณดวงอื่นที่เมื่อเติมเต็มความปรารถนาแล้ว พลังงานวิญญาณเหล่านั้นก็จะกลับเข้าสู่วัฏจักร

หลังจากที่ตามเก็บชิ้นส่วนร่างกายของเธอครบ ลุงชัยบอกผมว่ามันถึงเวลาที่ธาราจะต้องเข้าสู่สังสารวัฏแล้ว สิ่งที่พวกเราทำได้หลังจากนี้คือการทำบุญและอุทิศส่วนกุศลเพื่อให้เธอใช้มันระหว่างการเดินทาง มนุษย์มีทางเดินของตัวเอง วิญญาณก็มีทางเดินของวิญญาณเช่นกัน

ครั้งสุดท้ายที่ผมมองเห็นเธอก็คือวันที่พวกเราจัดพิธีฌาปนกิจให้ ตอนนี้ความรู้สึกของผมยังคงสับสนอยู่ ก็รู้สึกดีอยู่หรอกที่เรื่องราวมันคลี่คลายและน้องสาวก็หมดห่วง แต่พอต้องยอมรับความจริงว่าน้องสาวจากไปแล้วมันก็ทำใจยากอยู่

พอเป็นแบบนั้นผมก็เลยกลายเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการและห่วงภูไปด้วยซะทุกเรื่อง เพราะผมกลัวว่าภูจะถูกพรากไป...