ตำนานเล่าขานถึงการแก้แค้นของราชินีที่ทำให้พระราชาสำลักความสุขเจียนตาย บนบัลลังก์แห่งคาวโลกีย์

ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น) - ENEMY : แค้นรักราชินี Chapter 1 โดย Di-N(ดิเอ็น) @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ลึกลับ,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,ดราม่า,แฟนตาซี,ดราม่า,ย้อนเวลา,อดีตชาติ,king,queen,ยุโรป,ไสยศาสตร์,ตะวันตก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ลึกลับ,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,ดราม่า

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ดราม่า,ย้อนเวลา,อดีตชาติ,king,queen,ยุโรป,ไสยศาสตร์,ตะวันตก

รายละเอียด

ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น) โดย Di-N(ดิเอ็น) @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ตำนานเล่าขานถึงการแก้แค้นของราชินีที่ทำให้พระราชาสำลักความสุขเจียนตาย บนบัลลังก์แห่งคาวโลกีย์

ผู้แต่ง

Di-N(ดิเอ็น)

เรื่องย่อ

 

สวัสดีค้า มาเปิดเรื่องใหม่แล้วอีกแล้ว

เป็นเรื่องสั้น รอบนี้สั้นจริงๆ ค่ะ ไม่เกินหมื่นคำ ดีใจมากที่ทำได้ 55555+

เรื่องนี้เป็นการร่วมกิจกรรมกับเพจนักเขียนรถแห่เหมือนเดิมค่ะ ภายใต้ key word สี่คำ เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ / แมวขาว / ความเชื่อ / หน้ามน ส่วนของคนเขียนน่าจะเป็น เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ / แมวขาว / ความเชื่อ

เป็นรักปนแค้นของราชินีและการเกิดใหม่มาภพเจอกันอีกครั้ง

*trigger warning*

มีการข่มขืน

-หากท่านใดมีความทริกเกอร์กับการข่มขืนให้ข้ามตอนที่ 3

มีการฆ่า

-หากท่านใดมีความทริกเกอร์กับการฆ่าให้ข้ามตอนที่ 5

* ไม่มีการ Romanticize

สารบัญ

ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น)-ENEMY : แค้นรักราชินี Chapter 1,ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น)-ENEMY : แค้นรักราชินี Chapter 2,ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น)-ENEMY : แค้นรักราชินี Chapter 3 (NC),ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น)-ENEMY : แค้นรักราชินี Chapter 4,ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น)-ENEMY : แค้นรักราชินี Chapter 5 (มีฉากฆ่ากัน),ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น)-ENEMY : แค้นรักราชินี Chapter 6 (END)

เนื้อหา

ENEMY : แค้นรักราชินี Chapter 1

รีโมทกดล็อกรถอย่างเร่งรีบ เมื่อเวลาที่ข้อมือล่วงเลยการนัดหมายมาหลายนาทีแล้ว หญิงสาวขมวดคิ้วขึงขังเมื่อตัวเองไม่สามารถสะสางธุระได้ทันเวลา

“ว่าแล้วต้องมาไม่ทันแน่ ๆ ” เสียงของพี่สาวเอ่ยทัก ใบหน้าของเธอแทบจะกินเลือดกินเนื้อน้องสาวเสียให้ได้

“แหม ความจริงพี่มาเองก็ได้นะคาร่า ไม่เห็นต้องตามฉันมาเลย”

 

โซอี้ ดาร์กเลน ยังคงใบหน้าอันหงุดหงิดไว้ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อตนถูกดุเช่นนั้น เพราะได้บอกไปแล้วว่าวันนี้มีธุระ อาจจะมาไม่ทันเวลาไม่ได้ตั้งใจผิดนัด

อีกทั้งการขอพรกับโบสถ์ที่อยู่ในความอนุเคราะห์ของตระกูล มันไม่เห็นต้องตามใครมานั่งให้กำลังใจข้าง ๆ เลยสักนิด

“ก็พี่กลัวนี่”

“กลัวก็ไม่ต้องมาสิ อีกอย่าง ที่นี่ไม่ควรเรียกว่าโบสถ์ด้วยซ้ำ มันเหมือนที่บูชาพลังลึกลับบางอย่างมากกว่า” โซอี้วิพากษ์วิจารณ์สมบัติของตระกูล ว่ามันไม่ใช่สถานที่ทางธรรม เพราะใจกลางแท่นบูชา ที่ควรวางพระศาสดามันกลับกลายเป็นรูปปั้นของแมวหินตัวหนึ่งเท่านั้น

ตระกูลดาร์กเลน’ สืบเชื้อสายจากเจ้าขุนมูลนายหลายศตวรรษ จนไม่อาจนับเชื้อสายต้นตอที่ริเริ่มได้เจอ มรดกตกทอดอันเก่าแก่ก็มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน เครื่องเพชร และที่บนบานศาลกล่าวแห่งนี้ก็ด้วย

ราชวงศ์กัลติก้า’ เคยปกครองอยู่ในช่วงสั้น ๆ และล่มสลายลงด้วยพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของพระราชาที่เอาแต่ร่ำสุรานารี อีกทั้งได้มีหลักฐานปรากฏชัดว่าตระกูลดาร์กเลนเคยร่วมราชวงศ์เมื่อครั้งอดีต สู่จุดสูงสุดโดยการคว้าตำแหน่งราชินีมาไว้ครอบครอง

แต่ถึงอย่างนั้นเธอกลับไม่ลงรอยกับพระสวามีนัก เนื่องจากไม่เคยให้กำเนิดทารกเพศไหนเลยให้กับเขา

พระราชาจึงหันไปมีสัมพันธ์สวาทกับสาวใช้ และยกพวกนางขึ้นมาเป็นสนมท่ามกลางเสียงคัดค้านของศาสนจักรและเหล่าขุนนาง เพราะพระองค์กำลังทำผิดกฎว่าด้วยเรื่องผัวเดียวเมียเดียว

การที่พระราชาทำเช่นนั้น ทำให้ราชินีรู้สึกเหมือนถูกท้าทาย เธอจึงหันหน้าเข้าสู่ศาสตร์มืดเพื่อร้องขอโอรสสืบบัลลังก์จากแม่มดหมอผี

เรื่องเล่าทั้งหมดมีเพียงเท่านี้ เพราะไม่มีผู้ใดอยากจดบันทึกหน้าประวัติศาสตร์อันน่าอับอายนี้สู่คนรุ่นหลัง

หลักฐานที่บอกว่าเรื่องนี้มีมูลความจริง คือชื่อของสองตระกูลที่ยังคงสืบมาจนถึงปัจจุบัน พร้อมกับโบสถ์ที่มีรูปแมวแกะสลักนี้ ก็ได้ตกมาอยู่ในการดูแลของพ่อโซอี้และคาร่า และเรื่องเล่าจากปากต่อปากที่ส่งผ่านกันมาหลายชั่วอายุคน ว่าแม่มดได้ให้แมวสีขาวไว้เป็นเครื่องบูชากับราชินี ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนแห่งศาสตร์มืด หากมันได้รับการปฏิบัติอย่างอิ่มหมีพีมันคำขอของพระนางจะประสบความสำเร็จ

ปัจจุบันจึงมีความเชื่อว่าหากหญิงใดมีลูกยาก ให้มาสวดภาวนาที่นี่ตามรอยราชินีองค์นั้น

ไม่ว่าเรื่องเล่าเหล่านี้จะเป็นข้อเท็จจริง หรือคำลวงเพื่อให้โบสถ์ได้เป็นที่พูดถึง โซอี้ก็รู้ดีกับประวัติศาสตร์ที่ขาดหาย

...เพราะเธอมีสัมผัสพิเศษ พลังลึกลับที่หลายคนอาจมองว่าเพ้อเจ้อ...

 

โซอี้รู้ว่าราชินีไม่ได้อยากมีโอรสให้พระราชาสันดานระยำนั้น จนตัวตายก็ไม่เคยร้องขอ ประวัติศาสตร์ช่างบิดเบือนอย่างน่าละอาย ให้พระนางดูเป็นหญิงวิปลาสคลั่งไคล้มนต์ดำเพราะมีลูกไม่ได้

ทั้งหมดเป็นภาพที่วิ่งวนในโสตประสาทตั้งแต่เด็กของโซอี้ ภาพพระราชวัง มงกุฎเพชรอันงดงาม และการทะเลาะกันอย่างรุนแรงของหญิงชายคู่หนึ่ง แต่โชคชะตาก็ไม่เคยสานต่อภาพเหล่านั้นให้จบเลย

...มันหยุดอยู่ตรงนั้น หยุดที่พระราชากระชากข้อมือราชินีจนปวดร้าว...

“พี่เชื่อเข้าไปได้ยังไง” โซอี้ถามขณะประกบมือยกอธิษฐานเป็นเพื่อนคาร่า

“นี่! อย่าพูดอะไรแบบนั้นสิ” คาร่าต้องระงับคำสวดเอาไว้ ก่อนจะหันมาทำสายตาดุกับน้องสาว

โซอี้จะไม่เชื่อก็ได้ เพียงแต่เธอไม่ควรทำท่าทางเหมือนกำลังวิงวอนในขณะที่ใจต่อด้าน เพราะมันคือการท้าทายอำนาจลึกลับของโบสถ์

“มันก็แค่เรื่องเล่าของคนภายในเมืองนี้ พี่รู้ได้ยังไงว่าพระราชินีประสบความสำเร็จในการขอลูก”

“โซอี้ หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” คาร่าหยุดกิจกรรมไว้เพียงเท่านั้น และหันมาต่อว่าน้องสาวอย่างจริงจัง

คนเป็นพี่รู้ว่าน้องสาวไม่ถูกชะตากับที่นี่ ตั้งแต่เด็กที่พ่อกับแม่พามาเยี่ยมเยือนโซอี้ก็ออกอาการตัวสั่นสายตาขึงขังเหมือนโกรธใครสักคน ยิ่งเข้ามาภาวนายิ่งแล้วใหญ่เพราะอยู่ไม่สุขทำตัวขยุกขยิกเหมือนโดนมดกัดอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่วันนั้นก็นับครั้งได้เลยที่น้องสาวเข้ามาเหยียบย่าง

คาร่าคิดว่าการโตเป็นผู้ใหญ่จะทำให้เธอลดพฤติกรรมไม่น่ารักลงได้บ้าง แต่ก็ไม่เลย...

กลับกลายเป็นการตั้งแง่มากกว่าเดิม และเต็มไปด้วยคำถามที่ไล่บี้จนไม่รู้จะอธิบายอย่างไร ทั้ง ๆ ที่น้องสาวก็เป็นคนมีสัมผัสพิเศษน่าจะเข้าใจศาสตร์ลึกลับได้ดีกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ

“ทำไมล่ะ ฉันก็แค่ถามเองนะคาร่า”

“งั้นก็หัดตั้งคำถามกับสัมผัสพิเศษของตัวเองบ้างสิ ว่ามันมีได้ยังไง”

“มันไม่เกี่ยวกันซักหน่อยคาร่า” เมื่อโดนพี่จี้กลับ ทำให้โซอี้ลืมคำโต้ตอบไปชั่วขณะ เธอจึงแก้ตัวด้วยคำบอกปัดที่สิ้นคิด ทั้ง ๆ ที่ความเชื่อกับสัมผัสพิเศษนั้นมันตั้งอยู่บนพื้นฐานที่เหนือธรรมชาติเหมือนกัน

“มันจะไม่เหมือนกันได้ยังไงโซอี้”

“ก็โบสถ์นี้มั....น” จู่ ๆ เธอก็รู้สึกถึงอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นมาในกาย จนต้องหยุดชะงักในการโต้เถียงไปฉับพลัน

“โซอี้! เป็นอะไร!” คาร่าตกใจกับท่าทางที่น้องสาวเอามือจับที่อกซ้าย และค่อย ๆ งอตัวเหมือนมีอะไรทิ่มแทงให้เจ็บปวด

“ร้อนจังเลยคาร่า มะ...ไม่ไหวแล้ว ร้อนนนนน!!!”

สิ่งนั้นไม่ใช่การแกล้งทำ เมื่อเริ่มมีเลือดฝาดที่เด่นชัดและฉาบกลบความงดงามของใบหน้าให้แดงฉาน เหมือนคนที่โดนแมลงพิษกัดต่อยจนผื่นลามไปทั่ว สิ่งนั้นทำให้คาร่าหัวใจสั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก กลัวว่าน้องสาวจะสิ้นลมไปเสียงตรงนี้

“โซอี้ โซอี้! ไม่นะ โซอี้!” คาร่ารีบประคองโซอี้ที่หล่นลงไปกองกับพื้น

และด้วยความร้อนภายในที่พร้อมปะทุ ทำให้ร่างของน้องสาวบิดงอกอย่างน่ากลัวราวกับว่ามีแมลงหลายตัวสิงสู่และวิ่งขึ้นตามแนวเส้นเลือดเพื่อหาทางออก พร้อมเสียงจุกอกที่ไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำได้ จะร้องไห้ก็ไม่เต็มเสียง

“อึก....ระ...ร้อน คะ...คาร่า”

“ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยด้วย ใครอยู่ข้างนอกช่วยด้วย!” สติของคาร่าที่หายไปตอนเห็นโซอี้ดิ้นทุรนทุรายกลับมาทันที

มันทำให้พึงระลึกได้ ว่ายังมีนักท่องเที่ยวและผู้คนที่อยู่ข้างนอกอีกมากมาย ทำให้คาร่าตะโกนสุดเสียงเพื่อขอความช่วยเหลือ ขณะประคองน้องสาวไว้ในอ้อมกอด

“อีราชินีตระบัดสัตย์ กล้าท้าทายข้ารึ!”

ในขณะที่สติกำลังพร่ามัวเสียงอันไม่คุ้นเคยก็แว่วผ่านมาให้ได้ยิน โซอี้ผู้หงายกายโรยราบนตักของคาร่าได้กวาดสายตาตั้งแต่เพดานจรดซ้ายขวาเพื่อหาต้นตอ กระทั่งไปหยุดอยู่ที่รูปปั้นเจ้าแมวหินน่าชังตัวนั้น

ถึงแม้จะไม่ขยับหรือส่งสัญญาณของการมีชีวิตใด ๆ แต่โซอี้ก็รู้ตัวว่าต้นกำเนิดเสียงต้องเป็นมันอย่างแน่นอน

และสติก็อนุญาตให้เธอรับรู้เพียงเท่านั้น เพราะแสงสว่างมันค่อย ๆ ดับลง เปลือกตาหนักอึ้งไม่สามารถทนพิษร้อนภายในกายได้ ทำให้เธอสลบคาอ้อมอกของพี่สาวอย่างไม่รู้ตัว พร้อมเสียงอันดังก้องในความมืดมิดที่ก่นด่าในวลีเดิม

“อีราชินีตระบัดสัตย์!”