ตำนานเล่าขานถึงการแก้แค้นของราชินีที่ทำให้พระราชาสำลักความสุขเจียนตาย บนบัลลังก์แห่งคาวโลกีย์
ลึกลับ,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,ดราม่า,แฟนตาซี,ดราม่า,ย้อนเวลา,อดีตชาติ,king,queen,ยุโรป,ไสยศาสตร์,ตะวันตก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น)ตำนานเล่าขานถึงการแก้แค้นของราชินีที่ทำให้พระราชาสำลักความสุขเจียนตาย บนบัลลังก์แห่งคาวโลกีย์
สวัสดีค้า มาเปิดเรื่องใหม่แล้วอีกแล้ว
เป็นเรื่องสั้น รอบนี้สั้นจริงๆ ค่ะ ไม่เกินหมื่นคำ ดีใจมากที่ทำได้ 55555+
เรื่องนี้เป็นการร่วมกิจกรรมกับเพจนักเขียนรถแห่เหมือนเดิมค่ะ ภายใต้ key word สี่คำ เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ / แมวขาว / ความเชื่อ / หน้ามน ส่วนของคนเขียนน่าจะเป็น เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ / แมวขาว / ความเชื่อ
เป็นรักปนแค้นของราชินีและการเกิดใหม่มาภพเจอกันอีกครั้ง
*trigger warning*
มีการข่มขืน
-หากท่านใดมีความทริกเกอร์กับการข่มขืนให้ข้ามตอนที่ 3
มีการฆ่า
-หากท่านใดมีความทริกเกอร์กับการฆ่าให้ข้ามตอนที่ 5
* ไม่มีการ Romanticize
เส้นผมเงาดำขลับถูกแปลงจากสาวรับใช้อย่างเบามือ เพราะเจ้านายที่นั่งหันหลังให้นั้นมียศถาที่สูงส่งจนไม่อาจลงน้ำหนักมือให้เรียวคอระหงงอพับหงายหลังได้
มิเช่นนั้นแล้วข้าราชบริพารศักดิ์ต่ำต้อยอาจจะโดนสายคมหันมาดุเอาเรื่อง เป็นเหตุให้ต้องระเห็จตัวออกไปทำหน้าที่อื่นซึ่งลำบากกว่าการปรุงแต่งพระสิริโฉมหลายเท่า
“พอได้แล้วล่ะโลล่า”
“แต่ท่านยังมิได้จัดเครื่องผมเลยนะเพคะ” สาวใช้ค้านเมื่อมือได้ถักลวดลายเปียได้เพียงเส้นเดียว
“วันนี้ขอราบเรียบไว้จะดีกว่า ช่วงนี้ข้าปวดคอกับทรงผมวิจิตรโอ่อ่าตามฉบับราชสำนัก”
“เพคะ”
ราชินีฟีโอน่าลุกจากโต๊ะเครื่องหอม และเดินไปตามเส้นทางอันคุ้นเคยด้วยชุดกรุยกรายที่พร้อมลากผงฝุ่นติดตามไปด้วยทุกเมื่อ
แต่พระนางก็ต้องหยุดอยู่ตรงทางเดิน เมื่อเจอร่างบุคคลทั้งสองที่ตนไม่อยากเห็นหน้ามากที่สุด
...พระราชาอัลเดนและมีสซี่นางสนมคนโปรดของเขา...
“จะไปไหนฟีโอน่า” เสียงทุ้มน่าเกรงขามร้องทัก
“สวดภาวนาเพคะ”
“หึ...อย่างเจ้าน่ะหรือ สวดสาปแช่งเสียมากกว่ากระมัง”
“ถ้าหม่อมฉันจะสาปแช่ง ไม่เดินออกมาลอยหน้าลอยตายให้ผู้คนเห็นจุดหมายปลายทางหรอกเพคะ นั่งทำอยู่ในห้องตัวเองก็ได้”
“ยอมรับแล้วหรือว่าเจ้ามันพวกนอกรีต”
“เจ็บนะเพคะ!”
พระราชาอัลเดนกระชากข้อมือบางของมเหสีจนร่างของเธอพุ่งเข้าแอบลำตัวเขา
ฟีโอน่าพยายามดีดดิ้นให้ความใกล้ชิดนี้มันห่างออกไป พระนางขนลุกและชิงชังทุกครั้งเมื่อได้แนบกายกับสวามีของตัวเอง
“ถ้าเจ็บก็หัดเกรงกลัวกันบ้าง จัดการกับมนต์ดำที่เจ้านำมาเข้ามาในวังซะ ก่อนที่ข้าจะพาองครักษ์ค้นทุกซอกทุกมุม และลากเจ้าไปลานประหาร”
“ด้วยเหตุใดเพคะ”
“วิปลาส!”
คำตอบเพียงเท่านั้น ก็มากพอที่จะทำให้แววตาของฟีโอน่าพิโรธได้ ลมหายใจแรงเปล่งออกมาเพราะต้องเก็บกักความขุ่นเคืองเอาไว้ไม่โวยวายให้อายบ่าวไพร่ โดยเฉพาะนังสนมที่เกาะแขนสวามีและเอาแต่หลบอยู่ข้างหลัง มิรู้ว่าภายในใจจะกล่าวทับถมนางว่าอะไรบ้าง
“นั้นน่าจะหมายถึงพระองค์มากกว่า ละทิ้งบทบัญญัติมิเกรงกลัวคำเตือนผู้ใด” ฟีโอน่ายืดคอเถียงสู้อัลเดน และมิวายชายตามองไปยังสนมผู้น่าหมั่นไส้
เหตุของคำต่อว่าคือการที่สวามีบังอาจมีเล็กมีน้อยอย่างออกนอกหน้า ทั้งที่กฎมณเฑียรบาลไม่อนุญาต
“เพราะเจ้าไม่สามารถมีลูกให้ข้าได้ต่างหาก ฟีโอน่า”
“....”
คำทิ้งท้ายที่ปล่อยให้ราชินีจุกอกจนพูดอะไรไม่ออก ทำให้ความเงียบงันเข้าพัดผ่านทางเดินกว้างแห่งนี้ในชั่วขณะ พร้อมเสียงฝีเท้าของคนทั้งสองที่พระนางแสนชังขี้หน้าได้เดินจากไป
“โลล่า ไปหยิบผ้าคลุมดำมาให้ข้า”
“ราชินีเพคะ ท่านจะออกไปอีกแล้วหรือ”
“ไปหยิบมาให้ข้า!” เสียงตวาดหนักทำให้นางกำนัลคู่กายไม่กล้าเอ่ยทัดทานสิ่งใดได้อีก
ฟีโอน่าลัดเลาะออกไปจากพระราชวังตามเส้นทางลับที่ตนได้ค้นพบ สู่ย่านสามัญชนที่เหม็นโฉ่ไปด้วยกลิ่นเสื้อผ้าที่สกปรกและแอ่งน้ำขังที่พร้อมกระเซ็นขึ้นปะทะใบหน้าได้ทุกเมื่อ ยิ่งเด็กน้อยที่มอมแมมวิ่งไล่จับกันยิ่งแล้วใหญ่ เพราะมันทำให้ฟีโอน่าต้องเบี่ยงตัวหลบแทบทุกวินาที
ไม่นานนักไกลออกไปจากชุมชนที่พลุ่งพล่าน ก็เข้าสู่เขตป่าที่เย็นเยือกซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่โก้งโค้งกันทับกันเป็นโดม
เบื้องหน้าคือกระท่อมไม้แห่งหนึ่ง ที่พระนางแวะเวียนมาประจำตั้งอยู่อย่างโดดเด่น
ฟีโอน่าผลักประตูเข้าไปด้วยความคุ้นเคย และได้ปรากฏภาพหญิงชราคนหนึ่งคาบม้วนยาสูบขับกล่อมห้วงอารมณ์ตัวเองอยู่
บนโต๊ะไม้สีน้ำตาลเข้มมีลูกแก้วกลมขนาดใหญ่วางประดับ ซึ่งถูกฉาบไปด้วยไอเย็นสีเขียวที่สลับเปลี่ยนเป็นฟ้าได้ทุกเมื่อ และรอบตัวนั้นเต็มไปด้วยเจ้าแมวหลากสี บ้างกระโจนขึ้นหัวหรือข้ามหน้าไปมา
“แม่หนู....โอ้ว ไม่สิพระราชินีของข้า มีเหตุอันใดที่ท่านร้อนรนถึงเพียงนี้เจ้าคะ” คำว่าแม่หนูบ่งบอกถึงความสนิทสนมอันเนิ่นนานที่ทั้งคู่มีให้กัน
“ถ้าต้องการให้พระราชาตาย ข้าต้องทำเช่นไร”
“....” แม่มดเฒ่าหยุดชะงักไปในทันใด ก่อนสายตาอันฟากฟางที่ลูบเรือนขนสวยจากแมวตัวขาวจะเหลือกขึ้นมองพระนาง
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยจ้องไปยังฟีโอน่า ซึ่งเต็มไปด้วยความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยว ราชินีสาวผู้นี้มิใช่เด็กวัย 16 ที่ร้องไห้ฟูมฟายเมื่อหลายปีก่อนนั้นอีกแล้ว เมื่อคิดได้เช่นนั้นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็พลันปรากฏขึ้นมา
“กษัตริย์มิใช่ผู้มีบารมีต่ำเตี้ย แม้พระองค์จะไร้ความสามารถ แต่อำนาจเบื้องหลังที่ส่งท่านขึ้นสู่บัลลังก์...เหล่านั้นมันมีพลังไม่น้อยเลยนะ หม่อมฉันมิอาจต่อกรได้เพียงลำพัง”
“....” ฟีโอน่าหลุบตาต่ำเพื่อครุ่นคิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเพื่อยืนยันเจตนารมณ์ตนอีกครั้ง
“หึ เจ้ารู้ราคาของมันดี ราชินีข้า....”