ตำนานเล่าขานถึงการแก้แค้นของราชินีที่ทำให้พระราชาสำลักความสุขเจียนตาย บนบัลลังก์แห่งคาวโลกีย์

ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น) - ENEMY : แค้นรักราชินี Chapter 4 โดย Di-N(ดิเอ็น) @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ลึกลับ,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,ดราม่า,แฟนตาซี,ดราม่า,ย้อนเวลา,อดีตชาติ,king,queen,ยุโรป,ไสยศาสตร์,ตะวันตก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ลึกลับ,ชาย-หญิง,ย้อนยุค,ตะวันตก,ดราม่า

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ดราม่า,ย้อนเวลา,อดีตชาติ,king,queen,ยุโรป,ไสยศาสตร์,ตะวันตก

รายละเอียด

ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น) โดย Di-N(ดิเอ็น) @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ตำนานเล่าขานถึงการแก้แค้นของราชินีที่ทำให้พระราชาสำลักความสุขเจียนตาย บนบัลลังก์แห่งคาวโลกีย์

ผู้แต่ง

Di-N(ดิเอ็น)

เรื่องย่อ

 

สวัสดีค้า มาเปิดเรื่องใหม่แล้วอีกแล้ว

เป็นเรื่องสั้น รอบนี้สั้นจริงๆ ค่ะ ไม่เกินหมื่นคำ ดีใจมากที่ทำได้ 55555+

เรื่องนี้เป็นการร่วมกิจกรรมกับเพจนักเขียนรถแห่เหมือนเดิมค่ะ ภายใต้ key word สี่คำ เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ / แมวขาว / ความเชื่อ / หน้ามน ส่วนของคนเขียนน่าจะเป็น เรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ / แมวขาว / ความเชื่อ

เป็นรักปนแค้นของราชินีและการเกิดใหม่มาภพเจอกันอีกครั้ง

*trigger warning*

มีการข่มขืน

-หากท่านใดมีความทริกเกอร์กับการข่มขืนให้ข้ามตอนที่ 3

มีการฆ่า

-หากท่านใดมีความทริกเกอร์กับการฆ่าให้ข้ามตอนที่ 5

* ไม่มีการ Romanticize

สารบัญ

ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น)-ENEMY : แค้นรักราชินี Chapter 1,ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น)-ENEMY : แค้นรักราชินี Chapter 2,ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น)-ENEMY : แค้นรักราชินี Chapter 3 (NC),ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น)-ENEMY : แค้นรักราชินี Chapter 4,ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น)-ENEMY : แค้นรักราชินี Chapter 5 (มีฉากฆ่ากัน),ENEMY แค้นรักราชินี(เรื่องสั้น)-ENEMY : แค้นรักราชินี Chapter 6 (END)

เนื้อหา

ENEMY : แค้นรักราชินี Chapter 4

“แม๊ววววว!”

เจ้าแมวขาวขนปุยที่ฟีโอน่าเพิ่งได้มาเมื่อไม่นานนี้ ร้องดังระงมเพราะดูเหมือนว่ามันจะเบื่ออาหารที่ถูกประเคนมาให้ ราชินีจึงเปลี่ยนเป็นผลไม้ที่ปอกเป็นกลีบน่ารับประทานป้อนให้มันแทน

ทว่าสายตาของฟีโอน่ามิได้มองอย่างเอ็นดู กลับแข็งกร้าวและจ้องนิ่ง ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้โลล่าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็มิอาจทราบได้ว่านายหญิงของตนคิดสิ่งใดอยู่

“หวังว่าการที่ข้าเลี้ยงดูปูเสื่อเจ้าเยี่ยงเทวดาในหมู่สัตว์ทั้งหลาย จะทำให้เจ้าช่วยเหลือข้าอย่างเต็มกำลังนะเจ้าแมวตะกละ”

 

“แมวคือสื่อสารระหว่างเราเลี้ยงดูมันให้ดี และมันจะรับใช้พระองค์ มนต์ใดที่กระทำ คำภาวนาใดที่ท่านร้องของมันจะสัมฤทธิผล”

คำพูดของแม่มดในป่าอันมืดมิด ได้ย้ำเตือนสถานะของเจ้าขนปุยตรงหน้านี้ว่ามันสำคัญเพียงใด

ฟีโอน่ากั้นห้องด้วยฉากไม้ที่ตนสั่งทำขึ้น เพื่อวางแทนบูชาขนาดเล็กซึ่งเต็มไปด้วยอักขระที่คนทั่วไปอ่านไม่ออก และรอบล้อมไปด้วยเชิงเทียนที่มิเคยดับตลอดเวลา

ราชินีไม่รู้ว่ามนต์นั้นมีจริงหรือไม่ แต่ทุกครั้งที่อ้อนวานสาปแช่งเหล่าคนน่ารังเกียจ พวกเขาเหล่านั้นมักลงเอยด้วยความตายไม่ว่าจะเป็นขุนนางที่จ้องเล่นงาน หรือสาวใช้ที่อัลเดนส่งมา

มีเพียงโลล่าเท่านั้นที่เป็นคนในปกครองอย่างแท้จริง เป็นนางกำนัลที่ร้องขอจากตระกูลตนให้ส่งมารับใช้

“โลล่า อำนาจพระราชามีใครเทียบเท่า” จู่ ๆ ฟีโอน่าก็เอ่ยถาม ขณะนั่งแปรงผมอยู่ที่ประจำ

“ศาสนจักรอย่างไรเล่าเพคะ แต่...พระราชามิได้เกรงกลัว และศาสนจักรก็ดูอ่อนแอมากเมื่อต้องถกเถียงกับพระองค์”

“อย่างนั้นเราก็ตัดตัวเลือกได้ไปแล้วหนึ่งคณะ ต่อไปล่ะ”

“เอ่อ...พระพันปีเพคะ แต่ท่านป่วยออด ๆ แอด ๆ เรี่ยวแรงจะพูดยังไม่มี เช่นนั้นแล้ว...”

“ก็คงเป็นข้า”

“ขอประทานอภัยเพคะ แต่ท่านจะทำสิ่งใดหรือมายควีน...”

“คืนนี้ เจ้าจะเดินทางกลับไปยังบ้านของตระกูลข้า ข้าให้อัศวินเตรียมตัวไปส่งเจ้า”

“อะไรกัน! ข้าเต็มใจมาอยู่ที่นี่ มาอยู่เป็นเพื่อนท่าน”

“มิเป็นไรโลล่า เจ้ากับพระราชาเราจะคืนดีกันในเร็ววัน ไม่มีใครมาทำร้ายข้าได้หรอก”

“แต่...”

“เตรียมตัวด้วยล่ะ” ฟีโอน่าตัดบท และลูบไล้ใบหน้าสาวใช้ด้วยความเอ็นดู “เจ้าอายุน้อยเหมือนตอนที่ข้า...”

โลล่าอายุ 16 เหมือนตอนที่หล่อนโดนอัลเดนขืนใจในงานหมั้นของตัวเอง ซึ่งตอนนั้นเขายังดำรงยศเป็นเพียงเจ้าชายรัชทายาท มันเกิดขึ้นในวันที่พระราชาไปเยือนยังที่ดินตระกูลเธอ

เมื่อเขาเสร็จกิจ ฟีโอน่าจึงได้ออกปากขู่ว่าจะฟ้องพระราชา อัลเดนจึงแสยะยิ้มทิ้งท้ายก่อนจะออกไปจากห้องนอน และหลังจากนั้นทั้งคู่ไม่เคยเอ่ยปากพูดถึงความอัปยศในคืนนั้น

ฟีโอน่าคิดอย่างไร้เดียงสา ว่าอัลเดนคงกลัวพ่อจะรู้ถึงความเหลวแหลก...แต่ไม่ใช่เช่นนั้นเลย เขาจงใจให้เรื่องเงียบงันเพื่อรรอดูว่ามีเลือดเนื้อเชื้อไขสร้างตัวอยู่ในตัวหล่อนหรือไม่ และพระเจ้าก็เข้าข้างชายโฉด...

หมอยาประจำตระกูลได้ตรวจพบว่าตั้งครรภ์ สร้างความปวดร้าวให้พระนางกับชายคนรัก และการมาเยือนของอัลเดนอีกครั้งเพื่อประกาศว่าเขาคือพ่อของเด็กในท้อง

และตระกูลขุนนางจะเลือกอันใดเล่า ระหว่างลูกเขยที่เป็นถึงรัชทายาทหรือลูกเขยที่เป็นเพียงอัศวินธรรมดา เธอจึงสมรสกับอัลเดนโดยไม่เต็มใจ

และหัวใจก็แหลกสลาย เมื่อรู้ว่าชายที่รักได้ถูกส่งไปยังสนามรบ...เป็นแน่นอนที่สุดว่าเขาไม่มีชีวิตรอดกลับมา หล่อนจึงหันเข้าหามนต์ดำเพื่อกำจัดเด็กออก และทำการสาปแช่งสวามีตัวเองในทุกวัน ทีละนิด...ทีละนิด เหมือนพิษร้ายแสนหวานที่เขาไม่รู้ตัว

อัลเดนพยายามหลายครั้งกับผู้หญิงหลายคน แต่ทุกคนไม่เคยคลอดบุตรของเขาออกมา จนกระทั่งบัลลังก์ต้องสั่นคลอดเพราะไร้ทายาท

การแก้แค้นของราชาคือการกล่อมเกลาหญิงรับใช้คนสนิทของฟีโอน่าไปร่วมหลับนอน และแสดงบทรักต่อหน้าเพื่อหวังให้หล่อนแสดงความหึงหวง

แต่ไม่เลย มันมีความแค้นใจต่างหาก! มีสซี่เป็นเพื่อนเล่นตั้งแต่เด็ก ซึ่งคิดคดทรยศกันได้ลงคอ และมันคงบอกความลับของหล่อนให้อัลเดนทราบจนหมดเปลือก เขาถึงรู้เรื่องมนต์ดำเหล่านั้น และพยายามค้นห้องทุกครั้งเมื่อได้โอกาส แต่ก็หาสิ่งที่เป็นสัญญาลักษณ์แห่งการนอกรีตไม่เจอ...ถ้าเจอก็มิใช่มนต์ดำน่ะสิ

...และวันนี้ฟีโอน่าหมดความอดทนในการพ่นพิษร้ายทีละนิดแล้ว...

 

“พระราชินีเสด็จ”

ประตูโถงใหญ่เปิดออก เมื่อเสียงอัศวินเฝ้ายามเปล่งวาจาแจ้งเตือนว่าผู้ใดมาเยือน

เบื้องหน้าฟีโอน่าคือบัลลังก์ของสวามีซึ่งมีเขานั่งอยู่ พร้อมเหล่าท่านลอร์ดหลายตระกูลที่ยืนเรียงแถวปรึกษาหาหรือถึงปัญหาบ้านเมือง

“ออกไปให้หมด” น้ำเสียงทรงอำนาจสั่งเหล่าขุนนาง

พวกเขาก็เร่งฝีเท้าไปที่ประตู ไม่นานก็อันตรธานหายไปทั้งหมด ทำให้ฟีโอน่าที่หันซ้ายหันขวาอย่างฉงนใจ เหตุใดอัลเดนต้องสั่งเช่นนี้ ราชินีจึงเดินเข้าไปหาพระสวามีเพื่อถามเหตุผล

“หม่อมฉันแค่มาสอดส่อง มาดูว่าพระองค์เป็นอย่างไรบ้างกับงานราชการในวันนี้ มิรู้ว่าจะเป็นการรบกวนถึงขนาดต้องให้พวกท่านลอร์ดต้องออกไปข้างนอก”

“เจ้ามาข้าก็หารือเสร็จพอดี”

“ดะ...เดี๋ยวสิเพคะ”

อัลเดนดึงเธอมานั่งตัดพร้อมซุกไซ้ซอกคอขาวบนบัลลังก์

“ไม่มีใครกล้าเข้ามาหรอกน่า...”

“เดี๋ยวพวกสนมก็บ่นน้อยใจพระองค์แย่”

“ช่างสิ...แค่เจ้ายอมคุยดี ๆ กับข้า ข้าก็พร้อมสลัดทุกคนทิ้ง”

เรื่องเร่าร้อนในค่ำคืนนั้น อัลเดนมิได้หวังเปลี่ยนใจมเหสีตัวเอง แต่หล่อนกลับมีทีท่านุ่มนวลและยอมคุยดี ๆ จึงได้คิดเอาเองว่านางยอมรับและเปิดใจให้ตนแล้ว

ผิดกับฟีโอน่าที่กล้ำกลืนฝืนทน และแสร้งทำเป็นว่าตนนั้นมีความสุขจากการบทบรรเลงแห่งการสมสู่ที่ได้ร่วมกันสร้าง

“ถ้าคืนนี้พระองค์จะ...”

“ข้าจะไปหาเจ้า” อัลเดนพูดแทรก เขารู้ว่านางจะพูดสิ่งใดและด้วยความดีใจจึงโพล่งออกไปโดยไม่รีรอ

“หม่อมฉันทูนลาเพคะ”

เมื่อแผนการดำเนินไปได้ด้วยดี ฟีโอน่าคิดจะแช่น้ำอุ่นและประทินผิวให้น่าหลงใหลมากกว่าเดิม หล่อนลุกจากตักสวามีแต่ก็โดนเขารั้งมืองามเอาไว้ จากนั้นจึงรู้สึกถึงจุมพิตอันอ่อนโยนที่พรมลงบนมือของตัวเอง

“ข้าขอโทษ มเหสีของข้า” อัลเดนเรียนรู้ว่าชีวิตสมรสที่ดำเนินมาจวบจนปัจจุบัน มันทำร้ายจิตใจหล่อนมากเพียงใด และเป็นตนที่ได้กระทำสิ่งเลวร้ายนั้นลงไป

“ล้านคำขอโทษคงไม่อาจลบล้างความชั่วช้าที่ท่านทำกับข้าหรอกอัลเดน”

ใบหน้าหวานอันยิ้มแย้มผิดกับพูดในใจที่ตอบกลับอย่างโกรธเคือง เขาคิดว่าคำพูดเพียงวลีเดียวจะลบล้างความคับแค้นในใจของหล่อนได้อย่างนั้นหรือ...

“หม่อมฉันจะรอนะเพคะ”

เมื่อได้ทีหันหลังกลับ รอยยิ้มเสแสร้งของราชินีได้มลายหายไปในทันที เรียวคิ้วงามขึงขังไปด้วยไฟแค้นพร้อมคำพูดในใจที่มิอาจจะเปล่งออกไปตะคอกใส่หน้าสวามีผู้น่ารังเกียจได้

“ความอ่อนโยนนี้ ท่านควรทำเพื่อพิชิตใจข้า มิใช่แสดงออกมาตอนท่านทำร้ายข้าไปแล้ว”