เมื่อเด็กสาวที่เขาเฝ้าทะนุถนอมมาตลอดยี่สิบเอ็ดปีโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง เขาจึงตัดสินใจหนี... แต่สุดท้ายแล้วเขาหรือจะหนีหัวใจตัวเองพ้น ยิ่งได้รับรู้ว่า ‘ลูกพุทรา’ กำลังจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ‘พ่อเลี้ยง’ ที่หลงรักเธอมาตลอดหรือจะยอมปล่อยนกน้อยให้หลุดจากกรงทอง!

คนนี้พ่อเลี้ยงขอ - : ตอนที่ 4 : My little Girl ปรเมษฐ์หรือจะเลิกเลี้ยงต้อย! (1) โดย พันพราย @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ครอบครัว,ดราม่า,พ่อเลี้ยง,โรมานซ์,NC,NC+,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

คนนี้พ่อเลี้ยงขอ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ครอบครัว

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,พ่อเลี้ยง,โรมานซ์,NC,NC+

รายละเอียด

เมื่อเด็กสาวที่เขาเฝ้าทะนุถนอมมาตลอดยี่สิบเอ็ดปีโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง เขาจึงตัดสินใจหนี... แต่สุดท้ายแล้วเขาหรือจะหนีหัวใจตัวเองพ้น ยิ่งได้รับรู้ว่า ‘ลูกพุทรา’ กำลังจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ‘พ่อเลี้ยง’ ที่หลงรักเธอมาตลอดหรือจะยอมปล่อยนกน้อยให้หลุดจากกรงทอง!

ผู้แต่ง

พันพราย

เรื่องย่อ

เมื่อเด็กสาวที่เขาเฝ้าทะนุถนอมมาตลอดยี่สิบเอ็ดปีโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง
เขาจึงตัดสินใจหนี... แต่สุดท้ายแล้วเขาหรือจะหนีหัวใจตัวเองพ้น
ยิ่งได้รับรู้ว่า ‘ลูกพุทรา’ กำลังจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตน
‘พ่อเลี้ยง’ ที่หลงรักเธอมาตลอดหรือจะยอมปล่อยนกน้อยให้หลุดจากกรงทอง!

คำนิยามของท้องฟ้า... อาจคือความอิสระ
สายน้ำ... อาจหมายถึงความรัก
ไม่ว่าจะเป็นน้ำหรือความรัก เป็นสิ่งที่ขาดไปเสียไม่ได้ สิ่งที่ลืมตาตื่นมาก็จะต้องใช้มัน ต้องอยู่กับมันในทุก ๆ วัน ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถมีชีวิตรอดหากปราศจากน้ำ แม้แต่ตัวของเขาเองที่พยายามละ เลิก ทิ้ง ลาจากน้ำโดยไม่สนใจว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้หรือไม่
นี่เขากำลังคิดถึงใคร...?
เด็กน้อยในความดูแลงั้นหรือ?
ยี่สิบเอ็ดปีแล้วที่พี่ชายของเขา ปองกานต์ได้หาภาระลูกมหึมามาให้ต้องรับภาระดูแลเด็กสาวมาจนถึงทุกวันนี้ หลังจากที่ได้รับรู้ความจริงจากภรรยาว่าลูกสาวที่เลี้ยงมากับมือไม่ใช่ลูกของตัวเอง
ต้นกล้าแข็งแรงได้รับการรดน้ำและพรวดดินเป็นอย่างดีเติบโตเป็นต้นไม้งาม ผลิดอกออกผลมีรากฐานมั่นคงจนเขาไม่ต้องห่วงอะไร
กระทั่งเสียงโทรศัพท์สั่นดังจากข้างหู
‘พุทรามีแฟนแล้วนะคะ พ่อเลี้ยง... พี่รหัสชื่อธามไท กำลังจะย้ายไปอยู่ด้วยกัน’
ร่างสูงลุกพรวดขึ้นกำโทรศัพท์แน่นยังกับว่าจะบีบมันให้แหลกคามือ ทะเลสีมรกตสดสวยละเลงด้วยเปลวเพลิงแห่งโทสะลึกลงไปในดวงตาของเขาเอง
“จะมีผัวเป็นตัวเป็นตน ไม่คิดบอกพ่อเลี้ยงเลยสักคำงั้นหรือ? พุทรา...!”


ฝากอีกหนึ่งผลงานไว้ในใจ
: นิยายดราม่าอีโรติก หวานฟินจิกหมอน
: คนนี้... พ่อเลี้ยงขอ!
: พ่ายรักนายเลขาฯเถื่อน

สารบัญ

คนนี้พ่อเลี้ยงขอ-เพื่อนรักเพื่อนร้าย XXX Best Friend or Bad Friend XXX,คนนี้พ่อเลี้ยงขอ-: ตอนที่ 1 : Palawan Island ทะเลเดือด! (1),คนนี้พ่อเลี้ยงขอ-: ตอนที่ 1 : Palawan Island ทะเลเดือด! (2),คนนี้พ่อเลี้ยงขอ-: ตอนที่ 2 : Wherever You Go โตแล้ว... จะไปไหนก็ได้ (1),คนนี้พ่อเลี้ยงขอ-: ตอนที่ 2 : Wherever You Go โตแล้ว... จะไปไหนก็ได้ (2),คนนี้พ่อเลี้ยงขอ-: ตอนที่ 3 : Sleeping Beauty เด็กดีไม่แกล้งหลับ (1),คนนี้พ่อเลี้ยงขอ-: ตอนที่ 3 : Sleeping Beauty เด็กดีไม่แกล้งหลับ (2),คนนี้พ่อเลี้ยงขอ-: ตอนที่ 4 : My little Girl ปรเมษฐ์หรือจะเลิกเลี้ยงต้อย! (1),คนนี้พ่อเลี้ยงขอ-: ตอนที่ 4 : My little Girl ปรเมษฐ์หรือจะเลิกเลี้ยงต้อย! (2)

เนื้อหา

: ตอนที่ 4 : My little Girl ปรเมษฐ์หรือจะเลิกเลี้ยงต้อย! (1)

ปรายลดาเป็นเด็กกตัญญูรู้คุณต่อผู้มีพระคุณเสมอ แม้ยังมีความรู้สึกขุ่นเคืองใจพ่อเลี้ยงอยู่ เธอเคยทำหน้าที่ดูแลเขาอย่างไร ยังทำเหมือนเดิมไม่มีขาดตกบกพร่อง

แต่เช้ามาไข้ที่ลดลงมากแล้วทำให้พอลุกไหว เธอจึงเข้าครัวไปทำอาหารง่าย ๆ เอาเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าเดินทางของเขาใส่ไม้แขวนไว้อีกฝั่งถัดจากเสื้อผ้าของเธอ ของใช้ผู้ชายก็นำไปไว้ในห้องน้ำ วางข้าวต้มลงบนโต๊ะแล้วครอบฝาไว้

การกระทำทุกย่างก้าวอยู่ในแววตาคู่คมเข้มประกายจรัสคู่หนึ่งของคนที่นอนเหยียดกายอยู่บนโซฟาในชุดทำงานชุดเดิมของเมื่อวาน

ความร้อนรุ่มในเรือนกายชายแกร่งสะสมมาร่วมสองเดือน กับการที่เขาต้องไปอยู่คนเดียวลำพัง ไกลถึงเกาะสวรรค์อย่างปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ มันเหมือนน้ำเดือด ๆ ในกระติกน้ำร้อนที่ใส่น้ำเยอะเกินไป

มันอาจจะระเบิด... หรือเครื่องพังตอนไหนก็ได้

ปรเมษฐ์คิดว่าเธอน่าจะรู้...

จากขอบตาแดงช้ำใต้ดวงตาคู่สวยที่ยังคงลอบมองโซฟาหน้าโทรทัศน์จอแอลซีดีอยู่บ่อย ๆ ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวเสือโหย ดูท่าทางว่าจะอยากเป็นอาหารเสืออีกต่างหาก

ร่างบางในชุดนักศึกษาค่อย ๆ นั่งลงบนโซฟาข้างคนที่นอนขี้เกียจอยู่กับผ้านวมหนา “พี่เปาจะกินข้าวเลยไหม? จะกินน้ำอะไร พุดจะลงไปเซเว่น ไปซื้อให้”

“พี่กินแค่ข้าวพุดก็พอแล้ว เราน่ะ.. ไปเรียนไหวหรือไง พี่ว่าไปหาหมอก่อนไหม? เรียนเมื่อไรก็ได้ ถ้าไม่ไหวก็ดรอปไปก่อน”

“พุดไปหาหมอมาแล้วค่ะ พุดมียากิน ยังไงก็ต้องไป พุดอยากเรียนจบไว ๆ” ในประโยคหลังกระตุกหัวใจอยู่ไม่น้อย หากว่าสาวน้อยของเขาจะไปมีชีวิตของตัวเองเหมือนที่เธอกำลังทำ จะอย่างไร ความเป็นห่วงนั้นมีมากกว่า

เมื่อปรายลดาพยายามปกปิดอาการป่วยไว้ด้วยเครื่องสำอางอ่อน ลิปสติกสีชมพูหวาน เป็นอะไรที่เขาไม่ชอบเอาเสียเลย

“พุดไปหาหมอตอนไหน กินยาอะไร?”

คนถูกถามเงียบไปครู่จึงตอบ “พุดเป็นไข้บ่อย กินยาเดิมนั่นแหละ อาการมันเหมือนเดิม”

“เป็นไข้อะไรบ่อย ๆ?” ในสีหน้าสงสัย ปรเมษฐ์คงไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ จนกว่าเขาจะได้คำตอบ “เราปิดบังอะไรพี่?”

“พุดไปเรียนก่อน ค่อยกลับมาคุยได้ไหมคะ?”

“มีเรียนกี่โมงล่ะ? มออยู่ใกล้ ๆ แค่นี้ไม่ใช่เหรอ”

นิสัยของปรายลดาคือตื่นก่อนเวลาไปโรงเรียนหลายชั่วโมง เพราะต้องทำหน้าที่แม่บ้าน แม่ครัว ที่เธอต้องยอมเหนื่อยขนาดนั้นเพราะถ้าไม่มีปรเมษฐ์แล้ว ในวันที่พ่อปองกานต์ทิ้งเธอไป เธอคงจะต้องไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า ไม่ได้อยู่บ้านหลังใหญ่ ๆ มีชีวิตสุขสบายขนาดนี้

เธอผ่อนลมหายใจออกครั้งหนึ่ง “พุดอยู่ก่อนก็ได้... พี่เปาจะกินข้าวก่อนไหม? พุดเก็บของของพี่เปา ทำกับข้าว ทำอะไรเสร็จหมดแล้ว”

ในน้ำเสียงอ่อนลงเป็นคนละคนกับหญิงสาวที่โกรธจัดเอาแต่ร้องไห้เมื่อวาน ร่างสูงหยัดกายลุกขึ้นนั่งบนโซฟานุ่มที่นอนหลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดคืน สะบัดผ้าห่มออกวางไว้ข้างกายลวก ๆ

“เรากินข้าวกินยาให้เรียบร้อย เดี๋ยวพี่จะไปส่ง...”

“ค่ะ” คำตอบสั้น ๆ ในสีหน้านิ่งเรียบมีความไม่พอใจแฝงอยู่ ผ้านวมหนาที่เขาสะบัดไป เธอแค่ลุกขึ้นไปพับมันให้เรียบร้อย

ปรายลดาควรจะบ่นว่าทำไมเขาถึงได้เป็นผู้ชายซกมก ไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง แต่เป็นเพราะว่าเธอไม่บ่นอะไรสักคำ ชายหนุ่มตาละห้อยมองตามท่าทางเย็นชาไร้เยื่อใย กระทั่งว่าเธอเก็บผ้าห่มหมอนของเขาเสร็จ

“พุด... ยังโกรธพี่ใช่ไหม?”

“พุดจะมีสิทธิ์อะไรไปโกรธพี่เปา.. พี่จะอยู่หรือไป พุดเป็นแค่ลูกเลี้ยง พุดทำได้แค่อยู่ตรงนี้ หน้าที่ของพุดคือเรียนหนังสือให้จบ” เธอมั่นใจในคำพูดของตัวเองทุกถ้อยคำและยังทำหน้าที่ของตัวเองดี แม้ความอดทนใกล้สิ้นสุดลงเต็มทีกับทุก ๆ ครั้งที่เขาทิ้งเธอไปและกลับมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“พี่จะไม่ไปไหนแล้ว กลับมาเป็นเหมือนเดิมนะพุด เลิกโกรธอะไรไร้สาระน่ะ” ปรเมษฐ์ไม่ขอโทษ ยังไม่ชอบการอ้อนวอนใคร ใบหน้าสดสวยชะงักนิ่ง หม่นหมองกว่าเก่าขณะแค่นยิ้ม

“แน่ใจหรือคะ... ว่าพี่เปาจะเป็นได้?”

คำถามเจือแววเจ็บปวดสร้างความหวาดหวั่นให้เกิดขึ้นในใจชายหนุ่ม ยิ่งปรายลดาเยือกเย็นจนดูเหมือนว่าเธอไม่ใช่คนเดิมที่เขาเคยรู้จัก

“พี่ทำมันไม่ได้หรอก... เชื่อพุดสิ...”

“ก็คอยดูไปละกันว่าพี่จะดูแลเราเหมือนเดิมไหม ไปกินข้าว กินยาได้แล้ว” น้ำเสียงเคร่งขรึมยืนกรานว่าห้ามโต้แย้งใด ๆ เขาลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะรับประทานอาหารไม่กี่ก้าว

ห้องขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป ผสมผสานไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ใช้ห้อง ๆ หนึ่งเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและทำงาน ผนังสีขาวกั้นแบ่งแยกเป็นสัดส่วน มีครัวขนาดเล็กและโต๊ะรับประทานอาหารสองตัว

กลิ่นหอมกรุ่นของอาหารฝีมือแม่ครัวคนเดิมจากโต๊ะรับประทานอาหารให้ความรู้สึกเหมือนว่าเขาอยู่ที่บ้าน ชายหนุ่มนั่งลงดีแล้วจึงถาม “พี่แป๋วกับแม่บอกว่าพุดซื้อห้องเองนี่ พี่แต่งให้ใหม่เหมือนเดิมดีไหม?”

“ไม่ค่ะ แบบนี้ดีแล้ว พุดเบื่อสีชมพู” ไม่พูดเปล่า พอนั่งลงในฝั่งตรงข้ามกันกับเขา เธอมีความคิดบางอย่าง...

“ที่พี่เปาว่าให้พุดเป็นเหมือนเดิม มันควรจะเป็นช่วงเวลาไหนดี? ตอนพุดตัวเล็ก ๆ ตอนสิบขวบ หรือว่า... บนเตียงนอนก่อนที่พี่จะทิ้งพุดไป”

ปรเมษฐ์กลืนน้ำลายลงคอจนเกิดเสียง เขาพยายามทำตัวให้เป็นปรกติในทุก ๆ มื้อเช้า ก้มหน้าตักอาหารเขาปาก

“แล้วแต่พุด... พี่เป็นคนอยากกลับมาอยู่กับพุด พี่จะไปบังคับอะไรพุดได้”

“งั้น... พุดยังไม่หิว พุดจะนั่งเล่นมือถือ ค่อยกินข้าวอีกสิบนาที” ว่าแล้วเธอก็จ้องเขาด้วยแววตาวาววับอย่างท้าท้าย

เสียงกระทบกันของช้อนที่หล่นลงในจานดังเคร้ง! เมื่อภาพของอดีตในวัยเยาว์ของปรายลดาผุดเข้ามาในหัว

“เด็กดีไม่เล่นมือถือเกินสิบนาที”

ร่างบางหยัดกายลุกขึ้นจากที่นั่งมาหยุดยืนข้าง ๆ ตาคมเหลือบมองตามอย่างหวาดหวั่น เธอไม่ได้ใช่เด็กตัวเล็ก ๆ ที่จะทำเรื่องแบบนั้นได้

“พี่... จะกินข้าวยังไง?”

“เมื่อก่อนพี่เปาก็กินได้นี่... ทำไมตอนนี้จะกินไม่ได้” เธอยิ้มอย่างที่เคยคือฉีกยิ้มกว้าง คว้าท่อนแขนใต้ชุดนอนลายขวางไปอีกทาง แล้วหย่อนก้นนั่งลงบนตักแกร่ง โดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรนอกจากวางมือไว้ที่เดิมคือบนโต๊ะ

ร่างนุ่มหอมในชุดนักศึกษาทำเอาสั่นไปทั้งตัว! ความคิดของชายหนุ่มปรากฎอยู่ในสายตาหื่นกระหาย ซึ่งเขาต้องผ่อนลมหายใจออกเฮือกหนึ่ง

“พุด... พุดรู้ว่าพี่ไปเพราะอะไร พุดเป็นแบบนี้พี่ลำบากใจนะ”

เธอยิ้มกับคำพูดของเขาแทนที่จะโกรธหรือน้อยอกน้อยใจ มันเป็นยิ้มที่ปรากฏให้เห็นแม้กระทั่งในแววตา “พุดรักพี่เปา... รักจนอาจจะตายเมื่อไรก็ได้ ถ้าพุดตายคงไม่ได้เผา พุดบริจาคอวัยวะให้โรงพยาบาลไปละ”

“พี่ไม่ชอบฟังเรื่องตาย...”

“พุดแค่บอก” เธอบอกแล้วอิงแอบกายแนบชิด ซบใบหน้าลงบนแผงอกกว้างกำยำ เพื่อที่จะกดจอสี่เหลี่ยมอย่างที่ไม่รู้เหมือนกันว่ากดมันไปเพื่ออะไร

ใจของเธอพร้อมจะกลับไปเด็กสิบห้าขวบอีกครั้ง เธอชอบที่จะนั่งตักเขาเล่นโทรศัพท์ไปแบบนี้จนหลับ สุดท้ายก็ไม่ได้กินข้าว...

มันจึงเป็นปัญหาใหญ่ของปรเมษฐ์ ในสมัยที่เขายังเป็นเสือผู้หญิง เขาดันมีความคิดอกุศลกับเด็กสาววัยสวยสะพรั่งอยู่บ่อย ๆ และต้องคอยหักห้ามใจเพราะยังมีสำนึกความดีความชั่วอยู่ในใจเสมอ จนต้องหาที่ระบายอารมณ์ไปเรื่อยเปื่อย

ทุกวันนี้เขาแค่กลายเป็นเสือสิ้นลายไร้เขี้ยวเล็บ... ที่กลัวแม้กระทั่งเด็กอายุยี่สิบเอ็ดย่างเข้ายี่สิบสองปี

“พุด... ไม่ต้องเล่นมือถือจนครบสิบนาทีก็ได้มั้ง เดี๋ยวไปเรียนสายหรอก” ตาคมเหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนังครั้งหนึ่ง แล้วหลุบดวงตาสุกใสที่เหลือบขึ้นมองอย่างไม่ได้ให้คำตอบอะไรเขา

กลิ่นหอมอ่อนของเส้นผมสีดำขลับหลังสระไดร์ใหม่ ๆ ใบหน้าสดสวยที่เชยขึ้นมองกรามแกร่งที่มีเคราเขียวครึ้มขึ้นแซม พาเสียงดังสะท้านสะเทือนจากอกของเขาและเธอเกือบจะเป็นเสียงเดียวกัน

มีบางอย่างเกิดขึ้น...

มันเป็นเรื่องปรกติของผู้ชายที่ยังใช้งานได้เป็นอย่างดี

คนที่นั่งทับมันอยู่เต็มก้นรู้สึกได้ว่าพ่อเลี้ยงแอบซ่อนความยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างขนาดไหนไว้ในกางเกงนอน! มันอยู่ในองศาที่คงจะสามารถสอดใส่กันได้อย่างพอดิบพอดีหากไม่มีเสื้อผ้ามาขวางกั้น

เสียงกริ่งดัง... ช่วยชีวิตคนทั้งคู่ โดยเฉพาะชายหนุ่มที่นั่งแข็งไปทั้งตัว โดยเฉพาะตรงนั้น...

“สงสัยปริมจะมารับ... ไม่ต้องกวนพี่แล้วล่ะ ตามสบายนะคะ” เสียงหวานเอ่ยพลันลุกพรวด เก็บโทรศัพท์มือถือลงในกระเป๋าผ้าอย่างรวดเร็ว ปรายลดาแทบวิ่งออกไปจากห้องของตัวเอง ทิ้งคนข้างหลังไว้กับความหงุดหงิดงุ่นง่านในห้องเปลี่ยว ๆ ลำพัง