ในค่ำคืนที่ยาวนานและยังเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือด ทว่าสำหรับคนทั่วไปอาจมองว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ไม่ใช่สำหรับคาร์เตอร์ แวมไพร์ผู้ไม่เคยตายแม้จะผ่านมาหลายร้อยปี ในขณะที่ผู้คนบนโลกค่อยๆ ร่วงโรยแต่เขาก็ยังคงอยู่ และยังคงตามหาหญิงสาวเลือดบริสุทธิ์ ที่เกิดในคืนพระจันทร์สีเลือด ดังนั้นหากวันไหนที่พระจันทร์แปลเปลี่ยนเป็นสีเลือด นั้นก็เหมือนพระเจ้ากำลังให้พรเขา คาร์เตอร์ยืนมองทารกน้อยหลายคนที่ กำลังร้องไห้แข่งกันด้วยสายตาค้นหา แต่ก็เจอแต่ความผิดหวังอยู่ร่ำไป “ไม่มีสักคนที่มีกลิ่นเลือดหอมหวา

แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) - ตอนที 1 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p ) โดย แสงฉาย จอมเกล้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ไทย,อื่นๆ,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ไทย,อื่นๆ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

ในค่ำคืนที่ยาวนานและยังเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือด ทว่าสำหรับคนทั่วไปอาจมองว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ไม่ใช่สำหรับคาร์เตอร์ แวมไพร์ผู้ไม่เคยตายแม้จะผ่านมาหลายร้อยปี ในขณะที่ผู้คนบนโลกค่อยๆ ร่วงโรยแต่เขาก็ยังคงอยู่ และยังคงตามหาหญิงสาวเลือดบริสุทธิ์ ที่เกิดในคืนพระจันทร์สีเลือด ดังนั้นหากวันไหนที่พระจันทร์แปลเปลี่ยนเป็นสีเลือด นั้นก็เหมือนพระเจ้ากำลังให้พรเขา คาร์เตอร์ยืนมองทารกน้อยหลายคนที่ กำลังร้องไห้แข่งกันด้วยสายตาค้นหา แต่ก็เจอแต่ความผิดหวังอยู่ร่ำไป “ไม่มีสักคนที่มีกลิ่นเลือดหอมหวา

ผู้แต่ง

แสงฉาย จอมเกล้า

เรื่องย่อ

ในค่ำคืนที่ยาวนานและยังเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือด ทว่าสำหรับคนทั่วไปอาจมองว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ไม่ใช่สำหรับคาร์เตอร์

แวมไพร์ผู้ไม่เคยตายแม้จะผ่านมาหลายร้อยปี ในขณะที่ผู้คนบนโลกค่อยๆ ร่วงโรยแต่เขาก็ยังคงอยู่ และยังคงตามหาหญิงสาวเลือดบริสุทธิ์ ที่เกิดในคืนพระจันทร์สีเลือด

ดังนั้นหากวันไหนที่พระจันทร์แปลเปลี่ยนเป็นสีเลือด นั้นก็เหมือนพระเจ้ากำลังให้พรเขา

คาร์เตอร์ยืนมองทารกน้อยหลายคนที่ กำลังร้องไห้แข่งกันด้วยสายตาค้นหา แต่ก็เจอแต่ความผิดหวังอยู่ร่ำไป

“ไม่มีสักคนที่มีกลิ่นเลือดหอมหวา

สารบัญ

แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 1 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p ),แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 2 แมไพร์ล่าสวาท (3p ),แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 3 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) ,แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 4 แวมไพร์ล่าสวาท (3p ),แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 5 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p ),แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 6 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p ),แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 7 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p ),แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 8 แวมไพร์ล่าสวาท (3p ),แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 9 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p ) ,แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 10 แวมไพร์ล่าสวาท (3p ),แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 11 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p ),แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 12 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p )

เนื้อหา

ตอนที 1 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p )

ตอนที่1

 

ปี2022

ขาเรียวยาวก้าวเดินอย่างคล่องแคล่งว่องไว เธอต้องยกอาหารไปเสิร์ฟลูกค้าตามโต๊ะ ด้วยความที่เป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส ทำให้เธอได้ทิปจากลูกค้าเยอะเกินหน้าเกินตาเพื่อนร่วมงาน

บวกกับความขยัน ยิ่งทำให้เธอเป็นที่รักของเจ้านายและพนักงานรุ่นใหญ่

“เลิกงานแล้ว ไปดูหนังกันไหม” เพื่อนร่วมงานสาวเอ่ยถามหญิงสาว ที่ยืนเก็บของหน้าล็อกเกอร์ส่วนตัว

“วันหลังแล้วกัน” ดานิกาจำต้องปฏิเสธ เธอไม่ได้มีเวลาเที่ยวเล่นเหมือนคนอื่น พอเสร็จจากงานนี้ก็ไปทำงานอีกร้านต่อ เป็นร้านอาหารเหมือนกันแต่เปิดดึก

ด้วยความที่เธอมีภาระดูแลพ่อป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทำให้ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากในการรักษา ดานิกาจึงต้องทำงานหนักจนไม่ได้เรียนหนังสือเหมือนคนอื่น

ทว่าเธอไม่คิดน้อยใจในโชคชะตา

 

“เดี๋ยวอาทิตย์หน้าหมอจะนัดไปทำคีโม อดทนหน่อยนะพ่อ” ดานิกายื่นน้ำดื่มกับยาให้บิดา ที่นั่งพิงกับหัวเตียง ร่างกายผ่ายผอมไร้ผมเพราะโรคร้าย

“แกอย่าเสียเวลากับฉันอีกเลย” นาวินรู้ดีว่ารักษายังไงก็คงไม่หาย การที่ต้องทนทำคีโมแต่ละครั้งก็แสนจะเจ็บปวดซ้ำยังสิ้นเปลืองมาก

“พูดอะไรแบบนั้น หนูมีความสุขที่ได้ดูแลพ่อ”

“แกไม่เหนื่อยเหรอ” แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความห่วงใย ยกมือลูบหัวบุตรสาวอย่างให้กำลังใจ เขาไม่อยากเป็นภาระใครอีกแล้ว

หากมันไม่หาย ก็ของให้ตนจากโลกนี้ไปเสียที

“ไม่เหนื่อยสักนิด พ่อก็รู้ว่าหนูชอบทำงานแค่ไหน” ดานิกายิ้มให้พ่อคลายกังวล เธอไม่อยากเพิ่มความเครียดให้ท่านอีก

หลังจากที่นาวินได้ทำคีโมอีกรอบ เหมือนอาการจะยิ่งแย่ลง ดานิกายิ่งเป็นห่วงกลัวพ่อจะเป็นอะไรไป  เธอมีพ่อแค่คนเดียวหากนาวินจากไปโลกนี้คงเหงาน่าดู

“พ่อหนูจะมีโอกาสหายบ้างไหมคะหมอ”

“มันก็ขึ้นอยู่กับการตอบสนองขอยา หมอเคยบอกแล้วว่าการทำคีโมหากไม่ดีขึ้นก็แย่ลง” คุณหมอวัยกลางคนชี้แจง

“....” ใบหน้าเศร้าหมองก้มมองมือตัวเอง จนคุณหมอกังวลไปด้วย

“แต่อย่าพึ่งกังวลไป คนที่ทำคีโมร่างกายอ่อนเพลียเป็นเรื่องธรรมดามาก”

“ค่ะ” เช่นนี้ค่อยสบายใจขึ้นหน่อย แม้จะรู้ว่ามันเป็นแค่คำปลอบใจ

“จะต่อคีโมครั้งต่อไปไหม”

แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายมันสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเธอหาเงินแทบไม่ทัน ทว่าหากมันทำให้พ่อหาย เธอก็ยอมลำบาก

“ค่ะ จนกว่าพ่อจะหาย หรือรับไม่ไหว”ประโยคหลังเจือไปด้วยความเศร้าโศก

“โอเค หมอเป็นกำลังใจให้เสมอนะนิก้า”

 

หลังจากไปซื้อของในซุปเปอร์เสร็จ ดานิกาก็หอบข้าวของเดินไปตามทางฟุตบาต พร้อมกับกินไอติมไปด้วย ดวงตากลมโตเมียงมองไปทั่ว ก่อนจะสะดุดตาเข้ากับป้ายรับสมัครพนักงานส่งพิซซ่าเวลากลางคืน

เธอไม่เสียเวลาคิดนานเดินเข้าไปสมัครในร้านทันที หากเป็นเวลาช่วงสองทุ่มเธอวางจากงานร้านอาหารพอดี ไหนๆ ก็ต้องหาเงินเพิ่ม หากจะทำอีกงานคงพอช่วยให้หมุนเงินได้มากขึ้น

“งั้นเริ่มงานพรุ่งนี้นะ”

“ได้ค่ะ” ดานิกาชฉีกยิ้มดีใจ ที่ได้งานรวดเร็วทันใจแบบนี้

 

ดานิกาทำงานร้านอาหารอิตาเลี่ยนเป็นหลัก มีบางวันที่รับจ็อบเสริมไปล้างจานที่ร้านสเต็กบ้าง พอสองทุ่มเธอก็ไปรับงานส่งพิซซ่าต่อ แม้จะเหนื่อยแต่ก็สู้ไม่ถอยเพื่อหาเงินไปรักษาพ่อ

“พิซซ่ามาส่งค่ะ” ยืนรอลูกค้าหน้าประตูได้สักพัก ก่อนจะรับเงินแล้วเดินออกมา มองพิซซ่าถาดสุดท้ายที่ต้องเอาไปส่ง

แต่ก็ต้องขมวดคิ้วมองจีพีเอสบนจอดมือถือ สลับกับทางที่ชี้เข้าไปมันดันเป็นตรอกซอยเล็กที่ รถเข้าไปไม่ได้เธอจำต้องเดินเข้าไป

ดานิกากำชับเสื้อหนาวเข้ากับตัว เดินฝ่าละอองหิมะเข้าไป ทว่าพอยิ่งเข้ามาลึกแสงไฟยิ่งน้อย ซ้ำยังเงียบเหมือนไม่มีคนอาศัย ทั้งๆ ที่มีตึกรามบ้านช่องขนาบข้าง

“เฮ้ย!” หญิงสาวอุทานเสียงหลง เมื่ออยู่ๆ ก็มีคนเดินออกมาจากอาคารเก่า ที่สภาพเหมือนตึกร้าง ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าใช่คนหรือเปล่า

เธอควรจะถามให้คลายความกังวลหรือวิ่งหนีดี…

“อ้าวหนู มาส่งพิซซ่าใช่ไหม” ชายลึกลับคนดังกล่าวเดินเข้ามาใกล้ ดานิกาจึงเห็นเขาชัดขึ้น ชายผู้นี้อายุราวๆ สี่สิบกว่าเห็นจะได้ ดูดีเหมือนคนมีการศึกษาใยถึงมาอยู่ในที่แบบนี้

“คะ…ค่ะ”

“ฉันโทมัสนะ เป็นคนสั่งเองแหละ” โทมัสยื่นมือไปรับ เห็นเจ้าหล่อนมีท่าทีมึนงง มองเขาอย่างหวาดระแวงจึงยิ้มแสดงไมตรีให้ ไม่นานเจ้าหล่อนก็ยื่นถุงมาพร้อมกับรับเงินไป

เธอเห็นโทมัสขยับตัวจะหันหลังกลับ แต่ด้วยความสงสัยจึงเอ่ยรั้งเขาไว้

“คุณอยู่ที่นี่เหรอคะ” น้ำเสียงกล้าๆ กลัวๆ พลางมองไปอย่างระแวดระวัง

“เปล่าหรอก ฉันมาทำงาน”

หญิงสาวขมวดคิ้วสงสัย ดูจากตึกในซอยนี้น่าจะร้างหมด มันมีการจากงานด้วยหรือ ไหนจะบุรุษตรงหน้าบุคลิกการแต่งตัวเขาดูดีเกินกว่าจะอยู่แถวนี้

“งานที่นี่เหรอคะ”

“ใช่ เธอสงสัยอะไร” หรี่ตามองสาวน้อยรุ่นลูก

“เปล่าค่ะ” ไม่รู้ว่าเธอเสียมารยาทไปไหม “ขอโทษด้วย ขอตัวนะคะ”

“เดี๋ยว”

ดานิดาหันไปมองก่อนจะได้รับนามบัตรจากชายตรงหน้า

“นี้นามบัตรของฉัน”

“ให้ฉันทำไมคะ”

“เกิดวันหนึ่งเธอจะมาใช้บริการที่นี่” มุมปากหยักกดยิ้มไปหนึ่งที ก่อนจะเดินเข้าไปในอาคาร ทิ้งดานิกาให้ยืนมองตึกร้างนั้นสลับกับนามบัตรที่ได้มาก

ก่อนจะรู้สึกขนลุกขนชันรีบออกจากที่แห่งนี้ ไม่คิดว่าทำงานวันแรก จะได้เจอประสบการณ์ขนหัวลุกขนาดนี้

“นิก้า ช่วยหยิบนิยายเล่มนั้นมาให้พ่อหน่อย” น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยขอความช่วยเหลือ ดานิกาจึงหยิบนิยายเล่มโปรดให้ท่าน

เป็นเล่มที่เห็นพ่ออ่านไปไม่รู้กี่ครั้งแล้ว จนเธอเบื่อแทน

“ไม่เบื่อเหรอคะ”

“ไม่เคยเบื่อ” มือติดกระดูกลูบหน้าปกนิยาย แววตาเต็มไปด้วยความรัก 

“นิยายแวมไพร์เรื่องนี้มีดีอะไร พ่อถึงชอบอ่านนัก” เธอเคยซื้อนิยายแนวๆ นี้มาให้พ่อ ทว่านาวินกลับไม่เคยหยิบมาอ่านเลย

“แก็ก็ลองเอาไปอ่านดูสิ” น้ำเสียงนุ่มมองลูกด้วยรอยยิ้ม

“พ่อก็รู้ว่าหนูไม่ชอบอ่านหนังสือ” ใบหน้างอง้ำขณะพูด ทำเอานาวินขบขัน พอเห็นพ่อยิ้มได้เธอก็ใจชื่น

“นิยายเรื่องนี้แม่แกชอบอ่านมันมา พอแม่แกเสียพ่อก็เลยลองหยิบขึ้นมาอ่านบ้าง”

“...”

“เนื้อเรื่องมันก็ไม่ได้มีอะไรมาก แค่ตำนานความรักแวมไพร์กับมนุษย์ แต่พ่อแค่รู้สึกว่าอ่านเรื่องนี้ที่ไรเหมือนมีแม่ของลูกอยู่ใกล้ๆ”

“...”ดานิกายิ้มสุขใจยามเห็นบิดาสารยายอะไรเกี่ยวกับมารดา มันดูอบอวลไปด้วยความรัก ไหนจะสายตาเทิดทูนนั่นอีก

เธอล่ะอิจฉาแม่จริงๆ ที่เจอรักแท้