ในค่ำคืนที่ยาวนานและยังเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือด ทว่าสำหรับคนทั่วไปอาจมองว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ไม่ใช่สำหรับคาร์เตอร์ แวมไพร์ผู้ไม่เคยตายแม้จะผ่านมาหลายร้อยปี ในขณะที่ผู้คนบนโลกค่อยๆ ร่วงโรยแต่เขาก็ยังคงอยู่ และยังคงตามหาหญิงสาวเลือดบริสุทธิ์ ที่เกิดในคืนพระจันทร์สีเลือด ดังนั้นหากวันไหนที่พระจันทร์แปลเปลี่ยนเป็นสีเลือด นั้นก็เหมือนพระเจ้ากำลังให้พรเขา คาร์เตอร์ยืนมองทารกน้อยหลายคนที่ กำลังร้องไห้แข่งกันด้วยสายตาค้นหา แต่ก็เจอแต่ความผิดหวังอยู่ร่ำไป “ไม่มีสักคนที่มีกลิ่นเลือดหอมหวา
รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ไทย,อื่นๆ,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p)ในค่ำคืนที่ยาวนานและยังเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือด ทว่าสำหรับคนทั่วไปอาจมองว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ไม่ใช่สำหรับคาร์เตอร์ แวมไพร์ผู้ไม่เคยตายแม้จะผ่านมาหลายร้อยปี ในขณะที่ผู้คนบนโลกค่อยๆ ร่วงโรยแต่เขาก็ยังคงอยู่ และยังคงตามหาหญิงสาวเลือดบริสุทธิ์ ที่เกิดในคืนพระจันทร์สีเลือด ดังนั้นหากวันไหนที่พระจันทร์แปลเปลี่ยนเป็นสีเลือด นั้นก็เหมือนพระเจ้ากำลังให้พรเขา คาร์เตอร์ยืนมองทารกน้อยหลายคนที่ กำลังร้องไห้แข่งกันด้วยสายตาค้นหา แต่ก็เจอแต่ความผิดหวังอยู่ร่ำไป “ไม่มีสักคนที่มีกลิ่นเลือดหอมหวา
ในค่ำคืนที่ยาวนานและยังเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือด ทว่าสำหรับคนทั่วไปอาจมองว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ไม่ใช่สำหรับคาร์เตอร์
แวมไพร์ผู้ไม่เคยตายแม้จะผ่านมาหลายร้อยปี ในขณะที่ผู้คนบนโลกค่อยๆ ร่วงโรยแต่เขาก็ยังคงอยู่ และยังคงตามหาหญิงสาวเลือดบริสุทธิ์ ที่เกิดในคืนพระจันทร์สีเลือด
ดังนั้นหากวันไหนที่พระจันทร์แปลเปลี่ยนเป็นสีเลือด นั้นก็เหมือนพระเจ้ากำลังให้พรเขา
คาร์เตอร์ยืนมองทารกน้อยหลายคนที่ กำลังร้องไห้แข่งกันด้วยสายตาค้นหา แต่ก็เจอแต่ความผิดหวังอยู่ร่ำไป
“ไม่มีสักคนที่มีกลิ่นเลือดหอมหวา
ตอนที่4
พอเสร็จสิ้น อาการหน้ามืดก็เหมือนจะมาเยือน ความวิงเวียนวิ่งวนในหัวรู้สึกคลื่นใส้ เหมือนของเหลวในท้องวิ่งขึ้นมาบนคอจนเผลออ้วกลงพื้น
คาร์เตอร์ไม่ได้สนใจว่าเจ้าหล่อนจะเป็นเช่นไร นาทีนี้เขาเอาแต่เฝ้ามองลูกชายทั้งสองอย่างลุ้นระทึกแต่ทำไมยังไม่ตื่นอีก ตามตำรามันเขียนบอกวิธีแก้ไว้เช่นนี้ไม่ใช่หรือ
“ท่านครับให้เธอกลับได้หรือยัง” ไซอันเห็นใจสาวน้อยตรงหน้าที่อาการไม่ดี
“ยังก่อน” ใบหน้าเครียดมองบุตรชายสองคนสลับกัน
“รอให้เอ็ดเวิร์ดกับแพทริคฟื้นขึ้นมาก่อน” เผื่อมันไม่ได้ผลเขาจะได้ใช้เธออีก
ไม่กี่วินาทีต่อมาชายหนุ่มทั้งสองที่หลับใหลไปร้อยปี ก็ลืมตาโพรงขึ้นมาพร้อมกัน คาร์เตอร์ดีใจจนฉีกยิ้มออกมา นับว่าความพยายามของตนไม่สูญเปล่า
“เอ็ดเวิร์ด แพทริค”
สองแวมไพร์หนุ่มที่หลับมานานยังไม่มีสติครบร้อย แถมยังมีอาการคลุ้มคลั่ง กลิ่นเลือดอันหอมหวานกระตุ้นสัญชาตญาณนักล่าให้ตื่นได้เป็นอย่างดี
ก่อนคนทั้งคู่จะพุ่งไปหาสาวน้อยร่างบาง ดานิกาตกใจกลัวจนตัวสั่น พยายามถอยหนีแต่พวกเขากลับเบียดเธอเข้ากับผนัง
“อย่านะ ได้โปรด” เธอหลับตาร้องขอชีวิตแฝดที่แยกเขี้ยวใส่หมายจะกัดคอเธอ แต่ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ฟัง
“อร้าย!”
คาร์เตอร์เข้ามาดึงลูกชายไว้ได้ทัน ก่อนจะสั่งการ
“เอาเธอกลับไปส่งได้แล้ว”
ไซอันกับทัคเกอร์จึงเข้าไปพยุงเธอออกมา หญิงสาวนั่งสั่นมาตลอดทาง กลายคนสติหลุดไปเลย ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแวมไพร์มีจริง เธอเผชิญหน้ากับพวกเขา แล้วก็ยังให้เลือดอีกด้วย!
ก๊อกๆ
“นิก้า”
เสียงเคาะประตูทำให้คนใจลอยสะดุ้งตกใจ ก่อนจะถอนหายใจยามได้ยินเสียงบิดาเรียก ดานิกาเปิดประตูมองพ่อที่ยืนคิ้วขมวดใส่
“พ่อมีอะไร”
“แกเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องมาสองวันแล้วนะ” ปกติเขาเห็นลูกสาวเอาแต่ทำงาน กลับบ้านทีก็ดึกดื่น แต่สองวันนี้มีความผิดปกติ เลยขึ้นมาดูด้วยความห่วงใย
“ลาออกไปหมดแล้ว”
“ทำไมกัน”
“มีงานใหม่ที่ดีกว่าน่ะ” หญิงสาวทำตัวโกหกเพื่อให้พ่อสบายใจ แต่เธอคงลืมไปว่านาวินเซ้าซี้เก่งกว่าที่คิด
“งานอะไรกัน” หรี่ตามองจับผิด
“แกไปทำงานผิดกฎหมายเหรอ”
คนมีชนักติดหลังถึงกับใจเต้นรัวใบหน้าร้อนผ่าว
“บ้า!” ใบหน้าเลิกลักก่อนจะทำเฉไฉ
“หนูออกไปซื้อของดีกว่า”
ผ่านมาไม่ถึงสองอาทิตย์ ดูเหมือนอาการของเอ็ดเวิร์ดกับแพททริคยังไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ พวกเขามักจะเกิดอาการคลุ้มคลั่ง หิวเลือดสดๆ จากกายมนุษย์ หนักสุดถึงขั้นนทำลายข้าวของ
เพล้ง!
เสียงตู้เสื้อผ้าลอยลิ่วไปปะทะกำแพงดังลั่น จนห้องมีสภาพยับเยินไม่ต่างจากกองขยะ ทัคเกอร์กับไซอันเข้าไปจับแฝดไว้ ก่อนจะทำการมัดทั้งคู่ด้วยเชือกกักแวมไพร์
“ปล่อยข้าไซอัน” ตะโกนใส่หน้าลูกน้อง ทั้งแยกเขี้ยวเหมือนหมาบ้า พร้อมจะกัดคนได้ทุกเมื่อ
“ข้าหิว” แพทริคร้องประท้วงบอกความต้องการบ้าง
ในจังหวะที่คาร์เตอร์เดินเข้ามา ด้วยใบหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์ ที่ลูกชายทั้งสองยังคลุ้มคลั่งไม่หายสักที หรือเป็นเพราะหลับนานไปหน่อย เลยปรับตัวไม่ค่อยได้ คงต้องให้เวลาสองแฝดสักพัก
“ท่านพ่อ” เอ็ดเวิร์ดเอ่ย “ท่านจะขังพวกข้าไว้นานแค่ไหน”
“จนกว่าพวกเจ้าจะเลิกคลุ้มคลั่ง แล้วเป็นปกติเหมือนแวมไพร์ทั่วไป”
“พวกข้าไม่ปกติเช่นไร” แพทริคย้อนถาม
คาร์เตอร์ถึงกับถอนหายใจ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทั้งสองคนจะหายจากอาการหลงยุคเสียที ระหว่างนี้เขาจำเป็นต้องขังเอาไว้ก่อน หากปล่อยให้อิสระหวั่นจะก่อเรื่องเข้าสักวัน
“ข้าต้องการเลือด”แพทริคยังคงร้องขอ คาร์เตอร์จึงสั่งให้ทัคเกอร์ไปหามา
จากนั้นคาร์เตอร์ก้มจับไหล่แพทริค ก่อนจะยื่นแก้วเลือดจ่อริมฝีปากอีกฝ่าย แพทริคมีทำท่าต่อต้าน
“กินซะ” คาร์เตอร์ก็บังคับเสียงแข็ง
“ข้าต้องการเลือดจากจากมนุษย์”
“เจ้าทำแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป พวกเจ้าฆ่ามนุษย์ไม่ได้”
หากผิดใจกับพวกมนุษย์ แวมไพร์เช่นพวกเขาคงได้สูญพันธ์ในเร็ววัน สิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ล้วนต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้เขากับโลก
ร่างสูงใหญ่กอดอกมองไกลออกไปในยามค่ำคืน พรางยกแก้วโลหิตขึ้นมาดอมดม แววตาเต็มไปด้วยประกายแห่งความหวัง ก่อนจะฉีกยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“ได้ตัวมันมาไหม”
“ยังครับ”
เพียงแค่นั้นแก้วเลือดถึงกับลอยลิ่วใส่หน้าคนที่เข้ามารายงานข่าว นิธาน โจเซฟ ตรงเข้าไปบีบคอลูกน้อยด้วยความโมโห
“แค่มนุษย์ตัวเล็กยังจับมันมาไม่ได้ แกมันโคตรจะกระจอกเลยว่ะ” ใบหน้าถมึงทึงจ้องซันอย่างเอาเป็นเอาได้
ซันได้แต่กำหมัดระบายความโกรธที่โดนหยาม
“ผมจะพยายามให้มากกว่านี้”
“พยายาม” น้ำเสียงเย้ยหยันบ่งบอกความรู้สึก ก่อนจะผลักซันออกห่าง “ไปเอาตัวมันมาให้ได้”
“ครับ”
เขาอุตส่าห์เจอเลือดหายาก จึงให้ลูกน้องตามสืบเจ้าของ หากเขาได้ดื่มเลือดเธอจนหมดตัว เขาคงสามารถใช้แขนอีกข้างได้ปกติ โจเซฟมองแขนข้างซ้ายที่ไร้เรี่ยวแรง จากการโดนลอบทำร้ายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
ทว่าการได้เลือดมนุษย์คนนั้นมาดื่ม เขาอาจจะดีขึ้นหายเป็นปกติ