ในค่ำคืนที่ยาวนานและยังเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือด ทว่าสำหรับคนทั่วไปอาจมองว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ไม่ใช่สำหรับคาร์เตอร์ แวมไพร์ผู้ไม่เคยตายแม้จะผ่านมาหลายร้อยปี ในขณะที่ผู้คนบนโลกค่อยๆ ร่วงโรยแต่เขาก็ยังคงอยู่ และยังคงตามหาหญิงสาวเลือดบริสุทธิ์ ที่เกิดในคืนพระจันทร์สีเลือด ดังนั้นหากวันไหนที่พระจันทร์แปลเปลี่ยนเป็นสีเลือด นั้นก็เหมือนพระเจ้ากำลังให้พรเขา คาร์เตอร์ยืนมองทารกน้อยหลายคนที่ กำลังร้องไห้แข่งกันด้วยสายตาค้นหา แต่ก็เจอแต่ความผิดหวังอยู่ร่ำไป “ไม่มีสักคนที่มีกลิ่นเลือดหอมหวา

แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) - ตอนที 7 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p ) โดย แสงฉาย จอมเกล้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ไทย,อื่นๆ,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ไทย,อื่นๆ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

ในค่ำคืนที่ยาวนานและยังเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือด ทว่าสำหรับคนทั่วไปอาจมองว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ไม่ใช่สำหรับคาร์เตอร์ แวมไพร์ผู้ไม่เคยตายแม้จะผ่านมาหลายร้อยปี ในขณะที่ผู้คนบนโลกค่อยๆ ร่วงโรยแต่เขาก็ยังคงอยู่ และยังคงตามหาหญิงสาวเลือดบริสุทธิ์ ที่เกิดในคืนพระจันทร์สีเลือด ดังนั้นหากวันไหนที่พระจันทร์แปลเปลี่ยนเป็นสีเลือด นั้นก็เหมือนพระเจ้ากำลังให้พรเขา คาร์เตอร์ยืนมองทารกน้อยหลายคนที่ กำลังร้องไห้แข่งกันด้วยสายตาค้นหา แต่ก็เจอแต่ความผิดหวังอยู่ร่ำไป “ไม่มีสักคนที่มีกลิ่นเลือดหอมหวา

ผู้แต่ง

แสงฉาย จอมเกล้า

เรื่องย่อ

ในค่ำคืนที่ยาวนานและยังเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือด ทว่าสำหรับคนทั่วไปอาจมองว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ไม่ใช่สำหรับคาร์เตอร์

แวมไพร์ผู้ไม่เคยตายแม้จะผ่านมาหลายร้อยปี ในขณะที่ผู้คนบนโลกค่อยๆ ร่วงโรยแต่เขาก็ยังคงอยู่ และยังคงตามหาหญิงสาวเลือดบริสุทธิ์ ที่เกิดในคืนพระจันทร์สีเลือด

ดังนั้นหากวันไหนที่พระจันทร์แปลเปลี่ยนเป็นสีเลือด นั้นก็เหมือนพระเจ้ากำลังให้พรเขา

คาร์เตอร์ยืนมองทารกน้อยหลายคนที่ กำลังร้องไห้แข่งกันด้วยสายตาค้นหา แต่ก็เจอแต่ความผิดหวังอยู่ร่ำไป

“ไม่มีสักคนที่มีกลิ่นเลือดหอมหวา

สารบัญ

แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 1 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p ),แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 2 แมไพร์ล่าสวาท (3p ),แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 3 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) ,แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 4 แวมไพร์ล่าสวาท (3p ),แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 5 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p ),แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 6 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p ),แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 7 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p ),แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 8 แวมไพร์ล่าสวาท (3p ),แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 9 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p ) ,แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 10 แวมไพร์ล่าสวาท (3p ),แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 11 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p ),แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p) -ตอนที 12 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p )

เนื้อหา

ตอนที 7 แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p )

ตอนที่7

 

กว่าจะเช้าร่างกายเธอก็แทบพัง ก่อนจะค่อยๆ พยุงตัวลุกจากเตียง มองบุรุษทั้งสองที่นอนขนาบข้างพวกเขายังหลับอยู่ เธอยกนาฬิกาข้อมือมาดู นี้ก็เกือบเที่ยงแล้ว

ที่เขาว่ากันว่าแวมไพร์จะนอนตอนเช้า เห็นท่าจะจริง

ตอนนี้เธอไม่รู้จะเอายังไงดี จะหนีหรืออยู่ที่นี่เพื่อความปลอดภัย สุดท้ายดานิกาก็เลือกที่จะหนี เพราะเธอเป็นห่วงพ่อที่ป่วย หญิงสาวๆ ค่อยเปิดประตูย่องออกมาเบาๆ ราวกับกลัวสองแวมไพร์นั้นจะตื่น ทว่ายังไม่ทันได้เดินไปไหนกันก็ได้ยินเสียงเอ่ยทัก

“หิวรึเปล่า”

เสียงที่ดังมาจากข้างหลังทำให้เธอหันไปมอง เห็นผู้หญิงวัยกลางคนยืนยิ้มให้ แต่ด้วยความที่ยังไม่ชินเลยทำให้ตื่นกลัว และเหมือนผู้หญิงคนนั้นจะรู้ความคิดดานิกา

“ฉันเป็นมนุษย์ ไม่ต้องกลัวฉันหรอก”

“คุณเป็นเหมือนฉันเหรอ”

“ใช่ ฉันไม่ทำร้ายเธอ” ว่าจบก็เข้าไปจับแขน หวังให้หญิงสาวรุ่นลูกสบายใจ ดานิกาถึงกับถอนหายใจตัวเธออุ่นไม่เหมือนแวมไพร์

“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ไง” แต่ถึงกระนั้นดานิกาก็ยังสงสัยไม่เลิก คนดีๆ ที่ไหนจะมาอยู่ในดงแวมไพร์

“ฉันเป็นแม่บ้าน”

คนฟังตาโต เพราะมันดูบ้ามาก

“ฉันมาทำแค่งานตอนเช้า มานี่สิ” ไม่พูดเปล่ายังดึงเธอให้เดินตาม                  

  “ฉันได้รับคำสั่งให้ดูแลเธอ”

“ดูแลฉันเนี่ยนะ” แทบไม่อาจเชื่อหูตัวเอง เธอเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา ต้องได้รับการปฏิบัติที่ดีด้วยหรือ แต่ยิ่งเดินตามแม่บ้านเข้ามาเรื่อยๆ ยิ่งทำให้เธอได้แต่ทำตาค้าง เพราะคฤหาสน์แห่งนี้มันโอ่อ่า อลังการราวประติมากรรมระดับโลก แม้กระทั้งห้องอาหารที่เธอนั่งอยู่ตอนนี้ ถ้าไม่ติดว่านี้คือที่อยู่แวมไพร์เธอคงคิดว่าตัวเองกำลังฝันอยู่เป็นแน่

ดานิกามองสเต็กที่จัดจานมาอย่างปราณีต เหมือนในร้านอาหารชื่อดัง ทำให้เธอลอบกลืนน้ำลายลงคอ กลิ่นหอมๆ ของมันยั่วความอยากเสียเหลือเก้น

“ให้ฉันเหรอคะ” ถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ ป้าแม่บ้านทำเพียงพยักหน้า

“ปลอดภัยใช่ไหม”

“ฉันไม่ทำอะไรคุณหรอกค่ะ อย่าห่วงเลย”

เพียงเท่านั้นเธอก็ลงมือจัดการอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ทว่ารสชาติยังอร่อยจนไม่อยากเชื่อ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามในสิ่งที่อยากรู้

“ทำไมถึงมาทำงานที่นี่คะ ไม่รู้เหรอว่าที่นี่มีแวมไพร์”

“รู้สิ” ป้าแม่บ้านระบายยิ้มตอบ “ฉันแค่อยากได้เงิน ที่นี่ให้ฉันได้มากกว่างานอื่น”

“ใช่สิ ใครๆ ก็อยากได้เงินทั้งนั้น” เธอก้มหน้าพึมพำกับตัวเอง หากเธอเป็นคุณป้าคนนี้คงคว้างานที่เงินสูงไว้ก่อนเหมือนกัน

“ฉันชื่อ ลาน่านะ”

“...”

“ส่วนชื่อเธอฉันรู้แล้วล่ะ”

ดานิกาไม่ได้แปลกใจอะไรที่ลาน่ารู้ คงได้ข้อมูลเกี่ยวกับเธอมาแล้ว

 

หลังจากที่พูดคุยกับลาน่าเสร็จเธอก็เอ่ยลา นางก็ไม่ได้เซ้าซี้หรือรั้งเธอไว้สักนิด ดานิกาเลยรีบกลับบ้านตรงเข้าไปหาบิดา เห็นนาวินผุดลุกผุดนั่งด้วยสีหน้าคร่ำเครียด

“อ้าว แกหายไปไหนมาทั้งคืน” น้ำเสียงห่วงหาอาทร ยามเอ่ยถาม

“ไปทำงานมา มีเรื่องนิดหน่อยเลยต้องอยู่ทำงานทั้งคืน” ดานิกาแก้ตัวน้ำขุ่นๆ เลี่ยงสายตาจับผิดเดินไปหยิบไส้กรอกในจานมากิน 

“งานหนักไปไหม”

“ไม่หรอก หนูชอบทำงานมากพ่อก็รู้” พูดไปเคี้ยวไป

“มีคนมาหาแกด้วยนะเมื่อคืน”

“ใครกัน” หญิงสาวถึงกับคิ้วขมวด ใครมันจะมาหาเธอ

“เขาฝากนี้ไว้” 

ดานิกามองจดหมายซองสีดำ ที่ผูกโบว์สีม่วงอย่างประณีตยิ่ง สร้างความสงสัยใคร่รู้

“อ้าว จะไปไหนละ ไม่กินข้าวก่อน” นาวินเอ่ยเรียกลูกสาว ที่เดินหน้าตั้งเข้าห้องไป ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ

มือบางค่อยๆ บรรจงคลี่จดหมายออก ก่อนจะต้องตาโตกับประโยคชวนขนลุก

ดีใจที่ได้เจอนะ ไว้เจอกันอีก

เพียงแค่อ่านจบเธอถึงกลับรีบโยนจดหมายฉบับนั้นลงถังขยะ รู้สึกขวัญเสียจนเกิดความระแวง ก่อนจะนึกไปถึงสิ่งที่สองแฝดนั้นบอกเธอเมื่อคืน

แต่เธอสามารถเชื่อพวกเขาได้มากแค่ไหน

 

 

 

ดานิกาไม่อยากเชื่อว่า สิ่งที่สองแวมไพร์แฝดนั้นจะเป็นเรื่องจริง ทว่าคืนนั้นก็มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา ด้วยความที่ไม่ได้คิดอะไรเธอจึงกดรับ 

“ดีใจที่รับนะ” ดวงตากลมโตเบิกโพลง กับน้ำเสียงชวนขนลุก แต่เธอก็สงสัยว่าใครกัน ถึงขนาดโทรมาแกล้ง

 “คุณเป็นใคร” 

“อยากรู้ก็มาเจอฉันสิ” ปลายสายยังพูดยียวน ไหนจะการหัวเราะในลำคอนั่นอีก 

“จดหมายนั้นเป็นของคุณใช่ไหม” ดานิกาจดจ่อรอคำตอบ แต่ฝ่ายนั้นปล่อยช่วงเวลาไปนานกว่าจะตอบกลับเธอ 

“ดีใจที่เธอยังอ่าน”

  “โรคจิต” 

“หึ” 

“ถ้ายังไม่เลิกกวน ฉันจะแจ้งความ” เธอข่มขู่กลับแต่เหมือนเขาจะไม่เกรงกลัวสักนิด ระเบิดหัวเราะหนักกว่าเดิมเหมือนคนบ้า 

“งั้นก็รีบแจ้งหน่อยนะ ฉันเป็นห่วง” 

เธอถึงกลับทนฟังไม่ไหวชิงตัดสายทิ้ง แต่กระนั้นก็ทำให้เธอเครียด คนที่โทรมาเป็นใครกัน แล้วเธอไปเจอเขาตอนไหน?

เพล้ง

  เสียงดังมาจากข้างนอกจนเธอสะดุ้ง ก่อนจะออกไปดูกลัวบิดาจะเกิดเรื่องไม่ดี

  “อื้อ…ปล่อย…นะ” 

เธอพยายามดิ้นสุดแรง มองบิดาที่หลับบนเตียง ด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ แม้จะพยายามจะตะโกนนาวินก็ไม่ตื่น ไหนจะโดนปิดปาก ไม่นานสติของเธอก็ดับวูบภาพในหัวค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นดำ 

เธอตื่นขึ้นมาในที่แห่งใดอีกแล้ว แถมกลิ่นคาวเลือดยังเหม็นจนอยากจะอ้วก ก่อนจะเห็นิ่งที่ทำให้สติเกือบหลุด ดานิกายกมือปิดปาก มองรอยคราบเลือดที่นองบนพื้น

  “ไง” ใบหน้างามหันไปตามเสียงที่ย่างสามขุมเข้ามาหา ใบหน้าที่ติดจะกวนประสาท ไหนจะรอยยิ้มมุมปากที่โค้งขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาเป็นประกายยากจะคาดเดา เธอรู้สึกว่าชายผู้นี้ไม่ใช่คนดี “ดูเหมือนเธอจะแจ้งความช้าไปนะ”

“ฉันไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจกัน” เธอไม่เคยสร้างศัตรูกับใคร วันๆ ก็ทำแต่งาน

“ไม่มีหรอก” นิธานฉีกยิ้มชวนสยอง “ฉันแค่สนใจเธอ”

“สนใจฉะ…ฉัน” โพล่งถามเสียงหลง ผู้ชายคนนี้น่ากลัวกว่าที่คิด 

“ใช่” นิธานค่อยๆ เดินเอียงซ้ายเอียงขวาสำรวจร่างบอบบาง ก็จะหยุดลงที่ลำคอระหง ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าใกล้ พลางหลับตาสูดดมกลิ่นเลือดมนุษย์คนนี้ ทว่ากลับมีกลิ่นหนึ่งที่ปะปนออกมาทำให้เขารู้

“เธอไม่บริสุทธิ์” 

“…” ดานิกาตกใจว่าเขารู้ได้ยังไงกัน แต่ยังไม่ทันได้คิดสงสัยไปมากกว่านั้น ชายตรงหน้าก็เข้ามาบีบคอเธอเสียแล้ว แรงบีบของเขามันหนักหน่วงจนเธอฮึดสู้ไม่ไหว 

“ทำไม่เธอถึงไม่บริสุทธิ์” นิธานในตอนนี้ได้สติหลุดไปแล้ว เขาโกรธมากความหวังที่กำลังจะได้มีร่างกายปกติ พังทลายลงเสียแล้ว และเธอต้องรับผิดชอบกับความความหวังของเขา ดานิกาพยายามดึงมือออกเท่าที่พอจะทำไหว แต่ก็ไม่อาจสู้ได้ เธอดิ้นรนจนเริ่มจะหมดลมเต็มที 

“ทำไมพอเป็นแพทริคกับเอ็ดเวิร์ด เธอช่วยพวกมันได้ หะ!” ตะคอกใส่ด้วยใบหน้าถมึงทึ่ง 

“…” 

“เพราะงั้นเธอก็สมควรตาย” กำลังจะง้างปากกัดคอเธอ แต่กลับมีเสียงโวยวายแทรกเข้ามาเสียก่อน

 “ถ้านายทำอะไรเธอแม้แต่ปลายผม ฉันจะไม่ไว้ชีวิตซัน” เอ็ดเวิร์ดข่มเสียงเหี้ยม มืออีกข้างล็อคตัวซันไว้ นิธานหันมามองพร้อมกับหัวเราะจนเส้นเลือดขึ้นหน้า แต่นัยน์ตากลับเต็มไปด้วยไฟแค้น ก่อนจะจับดานิกามาอยู่ด้านหน้า คล้องแขนกักกั้นลำคอเธอไว้ 

“ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก” 

“ส่งเธอมา” แพทริคชักสีหน้าถมึงทึง 

“ใจเย็นสิแพทริค” 

“อย่ามายียวนนิธาน นายไม่ใช่คนที่ฉันกลัว” แพทริคเอ่ยเสียงรอดไรฟัน ทว่านิธานกลับไม่ได้เกรงกลัวสักนิด ยังคงหน้าระรื่นราวกำลังเจอเรื่องสนุก นั่นยิ่งทำให้แพทริคหัวเสีย 

“ดูเหมือนเจ้านายแก จะไม่สนใจว่าแกจะตายในอีกไม่ช้า” เอ็ดเวิร์ดพูดกับซันที่ยังคงนิ่ง ไม่พูดไม่จาราวกลับไม่กลัว ซันมองนิธานอย่างคาดเดา ว่าฝ่ายนั้นจะยอมแลกชีวิตเธอคนนั้นเพื่อเขาหรือไม่ 

“เห็นแก่ที่เราเป็นเพื่อนกัน ฉันยอม” ว่าจบก็ผลักดานิกาออกห่าง จนเกือบล้มหากแพทริคมารับไว้ไม่ทัน เธอคงได้ลงไปจูบพื้นเป็นแน่ แต่ทำใจนะ พอได้อยู่ในวงแขนเขาเธอกลับรู้อุ่นใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ซ้ำหัวใจยังเต้นแรงจนแทบกระเด็นยามเมื่อได้สบตา

  “เป็นไรไหม” ไหนจะน้ำเสียงหวานหู ทำให้นึกย้อนไปยังคืนสุดวาบหวามของพวกเรา จนเกิดอาการประหม่า

 “มะ ไม่ค่ะ” 

“อย่าคิดแตะต้องเธออีก”

เอ็ดเวิร์ดเอ่ยส่งท้ายด้วยดวงสายตาวาวโรจน์ สำหรับคนทรยศอย่างนิธาน เขาสามารถลงมือได้อย่างไม่ลังเล คนโดนสั่งกำหมัดแน่น มองทั้งสามที่เดินออกไปอย่างเคืองแค้น ก่อนจะใช้มือปัดของทุกอย่างใกล้ตัวระบายอารมณ์ ซันทำเพียงแค่ยืนอยู่เงียบๆ เพราะชินเสียแล้ว