ในค่ำคืนที่ยาวนานและยังเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือด ทว่าสำหรับคนทั่วไปอาจมองว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ไม่ใช่สำหรับคาร์เตอร์ แวมไพร์ผู้ไม่เคยตายแม้จะผ่านมาหลายร้อยปี ในขณะที่ผู้คนบนโลกค่อยๆ ร่วงโรยแต่เขาก็ยังคงอยู่ และยังคงตามหาหญิงสาวเลือดบริสุทธิ์ ที่เกิดในคืนพระจันทร์สีเลือด ดังนั้นหากวันไหนที่พระจันทร์แปลเปลี่ยนเป็นสีเลือด นั้นก็เหมือนพระเจ้ากำลังให้พรเขา คาร์เตอร์ยืนมองทารกน้อยหลายคนที่ กำลังร้องไห้แข่งกันด้วยสายตาค้นหา แต่ก็เจอแต่ความผิดหวังอยู่ร่ำไป “ไม่มีสักคนที่มีกลิ่นเลือดหอมหวา
รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ไทย,อื่นๆ,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p)ในค่ำคืนที่ยาวนานและยังเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือด ทว่าสำหรับคนทั่วไปอาจมองว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ไม่ใช่สำหรับคาร์เตอร์ แวมไพร์ผู้ไม่เคยตายแม้จะผ่านมาหลายร้อยปี ในขณะที่ผู้คนบนโลกค่อยๆ ร่วงโรยแต่เขาก็ยังคงอยู่ และยังคงตามหาหญิงสาวเลือดบริสุทธิ์ ที่เกิดในคืนพระจันทร์สีเลือด ดังนั้นหากวันไหนที่พระจันทร์แปลเปลี่ยนเป็นสีเลือด นั้นก็เหมือนพระเจ้ากำลังให้พรเขา คาร์เตอร์ยืนมองทารกน้อยหลายคนที่ กำลังร้องไห้แข่งกันด้วยสายตาค้นหา แต่ก็เจอแต่ความผิดหวังอยู่ร่ำไป “ไม่มีสักคนที่มีกลิ่นเลือดหอมหวา
ในค่ำคืนที่ยาวนานและยังเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือด ทว่าสำหรับคนทั่วไปอาจมองว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ไม่ใช่สำหรับคาร์เตอร์
แวมไพร์ผู้ไม่เคยตายแม้จะผ่านมาหลายร้อยปี ในขณะที่ผู้คนบนโลกค่อยๆ ร่วงโรยแต่เขาก็ยังคงอยู่ และยังคงตามหาหญิงสาวเลือดบริสุทธิ์ ที่เกิดในคืนพระจันทร์สีเลือด
ดังนั้นหากวันไหนที่พระจันทร์แปลเปลี่ยนเป็นสีเลือด นั้นก็เหมือนพระเจ้ากำลังให้พรเขา
คาร์เตอร์ยืนมองทารกน้อยหลายคนที่ กำลังร้องไห้แข่งกันด้วยสายตาค้นหา แต่ก็เจอแต่ความผิดหวังอยู่ร่ำไป
“ไม่มีสักคนที่มีกลิ่นเลือดหอมหวา
ตอนที่11
ดานิกามองร่องรอยบนลำคอผ่านกระจก แทบจะไม่เหลือผิวขาวนวลอย่างที่เคยเป็น ได้แต่นึกเจ็บใจฝาแฝดทั้งสอง เห็นที่คงต้องบอกเขาอย่างจริงจังแล้ว ดานิกาเดินมาหาป้าลาน่าที่จัดเตรียมอาหารไว้ให้ ทั้งยังมีเรื่องจะถามด้วย
“พ่อฉันเป็นไงบ้างคะ” น้ำเสียงร้อนรนยามเอ่ยถึงบิดา
“คือว่า พ่อคุณอยู่โรงพยาบาลค่ะ” เหมือนโลกหยุดหมุนก็ไม่ปาน ดานิกาแทบจะยืนไม่ไหวอยากตรงไปหาบิดาใจจะขาด
“พ่อฉันเป็นอะไรคะ”
“น่าจะโรคกำเริบนะคะ ฉันเองก็ไม่ทราบ” เธอทำได้แทบแอบดูนาวินเงียบๆ ตามที่ดานิกาจ้าง ทว่าเมื่อวานดันเห็นรถโรงพยาบาล มารับนาวินออกไปในสภาพที่ไร้เรี่ยวแรง
“คุณจะไปไหนคะ” ดานิกาไม่แม้จะหันไปตอบลาน่า ตอนนี้เธอแทบทนไม่ไหว รีบตรงไปโรงพยาบาลทันที ภาวนาตลอดทางว่าขอให้บิดาไม่เป็นอะไรมาก เธอหายมาหลายวันเช่นนี้ นาวินคงเป็นห่วงเธอมากจนอาการทรุดก็เป็นได้
“พ่อ” ดานิกาพุ่งตัวไปหาบิดาที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ นาวินค่อยลืมตามองบุตรสาวด้วยท่าทางอ่อนล้า
“แกหายไปไหนมา” นาวินเอ่ยถามเสียงสั่น ตั้งแต่ดานิกาหายตัวไปตนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แจ้งความทันทีทว่าก็ไม่มีความคืบหน้า
“หนู…เอ่อไปทำงานค่ะ” ดานิกาในตอนนี้เหมือนน้ำท่วมปาก ขืนพูดความจริงนาวินได้ช็อคแน่
“จะทำงานหรือทำอะไรก็หัดรับสายบ้าง” ไม่ใช่ปล่อยให้ตนรออย่างสิ้นหวั’แบบนี้ หญิงสาวเองก็ไม่ได้ตั้งใจให้พ่อเป็นห่วง แต่โทรศัพท์เธอไม่หาย ไม่รู้ว่าไปตกอยู่ที่ไหน
“ขอโทษที่ทำให้พ่อเป็นห่วง หนูจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว”
“อย่าหายไปก็พอ” นาวินพูดเสียงอ่อนลง แค่ได้เห็นหน้าลูกสาวอีกครั้งก็พอแล้ว พอพระอาทิตย์ลับฟ้าสองแฝดแวมไพร์ก็ตื่น ทว่ากลับไม่เจอดานิกาทำเอาพวกเขาว้าวุ่น เดินหาทั้งบ้านกลับไร้วี่แววของเธอ
“ไปไหนนะ” แพทริคยกมือคลึงขมับเบาๆ พรางเหลือบตามอเอ็ดเวิร์ดที่มีอาการไม่แพ้กัน
“หาอะไรกันอยู่เหรอ” เอเลนาเดินเข้ามาหาทั้งสองหนุ่มพร้อมฉีกยิ้มหวาน กอดแขนล้ำสันทั้งสองอย่างออเซาะ
“ไม่มีอะไร” เอ็ดเวิร์ดตอบเสียงอ่อน ทว่าในใจกลับอยู่ไม่สุขอย่างน่าประหลาด
“…” เอเลนารู้อยู่แล้วว่าพวกเขาหาสิ่งใดอยู่ หากแต่แสร้งทำเป็นไม่รู้
“เธอเป็นยังไงบ้าง อยู่ได้ไหม” เอ็ดเวิร์ดเอ่ยถามบ้าง
“ฉันอยู่ได้ทุกที่แหละ ขอแค่มีพวกนาย” เอเลนายังคงหยอดคำหวานไม่เว้นช่วง เธออยากให้ทั้งสองกลับมารักเธอเหมือนเดิม จะได้ปกป้องเธอจากนิธาน
ทว่าสองแฝดที่ได้ยินกลับไม่ได้รู้สึกใจเต้นเลยสักนิด ออกจะเฉยเมยเสียด้วยซ้ำ หากเป็นเมื่อก่อนถ้าเธอพูดแบบนี้ พวกเขาคงมอบจูบอันแสนหวานให้เป็นรางวัล มาถึงตอนนี้กลับต่างออกไป แพทริคกับเอ็ดเวิร์ดก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
แพทริคนึกสงสัยตั้งแต่วันที่เธอปรากฎตัว เหตุใดเอเลนายังคงมีชีวิตอยู่ เธอโดนนิธานลักพาตัวไปฆ่าเมื่อร้อยปีก่อนไม่ใช่หรอกเหรอ
“ฉันอยากรู้” แพทริคสบตาหญิงที่เคยเป็นรักแรก
“ทำไมเธอถึงยังไม่ตาย”
เอเลนาถึงกลับพูดไม่ออกแววตาดูลุกลี้ลุกลนจนต้องแสร้งยิ้มกลบเกลื่อน
“ทำไมถามเหมือนผิดหวัง”
“เปล่า ฉันแค่อยากรู้เรื่องคืนนั้น” คืนที่พวกเขากับเอเลนานัดกัน หวังจะไปพลอดรักทว่ารอแล้วรอเล่า เอเลนาก็ไม่มาสักที จนได้รู้ข่าวว่านิธานลักพาตัวเธอไป และได้รู้ข่าวว่าเธอโดนฆ่าตาย คนที่ยืนยันว่าเอเลนาตายก็คือคาร์เตอร์ แต่พวกเขาดันไปช่วยอะไรไม่ได้เพราะต้องคำสาปเสียก่อน
แววตาคาดคั้นของพวกเขา มันทำให้เธอยิ่งกดดันจนหายใจไม่ทั่วท้อง
“ว่าไง เอเลนาฉันแค่อยากรู้ว่านิธานมันทำอะไรเธอ” เอ็ดเวิร์ดย้ำอีกครั้ง หากนิธานทำให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจเขาจะได้จัดการให้สาสม
“มันจับฉันไปขัง แล้วก็ทรมาน” น้ำเสียงสั่นเครือยามนึกถึงเหตุการณ์สุดบัดซบนั้น พรางกำหมัดแน่น ทำให้นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อร้อยปีก่อน
“จับฉันมาทำไมนิธาน”
“ไหนบอกว่ารักฉัน แต่ไปนัดพลอดรักกับพวกแฝดนั้น” แววตาแข็งกร้าวมองหญิงสาวที่บอกว่ารักตนนักหนา ทว่าใยถึงคิดหักหลังกัน นิธานโมโหมากหลังจากรู้ข่าวถึงได้ไปจับตัวเธอมา
“ฉัน ฉันต้องทำ” ใบหน้าเศร้าลงอย่างอดสู่
“เลิกทำตามคำสั่งของพ่อเธอได้แล้ว” นิธานตวาดลั่นอย่างอดไม่ไหว
“นายก็รู้ว่าฉันขัดเขาไม่ได้” เธอจำเป็นต้องแสร้งว่ารักสองแฝดนั้น ใช้เวลาไปตั้งมากกว่าสองแฝดนั้นจะหลงรักเธอ เธอต้องแต่งงานกับเขาให้ได้ เพื่อตระกูลของเธอจะได้มีอำนาจขึ้นมา เลยต้องโดนบิดาบังคับอยู่ร่ำไป
“ถ้าเกิดไม่มีพ่อเธอ เธอก็ไม่ต้องทำตามคำสั่งนั้นใช่ไหม”
“นะนายจะทำอะไร” น้ำเสียงรนราน แววตาฉายความไม่ไว้ใจ และวันนั้นนิธานก็ทำการสังหารพ่อเธอ พร้อมทั้งคนในตระกูล เธอไม่เหลือใครในชีวิต นิธานโกรธเธอมาก จับขังไว้ในห้องอันมืดมิด ซ้ำยังโดนทรมานสารพัด จากที่รักเขามาก เธอก็เกลียดชังเขาจนรักไม่ลงเลยล่ะ
นิธานตั้งชดใช้ทุกอย่างที่ทำกับเธอ
หลังจากเอเลนาเล่าให้ฟัง ว่าโดนนิธานจับขังทรมาน ซ้ำยังฆ่าล้างตระกูลเธอไปจนหมด ทำเอาแพทริคกับเอ็ดเวิร์ดถึงกับฉุนเฉียว กับความป่าเถื่อนของนิธาน พวกเขาสัญญาว่าจะเอาคืนให้เธอ
ทว่าตอนนี้เขาจำต้องตามหามนุษย์สาวที่หนีหายไปก่อน ด้วยกลัวว่าเธอจะโดนนิธานทำร้าย แต่ใครจะรู้ว่าลึกๆ พวกเขาเริ่มเสพติดเธอเข้าเสียแล้ว
“ได้ข่าวอะไรมาบ้างทัคเกอร์” แพทริคร้องถามหน้าตั้ง
“เธออยู่โรงพยาบาล” เมื่อเห็นสีหน้าเจ้านายทั้งสอง ยังเต็มไปด้วยความสงสัย ทัคเกอร์จึงขยายความต่อ
“พ่อเธออาการกำเริบ”
“แล้วเธอเป็นยังไงบ้าง” เอ็ดเวิร์ดเอ่ยเสียงราบเรียบ ทว่านัยน์ตากลับเต็มไปด้วยความห่วงใย
“นายไม่ไปดูเองเลยล่ะ” ทัคเกอร์สวนกลับ แม้เอ็ดเวิร์ดจะมีฐานะเป็นเจ้านาย แต่ทั้งสองก็มีอายุเท่ากันเหมือนเพื่อนที่โตมาด้วยกัน เอ็ดเวิร์ดถึงกับไม่เป็น ทว่าแพทริคกลับยิ้มขบขันเสียอย่างนั้น พร้อมเดินเข้ามาตบไหล่แฝดผู้พี่ แต่เอ็ดเวิร์ดกลับขืนตัวออก เพราะไม่ชอบให้ใครโดนตัว
“ใช่สิ ขอบใจมากนะทัคเกอร์ที่ชี้แนะ พวกฉันไปล่ะ” ว่าจบก็ดึงตัวพี่ชายให้เดินตาม หนุ่มนัยน์ตาสีฟ้าจำต้องยอมอย่างเสียมิได้ รู้ตัวอีกทีตัวเขาก็อยู่โรงพยาบาลเสียแล้ว กลิ่นโหยหวนของผู้คนดังเข้ามาในโสตประสาท ช่างน่ารำคาญเสียจริง หากแต่กลิ่นเลือดกลับคละคลุ้งจนแทบคลั่ง
“น่าจับดูดเลือดชะมัด” แพทริคเปรยขึ้น แต่มิวายโดนแฝดพี่ตำหนิ
“อย่าได้คิดทำเชียว”
“ฉันรู้น่าเอ็ดเวิร์ด” ว่าแล้วก็ถอนหายใจ
“ดูเหมือนเธอจะอยู่ห้องนี้นะ” จากที่ตามกลิ่นกับเสียงมาไม่ผิดแน่ ยังไม่ทันได้ทำอะไรเจ้าหล่อนก็เปิดประตูออกมาเสียแล้ว ดานิกาตกใจมากไม่คิดว่าจะเจอพวกเขาอีก
“คุณมาทำอะไรที่นี่”
“ถามได้ เธอหายมาไม่บอกไม่กล่าว” เป็นเอ็ดเวิร์ดที่ตอบกลับอย่างหัวเสีย แพทริคได้แต่ส่ายหน้าขบขันท่าทางนั้น ดานิการู้สึกเหมือนกำลังโดนตำหนิ
ทว่าเธอทำอะไรผิดกัน เห็นทีคงต้องบอกพวกเขาเสียแล้ว