ในค่ำคืนที่ยาวนานและยังเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือด ทว่าสำหรับคนทั่วไปอาจมองว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ไม่ใช่สำหรับคาร์เตอร์ แวมไพร์ผู้ไม่เคยตายแม้จะผ่านมาหลายร้อยปี ในขณะที่ผู้คนบนโลกค่อยๆ ร่วงโรยแต่เขาก็ยังคงอยู่ และยังคงตามหาหญิงสาวเลือดบริสุทธิ์ ที่เกิดในคืนพระจันทร์สีเลือด ดังนั้นหากวันไหนที่พระจันทร์แปลเปลี่ยนเป็นสีเลือด นั้นก็เหมือนพระเจ้ากำลังให้พรเขา คาร์เตอร์ยืนมองทารกน้อยหลายคนที่ กำลังร้องไห้แข่งกันด้วยสายตาค้นหา แต่ก็เจอแต่ความผิดหวังอยู่ร่ำไป “ไม่มีสักคนที่มีกลิ่นเลือดหอมหวา
รัก,ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,ไทย,อื่นๆ,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
แวมไพร์ล่าสวาท ( 3p)ในค่ำคืนที่ยาวนานและยังเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือด ทว่าสำหรับคนทั่วไปอาจมองว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ไม่ใช่สำหรับคาร์เตอร์ แวมไพร์ผู้ไม่เคยตายแม้จะผ่านมาหลายร้อยปี ในขณะที่ผู้คนบนโลกค่อยๆ ร่วงโรยแต่เขาก็ยังคงอยู่ และยังคงตามหาหญิงสาวเลือดบริสุทธิ์ ที่เกิดในคืนพระจันทร์สีเลือด ดังนั้นหากวันไหนที่พระจันทร์แปลเปลี่ยนเป็นสีเลือด นั้นก็เหมือนพระเจ้ากำลังให้พรเขา คาร์เตอร์ยืนมองทารกน้อยหลายคนที่ กำลังร้องไห้แข่งกันด้วยสายตาค้นหา แต่ก็เจอแต่ความผิดหวังอยู่ร่ำไป “ไม่มีสักคนที่มีกลิ่นเลือดหอมหวา
ในค่ำคืนที่ยาวนานและยังเกิดปรากฏการณ์พระจันทร์สีเลือด ทว่าสำหรับคนทั่วไปอาจมองว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ไม่ใช่สำหรับคาร์เตอร์
แวมไพร์ผู้ไม่เคยตายแม้จะผ่านมาหลายร้อยปี ในขณะที่ผู้คนบนโลกค่อยๆ ร่วงโรยแต่เขาก็ยังคงอยู่ และยังคงตามหาหญิงสาวเลือดบริสุทธิ์ ที่เกิดในคืนพระจันทร์สีเลือด
ดังนั้นหากวันไหนที่พระจันทร์แปลเปลี่ยนเป็นสีเลือด นั้นก็เหมือนพระเจ้ากำลังให้พรเขา
คาร์เตอร์ยืนมองทารกน้อยหลายคนที่ กำลังร้องไห้แข่งกันด้วยสายตาค้นหา แต่ก็เจอแต่ความผิดหวังอยู่ร่ำไป
“ไม่มีสักคนที่มีกลิ่นเลือดหอมหวา
ตอนที่17
ครั้งนี้ดานิกาตั้งใจจะใช้ชีวิตยามปกติ แบบชาวบ้านชาวช่องเขาบ้าง ตั้งแต่ได้รู้จักกับสองแฝด ชีวิตเธอก็แทบจะไม่รู้จักคำว่าปกติอีกเลย ดังนั้นช่วงเวลากลางวันเธอเลยอยากออกไปข้างนอกบ้าง ไปเดินเล่นบ้าง แต่ทั้งคู่ก็ไม่ยอมปล่อยให้ดานิกาไปคนเดียว ยอมฝืนร่างกายออกมาเดินเที่ยวเล่นในตอนกลางวัน
“จะไม่เป็นไรแน่เหรอคะ” เห็นเขาทั้งคู่แต่งตัวมิดชิดมาก ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงแขนยาว สวมหมวกและใส่หน้ากาก เห็นแล้วร้อนแทนเลยเพราะนี้เข้าฤดูร้อนแล้ว แต่งตัวแบบนี้ออกไปข้างนอกมันไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่
“ไม่เป็นไรหรอก พวกเรามีวิวัฒนาการนะ”
“แน่นะคะ” นี่ขนาดมีวิวัฒนาการ ยังแต่งจัดหนักจัดเต็มแบบนี้ ดานิกาเลยกังวลแทน กลัวพวกเขาจะสู้แดดไม่ไหว อันที่จริงเธอว่ากะจะไปเดินเล่นในเมือง หาอะไรกินนั่งเล่นคาเฟ่แล้วค่อยกลับ
“แน่สิ แค่ยังไม่ชิน”
“แล้วคุณสองคนกินอะไรแบบที่มนุษย์กินได้ไหม”
“จะว่าได้ก็ได้ แต่ไม่อยากกินน่ะ”
“แล้วให้ฉันไปนั่งกินคนเดียวเนี่ยนะ ฉันว่าลำบากพวกนายเกินไปหรือเปล่า ให้ฉันไปคนเดียวก็ได้ไม่เป็นไรหรอก”ดานิกากลัวว่าทั้งสองคนจะลำบาก ที่ต้องไปนั่งเป็นเพื่อนเธอ
และกลัวเขาจะเบื่อหน่าย เพราะน่าจะยังไม่ชินกับวิถีการใช้ชีวิตของมนุษย์ แต่จะให้เธออยู่กับเขาทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ ก็รู้สึกเบื่ออยากออกไปเปิดหูเปิดตา ไปเดินเล่นชิมของอร่อยๆ เห็นผู้คนบ้าง
“ฉันอยากไปด้วย”
“ฉันก็อยากไปด้วย อยากรู้ว่าเธอใช้ชีวิตยังไง”
“ก็เหมือนคนธรรมดานั่นแหละ”
“ฉันไม่รู้จักชีวิตคนธรรมดา”
“ก็ได้ค่ะ ไปก็ได้”
เอ็ดเวิร์ดแล้วแพทริคให้คนที่บ้านขับรถพาเข้าเมือง เพื่อไปเดินเล่นตอนนี้บิดาของของสองแฝดไม่ได้ห้ามปราม และไม่ได้ตั้งแง่กับดานิกาแล้ว ปล่อยให้ลูกชายได้ใช้ชีวิตกับหญิงสาวในแบบที่ใจต้องการ
ทำเพียงแค่มองดูอยู่ห่างๆ ไม่เข้าไปวุ่นวายเหมือนที่ผ่านมา ดานิกาจดรายการเอาไว้แล้วว่าเธออยากจะกินอะไรบ้าง นานๆ ได้เข้ามาในเมืองเดินเล่นแบบไม่ต้องมีเรื่องกังวล เธอก็อยากจะชิมนู้นชิมนี่ให้ฉ่ำใจไปเลย
“เดี๋ยวเราแวะที่ร้านคาเฟ่ก่อนได้ไหม ฉันอยากกินขนมอร่อยๆ”
“แล้วไม่กินข้าวก่อนเหรอ”
“ก็อยากกินของหวานก่อน”
“อืม ตามนั้นอยากไปคาเฟ่ที่ไหน บอกคนรถได้เลย”
ดานิกาพยักหน้ารับ ก่อนจะบอกทางให้คนขับรถ พาไปยังร้านที่เธออยากจะไปนั่งกินมานานแล้ว เป็นคาเฟ่ที่ตกแต่งในสไตล์โมโนโทนแต่ขึ้นชื่อเรื่องครัวซองและเค้ก
เมื่อมาถึงร้านเธอก็สั่งเค้กมาสามอย่าง รวมถึงครัวซองสองชิ้น เลือกโต๊ะด้านในที่ดูเป็นส่วนตัวหน่อย เพราะคิดว่าเอ็ดเวิร์ดกับแพทริค น่าจะยังไม่ชินกับการออกมาข้างนอกในตอนกลางวัน
“ฉันสั่งขนมมาเผื่อด้วยนะ” ไม่แน่ใจหรอกว่าสองหนุ่มจะกินได้ไหม ปกติเขาดื่มเลือดเพียงอย่างเดียว แต่ก็อยากให้ลองดูบ้าง มันน่าสนุกดีที่ได้เห็นเอ็ดเวิร์ดและแพทริค ได้ใช้ชีวิตแบบคนปกติเยี่ยงเธอ
“จะลองกินดู”
“ถ้ากินไม่ได้ไม่ต้องฝืนหรอก ฉันก็แค่อยากมาเปลี่ยนบรรยากาศน่ะ” แต่ก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี เพราะพวกเขาไม่เคยกินอาหารมนุษย์ อาจจะรู้สึกแปลกๆ หรือแสลงได้ เลยบอกไว้ล่วงหน้า แค่พวกเขามานั่งด้วยก็พอแล้ว ไม่อยากจะฝืนใจให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ
“บอกแล้วไง ว่าเธอไปไหนพวกเราไปได้หมดแหละ”
“ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ ไม่ได้ตัวติดกันเสียหน่อย”
“แต่ฉันอยากตัวติดกับเธอนี่”
อดยิ้มกว้างไม่ได้ที่เอ็ดเวิร์ดและแพทริค แสดงความรักให้เห็น สองหนุ่มไม่ค่อยพูดคำหวานๆ ให้ฟัง ซึ่งมันก็เป็นสไตล์ของพวกเขาเธอเข้าใจดี เธอเองก็รักพวกเขาเช่นกัน มันเกิดขึ้นตอนไหนไม่รู้…รู้ตัวอีกทีก็รักและผูกพันไปแล้ว
“ดูสิ ผู้ชายจ้องตาเป็นมัน เรื่องอะไรจะปล่อยให้มาคนเดียว”
เอ็ดเวิร์ดเห็นพนักงานหนุ่มในร้าน จ้องดานิกาตาเป็นมัน นี่ขนาดว่าพวกเขาทั้งสองคนนั่งอยู่ด้วย ไอ้มนุษย์นั่นมันยังกล้ามองอย่างเปิดเผย แล้วถ้าปล่อยให้ดานิกามาคนเดียวล่ะ ไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะเป็นยังไง รู้สึกหึงหวงจนเลือดลมเดือดพล่านไปหมด
“เขาก็แค่มองเฉยๆ ไหมล่ะ”
ดานิกาไม่ได้คิดมากขนาดนั้นแต่ก็เห็นว่ามอง สงสัยว่าจะมองคนทั้งคู่มากกว่า เพราะแต่งตัวแปลกประหลาด หน้าร้อนแบบนี้ใครก็ใส่มิดชิดกันขนาดนั้นล่ะ
“มองเฉยๆ ก็ไม่ได้”
“ทำเป็นห่วง ไม่มีอะไรสักหน่อย”
แอบลอบยิ้มดีใจที่คนทั้งคู่แสดงความหวง ไม่คิดเลยว่าการมีสองแฝดในชีวิตมันจะดีแบบนี้ แม้เขาจะชอบใช้ร่างกายเธออย่างหนักก็เถอะ แต่ทว่าต่างฝ่ายก็ต่างได้รับความสุขเท่าๆ กัน ดานิกาอุ่นใจที่มีเอ็ดเวิร์ดและแพทริคอยู่ข้างๆ หลังจากผ่านสถานการณ์ที่เลวร้ายไปแล้ว ชีวิตเธอก็ดูเหมือนราบเรียบ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่มันก็ดีกว่าเมื่อก่อนเยอะ
นั่งรออยู่สักพักขนมและเครื่องดื่มก็มาเสิร์ฟ ดานิกาเพลิดเพลินกับครัวซองและเค้กที่สั่งมา แฝดทั้งคู่ลองชิมเพียงนิดก็บ่นบอกว่าหวาน เธอเลยรับผิดชอบทั้งหมดคนเดียว
แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกนะ เพราะมันอร่อยนี่ ก่อนที่จะเจอแฝดทั้งสองไม่เคยได้มากินอะไรแบบนี้หรอก วันๆ จ้องแต่จะหาเงินเพื่อเอาไปรักษาพ่อ แต่ตอนนี้เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาอีกแล้ว ครอบครัวของสองแฝดรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด เธอเลยอยากออกมาใช้ชีวิตที่ขาดหายไปบ้าง