สัตวแพทย์หนุ่มหน้าตาดีเบ้าหน้าโอ้ปป้าส่งตรงจากเกาหลี! 'คุณหมอไอเลิฟยู' หรือ 'หมอไอ' ถึงไอศูรย์จะเป็นที่รักของสาว ๆ ทั้งคลินิก กลับไม่มีวันได้เป็นพระเอกในสายตาของพ่อตาที่พยายามทุกวิถีทาง เพื่อปูทางให้พระ-นางได้เคียงคู่กัน "นางเอกเจ็บขาก็ต้องให้พระเอกดูแล พาไปหาหมอ... แต่หมอ... หมอมันคือตัวประกอบ!" นั่นคือคำพูดของนายหัวฟาร์มม้าผู้หวงลูกสาวเสียยิ่งกว่าอะไร ทว่าเขาหรือจะยอมพ่ายแพ้ให้กับโชคชะตาฟ้าลิขิต พ่อตา และลูกปืน... ในเมื่อแชมป์โลกปืนสั้นสามสมัยอย่าง ‘อริสา’ ดันเป็นรักแรกพบของเขามาตั้งแต่ยังเป็น
รัก,ดราม่า,สืบสวนสอบสวน,ชาย-หญิง,ครอบครัว,โรมานซ์,หมอ ,พระเอกคลั่งรัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คุณหมอตัวประกอบขอเป็นพระเอกสัตวแพทย์หนุ่มหน้าตาดีเบ้าหน้าโอ้ปป้าส่งตรงจากเกาหลี! 'คุณหมอไอเลิฟยู' หรือ 'หมอไอ' ถึงไอศูรย์จะเป็นที่รักของสาว ๆ ทั้งคลินิก กลับไม่มีวันได้เป็นพระเอกในสายตาของพ่อตาที่พยายามทุกวิถีทาง เพื่อปูทางให้พระ-นางได้เคียงคู่กัน "นางเอกเจ็บขาก็ต้องให้พระเอกดูแล พาไปหาหมอ... แต่หมอ... หมอมันคือตัวประกอบ!" นั่นคือคำพูดของนายหัวฟาร์มม้าผู้หวงลูกสาวเสียยิ่งกว่าอะไร ทว่าเขาหรือจะยอมพ่ายแพ้ให้กับโชคชะตาฟ้าลิขิต พ่อตา และลูกปืน... ในเมื่อแชมป์โลกปืนสั้นสามสมัยอย่าง ‘อริสา’ ดันเป็นรักแรกพบของเขามาตั้งแต่ยังเป็น
สัตวแพทย์หนุ่มหน้าตาดีเบ้าหน้าโอ้ปป้าส่งตรงจากเกาหลี!
'คุณหมอไอเลิฟยู' หรือ 'หมอไอ'
ถึงไอศูรย์จะเป็นที่รักของสาว ๆ ทั้งคลินิก
กลับไม่มีวันได้เป็นพระเอกในสายตาของพ่อตาที่พยายามทุกวิถีทาง เพื่อปูทางให้พระ-นางได้เคียงคู่กัน
"นางเอกเจ็บขาก็ต้องให้พระเอกดูแล พาไปหาหมอ... แต่หมอ... หมอมันคือตัวประกอบ!"
นั่นคือคำพูดของนายหัวฟาร์มม้าผู้หวงลูกสาวเสียยิ่งกว่าอะไร
ทว่าเขาหรือจะยอมพ่ายแพ้ให้กับโชคชะตาฟ้าลิขิต พ่อตา และลูกปืน...
ในเมื่อแชมป์โลกปืนสั้นสามสมัยอย่าง ‘อริสา’ ดันเป็นรักแรกพบของเขามาตั้งแต่ยังเป็นเป็นเด็กสาวตัวน้อย
ตัวประกอบอย่างเขาก็ต้องดิ้นรนงัดทุกกลเม็ด กลวิธีเป็นพระเอกให้ได้!
- นิยายโรมานซ์ ซีรีส์ความทรงจำ ตัวร้าย ตัวประกอบ -
คุณหมอตัวประกอบขอเป็นพระเอก
เล่ห์ทศกัณฐ์
พย็องชัง เกาหลีใต้ : 10 FEB 2018, 8:30 PM
- Black Out Time -
“นี่คุณ... ตกลงเป็นหมอ... จริงเรอะ?” เสียงหวานอ้อแอ้ถามคนข้างกาย มือสั่นเทาใต้ถุงมือไหมพรมสีขาวของหญิงสาวรินน้ำใสลงแก้วใบเล็กจิ๋ว มันหกเรี่ยราดบนโต๊ะสีน้ำเงินเข้ม ทว่าแก้วขนาดพอดีมือจับได้แค่ปลายนิ้วชี้และนิ้วโป้งก็ถูกเติมจนเต็ม
“คุณอริสาเมาแล้วนะ... เลิกกินเถอะ เดี๋ยวโค้ชคุณก็ว่าผมหรอก”
“ฉัน... ดูแลตัวเองได้... ไม่ต้องการหมอ” ในท่าทีมั่นอกมั่นใจตรงข้ามความเป็นจริง ใบหน้าสดสวยแดงก่ำเพราะความเมา ตั้งแต่หน้าตู้เบียร์ด้วยเบียร์เกาหลีแค่กระป๋องเดียว! จากนั้นก็เดินโซเซฝ่าหิมะมาจบลงที่ร้านโซจูในเต็นท์ริมทางถนน
พื้นถนนเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลนนั้นซ้อนกันเป็นชั้น ๆ เมืองแห่งฤดูหนาวยาวนานไม่ได้ทำให้รู้สึกหนาวสักเท่าไร แต่อย่างน้อยเธอก็จำได้ว่าเขาบอก... ว่าเป็นหมอ
“เป็นหมอไรอ่ะ หมอดูป่ะ...?”
“หมอ... ไอเลิฟยูครับ” เขาพูดแล้วยิ้มขึ้นมา อีกคนหัวเราะคิกคัก ก่อนที่ความสดใสจะหายไปจากใบหน้าสดสวยโดยสิ้นเชิง
“แหม... เล่นมุก ทำไมหมอไม่กิน...? ไม่มีมารยาท”
“ถ้าผมเมา... ใครจะไปส่งคุณอริสา?”
คำพูดของเขามีเหตุผล อริสาดันรู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผลเพราะความไร้สติ ยกแก้วใบเล็กขึ้นกระดก
ดวงตาคู่คมเข้มจรดอยู่ตรงน้ำในแก้วที่หายวับไปกับตา มันถูกเติมเต็มหลายรอบ จากคนตัวเล็กความสูงแค่ระดับบ่าของเขาเท่านั้น ด้วยความที่กลัวว่าคนเมาจะตกเก้าอี้หัวทิ่มไปซะก่อนจึงเลือกที่นั่งติดกัน
“คุณมานั่งกินเหล้ากับผู้ชายแปลกหน้าแบบนี้ ไม่กลัวหรือไง?”
หญิงสาวทำเป็นไม่ได้ยิน ดวงตาคู่สวยฉ่ำปรือมองขวาง ด้วยสัมปชัญญะที่พร่าเลือนลงเรื่อย ๆ กลับนึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมา
“หมอ... หน้าเหมือนพี่ชาย... คนหนึ่ง... ของฉันเลยนะ”
“พี่ชายที่ไหนครับ? ผมว่าคุณเมามากแล้วล่ะ ให้ขวดสุดท้ายนะ...” สิ้นคำ รอยยิ้มระรื่นขึ้นวงหน้าหล่อเหลา เขาพยายามที่จะเพิกเฉยคำพูดนั้น โดยไม่รู้ว่าหญิงสาวในดวงใจเป็นคนช่างประชดประชัน เธอฉีกยิ้มกว้างหวานเพียงครู่
“อาจุมม่า โซจู!”
ได้ยินเสียงเรียกดัง หญิงสาวรุ่นราวคราวป้าในชุดผ้ากันเปื้อนลายหวาน ยกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีฉลากลายผลไม้ข้างขวดสีเขียวใสมาให้ถึงโต๊ะด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสก่อนจากไป
ความเป็นทั้งแฟนคลับและผู้หวังดี เขาคงไม่สามารถขัดใจหญิงสาวที่อยากทำความใฝ่ฝันตามปากบอก
“ตามรอยติ่งซีรีย์... โซจูรสพีช... อร๊อย... อร่อย...” เสียงแหลมเล็กเอ่ย มือยกกระดกแก้วใสใบเล็กไม่รู้ว่าเป็นแก้วที่เท่าไร ลักษณะของมันไม่ต่างจากน้ำเปล่า หากพอรสชาติหวานนุ่มละมุนลิ้นกลิ่นหอมไหลลงคอแห้งผาก ก็คอยจะต้องหลับตาปี๋ เพราะความแสบซ่านของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้นตำรับของชาวเกาหลี
“Very good! คัมซา ฮัมนีดา” เธอขอบคุณพร้อมโบกไม้โบกมือ ส่งยิ้มให้คุณป้าที่ทำงานอยู่แต่ก็เอี้ยวคอมองกลับมา แม้กระทั่งคนเมายังรับรู้ได้ว่าคนที่นี่อัธยาศัยดี
คุณป้าคุณลุงเจ้าของร้านเนื้อย่างเกาหลีริมทาง ดูแลลูกค้าในร้านทุกโต๊ะด้วยใจรัก นำเสนอเมนูเด็ดให้นักท่องเที่ยวได้ชิมอาหารรสชาติดี ๆ หลังจากเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม บางครั้งพวกเขาจะยืนรอถามว่าอร่อยไหม
“ดีจัง... หนาว ๆ แบบนี้เนอะ หมอ...” ว่าแล้วก็ซบหน้าลงบนไหล่กว้าง กลิ่นหอมอ่อนของโคโลญจน์บุรุษจากเสื้อโค้ทตัวโตสีดำสนิทสีเดียวกันกับเธอลอยมาแตะจมูก พาให้นึกถึงความทรงจำซึ่งจำมันได้ไม่ถนัดนัก
“ฉันเคยนอนโรงพยาบาลนาน ๆ เพราะพ่อ... เอ... พี่คนนั้น... เขาหายไปไหนนะ?”
หัวใจของเขาเต้นตึกรุนแรง นัยน์ตาคู่หวานคมหลุบมองคนที่อิงแอบกาย ถือวิสาสะเอื้อมแขนขึ้นโอบประคองเอวบางใต้เสื้อโค้ทกันหนาว ก่อนจะถามทั้งที่รู้คำตอบดี...
“พี่ชายคนนั้น... หน้าเหมือนผมหรือครับ?”
ไม่มีคำตอบจากร่างบางที่นิ่งสนิทไป เป็นอีกเสียงหนึ่ง... โทรศัพท์สั่นดังจากกระเป๋าเสื้อโค้ทสีดำสนิทของหญิงสาวทำให้เขาต้องล้วงหยิบมันขึ้นมา
คุณหมอหนุ่มออกจะเป็นคนมีมารยาทอยู่สักหน่อย เขาจึงพยายามสะกิดเธอให้ตื่นมารับโทรศัพท์ของพ่อและโค้ชของเธอก่อน ทั้งสองคนคงกำลังเป็นห่วง ขณะที่เจ้าตัวกลับกลายเป็นผู้หญิงเกรี้ยวกราดขึ้นมา ยังโวยวายเสียงดังลั่นร้านว่าไม่หมั้น ไม่แต่งไม่หมั้นกับใครอะไรสักอย่าง
สุดท้ายแล้วเขาจึงต้องแบกเธอขึ้นหลังไปที่รถยนต์ซึ่งเช่ามาสำหรับการท่องเที่ยวทริปนี้ แน่ว่าค่าเหล้าบนโต๊ะนั้นเขาเป็นคนจ่าย!
หาเหาใส่หัวหรือหาปัญหาใส่ตัวคงไม่ต่างกันสักเท่าไร...
ขากลับไปโรงแรม เขาต้องโทรถามจากทางโค้ชว่าอยู่ตรงไหน เป็นโชคดีที่มันไม่ไกลเกินสิบนาทีเดินทางโดยรถยนต์ แต่กลับเป็นโชคร้ายเมื่อโค้ชหนุ่มใหญ่อายุราว ๆ สักห้าสิบปีมายืนรอเปิดประตูห้องพักนักกีฬาหญิงให้ด้วยท่าทางหงุดหงิด
“เอ้า... หนีไปเที่ยวกับแฟนก็ไม่บอก คนเขาตามหากันแทบแย่ ตามสบายละกัน ห้องนี้เขากลับเที่ยงคืน ยังแข่งกันไม่เสร็จ” พูดแล้วก็ตัดความรำคาญใจด้วยการยัดกุญแจใส่กระเป๋าเสื้อโค้ทของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ก่อนเดินจากไปไม่มีแม้คำลา
คุณหมอหนุ่มไม่ทันได้อ้าปากพูด ยืนงงเป็นไก่ตาแตก ก่อนจะพาคนที่แบกอยู่บนหลังเข้าห้องไป ผลักประตูให้ปิดลงด้วยปลายเท้า
ในความคิดของเขา อริสาคงไม่ได้หลับสนิทดีนัก จากที่ตื่นมาบ่นพึมพำเป็นพัก ๆ ตั้งแต่ตอนนอนอยู่ในรถยนต์ เรื่องปืน เรื่องม้า เรื่องคู่หมั้นอะไรสักอย่าง เขาจึงใช้ความระวังเป็นอย่างมากขณะวางร่างบางลงอย่างเบามือบนที่นอนนุ่มเตียงซ้ายสุดเกือบจะติดกำแพง
“ผมไปแล้วนะ...” พูดเท่านั้น
หมับ! สองแขนเรียวรัดลำคอแกร่งไว้แน่น ร่างหนาที่ถูกดึงรั้งไว้ยันข้อศอกลงบนเตียงนุ่ม กดปลายเข่ามนลงกลางหว่างขาเรียว เตียงก็ยุบยวบตามน้ำหนักของเขาและเธอ แม้ว่าไม่ได้ตั้งใจ
“ไอ้โค้ช... เฒ่า... ฉัน.. มันตัวถ่วง... ใช่ไหม?”
“โค้ชคุณเขาเดินไปตั้งนานเป็นชาติแล้วครับ ปล่อยผมก่อน...” พูดแล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมา ด้วยความรู้สึกเสียวสันหลังวูบวาบอีกครั้ง นอกจากเธอจะไม่ปล่อยแล้วมือเล็กข้างหนึ่งเคลื่อนลงที่ต่ำ
ใต้เสื้อโค้ทตัวโตของชายหนุ่มมีแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวครีม กางเกงแสล็คดำ และเป็นเพราะว่าเขาไม่ได้ติดกระดุมเสื้อชั้นนอกไว้ให้มิดชิด มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่อีกคนจะลูบผ่านหน้าท้องเป็นลอนหนาไปถึงจุดหมาย กำเข้าหมับ!
“อืม... สมิธแอนด์เวลสัน... รีวอลเวอร์ .38”
“อย่าจับ...! อันนั้นไม่ใช่ปืน” ความสุภาพของคุณหมอหนุ่มยังคงอยู่อย่างเต็มกลืน มือหนาเลื่อนลงจับมือเล็กให้เลิกเล่นซุกซน ทว่ามือของเธอก็ดูจะเหนียวแน่นเหลือเกิน
เขาเองก็ไม่ใช่ผู้ชายเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ยังใช้การได้ดี!
“อา... อริสา ปล่อยผมก่อน... ครับ” เสียงทุ้มพร่ากึ่งคำรามอยู่ในลำคอ มือแข็งแรงอ่อนเปลี้ย พ่ายแพ้ให้กับอ้อมกอดอันทรงพลัง ชายหนุ่มขบกรามกรอดแน่นจนเห็นสันกราม เมื่อมือนุ่มนิ่มเริ่มขยับไปมาอย่างเอ็นดูราวกับว่ามันคือ สมิธแอนด์เวลสัน รีวอลเวอร์ .38!
“ปืนเก่า... มากเลยนา..” วงหน้าหวานระบายยิ้มบาง ๆ ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น เธอกำลังคิดถึงปืนเก่าอย่างสมิธแอนด์เวลสัน รีวอลเวอร์ มรดกตกทอดจากแม่ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2518
แต่ทำไมมันเปียก?
อาจเพราะแอลกอฮอล์ที่วิ่งวนอยู่ในกระแสเลือด ความสงสัยนั้นเธอสามารถลืมเลือนไปได้อย่างง่ายดาย เปลือกตาขาวปรือขึ้นมองเพดานสีขาวละลานตา ก่อนพริ้มตาปิดลงอีกครั้ง
สัมผัสร้อนจากไปพร้อมเสียงผ่อนลมหายใจสม่ำเสมอ คุณหมอหนุ่มจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ เลื่อนมือขึ้นจับแขนเรียวเล็กที่พันรอบคอออกอย่างเสียดาย ค่อย ๆ สอดปลายนิ้วเข้ากุมมือเล็กที่มีถุงมือของเขาครบทุกง่ามนิ้ว ยกขึ้นแตะริมฝีปากครั้งหนึ่ง
การได้อยู่เคียงข้างหญิงสาวเช่นนี้ มันคงไม่ต่างจากความฝัน หากทว่าเขาทำได้แค่เก็บความรู้สึกปั่นป่วนพลุ่งพล่านไว้ใต้สีหน้าสงบนิ่ง
“ผมไปแล้วนะ... อริสา”