เพราะกฎหมายที่บังคับคนโสดแต่งงาน ประธานหนุ่มจึงต้องจำใจแต่งกับเลขาจอมเฉิ่มข้างตัว "ฉันจะแต่งงานกับคนที่ไม่รักฉัน" "แล้วจะหาที่ไหนล่ะครับ" "นายไง" ประธานไม่รู้เลยว่าเลขาแอบรักตนอยู่...

พรบ.คุ้มครองคนโสด - บทที่ 1 พรบ.คุ้มครองคนโสด โดย กระต่ายปากแดง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,เลือดสาด,ไทย,อื่นๆ,แอคชั่น,นิยายวาย,มาเฟีย,ประธานบริษัท,BL,แอคชั่น,เปลี่ยนแปลงตัวเอง,แต่งงาน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พรบ.คุ้มครองคนโสด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,เลือดสาด,ไทย,อื่นๆ,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายวาย,มาเฟีย,ประธานบริษัท,BL,แอคชั่น,เปลี่ยนแปลงตัวเอง,แต่งงาน

รายละเอียด

เพราะกฎหมายที่บังคับคนโสดแต่งงาน ประธานหนุ่มจึงต้องจำใจแต่งกับเลขาจอมเฉิ่มข้างตัว "ฉันจะแต่งงานกับคนที่ไม่รักฉัน" "แล้วจะหาที่ไหนล่ะครับ" "นายไง" ประธานไม่รู้เลยว่าเลขาแอบรักตนอยู่...

ผู้แต่ง

กระต่ายปากแดง

เรื่องย่อ

สิงค์ มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศ นิสัยเอาแต่ใจ ผีเข้าผีออก ไม่มีใครอยากเข้าใกล้นอกจากเลขาผู้มีความอดทนสูง วันหนึ่งรัฐบาลประกาศกฎหมายใหม่

‘พรบ.คุ้มครองคนโสด’

เขาจึงต้องหาคู่แต่งงานให้เร็วที่สุด! หน้าที่ปวดหัวจึงตกเป็นของเลขาธนินไปโดยปริยา

“หาเมียให้ฉัน เอาไว้บังหน้ารัฐบาล จะเป็นใครก็ได้”

“ท่านประธานอยากได้แบบไหนล่ะครับ”

“คนที่เข้าใจฉัน ไม่ยุ่งวุ่นวายกับฉัน ไม่ว่าฉันจะกลับบ้านดึก หายไปกับผู้หญิงหรืออะไรก็ตาม และที่สำคัญต้องไม่รักฉัน ไม่เรียกร้องอะไรจากฉันนอกจากเงิน”

“คนแบบนั้นจะไปหาเจอง่าย ๆ ได้ยังไงครับ”

สิงค์หันมาหาเลขาจอมเฉิ่มที่แต่งตัวดี ๆ ยังไม่ทำ

“จริงสิก็มีอยู่คนหนึ่งนี่นา”

“ครับ?”

“นายไง เลขาธนิน เรามาแต่งงานกัน!”

“!!!!”

ประธานหนุ่มไม่รู้เลยว่าเขากำลังขอเลขาที่ 'แอบ' หลงรักตัวเองแต่งงาน แค่นี้ก็ไม่ตรงเงื่อนไขแล้ว!!

.

.

ไม่นานหลังจากนั้นเลขาหนุ่มก็หย่าแล้วหายตัวไปเงียบ ๆ พร้อมกับเด็กในท้อง ทุกอย่างเหมือนเป็นไปตามสัญญา ถ้าวันหนึ่งลูกไม่ไปเรียกท่านประธานว่าพ่อ!!!

"แม่ครับ นั่นพ่อใช่ไหม"

"ใช่ที่ไหนล่ะ นั่นเจ้านายเก่าแม่" 

"งั้นทำไมเขาถึงหน้าเหมือนผมล่ะ!" 

ธนินหมดคำจะพูด เขาไม่รู้จะอธิบายยังไงนอกจากบอกว่าท่านประธานคือผีบ้า

ลูกมนุษย์ไม่ควรคุยกับผีบ้าเด็ดขาด!!

สารบัญ

พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 1 พรบ.คุ้มครองคนโสด,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 2 ตามหาเจ้าสาว,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 3 นายหญิงของพยัคฆ์,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 4 สาวใช้รู้สถานะตัวเอง,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 5 นายหญิงตัวปลอม,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 6 สอบสวนคนวางยา,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 7 ลงโทษ NC,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 8 โรซาร์ดมาช่วยน้องสาว,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 9 นายหญิงมาแล้ว!,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 10 ผู้มาเยือนบนโต๊ะอาหาร,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 11 นมขิงตกพ่อสามี,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 12 แต่งสวย,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 13 สำรวจ NC,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 14 หัวหน้าสาวใช้โดนทิ้งแล้ว,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 15 วินาทีลอบสังหารบนพื้นถนน

เนื้อหา

บทที่ 1 พรบ.คุ้มครองคนโสด

ธนิน เลขาจอมเฉิ่มที่แอบหลงรักท่านประธานข้างเดียว และตอนนี้กำลังถือช่อดอกไม้ที่ซื้ออย่างลวก ๆ หน้าบริษัทเข้าพิธีแต่งงาน ใช่แล้ว...เขากำลังแต่งงานกับประธานบริษัทพยัคฆ์

ทางเดินยาวปูพรมแดง แชนเดอเรียพราวระยับเหนือหัว เสียงปรบมือของผู้คนที่ไร้ความจริงใจ  

แม้ไร้คนยินดี ขายาวก็ไม่หยุดก้าวเดิน ธนินเม้มปากซ่อนความประหม่าไว้ใต้ผ้าคลุม เมื่อถึงปลายทางมือหนาของว่าที่สามีก็เลิกผ้าขาวบางขึ้นเผยให้เห็นสีหน้านิ่งเรียบราวกับไม่รู้สึกอะไร

สิงค์ขมวดคิ้ว เลขาธนินเป็นเช่นนี้เสมอ นิ่งเงียบ ไร้อารมณ์และไม่ปริปาก แม้คิ้วเรียวจะถูกเส้นผมสีวอลนัทปิดบังไว้จนมองไม่เห็น ก็ขอเดาไว้เลยว่ามันคงไร้ปฏิกิริยาไม่ต่างจากใบหน้านี้ ช่างเป็นคนที่เหมาะสมจะแต่งงานเพียงในนามกับเขาเสียจริง

                “เจ้าบ่าว สาบานว่าจะรักและดูแลเจ้าสาวไปตลอดหรือไม่”

                “สาบานครับ”

                “เจ้าสาว สาบานว่าจะรักและดูแลเจ้าบ่าวไปตลอดหรือไม่”

                “...ครับ”

                พิธีกล่าวคำสาบานจบลงอย่างเย็นชืดเมื่อแลกแหวนกันแล้วก็เหลือโยนดอกไม้ถึงจะเป็นอันเสร็จสิ้นพิธี

                ธนินไม่รอช้าที่จะทำให้มันเสร็จไว ๆ แม้ความรักที่มีให้สามีจะเต็มเปี่ยม แต่ไม่มีใครชอบการแต่งงานที่เกิดจากสัญญาหรอก เขาไม่อยากหลอกตัวเองและมีความสุขในสถานที่แห่งนี้ คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็หันหลังแล้วโยนดอกไม้

                ช่อดอกไม้ขาวลอยละลิ่ว กลีบดอกไม้กระจายเล็กน้อย สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปยังช่อดอกขาว เมื่อมันตกลงบนมือของใครทุกอย่างก็จะจบลง ธนินตั้งใจจะเป็นภรรยาที่อยู่อย่างสงบ ๆ รอวันหย่าเพียงเท่านั้น

                ทว่า...ช่อดอกไม้กลับตกลงบนพื้นที่มีเลือดอาบนองอยู่เต็ม เปลี่ยนสีของดอกไม้ขาวให้กลายเป็นสีแดง เพราะเมื่อครู่ทุกคนจ้องดอกไม้อยู่จึงไม่เห็นว่ารอบด้านเกิดอะไรขึ้น หลังจากเสียงภายในงานเงียบลงเหมือนถูกหยุดเวลา แขกเหรื่อก็เริ่มรู้สึกตัว...ว่ามีคนนอนล้มอยู่บนพื้น!

                “มีการลอบสังหารท่านไตยชิต!!”

                “มีนักฆ่าเข้ามางั้นเหรอ!”

                “นี่งานเลี้ยงปิดที่ไม่มีแม้กระทั่งนักข่าวนะ!”

                “คนร้ายจะเป็นคนในได้ยังไงในเมื่อพวกเราเป็นพันธมิตรกัน ตระกูลพยัคฆ์จะ...ประกาศสงครามงั้นเหรอ!”

                ธนินยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก สิ่งที่ห่วงไม่ใช่คนโดนวางยาแต่เป็นอนาคตอันสงบสุข ดูเหมือนชีวิตแต่งงานของเขาจะไม่ราบรื่นเสียแล้ว

                 “เงียบ! ทางเราจะตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ระหว่างส่งตัวท่านไตยชิตไปรักษา ผมจะเป็นคนสอบสวนทุกคนเอง!” สิงค์ เจ้าบ่าวของงานนี้ก้าวออกมา

                ทุกคนสงบลงเล็กน้อย ตระกูลพยัคฆ์ถือเป็นตระกูลใหญ่ที่ปกครองประเทศนี้ร่วมกับอีกสามขุมอำนาจ หนึ่งในนั้นคือตระกูลแมงมุมแดงที่หัวหน้าตระกูลพึ่งถูกหามไปส่งโรงพยาบาลเมื่อครู่ และอีกหนึ่งคือตระกูลแมงป่องที่เป็นศัตรูกับทั้งสองตระกูล ส่วนขุมอำนาจที่แยกตัวออกมาคือรัฐบาล

                ถ้าจะอธิบายให้เห็นภาพก็คงเป็นดังนี้

                1. ตระกูลพยัคฆ์ขาว – พันธมิตรกับทุกขุมอำนาจใหญ่ยกเว้นแมงป่อง

                2. ตระกูลแมงมุมแดง – พันธมิตรกับทุกขุมอำนาจใหญ่ยกเว้นแมงป่อง

                3. ตระกูลแมงป่องดำ – พันธมิตรกับรัฐบาลเท่านั้น

                4. รัฐบาล – พันธมิตรกับทุกฝ่าย

ทั้งสี่คานอำนาจกันอยู่ หากสูญเสียไปแม้แต่ตระกูลเดียว สมดุลก็จะถูกทำลาย ทว่านั่นเป็นไปไม่ได้ที่พยัคฆ์จะทำร้ายหัวหน้าตระกูลแมงมุมแดง...

“ทุกคนที่มาร่วมงานนี้เป็นคนของพยัคฆ์ แมงมุมแดงและรัฐบาล ล้วนเป็นพันธมิตรที่รักใคร่กันดี หมายความว่าไม่มีทางที่คนนอกจะเข้ามาได้ หรือถึงเข้ามามันก็ต้องมีอำนาจใหญ่อย่างตระกูลแมงป่องดำ”

                “พี่สิงค์จะบอกว่าคนที่ทำร้ายคุณพ่อคือตระกูลแมงป่องงั้นเหรอครับ” กอร์น ลูก‍ชายเพียงคนเดียวของตระกูลแมงมุมแดงกล่าว

                “มีความเป็นไปได้ คำถามคือเข้ามาได้ยังไง” สิงค์ลูบคาง ในเมื่อสถานที่ และผู้คนล้วนเป็นพันธมิตรกับทั้งสองตระกูล

                หรือว่ามีหนอนบ่อนไส้?

                “งั้นค้นตัวทุกคนกันเถอะครับ พวกเราคือคนกันเองที่จัดงานเลี้ยงพบปะกันกี่ครั้งก็ไม่มีปัญหา แต่ดันมามีปัญหาวันแต่งงานของพี่ แปลว่าอาจมีคนนอกปะปนเข้ามาก็ได้ครับ”

                คำพูดของกอร์นจะตีความเป็นเช่นไรได้อีก ถ้าไม่ได้หมายถึงเจ้าสาวคนใหม่ที่สิงค์แต่งเข้ามา

‘คนนอก’ เพียงคนเดียวที่ไร้อำนาจ เบื้องหลังครอบครัวเป็นเด็กกำพร้า มีสิทธิ์สูงที่จะเป็นคนร้าย

                ซุบซิบ ๆ

                “จริงด้วย ภรรยาที่คุณสิงค์แต่งเข้ามาน่าสงสัยนะคะ”

                “เห็น ๆ กันอยู่ว่าหลับตาเลือกมาเพราะพรบ.คุ้มครองคนโสด”

                “เป็นผู้ชายแถมยังหน้าตาไร้เสน่ห์อีก”

                หล่อนไม่เห็นหน้าตาเขาด้วยซ้ำ ธนินลูบผมที่ปิดใบหน้าของตัวเองไปเกือบห้าสิบเปอร์เซ็นต์

                ปัง!!

                เสียงทุบโต๊ะดังขึ้นส่งผลให้เสียงพูดคุยเงียบลง สีหน้าของสิงค์มืดครึ้มอย่างเห็นได้ชัด ทุกคนจึงรู้ได้ทันทีว่าควรสงบปากสงบคำ

                “อย่าพึ่งด่วนตัดสิน ต้องค้นตัวให้เสร็จก่อน”

 

                ประตูทุกบานในพิธีจัดงานแต่งถูกปิดล็อก ทุกคนต่างถูกค้นตัวไม่เว้นแม้กระทั่งเจ้าบ่าวเจ้าสาว เนื่องจากพยัคฆ์ขาวก็เป็นผู้ต้องสงสัยเช่นกัน คนของแม‍งมุม‍แดงจึงเป็นผู้ค้นฝ่ายเดียว และไม่นานพวกเขาก็พบเบาะแสชิ้นโต

                “เจอตราประจำตระกูลแมงป่องอยู่ในกระเป๋าเสื้อเจ้าสาวครับ!!!”

                ฮือฮา...

                “ตระกูลแมงป่องเป็นศัตรูกับแมงมุมแดงและพยัคฆ์นี่”

                “นี่มันส่งตัวเจ้าสาวมาเป็นหนอนบ่อนไส้เลยเหรอ”

                “ฉันคิดไว้แล้ว ตระกูลพันธมิตรกันทั้งนั้นจะไปมีคนทรยศได้ยังไงถ้าไม่ใช่คนนอกอย่างเจ้าสาว”

                “เพราะหลับหูหลับตาจิ้มเลือกมานั่นแหละถึงได้เจอดีแบบนี้”

                “ถ้าจัดการไม่เหมาะสม พยัคฆ์กับแมงมุมแดงมองหน้ากันไม่ติดอีกแน่”

                ธนินยังคงยืนนิ่ง สีหน้าที่เรียบเฉยมีแวววิตกเล็กน้อย ขณะที่หัวสมองกำลังแล่นเพื่อหาทางเอาตัวรอด เสียงของคนผู้หนึ่งก็ดังขึ้น

                “ถึงจะมีตราประจำตระกูลแมงป่องดำในกระเป๋าเสื้อก็ไม่ใช่ตัวการันตีว่าเขาวางยาพิษครับ ผมจะตรวจสอบอีกที ขอให้ทุกท่านสงบลงด้วย”

ธนินที่ปกติจะคงสีหน้านิ่งถึงกับเลิกคิ้ว คุณสิงค์ออกหน้าปกป้องเขา?  เรื่องนี้เป็นไปได้ด้วยเหรอ

เขายังไม่ได้คำตอบของสิ่งที่สงสัยในใจเพราะหลังกล่าวจบคุณสิงค์ก็ควบคุมสถานการณ์ที่ตื่นตระหนกให้สงบลงและต้อนแขกออกจากงาน พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะสืบสวนเรื่องนี้ต่อไปไม่ปล่อยผ่านอย่างแน่นอน

ทว่าเมื่อภายในโถงจัดงานเหลือเพียงเจ้าบ่าวเจ้าสาวและคนของพยัคฆ์ สิงค์กลับผลักเขาจนติดกำแพงพร้อมกล่าวด้วยแววตาแข็งกร้าว

“ฉันไม่ได้เชื่อใจนายหรอกนะ แต่ถ้ายอมรับออกไปว่าพยัคฆ์แต่งงานกับศัตรูก็ขายหน้าแย่ ธนิน ต่อจากนี้นายจะต้องทุกข์ทรมานที่บังอาจมาหลอกคนอย่างฉัน!!”

ธนินอึ้ง กะแล้วว่าการแต่งงานครั้งนี้คงไม่มีวันสงบสุข เดิมทีเขาก็เป็นแค่เลขาหงิม ๆ ทำงานเงียบ ๆ ข้างโต๊ะเจ้านายเท่านั้น เหตุมันเกิดจากนโยบายของรัฐบาลคนใหม่นั่นแท้ ๆ

 

สองอาทิตย์ก่อน...

                รัฐบาลประกาศข้อบังคับใหม่ ‘พรบ.คุ้มครองคนโสด’ คล้ายกับพรบ.รถยนต์ที่ต้องจดทะเบียนทุกคันเพื่อเป็นหลักประกัน แต่แทนที่จะคุ้มครอง ‘รถ’ กลับคุ้มครอง ‘คนโสด’ แทน

                ใครก็ตามที่ยังไม่แต่งงานจะต้องถูกบังคับให้แต่งเพื่อเพิ่มประชากรของประเทศ โดยผู้ที่สามารถยื่นคำร้องไม่แต่งได้จะมีแค่ผู้มีรายได้น้อย ผู้มีปัญหาทางจิตและสุขภาพไม่ดี ส่วนมากบุคคลที่มีรายได้น้อยกว่าห้าหมื่นบาท รัฐบาลจะมองข้ามไป

                ส่วนผู้ที่มีรายได้มากกว่าห้าหมื่นบาท หากไม่มีปัญหายิบย่อยดังกล่าวล้วนต้องแต่งอย่างไม่มีข้อแม้ แน่นอนว่าสามารถนำใบเสร็จการบริจาคเพื่อส่วนรวมมายื่นคำร้องขอไม่แต่งได้ แต่ก็ต้องรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมมาแทนอยู่ดี

                มองเผิน ๆ อาจจะดีแต่ก็เป็นการบังคับอย่างเห็นได้ชัด ประเทศทาร์ลักซ่า

ถูกปกครองโดยมาเฟีย ประชาชนล้วนไม่กล้าหือเพราะระแวงว่าจะเจอมาเฟียมาเคาะประตูบ้านยามดึก

                ธนินเดินเข้าบริษัทใหญ่ของพยัคฆ์ด้วยบุคลิกที่มั่นคง ป้ายคล้องคอแทบไม่แกว่งเมื่อมันอยู่บนตัวเลขาคนนี้ มือขาวจัดท่าทางของสูทสีน้ำตาลให้ตรงสนิท ไร้การเคลื่อนไหว ไร้รอยยับ ไม่ต่างจากสีหน้าของเขาที่แทบไม่เปลี่ยน

                อันที่จริงธนินแค่เก็บสีหน้าเก่ง กลัวใครเขารู้ว่าขี้ประหม่า...โดยเฉพาะเวลาอยู่ต่อหน้าเจ้านายสุดหล่ออย่างคุณสิงค์

                ปัง!!!

                เสียงอะไรบางอย่างกระแทกกับโต๊ะดังขึ้น ธนินยังเดินไม่ถึงห้องทำงานก็รู้ว่าเพราะอะไร พนักงานหลายคนแทบไม่กล้าเฉียดเข้าใกล้นอกจากเขาที่มีโต๊ะทำงานอยู่ในห้องนั้น

                “คุณธนินอย่าพึ่งเข้าไปเลยครับ ท่านประธานโมโหแต่เช้าเลย” คุณศักดิ์ ชายอ้วนที่เดินมาชงกาแฟแถวนี้กล่าวพลางลูบแขนตัวเองที่มีขนชูชัน

                “คนของรัฐบาลมาหาคุณสิงค์เหรอครับ”

                “โห คุณธนินเดาได้แม่นเลยค่ะ นี่ลาออกจากตำแหน่งเลขาไปเป็นหมอดูได้เลยนะคะ” คุณหยงเอ่ยแซว สาวออฟฟิศใต้ตาคล้ำที่มาด้อม ๆ มอง ๆ หน้าประตูมาสัก‍พัก ไม่กล้าเอาเอกสารเข้าไปสักที

                ธนินยิ้มบางแล้วรับเอกสารในมือมาถือเอง รู้ทันทีว่าตัวเองต้องเป็นคนเอาไปให้

                “คงโมโหที่ต้องแต่งงานน่ะครับ เดี๋ยวผมเอาเอกสารเข้าไปเอง” กล่าวจบร่างสูงโปร่งก็เดินเข้าห้องทำงานส่วนตัวไป

                ศักดิ์กับหยงหันมาซุบซิบกัน

                “คุณธนินเขานิ่งตลอดเลยเนอะ พูดน้อยราวกับพิกุลจะร่วง”

                “เขายิ้มให้เธอก็ดีแค่ไหนแล้ว ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญเขาไม่พูดนะ เวลาท่านประธานบ่นยังพูดเยอะกว่าคุณธนินอีก”

                “นั่นเขายิ้มมารยาท คงเป็นอินโทรเวิร์ตละมั้ง ท่านประธานก็สรรหาเลขาที่เหมาะกับตัวเองเนอะ”

                “เหมาะกับตัวเอง?”

                “ก็พูดน้อยไง เวลาบ่นจะได้เงียบ ๆ”

                 “เหมาะแบบกิ่งทองใบรับรองแพทย์ล่ะสิ” ศักดิ์ยกกาแฟขึ้นจีบ “นี่ถ้าเข้ากันได้ขนาดนั้น ก็แต่งกันไปเลยสิ จะได้ไม่ต้องโมโห ได้คนที่ถูกใจด้วย”

                หยงส่ายหน้า “ไม่มีทาง ถ้าแต่งกันจริง ๆ ฉันยอมโกนหัวเลย”

                ถึงท่านประธานจะหล่อรวยแต่ก็เป็นมาเฟียที่กุมอำนาจในประเทศ หากโมโหขึ้นมา บ้านคงหายทั้งหลัง ใครจะกล้ายุ่ง

                หลังจากนั้นสองอาทิตย์ หยงก็ต้องโกนหัวจริง ๆ...

               

                ในขณะเดียวกันภายในห้องทำงาน ร่างสูงโปร่งเดินเอาเอกสารมาวางบนโต๊ะ สายตาเหลือบมองข้าวของที่เกลื่อนกลาดบ่งบอกว่าเจ้าของไม่ได้ทะนุถนอมมันนัก สมกับเป็นมาเฟีย รุนแรง อารมณ์ร้อน ไร้ความอ่อนโยน...

                ธนินก้มเก็บของที่กระจัดกระจายแล้วนำมาวางบนโต๊ะอย่างเดิมโดยไม่ถามอะไร นั่นเป็นสิ่งที่สิงค์ถูกใจ เขาไม่ชอบเสียงพูดมากน่ารำคาญ

                “ทำไมไม่หาคนมาแต่งงานไว้บังหน้ารัฐบาลไปเลยล่ะครับ” ธนินพูดขณะจัดของ สายตาไม่มองไปที่เจ้านายราวกับไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้นัก “ถ้าผู้ปกครองไม่ทำตามกฎหมายซะเอง อาจจะมีปัญหากับรัฐบาลและภาพลักษณ์ได้นี่ครับ”

                “ฉันจะหาคนที่ไม่ยุ่งวุ่นวายกับฉัน ไม่ว่าฉันจะมีผู้หญิงคนอื่นหรือควงใครหน้าไหน ไม่เรียกร้องอะไรนอกจากเงินได้ที่ไหน” สิงค์ถอนหายใจ “ฉันไม่อยากรับเลี้ยงลูกบุญธรรมสักหน่อย เด็กกำพร้าง่ายต่อการปลอมแปลงประวัติ เป็นคนที่ตระกูลอื่นส่งมารึเปล่าก็ดูยาก”

                ตระกูลมาเฟียใหญ่มีแค่สามตระกูลก็จริง แต่ขุมอำนาจขนาดกลางถึงเล็กที่รอวันขึ้นมาผงาดแทนก็เยอะเช่นกัน คงมีแค่รัฐบาลที่ลอยตัว เป็นบุคคลที่สี่ปีก็จากไปจึงไม่มีใครสนใจมากนอกจากเชื่อมความสัมพันธ์เพื่อเสริมอำนาจชั่วคราว

                รัฐบาลมีไว้คานอำนาจกับตระกูลมาเฟียบ้าเลือดทั้งหลายยังไงล่ะ

                “ประธานชอบคนแบบไหนครับ”

                สิงค์เลิกคิ้ว “ถามทำไม”

                “ผมจะหาเจ้าสาวของคุณให้เองครับ”