เพราะกฎหมายที่บังคับคนโสดแต่งงาน ประธานหนุ่มจึงต้องจำใจแต่งกับเลขาจอมเฉิ่มข้างตัว "ฉันจะแต่งงานกับคนที่ไม่รักฉัน" "แล้วจะหาที่ไหนล่ะครับ" "นายไง" ประธานไม่รู้เลยว่าเลขาแอบรักตนอยู่...

พรบ.คุ้มครองคนโสด - บทที่ 4 สาวใช้รู้สถานะตัวเอง โดย กระต่ายปากแดง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,เลือดสาด,ไทย,อื่นๆ,แอคชั่น,นิยายวาย,มาเฟีย,ประธานบริษัท,BL,แอคชั่น,เปลี่ยนแปลงตัวเอง,แต่งงาน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พรบ.คุ้มครองคนโสด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,เลือดสาด,ไทย,อื่นๆ,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายวาย,มาเฟีย,ประธานบริษัท,BL,แอคชั่น,เปลี่ยนแปลงตัวเอง,แต่งงาน

รายละเอียด

เพราะกฎหมายที่บังคับคนโสดแต่งงาน ประธานหนุ่มจึงต้องจำใจแต่งกับเลขาจอมเฉิ่มข้างตัว "ฉันจะแต่งงานกับคนที่ไม่รักฉัน" "แล้วจะหาที่ไหนล่ะครับ" "นายไง" ประธานไม่รู้เลยว่าเลขาแอบรักตนอยู่...

ผู้แต่ง

กระต่ายปากแดง

เรื่องย่อ

สิงค์ มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศ นิสัยเอาแต่ใจ ผีเข้าผีออก ไม่มีใครอยากเข้าใกล้นอกจากเลขาผู้มีความอดทนสูง วันหนึ่งรัฐบาลประกาศกฎหมายใหม่

‘พรบ.คุ้มครองคนโสด’

เขาจึงต้องหาคู่แต่งงานให้เร็วที่สุด! หน้าที่ปวดหัวจึงตกเป็นของเลขาธนินไปโดยปริยา

“หาเมียให้ฉัน เอาไว้บังหน้ารัฐบาล จะเป็นใครก็ได้”

“ท่านประธานอยากได้แบบไหนล่ะครับ”

“คนที่เข้าใจฉัน ไม่ยุ่งวุ่นวายกับฉัน ไม่ว่าฉันจะกลับบ้านดึก หายไปกับผู้หญิงหรืออะไรก็ตาม และที่สำคัญต้องไม่รักฉัน ไม่เรียกร้องอะไรจากฉันนอกจากเงิน”

“คนแบบนั้นจะไปหาเจอง่าย ๆ ได้ยังไงครับ”

สิงค์หันมาหาเลขาจอมเฉิ่มที่แต่งตัวดี ๆ ยังไม่ทำ

“จริงสิก็มีอยู่คนหนึ่งนี่นา”

“ครับ?”

“นายไง เลขาธนิน เรามาแต่งงานกัน!”

“!!!!”

ประธานหนุ่มไม่รู้เลยว่าเขากำลังขอเลขาที่ 'แอบ' หลงรักตัวเองแต่งงาน แค่นี้ก็ไม่ตรงเงื่อนไขแล้ว!!

.

.

ไม่นานหลังจากนั้นเลขาหนุ่มก็หย่าแล้วหายตัวไปเงียบ ๆ พร้อมกับเด็กในท้อง ทุกอย่างเหมือนเป็นไปตามสัญญา ถ้าวันหนึ่งลูกไม่ไปเรียกท่านประธานว่าพ่อ!!!

"แม่ครับ นั่นพ่อใช่ไหม"

"ใช่ที่ไหนล่ะ นั่นเจ้านายเก่าแม่" 

"งั้นทำไมเขาถึงหน้าเหมือนผมล่ะ!" 

ธนินหมดคำจะพูด เขาไม่รู้จะอธิบายยังไงนอกจากบอกว่าท่านประธานคือผีบ้า

ลูกมนุษย์ไม่ควรคุยกับผีบ้าเด็ดขาด!!

สารบัญ

พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 1 พรบ.คุ้มครองคนโสด,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 2 ตามหาเจ้าสาว,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 3 นายหญิงของพยัคฆ์,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 4 สาวใช้รู้สถานะตัวเอง,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 5 นายหญิงตัวปลอม,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 6 สอบสวนคนวางยา,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 7 ลงโทษ NC,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 8 โรซาร์ดมาช่วยน้องสาว,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 9 นายหญิงมาแล้ว!,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 10 ผู้มาเยือนบนโต๊ะอาหาร,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 11 นมขิงตกพ่อสามี,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 12 แต่งสวย,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 13 สำรวจ NC,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 14 หัวหน้าสาวใช้โดนทิ้งแล้ว,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 15 วินาทีลอบสังหารบนพื้นถนน

เนื้อหา

บทที่ 4 สาวใช้รู้สถานะตัวเอง

คืนก่อน...

สิงค์กับธนินกลับบ้านมาในช่วงเวลาที่ทุกคนควรหลับใหล เพราะพระจันทร์ลอยเหนือเมฆได้หลายชั่วโมงแล้ว กระนั้นกลับมีสาวใช้และคนงานจำนวนมากยืนรอต้อนรับกันอยู่

พวกสาวใช้น่ะเข้าใจได้ คงเป็นห่วงอันดาจึงยืนรอเพื่อเอาใจช่วยเธอ เพราะคนที่สามารถขอร้องให้สิงค์ยกโทษให้มีเพียงจันต์ที่เป็นหัวหน้าสาวใช้ คนที่ตำแหน่งต่ำกว่านั้นต้องสงบปากสงบคำ ส่วนคนงานฝ่ายอื่น ๆ น่าจะมารอดูท่าทีมากกว่า

การลงโทษสาวใช้ครั้งนี้สามารถบอกสถานะของนายหญิงได้ ถ้าอันดาถูกลงโทษ หมายความว่าพวกเขาต้องเกรงนายหญิงตัวปลอมคนนี้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าไม่...หมายความว่านายหญิงคนนี้เทียบไม่ได้กับสาวใช้เลย

คนในตระกูลพยัคฆ์แม้กระทั่งคนงานล้วนเป็นมาเฟีย คุณค่าของพวกเขามีมากกว่าคนธรรมดา และเวลาทำผิดก็มีการลงโทษที่รุนแรงกว่าคนธรรมดาด้วยเช่นกัน อาจเรียกได้ว่าทุกคนในคฤหาสน์นี้คือครอบครัว แล้วนายหญิงจะรับมือกับสัตว์ร้ายทั้งหลายแล้วกลายมาเป็นครอบครัวเดียวกันได้รึเปล่านะ

                แน่นอนว่าคนงานทุกคนไม่มีใครคิดว่าตัวปลอมจะกลายมาเป็นตัวจริงอยู่แล้ว

                สิงค์มองคนงานทุกคนที่ยืนก้มหน้าเรียงแถวหน้ากระดานเบื้องหน้าเขา

                “เรื่องที่เกิดขึ้นปิดปากให้เงียบ อย่าให้เล็ดไปถึงข้างนอก ส่วนการสอบสวนความผิด” เขามองไปที่อันดา “จะเริ่มพรุ่งนี้”

                กล่าวจบร่างสูงก็หมุนตัวเดินกลับห้องตัวเองไป โดยธนินเดินตามไปติด ๆ

                “เฮ้อ”

                คนรับใช้ทุกคนถอนหายใจ นึกว่าจะโดนนายท่านดุวันนี้ซะแล้ว แน่นอนว่าจันต์กับอันดาไม่กลัวเลยว่าจะโดนวันไหน พวกเธอหมายมั่นไว้ในใจว่าคนที่โดนกำจัดไม่ใช่พวกเธอแต่เป็นธนิน

                “คุณช่วยฉันได้แน่นอนใช่ไหมคะ” อันดาจับไหล่ของจันต์อย่างประจบ

                “แน่นอนอยู่แล้ว แค่คนอ่อนแอธรรมดาจะสู้สัตว์ร้ายแบบพวกเราได้ยังไง”

                “คุณธนินไม่ได้ใสซื่ออย่างที่คิดนะคะ เขาร้ายกว่าที่ตาเห็น”  

                “ร้ายยังไงก็แค่ลูกแมวที่ยังไม่เคยเข้าถ้ำเสือ เรารอตะครุบเหยื่อเถอะ พรุ่งนี้ธนินต้องโดนจัดการ” จันต์เหยียดยิ้มร้าย

                คนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอาจเป็นหนอนบ่อนไส้ที่ตระกูลแมงป่องส่งมาน่ะเหรอนายหญิง หึ คนงานที่นี่จงรักภักดีกับพยัคฆ์เป็นที่สุด ย่อมไม่ยอมให้ภัยอันตรายเข้ามาแพร่งพรายใส่พยัคฆ์แน่

                หลังจากจบเรื่องทุกคนก็แยกย้ายกันเข้านอน จันต์ที่เป็นหัวหน้าสาวใช้อยู่ปิดไฟก่อนจะเดินกลับห้องนอนตัวเอง

                ระหว่างทางนั้นมืดมิด มีเพียงแสงไฟจากหน้าต่างบานใหญ่สาดส่องเข้ามาเป็นช่วง ๆ หญิงวัยกลางคนถือตะเกียงน้ำมันเป็นตัวส่องทาง

                ประเทศทาร์ลักซ่าเป็นเกาะที่อยู่ห่างไกล ทรัพยากรมีจำกัด บางอย่างจึงใช้ของดั้งเดิมอย่างตะเกียงหรือฟืน โชคดีที่อุณหภูมิของที่นี่ไม่หนาวนักจึงไม่ต้องหยิบฟืนมาใช้บ่อย

                เครื่องทำความร้อนที่เรียกว่าฮิตเตอร์ยังไม่ถูกนำเข้ามามากนัก แถมคุณท่านยังไม่ชอบเท่าไหร่ด้วย ท่านชอบผิงไฟหน้าปล่องควันแล้วอ่านหนังสือมากที่สุด

                เดินไม่นานก็ถึงห้องพัก เธอเปิดประตูเข้าไปเหมือนทุกที ทว่าสิ่งที่เห็นกลับทำให้หัวคิ้วของหญิงวัยกลางคนขมวดเข้า

                ธนินกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียงของเธอ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้า ต่างจากคนที่ดูอ่อนแอและนิ่งเงียบอย่างที่แสดงออกก่อนหน้านี้

                “ไง กลับห้องช้านะ คุณจันต์”

                “นะ...นายหญิงเข้ามาในห้องฉันได้ยังไงคะ”

                ธนินลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินมาหยุดต่อหน้าหัวหน้าสาวใช้

                “อย่าทำหน้าตาน่ากลัวแบบนั้นสิ ฉันไม่ได้ทำอะไรหรอก แค่มาเตือนเฉย ๆ ว่าความลับของเธอ คนสำคัญของเธอ จะเป็นยังไงขึ้นอยู่กับการกระทำของเธอเองนะคุณจันต์”

                “นายหญิงพูดเรื่องอะไรคะ ถ้าคุณยังพร่ำเพ้ออยู่ฉันจะเรียกนายท่านนะคะ!” จันต์เริ่มใช้เสียงดังราวกับเธอถือไพ่เหนือกว่าทั้ง ๆ ที่ตัวสั่นอยู่

                “อย่าทำเป็นไขสือไปหน่อยเลย คงไม่อยากรู้หรอกใช่ไหมว่าถ้าคุณท่านกับคุณสิงค์รู้ว่าเธอมีความลับอะไรแล้วจะส่งผลยังไง คุณจันต์เป็นคนฉลาดนี่นา”

                “นายหญิงเป็นแค่พนักงานบริษัทธรรมดาจะทำอะไรฉันได้คะ!”

                “ใช่ พนักงานบริษัททำไม่ได้ แต่นายหญิงของพยัคฆ์ขาวทำได้นะ ลองดูไหมล่ะ ลูกชายวัยกำลังน่ารักเลยไม่ใช่เหรอ”

                ตุบ!

                จันต์คุกเข่าลง ตัวสั่นหงก ๆ “ฉันยินดีทำตามที่นายหญิงต้องการทุกอย่างค่ะ ขอร้อง ฮึก ขอร้องอย่าบอกความลับของฉันหรือยุ่งกับลูกชายของฉันเลยนะคะ”

                “หึ ฉันดีใจนะที่คุณจันต์เป็นคนพูดรู้เรื่อง อันที่จริงฉันเป็นคนพูดไม่เก่ง ว่าอะไรไปก็ไม่น่าเชื่อถือ เธอคงรู้อยู่แล้วว่าตำแหน่งพนักงานบริษัทหรือตำแหน่งนายหญิงของพยัคฆ์ขาวมันไม่ช่วยให้ใครเชื่อคำพูดของฉัน แต่ว่า...ถ้าฉันถึงขั้นรู้ความลับของเธอ หมายความว่าหลักฐานเองก็มีเช่นกัน หลักฐานน่ะไม่โกหกหรอก ต่อให้ใช้โจรห้าร้อยหรือขอทานข้างทางพูด ตราบใดที่มีหลักฐานครบ พวกเขาก็เชื่อ”

                ธนินยิ้มบางให้คนที่คุกเข่าบนพื้น “คิดอย่างงั้นไหมคุณจันต์”

                “ค่ะ ใช่ค่ะ เป็นอย่างที่นายหญิงพูดทุกอย่าง”

                “เธอคงเหนื่อยแล้ว วันนี้ฉันกลับก่อนแล้วกัน ฝันดีล่ะ”

                รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มตามมารยาทตามปกติของธนิน แต่มันช่างน่ากลัวจนสลักลึกถึงขั้วหัวใจ จนกระทั่งบานประตูปิดลง ใบหน้าของนายหญิงก็ชัดกระจ่างแจ้งในความทรงจำ

                นายหญิงไม่ใช่ดอกไม้ขาวตั้งแต่แรก เขาแค่แสดงด้านอ่อนแอ สงบปากสงบคำให้เห็น...แล้วจึงค่อยเผยออกมาว่าดอกไม้ดอกนี้...มีหนามแหลมคม

                “ช่างเหมาะกับการเป็นนายหญิงของพยัคฆ์เสียจริง” จันต์ถอนหายใจ “คงน่ายินดีไปแล้ว ถ้าฉันไม่ใช่คนทรยศของตระกูลพยัคฆ์”

 

                กลับมาในปัจจุบัน จันต์รู้ถึงจุดประสงค์ที่นายหญิงธนินมาเตือนแล้ว เธอจับมืออันดาแล้วพามาคุกเข่าขอโทษ คนคนนี้น่ากลัวกว่าที่ตาเห็น หากไปสะกิดมากเข้า เกรงว่าฝ่ายที่ถูกตะครุบจะเป็นเธอเสียเอง อีกอย่างนี่ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องมาโดนหางเลขไปพร้อมกับคนใต้อาณัติเลย

                “นายหญิง ฉันขอโทษค่ะ ฉันผิดไปแล้ว ครั้งหน้าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกค่ะ” อันดาโค้งหัวแล้วโค้งหัวอีก

                เธอรู้แล้วว่าหัวหน้าสาวใช้ตัดสินใจปล่อยมือ ไม่ยอมช่วยเธออีกต่อไป คุณจันต์เป็นคนรักพวกพ้องและคนในตระกูลพยัคฆ์มาก ๆ การที่เธอตัดสินใจทิ้งแปลว่าธนินเป็นคนที่อันตรายกว่าที่คิด การดึงดันต่อเป็นการกระทำที่โง่เขลา คนที่เธอควรเกาะขาต่อจากนี้คือนายหญิงต่างหาก!

                ธนินหันไปหาสามีตัวเอง “เห็นไหมครับ เธอรู้สึกผิดแล้ว ครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุ อันดาคงไม่ทำพลาดครั้งที่สองหรอกครับ ใช่ไหมอันดา”

                คำถามนี้ราวกับคำเตือนที่บอกว่า ถ้ามีครั้งหน้า เธอจะไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกแล้ว

                อันดาโค้งหัวอีกสามรอบ “ค่ะ ฉันจะตั้งใจทำงานให้ดี ไม่ผิดพลาดเป็นครั้งที่สองแล้วค่ะ”

                “หึ ใจอ่อนซะจริงนะ”

                “ถึงนายหญิงของพยัคฆ์ขาวจะไม่ควรแสดงด้านอ่อนแอให้ใครเห็น แต่นี่ไม่ใช่ความอ่อนแอครับ มีเมตตาต่างหาก ไม่งั้นพวกเขาคงกลัวและไม่กล้าเข้าใกล้ผมน่ะสิ”

                ‘ตอนนี้ก็ไม่กล้าเข้าใกล้!’ จันต์กับอันดาคิดเหมือนกันโดยมิได้นัดหมาย

                สิงค์ถอนหายใจ “ก็เป็นการตัดสินใจที่สมกับเป็นนายดี”

                ถ้าธนินเป็นนายหญิงตัวจริงเขาคงจะดุ แต่อีกฝ่ายเป็นแค่ตัวแทนที่รอวันหย่า การเป็นศัตรูกับคนของพยัคฆ์คงไม่ใช่การตัดสินที่ฉลาดในสายตาคนธรรมดา นับว่าวางตัวดี รู้สถานะตัวเอง

                ถึงอย่างงั้นเขาก็อดหงุดหงิดในใจไม่ได้ ถึงธนินวางท่าสักหน่อย สั่งลงโทษสาวใช้ที่คิดทำร้ายสักนิด เขาก็ไม่ว่าอะไรอยู่แล้วและจะไม่ให้คนพวกนี้แตะต้องธ‍นินหลังจากนั้นได้ด้วย

                เจียมตัวในเรื่องไม่เป็นเรื่องจริง ๆ!

                ว่ากันตามตรง ภรรยาของพยัคฆ์ขาวทุกรุ่นต้องเป็นที่ปรึกษาให้สามี คล้ายกุนซือ[1]ในสนามรบของจีน ทั้งเข้มแข็งและไร้ความอ่อนข้อ ถึงอย่างงั้นก็ต้องเคารพสามี ทว่านายหญิงคนก่อนอย่างมารดาของเขา เธอบกพร่องไปหลายอย่าง

                เป็นใบ้ นิสัยอ่อนโยนใจดีและอ่อนแอ แต่เธอกลับสามารถสั่งไทกริส พ่อของเขาและคุมคนในตระกูลพยัคฆ์ได้ อริญญาจึงเป็นข้อยกเว้นพิเศษ 

                เรียกได้ว่ามีจิตใจเข้มแข็งและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน...

                น่าเสียดายที่เธอถูกอังเตย์ ผู้นำตระกูลแมงป่องดำฆ่าทิ้งจนทำให้โลกทั้งใบของไทกริสและสิงค์พังทลาย พ่อของเขาเก็บตัวเงียบในห้อง แม้กระทั่งงานแต่งของเขา ไทกริสก็ไม่เข้าร่วม

                ธนินเป็นนายหญิงตัวจริงไม่ได้ เขาต้องการคนที่แข็งแกร่ง ไม่ไหวติงต่อสิ่งใด เพื่อให้ปกป้องตัวเองได้และไม่ทำให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นอีก

                “คุณท่านไม่ลงมาทานข้าวเหรอครับ” ธนินเอ่ยถามหลังจากเห็นสามีเงียบไปนาน

                “ปกติเขากินข้าวในห้อง ไม่ออกมาหรอกถ้าไม่มีเรื่องสำคัญ”

                เลขาหนุ่มเลิกคิ้ว จริงด้วยสิ ตั้งแต่นายหญิงคนก่อนเสียชีวิต คุณท่านก็เอาแต่เก็บตัวเงียบนี่นา

                “ไม่ต้องห่วงหรอก เขาจะสอบสวนนายแน่ ถ้านายเป็นหนอนบ่อนไส้จริงถึงจะแต่งงานกันแล้วฉันก็หย่าแล้วหาคนมาใหม่ได้”

                “ต้องไม่ใช่อยู่แล้วครับ ถ้าผมเป็นคนร้ายตัวจริงคงไม่วางยาในงานแต่งตัวเองให้น่าสงสัยหรอกครับ”

                “ไม่ล่ะ เพราะเป็นงานแต่งตัวเองนี่แหละมันเลยน่าสงสัย นายอาจจะวางยาในงานแต่งเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาก็ได้” สิงค์ชี้หน้าธนิน “เพราะไม่ว่านายจะแก้ตัวยังไง ตราประจำตระกูลแมงป่องดำที่เจอในกระเป๋าเสื้อก็เป็นของจริงอยู่ดี” กล่าวจบผู้นำตระกูลพยัคฆ์ก็ลุกออกจากโต๊ะกินข้าว

                นายหญิงของพยัคฆ์กะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะวิ่งตามสามีไป

                “คุณสิงค์ รอด้วยสิครับ!”

                แม้จะแต่งงานกันแล้วพวกเขาก็ไม่มีโอกาสได้ไปฮันนีมูน แถมยังต้องไปบริษัทเพื่อทำงานต่อด้วย

 

                ในอีกด้านหนึ่งภายในพื้นที่ลับของพยัคฆ์

                กลุ่มลูกน้องของมาเฟียกำลังถือเลื่อยและแผ่นไม้ขนาดใหญ่ในมือ มีอาวุธปืนและของอันตรายอยู่ทั่วทุกมุม พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในความมืด กลิ่นบุหรี่และควันขาวลอยอบอวลรอบห้อง

                กลุ่มของมาเฟียเปรียบเสมือนครอบครัว พวกเขาจะกีดกันทุกภัยอันตรายที่เข้ามายุ่งกับหัวหน้าของพยัคฆ์ขาว และรู้สึกภูมิใจในกลุ่มของตัวเองมาก ๆ บางคนเป็นเด็กกำพร้า บางคนมีเบื้องหลังชีวิตที่อยากลืม บางคนสืบทอดเจตนารมณ์มาจากพ่อแม่ 

                เพราะงั้นการรับใครสักคนมาเป็นนายหญิงจึงต้องคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน เพราะถือว่าก่อนเป็นนายหญิงก็เป็นคนนอกมาก่อน ทว่าธนินดันเข้ามาในฐานะ ‘นายหญิงตัวปลอม’ ไหนจะมีข้อพิพาทเรื่องวางยาหัวหน้าตระกูลแมงมุมแดงอีก

                ทำลายตระกูลพันธมิตรก็เหมือนตัดแข้งขาของพยัคฆ์ ทุกคนจึงไม่ยินดีกับเจ้านายใหม่คนนี้ อย่างไรคุณสิงค์ก็ไม่ได้รัก ไม่ได้เป็นนายหญิงจริง ๆ แถมอีกไม่นานก็ต้องหย่าออกไป พวกเขาย่อมไม่จำเป็นต้องเคารพ

                “อีกเดี๋ยวธนินจะมาที่นี่สินะ” โรซาร์ดหมุนที่จับเลื่อยไปมา

                “คุณโรซาร์ดจะสั่งสอนนายหญิงเหรอครับ”

                “สั่งสอนอะไรกัน พูดให้น่ากลัวไปได้ ฉันไม่ทำอันตรายคนธรรมดาหรอก”

                “หึ คำพูดไม่สมกับเป็นมาเฟียเลยนะครับ”

                “ฉันก็แค่อยากทำให้เขารู้สถานะตัวเองและไม่คิดว่าตำแหน่งนายหญิงนั่นเป็นของตัวเองจริง ๆ เท่านั้นเอง” ชายหนุ่มในชุดคนงานยิ้มเย็นออกมา


 

[1] กุนซือ ที่ปรึกษาให้แม่ทัพขณะทำสงคราม