เพราะกฎหมายที่บังคับคนโสดแต่งงาน ประธานหนุ่มจึงต้องจำใจแต่งกับเลขาจอมเฉิ่มข้างตัว "ฉันจะแต่งงานกับคนที่ไม่รักฉัน" "แล้วจะหาที่ไหนล่ะครับ" "นายไง" ประธานไม่รู้เลยว่าเลขาแอบรักตนอยู่...

พรบ.คุ้มครองคนโสด - บทที่ 5 นายหญิงตัวปลอม โดย กระต่ายปากแดง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,เลือดสาด,ไทย,อื่นๆ,แอคชั่น,นิยายวาย,มาเฟีย,ประธานบริษัท,BL,แอคชั่น,เปลี่ยนแปลงตัวเอง,แต่งงาน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พรบ.คุ้มครองคนโสด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,เลือดสาด,ไทย,อื่นๆ,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

นิยายวาย,มาเฟีย,ประธานบริษัท,BL,แอคชั่น,เปลี่ยนแปลงตัวเอง,แต่งงาน

รายละเอียด

เพราะกฎหมายที่บังคับคนโสดแต่งงาน ประธานหนุ่มจึงต้องจำใจแต่งกับเลขาจอมเฉิ่มข้างตัว "ฉันจะแต่งงานกับคนที่ไม่รักฉัน" "แล้วจะหาที่ไหนล่ะครับ" "นายไง" ประธานไม่รู้เลยว่าเลขาแอบรักตนอยู่...

ผู้แต่ง

กระต่ายปากแดง

เรื่องย่อ

สิงค์ มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศ นิสัยเอาแต่ใจ ผีเข้าผีออก ไม่มีใครอยากเข้าใกล้นอกจากเลขาผู้มีความอดทนสูง วันหนึ่งรัฐบาลประกาศกฎหมายใหม่

‘พรบ.คุ้มครองคนโสด’

เขาจึงต้องหาคู่แต่งงานให้เร็วที่สุด! หน้าที่ปวดหัวจึงตกเป็นของเลขาธนินไปโดยปริยา

“หาเมียให้ฉัน เอาไว้บังหน้ารัฐบาล จะเป็นใครก็ได้”

“ท่านประธานอยากได้แบบไหนล่ะครับ”

“คนที่เข้าใจฉัน ไม่ยุ่งวุ่นวายกับฉัน ไม่ว่าฉันจะกลับบ้านดึก หายไปกับผู้หญิงหรืออะไรก็ตาม และที่สำคัญต้องไม่รักฉัน ไม่เรียกร้องอะไรจากฉันนอกจากเงิน”

“คนแบบนั้นจะไปหาเจอง่าย ๆ ได้ยังไงครับ”

สิงค์หันมาหาเลขาจอมเฉิ่มที่แต่งตัวดี ๆ ยังไม่ทำ

“จริงสิก็มีอยู่คนหนึ่งนี่นา”

“ครับ?”

“นายไง เลขาธนิน เรามาแต่งงานกัน!”

“!!!!”

ประธานหนุ่มไม่รู้เลยว่าเขากำลังขอเลขาที่ 'แอบ' หลงรักตัวเองแต่งงาน แค่นี้ก็ไม่ตรงเงื่อนไขแล้ว!!

.

.

ไม่นานหลังจากนั้นเลขาหนุ่มก็หย่าแล้วหายตัวไปเงียบ ๆ พร้อมกับเด็กในท้อง ทุกอย่างเหมือนเป็นไปตามสัญญา ถ้าวันหนึ่งลูกไม่ไปเรียกท่านประธานว่าพ่อ!!!

"แม่ครับ นั่นพ่อใช่ไหม"

"ใช่ที่ไหนล่ะ นั่นเจ้านายเก่าแม่" 

"งั้นทำไมเขาถึงหน้าเหมือนผมล่ะ!" 

ธนินหมดคำจะพูด เขาไม่รู้จะอธิบายยังไงนอกจากบอกว่าท่านประธานคือผีบ้า

ลูกมนุษย์ไม่ควรคุยกับผีบ้าเด็ดขาด!!

สารบัญ

พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 1 พรบ.คุ้มครองคนโสด,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 2 ตามหาเจ้าสาว,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 3 นายหญิงของพยัคฆ์,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 4 สาวใช้รู้สถานะตัวเอง,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 5 นายหญิงตัวปลอม,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 6 สอบสวนคนวางยา,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 7 ลงโทษ NC,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 8 โรซาร์ดมาช่วยน้องสาว,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 9 นายหญิงมาแล้ว!,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 10 ผู้มาเยือนบนโต๊ะอาหาร,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 11 นมขิงตกพ่อสามี,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 12 แต่งสวย,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 13 สำรวจ NC,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 14 หัวหน้าสาวใช้โดนทิ้งแล้ว,พรบ.คุ้มครองคนโสด-บทที่ 15 วินาทีลอบสังหารบนพื้นถนน

เนื้อหา

บทที่ 5 นายหญิงตัวปลอม

ล้อรถเคลื่อนไปข้างหน้า คนขับรถหมุนพวงมาลัยมุ่งหน้าสู่บริษัทพยัคฆ์ที่ธนินไปทำงานทุกวัน ต่างกันตรงที่จุดเริ่มต้นครั้งนี้ไม่ใช่ห้องพักของตัวเองแต่เป็นบ้านเจ้านายที่บัดนี้กลายเป็นบ้านของเขาด้วย

                ธนินรู้มาว่าคนขับรถชื่อคิมหันต์ เอ่ยทักทายไปหลายประโยคเพราะสามีไม่คุยด้วยแต่กลับได้รับสายตาหงุดหงิดกว่าเดิมจากสามี ไม่รู้หวงลูกน้องอะไรขนาดนั้น เขารู้ดีว่าแม้กระทั่งคนขับรถก็คือมาเฟีย หาใช่คนธรรมดาทั่วไป ปืนสั้นที่พกไว้ข้างเอวเป็นตัวระบุได้ดี

                นายหญิงตัวปลอมไม่มีโอกาสสนิทสนมกับคนภายในเลยสินะ

                อันที่จริงธนินพูดไม่เก่ง จะคุยด้วยเฉพาะเวลามีเรื่องสำคัญ การฝืนคุยต่อก็ไม่ใช่เรื่องดีกับเขา ริมฝีปากนุ่มจึงปิดสนิทอย่างรวดเร็ว

                เมื่อมาถึงบริษัท ทุกสายตาก็จับจ้องมาที่พวกเขาทั้งคู่ แม้ไม่มีพรมแดงปูให้แต่รถลีมูซีนคันยาวก็เด่นหราชวนให้จับจ้องเสียเหลือเกิน ปกติธนินจะมาทำงานด้วยรถไฟ ครั้งนี้มากับหัวหน้า แม้ข่าวการแต่งงานของเขาจะมีคนรู้บ้างไม่รู้บ้างเพราะเป็นงานปิด แต่การมาทำงานพร้อมกันก็บอกอะไรได้หลายอย่าง

                คุณสิงค์ผีเข้าผีออกจึงมุ่งหน้าไปห้องทำงานไม่รอเขา ธนินจึงต้องรับมือกับพนักงานที่ตรงเข้ามาทักทายเขามากกว่าปกติ

                “สวัสดีค่ะคุณธนิน”

                “ยินดีด้วยนะคะที่แต่งงาน”

                “อุ๊ยไปรักกันตอนไหนครับเนี่ย”

                ดูเหมือนแผนการแต่งงานตบตารัฐบาลจะหลอกใครไม่ได้นอกจากเพื่อนร่วมงานในบริษัท...หรือพวกเขาแกล้งไม่รู้กันนะ ธนินไม่มีเวลาคิดซับซ้อนเขากล่าวขอบคุณคำอวยพรตลอดทางพร้อมรอยยิ้มตามารยาท

                จังหวะนั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งหน้าตาคุ้น ๆ แต่ทรงผมกลับเปลี่ยนไป มันโล้นเตียนเหมือนโดนไถจนเกลี้ยง

                คนที่ไม่ค่อยทักใครก่อนถึงกับเอ่ยปาก

                “คุณหยงไปบวชชีมาเหรอครับ”

                หยง “…”

                ชายร่างอ้วนเดินเข้ามาพร้อมแก้วกาแฟ เขาถอดผ้าสีเนื้อบนหัวหยงออกเผยให้เห็นเส้นผมสีดำข้างใน

                “หยงไม่ได้โกนหัวหรอกครับคุณธนิน แค่ชดใช้กรรมน่ะ ฮ่า ๆ” ศักดิ์หัวเราะร่วน

                หยงจึงรีบปิดปากชายอ้วนด้วยผ้าคลุมผม “ฮะ ๆ ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณธนิน พอดีเราเล่นอะไรด้วยกันนิดหน่อยน่ะ”

                “อ่า...ครับ”

                ธนินคิดว่าเพื่อนร่วมงานเขาก็มีบ้างที่จะทำอะไรแปลก ๆ งานคงเครียดมากสินะ

                ลับหลังธนินไป ทุกคนในบริเวณนั้นก็พุ่งมารวมตัวกันเพื่อนินทาเจ้าของผมสีวอลนัทที่พึ่งเดินเข้าห้องทำงาน

                “คนที่เฉิ่มสนิทขนาดนั้น ทำไมคุณสิงค์ถึงแต่งเป็นเมียได้ล่ะ”

                “ไม่รู้เหรอว่าเขาแต่งกันเพื่อตบตารัฐบาล อย่างท่านประธานน่ะคงมาตรฐานสูงเสียดฟ้า”

                “อ่า จะว่าไปฉันคงต้องหาคู่แต่งงานซะแล้ว”

                “เงินเดือนถึงห้าหมื่นเหรอ”

                “ฉันขายของออนไลน์ด้วยเลยโดนตรวจสอบน่ะสิ”

                “จะว่าไปท่านประธานออกจะหล่อรวยขนาดนั้น น่าจะเลือกคนที่ดูดีหน่อยไหมพี่”

                “เห็นว่าพยายามเลือกแล้วนะ จำไม่ได้เหรอที่วันนี้มีนางแบบ นางเอก สาว‍จบนอกเดินเข้าห้องสัมภาษณ์กันเป็นแถวน่ะ แต่คุณสิงค์เรื่องมากเลยไม่ผ่านสักคน”

                “หา! อันนั้นสัมภาษณ์หาเมียเหรอพี่ ฉันนึกว่าหาพนักงานซะอีก”

                “หาเมียนั่นแหละ แต่สุดท้ายคุณธนินเข้าวิน แกคงชอบคนเงียบ ๆ ว่านอนสอนง่ายล่ะมั้ง ยังไงก็แต่งชั่วคราวอยู่แล้ว”

                “เพราะงี้ล่ะมั้ง คุณธนินก็เลยเป็นได้แค่เลขา ไม่มีส่วนตัดสินใจในบริษัทเหมือนนายหญิงตัวจริง”

                นอกจากให้คำปรึกษาสามี นายหญิงของพยัคฆ์ยังเป็นคนจัดการงานในส่วนต่าง ๆ ของหลังบ้านอีกด้วย ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ยิบย่อยกว่าตำแหน่งผู้นำอย่างคุณสิงค์ หากส่วนไหนที่นายหญิงไม่สามารถตัดสินใจได้จึงค่อยส่งไปหาสามี เพื่อไม่ให้ภาระของหัวหน้าตระกูลหนักจนเกินไป 

                “โอ๊ย แต่ทุกวันนี้คุณธนินเขาก็แทบจะทำหน้าที่นายหญิงอยู่แล้ว บริษัทใหญ่โตแบบนั้น รอให้ท่านประธานมีเมีย ได้ล่มก่อนพอดี ถึงบางส่วนคุณเขาจะเข้าถึงไม่ได้เพราะยังไม่ใช่นายหญิงก็เถอะ แต่ตอนนี้เป็นแล้วนี่นา”

                บริษัทพยัคฆ์เป็นเจ้าของธุรกิจหลายเครือ แต่บริษัทแม่ที่ใหญ่ที่สุดก็คือบริษัทผลิตเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามาอย่างยาวนาน มันคือสิ่งหล่อเลี้ยงมาเฟียอย่างพวกเขาได้ดีที่สุดในฐานะธุรกิจเบื้องหน้า

                แน่นอนว่าสมัยก่อนมีธุรกิจมืดเบื้องหลังอย่างการขนยาเสพติด ขายของผิดกฎหมายและเจ้าหนี้นอกระบบ แต่ก็ยกเลิกไปสองรุ่นแล้ว มีข่าวลือจากประเทศอื่นว่าพวกมาเฟียทำให้ประเทศทาร์ลักซ่ากลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน

                ปัจจุบันจึงลดเหลือแค่สู้แลกเลือดกันเท่านั้น โดยทำธุรกิจเบื้องหน้าแข่งกันด้วยสงครามเย็น แต่ถ้ามองหน้าก็มีต่อยกันบ้าง

                ถึงจะมีพวกมาเฟียระดับล่างที่ทำธุรกิจมืดอยู่ แต่ตระกูลใหญ่ ๆ อย่างพยัคฆ์ขาว แมงมุมแดง แมงป่องดำและรัฐบาลเป็นคนคุมไม่ให้ข้ามเส้นมากจนเกินไป เพราะมีอำนาจมากขนาดนี้พวกเขาจึงต้องคานอำนาจกันเองด้วยเช่นกัน

                ธนินมองป้ายหน้าห้องที่เขียนว่าประธานบริษัทก่อนจะเคาะประตูแล้วเดินเข้าไปโดยไม่รอให้คนในห้องตอบ

                “เอาเอกสารสรุปแผนงานมาให้ครับ”

                “เมื่อวานเข้าโรงพยาบาลเอาเวลาไหนพิมพ์” สิงค์ละสายตาจากคอมพิวเตอร์เบื้องหน้าแล้วหันมาคุยกับเขาหลังจากเงียบมานาน สงสัยผีออกแล้ว

                “นอนพิมพ์ตอนกลางคืนครับ”

                “ฉันกำหนดเดดไลน์วันนี้ก็จริง แต่ถ้าเกิดเหตุสุดวิสัยฉันก็ไม่คิดจะเป็นเจ้านายใจมารสักหน่อย”

                เลขาคนก่อนก็โดนไล่ออกเพราะส่งงานช้าไม่ใช่รึไง...

                “เดี๋ยวผมหาเวลานอนหลังจากทำงานเสร็จครับ” เขาพูดต่อ “แต่คงหลังจากลงไปดูการผลิตด้านล่าง ได้ยินว่ามีลูกค้ารายใหญ่ไว้ใจให้เราทำงานสำคัญของเขา”

                “อืม ฝากด้วย”

                เมื่อบทสนทนาจบลง ธนินก็เดินออกจากห้องไป ทำเอาสิงค์เกาหัว

                “นี่ฉันได้คนหรือหุ่นยนต์มาแต่งงานกันแน่”

                เขาชอบทำงานกับธนินเพราะเงียบดี แต่บางครั้งก็เงียบเกินไป ทำไมไม่ใช้ตำแหน่งนายหญิงมาออดอ้อนออเซาะเขาหน่อยนะ ถ้าเป็นคนอื่นป่านนี้คงคิดว่าเขาแต่งด้วยเพราะหลงรัก แล้วก็เข้ามาเกาะแกะจนน่ารำคาญไปแล้ว

                สิงค์เดาะลิ้น “หึ ถ้าฉันจะส่งหนอนบ่อนไส้ไปตระกูลของศัตรู ก็ต้องไร้ความรู้สึกประมาณนี้แหละ ความลับถึงจะไม่แตก ขนาดฉันไม่พูดด้วยตอนเช้า เขายังไม่ร้อนรน”

                ไม่รู้ว่าสิงค์พูดออกมาเพราะคิดแบบนี้จริง ๆ หรือประชดประชันที่เมียไม่คุยด้วยกันแน่...

 

                ส่วนของการผลิตอยู่ส่วนล่างของบริษัท มีคนคุ้มกันและประตูที่แน่นหนา คนนอกจึงไม่สามารถเข้าไปได้ มีเพียงคนในตระกูลพยัคฆ์เท่านั้นที่ได้รับอนุญาต แน่นอนว่าก่อนหน้านี้เลขาธนินเข้าได้เพราะสิงค์งานล้นจนต้องหาคนช่วย

                แต่วันนี้เขามาด้วยตำแหน่งนายหญิง  

                “เชิญครับ นายหญิง” จอร์จ คนเฝ้าประตูกล่าวพลางก้มหัวให้เล็กน้อย

                “ขอบคุณครับ”

                บรรยากาศข้างในค่อนข้างอบและมืด ทุกคนกำลังหั่นไม้และทำเฟอร์นิเจอร์กันอยู่ ทว่าเมื่อพวกเขาเห็นธนินสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

                “เขามาแล้ว”

                “เหอะ เลขาจอมจุ้นจ้าน”

                “คิดว่าตัวเองเป็นนายหญิงรึไงถึงได้เข้ามาในส่วนการผลิตเบื้องหลังของพยัคฆ์”  

                “นี่ ตอนนี้คุณธนินเขาเป็นนายหญิงแล้วนะ”

                “แล้วไง ฉันยังไม่ยอมรับสักหน่อย ไม่ใช่คนรักของคุณสิงค์ด้วยซ้ำ หน้าตาก็...เฮ้อ”

                การต้อนรับที่คุ้นเคยของพวกคนงานทำให้ธนินอดยิ้มไม่ได้

                พวกมาเฟียที่ถอดเขี้ยวเล็บมาใช้ชีวิตบนดินก็มักมีนิสัยเช่นนี้ รักพวกพ้องและบ้าเลือด

                แน่นอนว่าพฤติกรรมเหล่านี้ธนินทำอะไรไม่ได้ พวกเขาไม่ใช่พนักงานส่วนหน้าที่สามารถไล่ออกได้ตลอดเวลา ถ้าจะให้อธิบายก็คงเป็นแบบนี้

                ‘พนักงานเบื้องหน้า’ ดูแลหน้างานทุกอย่าง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในงานสำคัญทุกประเภท รวมถึงสามารถไล่ออกได้ตลอดเวลาหากทำผิดพลาด

                ‘พนักงานเบื้องหลัง’ ดูแลส่วนที่เป็นความลับของพยัคฆ์ งานสำคัญทั้งหลาย ทุกคนเป็นมาเฟียของตระกูลพยัคฆ์ หากทำผิดต้องถูกลงโทษด้วยกฎของมาเฟีย ไม่ใช่กฎของพนักงานบริษัท

“มีลูกค้าสั่งเฟอร์นิเจอร์เข้ามาเป็นจำนวนมาก เขากำลังเปิดโรงแรมใหม่และไว้ใจในคุณภาพของบริษัทพยัคฆ์ ทุกคนคงได้รับใบรายการแล้ว สั่งไม้เข้ามาพอดีใช่ไหมครับ”

“พอดีครับ”

“สำหรับเตียงใช้สีโค้ด #5C2C06 นะครับ ส่วนเก้าอี้เป็นสีโค้ด #997950 ลูกค้าย้ำผมมาอีกทีว่าสีสำคัญมาก อย่าให้เพี้ยนนะครับ”

“พอเถอะน่า คุณไม่จำเป็นต้องเข้ามายุ่งก็ได้นะ ทางนี้เราจัดการเองได้อยู่แล้วครับ คุณธนิน” โรซาร์ด เดินออกมาจากมุมมืด หน้าบอกบุญไม่รับแขกสุด ๆ

“ผมมีหน้าที่รายงานข้อมูลทุกอย่างให้คุณสิงค์รู้ครับคุณผู้จัดการฝ่ายผลิต คนที่รับผิดชอบด้านข้อมูลแต่ไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายเลย อาจทำให้การสื่อสารผิดพลาดได้ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีเถอะครับ”

“คุณกำลังจะบอกว่าผมก้าวก่ายงานของคุณ ทั้ง ๆ ที่ส่วนนี้ผมเป็นคนคุมเหรอครับ!”

“ใช่ครับ” ธนินกล่าวตอบตามตรง

“ถึงตอนนี้คุณจะเป็นนายหญิงของพยัคฆ์ขาวแล้วแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณมีสิทธิ์มาสั่งอะไรผมนะ ธนิน” โรซาร์ดกดเสียงต่ำ

แต่แรงกดดันทั้งหลายไม่ได้ทำให้ธนินเปลี่ยนสีหน้าเลย เพราะไม่รับรู้ถึงความน่ากลัวของมาเฟียหรือทะนงตนว่าเป็นนายหญิงแล้วก็มิทราบ

“ผมรู้ว่าตัวเองไม่ถูกยอมรับ ทั้งไม่ใช่คนรักเจ้านาย  ทั้งถูกตั้งข้อสงสัยว่าเป็นคนวางยาผู้นำตระกูลแมงมุมแดง แต่ความสามารถของผมในฐานะเลขาก็ทำให้ผมอยู่มานานกว่าเลขาคนไหน ๆ คุณโรซาร์ดคงนับวันรอผมหย่าทุกคืน แต่อย่าลืมว่าหลังหย่าผมก็ยังเป็นเลขาและจะมาจุ้นจ้านที่นี่ต่อไปครับ...อย่างน้อยก็จนกว่านายหญิงตัวจริงจะมา”  

โรซาร์ดโกรธจนเลือดขึ้นหน้า “คุณธนินนี่ทะนงตัวจริง ๆ นะครับ ไม่เกรงกลัวแม้กระทั่งมาเฟียที่กำลังถืออาวุธ”

ธนินมองโรซาร์ดที่กำลังถือเลื่อย รวมถึงลูกน้องคนอื่น ๆ ที่หยุดมือจากงานไม้และถืออาวุธกันคนละอย่าง ราวกับถ้าโรซาร์ดออกคำสั่ง เขาจะถูกรุมทันทีโดยไม่สนตำแหน่งนายหญิงที่ประดับบ่าอยู่

                เลขาหนุ่มเดินตรงไปหาโรซาร์ดอย่างไร้ความเกรงกลัว นั่นทำให้ชายหนุ่มเดินถอยหลังโดยไม่รู้ตัว เมื่อธนินเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า เขาก็เอามืออังหน้าผากของโร‍ซาร์ดแล้วยิ้มบางออกมา

                “หน้าผากร้อนนะครับ คงเพราะที่นี่ค่อนข้างอบ ถ้าว่าง ๆ คุณขึ้นไปพักข้างบนสักหน่อยสิครับ” กล่าวจบธนินก็หมุนตัวเดินออกไป

                “…ห้ะ นี่ เดี๋ยวสิ!

                “อ๋อ ระวังไม้เสียหายด้วยนะครับ ได้ยินว่ารถขนส่งเกิดอุบัติเหตุก่อนมาถึงที่นี่นี่ครับ”

                ปัง!

                ประตูปิดลง ทิ้งความงงงวยให้ทุกคนในฝ่ายการผลิต สรุปแล้วแผนการสั่ง‍สอนนายหญิงตัวปลอมก็ไม่ได้ทำ แถมยังทำให้กลัวไม่ได้อีก

                “เอ่อ...คุณโรซาร์ดครับ เราควรตรวจสอบไม้ไหมครับ”

                “ไม่ต้อง ไม้ชั้นดีจะหักง่าย ๆ ได้ยังไง เขาคงอยากออกคำสั่งไปเพราะเหลิงในอำนาจนั่นแหละ!”

ระหว่างที่กำลังหงุดหงิด จู่ ๆ ลูกน้องคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาด้วยท่าทีแตกตื่น

“แย่แล้วครับ น้องเล็กของเราถูกลักพาตัวไป!”

“ว่าไงนะ!!”