เพราะกฎหมายที่บังคับคนโสดแต่งงาน ประธานหนุ่มจึงต้องจำใจแต่งกับเลขาจอมเฉิ่มข้างตัว "ฉันจะแต่งงานกับคนที่ไม่รักฉัน" "แล้วจะหาที่ไหนล่ะครับ" "นายไง" ประธานไม่รู้เลยว่าเลขาแอบรักตนอยู่...
ชาย-ชาย,เลือดสาด,ไทย,อื่นๆ,แอคชั่น,นิยายวาย,มาเฟีย,ประธานบริษัท,BL,แอคชั่น,เปลี่ยนแปลงตัวเอง,แต่งงาน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
พรบ.คุ้มครองคนโสดเพราะกฎหมายที่บังคับคนโสดแต่งงาน ประธานหนุ่มจึงต้องจำใจแต่งกับเลขาจอมเฉิ่มข้างตัว "ฉันจะแต่งงานกับคนที่ไม่รักฉัน" "แล้วจะหาที่ไหนล่ะครับ" "นายไง" ประธานไม่รู้เลยว่าเลขาแอบรักตนอยู่...
สิงค์ มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในประเทศ นิสัยเอาแต่ใจ ผีเข้าผีออก ไม่มีใครอยากเข้าใกล้นอกจากเลขาผู้มีความอดทนสูง วันหนึ่งรัฐบาลประกาศกฎหมายใหม่
‘พรบ.คุ้มครองคนโสด’
เขาจึงต้องหาคู่แต่งงานให้เร็วที่สุด! หน้าที่ปวดหัวจึงตกเป็นของเลขาธนินไปโดยปริยา
“หาเมียให้ฉัน เอาไว้บังหน้ารัฐบาล จะเป็นใครก็ได้”
“ท่านประธานอยากได้แบบไหนล่ะครับ”
“คนที่เข้าใจฉัน ไม่ยุ่งวุ่นวายกับฉัน ไม่ว่าฉันจะกลับบ้านดึก หายไปกับผู้หญิงหรืออะไรก็ตาม และที่สำคัญต้องไม่รักฉัน ไม่เรียกร้องอะไรจากฉันนอกจากเงิน”
“คนแบบนั้นจะไปหาเจอง่าย ๆ ได้ยังไงครับ”
สิงค์หันมาหาเลขาจอมเฉิ่มที่แต่งตัวดี ๆ ยังไม่ทำ
“จริงสิก็มีอยู่คนหนึ่งนี่นา”
“ครับ?”
“นายไง เลขาธนิน เรามาแต่งงานกัน!”
“!!!!”
ประธานหนุ่มไม่รู้เลยว่าเขากำลังขอเลขาที่ 'แอบ' หลงรักตัวเองแต่งงาน แค่นี้ก็ไม่ตรงเงื่อนไขแล้ว!!
.
.
ไม่นานหลังจากนั้นเลขาหนุ่มก็หย่าแล้วหายตัวไปเงียบ ๆ พร้อมกับเด็กในท้อง ทุกอย่างเหมือนเป็นไปตามสัญญา ถ้าวันหนึ่งลูกไม่ไปเรียกท่านประธานว่าพ่อ!!!
"แม่ครับ นั่นพ่อใช่ไหม"
"ใช่ที่ไหนล่ะ นั่นเจ้านายเก่าแม่"
"งั้นทำไมเขาถึงหน้าเหมือนผมล่ะ!"
ธนินหมดคำจะพูด เขาไม่รู้จะอธิบายยังไงนอกจากบอกว่าท่านประธานคือผีบ้า
ลูกมนุษย์ไม่ควรคุยกับผีบ้าเด็ดขาด!!
เช้าวันใหม่มาเยือน แสงที่ส่องแยงตาทำให้ธนินลุกขึ้นจากเตียง สมองพยายามประมวลผลว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวาน เมื่อก้มมองร่างกายตัวเองจึงเห็นว่าเปลือยเปล่าไร้สิ่งใดปกปิดนอกจากผ้าห่มผืนหนา ความเหนอะหนะทั้งหลายหายไปแล้ว
“คุณสิงค์คงทำความสะอาดให้สินะ”
ตอนนี้เขาเองก็นอนอยู่บนเตียงของคุณสิงค์ด้วย ธนินกุมหัวพลางถอนหายใจออกมา
“ดันก้าวข้ามเส้นที่ไม่ควรก้าวไปแล้ว”
ถ้าหย่ากันไป ไม่รู้จะได้กลับไปเป็นเจ้านายลูกน้องกันปกติไหม หรือจะถูกไล่ออกไปเลยเพราะถือว่าเคยได้เสียกันแล้ว ใส่ใจอดีตคู่หมั้นขนาดนั้น คุณสิงค์อาจจะกลัวกอร์นไม่สบายใจก็ได้
“สงสัยจริง ๆ ว่าทำไมไม่รอแต่งกับคู่หมั้นให้รู้แล้วรู้รอด” รัฐบาลไม่ได้บังคับแต่งทันทีเสียหน่อย ยังขอผ่อนผันไปได้อีกปีสองปีแท้ ๆ
สักพักธนินก็รู้ตัวว่าเขาไม่ควรไปเดาความคิดคนผีเข้าผีออกอย่างสิงค์ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็แค่อาการผีเข้าเป็นพัก ๆ นั่นแหละ เดี๋ยวผีออกก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว
คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็ถือวิสาสะเดินเข้าห้องอาบน้ำของพยัคฆ์ร้าย มีกระจกใหญ่ตั้งอยู่ในห้องอาบน้ำใกล้ฝักบัว กล้าพูดได้เลยว่าขณะอาบน้ำก็คงเห็นร่างกายตัวเองไปด้วย
“คุณสิงค์ชอบสำรวจร่างกายตัวเองรึไงนะ” เขาว่าพลางหมุนฝักบัวเปิด
น้ำใสสาดใส่ธนินราวกับห่าฝน เขาหลับตาลงแล้วเงยหน้ารับสายน้ำนั้น ในหัวคิดเรื่องต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องจุดยืนของตัวเองและความรู้สึกที่เกือบจะล้นออกมา แม้คุณสิงค์จะเข้าใจผิดเพราะคำพูดของกอร์นก็อย่าโอนอ่อน อย่าให้คนคนนั้นรู้ว่าหัวใจของเขาเป็นของพยัคฆ์ร้าย ถ้านิ่งเฉยไปเรื่อย ๆ บางทีอาจจะไม่โดนจับได้ก็ได้
ธนินหันไปมองกระจก หยดน้ำที่เกาะพราวตามร่างกายยังไม่เด่นชัดเท่ารอยกุหลาบบนตัวเลย เขาพยายามมองสำรวจดู พบว่าแม้กระทั่งจุดซ่อนเร้นเล็ก ๆ ก็ยังมีรอย นี่คุณสิงค์หื่นกระหายขนาดไหนกัน แม้กระทั่งคนที่ไม่รักก็ไม่รังเกียจที่จะทำสินะ
เขาถอนหายใจ รีบปิดน้ำและแต่งตัวด้วยเสื้อตัวเดิมแล้วตรงกลับห้องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำเอาอันดาที่เข้ามาทำความสะอาดห้องถึงกับสะดุ้ง
“นายหญิง เมื่อคืนไปไหนมาเหรอคะ”
“ธุระนิดหน่อย ไม่มีอะไร” เขาถามต่อ “คุณสิงค์ไปไหนเหรอ”
“อะ...เอ่อ อยู่ในสวนค่ะ นายหญิงจะไปพบคุณสิงค์ไหมคะ”
“ไม่หรอก วันนี้วันหยุดจะไปเจอหน้าเจ้านายทำไมล่ะ”
“แต่ฉันว่าไปพบก็ดีนะคะ วันนี้นายหญิงไม่มีแพลนจะทำอะไรนี่นา”
“เขาคงไม่อยากเห็นหน้าฉันเท่าไหร่หรอก อีกอย่าง...ถามขนาดนั้น ทำไม อยากให้ฉันเอาใจนายท่านของเธอเหรอ นั่นสินะ ขืนรับใช้ฉันที่สักวันจะถูกหย่ามันคงไร้ประโยชน์น่าดู”
“ฉะ...ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะคะ ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นฉันก็ตั้งใจจะรับใช้นายหญิงอย่างเต็มที่ค่ะ!”
“หึ ก็ถือเป็นความคิดที่ดีสำหรับเธอตอนนี้ เพราะถึงฉันจะถูกหย่าอย่างแน่นอน แต่คงไม่ปล่อยให้ใครมารังแกง่าย ๆ ด้วยเหตุผลว่าเป็นนายหญิงตัวปลอมหรอก สิ่งที่เธอต้องทำคือรับใช้ฉันให้ดี ไม่อย่างงั้น...คนต่ำ ๆ อย่างฉันจะทำให้ชีวิตเธอตกต่ำลงไปมากกว่านี้อีก”
อันดาก้มหน้าลง “ฉันไม่กล้าหรอกค่ะ อันที่จริงฉันอยู่ข้างนายหญิงนะคะ ถ้าคุณต้องการฉันจะทำทุกทางเพื่อกันคุณกอร์นออกไปค่ะ”
“แม้ว่ากอร์นจะเป็นนายหญิงตัวจริงที่ทุกคนยอมรับงั้นเหรอ”
“สำหรับฉันนายหญิงเหมาะกับตำแหน่งนี้ยิ่งกว่าอีกค่ะ!”
นายหญิงของพยัคฆ์จำเป็นต้องเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ คุณกอร์นดูจะเจ้าเล่ห์และอ่อนแอเกินไปหน่อยแต่คุณท่านถูกใจ คุณสิงค์ให้ความเอ็นดู คนงานก็ต้องยิ้มรับ
“หึ ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันจะตอบว่าไม่จำเป็น แต่เหมือนคนคนนั้นชักจะเริ่มอยากทำลายความสงบสุขของฉัน คงต้องเตรียมแผนรับมือดี ๆ ล่ะนะ”
“รับทราบค่ะนายหญิง!”
ธนินหยิบเสื้อผ้าที่อันดาเตรียมให้แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
อันดามองไล่หลังเจ้านาย สายตาเลื่อนไปหยุดอยู่ที่รอยกุหลาบบนคอขาว
“นายหญิงอาจจะไม่ต้องกังวลเรื่องคุณกอร์นแล้วก็ได้ค่ะ”
ไม่นานธนินก็เดินออกมาพร้อมผมที่ยุ่งเหยิงและเปียกชื้น เพราะรีบอาบน้ำในห้องคุณสิงค์จึงไม่ได้คลุมผมให้ดี สภาพเลยออกมาเหมือนลูกหมาตกน้ำ
“เดี๋ยวฉันเป่าผมให้นะคะ”
ธนินนั่งลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง “ขอบใจ”
“นายหญิงผมหน้ายาวแล้ว ตัดดีไหมคะ”
“เธอตัดผมเป็นเหรอ”
“ฉันเก่งในเรื่องการใช้ของมีคมค่ะ”
อ๋อนั่นสิ ทุกคนเป็นมาเฟียนี่นะ...
ธนินจับเส้นผมสีวอลนัทที่ปรกหน้าของตัวเองพลางนิ่งคิด
“ฉันมีรอยแผลเป็นน่าเกลียดเลยไม่อยากเปิดเท่าไหร่ ไม่ต้องตัดหรอก”
“อย่างงั้นเองเหรอคะ”
อันดาทำหน้าเสียดายนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไร หลังจากทำงานของตัวเองเสร็จก็เดินออกจากห้องไปทันที
ขณะนั้นเองสายตาของธนินก็เหลือบไปมอง ‘เครื่องดักฟัง’ ที่ติดอยู่กับขาโต๊ะเครื่องแป้งก่อนจะเผยรอยยิ้มราวกับมีแผนการในใจ...
ปกติแก๊งมาเฟียจะมีระบบการปกครองแบบครอบครัว ถ้าลูกน้องโดนหาเรื่องแล้วจัดการเองไม่ได้ หัวหน้าก็จะเป็นคนจัดการให้ แต่เมื่อแก๊งใหญ่ขึ้นก็จะมีหัวหน้าในตำแหน่งย่อย ๆ คอยดูแลอีกที
โรซาร์ดเป็นหัวหน้าฝ่ายการผลิตของพยัคฆ์ สูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เด็ก มีน้องสาวเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ มาวันนี้น้องสาวโดนลักพาตัวไปโดยมาเฟียต่างชาติ เขาจะไม่กลัวเลยถ้ามันไม่ใช่มาเฟียที่มีอิทธิพลใหญ่แถมยังทำธุรกิจร่วมกับพยัคฆ์มากมาย
เอมิลี่ น้องสาวของเขาดันไปถูกตาต้องใจน้องชายของมาเฟียกิ้งก่าเงินเข้า มันตื้ออยู่นาน น้องของเขาก็ไม่สนใจจึงโดนลักพาตัวไป ตอนนี้น่าจะกำลังถูกพาขึ้นเรือที่แล่นไปสู่ฮ่องกง
โรซาร์ดมืดแปดด้านเขาไม่ต้องการให้พยัคฆ์ขาวเดือดร้อนเพราะเรื่องส่วนตัวของตนเอง กระนั้นน้องสาวก็เป็นคนสำคัญจึงได้พาคนงานทั้งหลายจำนวนกว่าห้าสิบคนบุกมาที่ท่าเรือ
ถ้าตายก็ตายมันทั้งห้าสิบคนนี่แหละ คุณสิงค์อาจจะอารมณ์คุกรุ่นหน่อยแต่คงข้ามไปเอาเรื่องกับมาเฟียฮ่องกงคนนั้นไม่ได้และดิวธุรกิจของแก๊งก็จะยังอยู่
“พวกนายจำเอาไว้นะ จะทำให้คุณสิงค์เดือดร้อนไม่ได้ เขาเก็บพวกเรามาเลี้ยงดู ให้ตามเช็ดตามล้างเรื่องที่พวกเราก่อคงไม่ไหว”
“รับทราบครับคุณโรซาร์ด” ลูกน้องที่เหลือรับคำ
สูทดำที่มีเข็มกลัดพยัคฆ์ขาวขนาดเล็กติดตรงปกเสื้อทั้งสองข้างพร้อมสายคล้องโซ่เหล็กปลิวตามลมหนาวที่พัดเข้าสู่ทาร์ลักซ่า
เข็มกลัดและสายคล้องคือเครื่องหมายว่าเป็นคนในแก๊งพยัคฆ์ขาว แม้ว่าการบุกต่อสู้ครั้งนี้จะไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อดึงแก๊งมาเกี่ยวข้อง แต่การติดสัญลักษณ์บ่งบอกสังกัดไว้เป็นมารยาทพื้นฐานของมาเฟีย
หากบุกเข้ามาโจมตีโดยไม่ระบุตัวตน จะถือว่าไม่ให้เกียรติคู่ต่อสู้ รวมถึงแก๊งของตนเองด้วยเช่นกัน
“คิดเหรอว่ามากันแค่ห้าสิบคนแล้วจะสู้ฉันได้ อุตส่าห์ยืนรอไม่ออกเรือไปซะก่อนเพราะหวังว่าพี่ชายหน้าโง่ของเอมิลี่จะยอมจำนนและยินดีกับงานแต่งานของน้องสาว แต่เหมือนจะไม่สินะ”
ชายหนุ่มหน้าตาจืดชืดผู้มีรอยบากอยู่กลางหน้าเผยรอยยิ้มชั่วร้าย เลลักซ์ น้องชายสุดรักของผู้นำแก๊งมาเฟียกิ้งก่าเงิน อิทธิพลและอำนาจมากกว่าพยัคฆ์ขาวที่เป็นเพียงมาเฟียในประเทศเล็ก ๆ เขาสามารถยกเลิกการส่งออกสิ่งของจำเป็นและบีบบังคับพยัคฆ์ขาวให้ตกลงธุรกิจที่เสียเปรียบได้
พูดง่าย ๆ ก็คือโรซาร์ดรู้ผลแพ้ชนะตั้งแต่ต้น
“ฉันไม่มีวันยอมให้เอมิลี่แต่งงานกับสวะอย่างแกแน่!”
“หึ ๆ เพราะเห็นว่าเป็นพี่ชายของเอมิลี่หรอกนะฉันถึงใจดีด้วย แต่เหมือนฉันจะปล่อยแกไปไม่ได้แล้วว่ะ” เลลักซ์หันไปพยักหน้าให้ลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านหลัง “จัดการมัน”
“พวกเรา เตรียมรับมือ!”
“ครับ!”
ลูกน้องของแก๊งกิ้งก่าเงินใส่สูทสีเทา ส่วนพยัคฆ์ขาวใส่สูทสีดำ เมื่อมองจากมุมสูง เห็นได้ชัดว่ากิ๊งก่าเงินมีคนมากกว่าจนฝูงชนแทบจะกลืนคนใส่สูทดำได้อยู่แล้ว
การต่อสู้นี้ไม่มีทางชนะแต่โรซาร์ดก็ยังสู้ ขอแค่มีปาฏิหาริย์สักนิดก็ยังดี เสียงปืนดังโครมครามไปทั่วท่าเรือ พวกเราต่างแลกหมัดแลกปืนอย่างไม่คิดชีวิต ลูกน้องของโรซาร์ดหลายคนล้มระเนระนาด เลือดอาบชุ่มเสื้อเชิ้ตตัวใน โชคดีที่มันไม่กะเอาถึงตายเพราะเห็นแก่เอมิลี่
กระนั้นก็ไม่มีใครลุกขึ้นมาสู้ไหวแล้ว โรซาร์ดเหลือเป็นคนสุดท้าย แขนของเขาโดนกระสุนเฉี่ยวนิดหน่อย เนื่องจากสายตาดีจึงพอหลบทัน แต่ด้วยตัวคนเดียวคงสู้กับมาเฟียเป็นร้อยไม่ไหว
ขายาวของชายหนุ่มเดินตรงไปหาเลลักซ์ที่กำลังหัวเราะในลำคอ มือหนากำปืนไว้แน่นหมายจะยิงศัตรูที่แย่งชิงครอบครัวของเขาไป
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ แกคิดเหรอว่าปืนกระบอกเดียวจะสู้คนที่มีปืนร้อยกว่าคนได้ นับ ๆ ดูแล้วพวกเราก็มีปืนอยู่ร้อยกระบอกล้อมรอบตัวแก ดูยังไงก็แพ้เห็น ๆ เอมิลี่โชคร้ายจริง ๆ ที่มีคนโง่อย่างแกเป็นพี่ชาย!”
“ถึงต้องตายฉันก็ไม่มีวันยอมให้แกเอาเอมิลี่ไปหรอก!”
เลลักซ์ทำหน้ายียวน “อ๋อ งั้นเหรอ แล้วแกจะยอมเรียกสิงค์มาที่นี่ไหมล่ะ แหม่ ถ้าจะชิงน้องสาวกลับมามันก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนกันหน่อยนี่นะ”
ชายหน้าบากถามทั้ง ๆ ที่รู้ว่าถ้าเรียกยังไงสิงค์ก็ต้องมาที่นี่แน่ และนั่นอาจต้องแลกกับการเกิดวิกฤตทางความมั่นคงของพยัคฆ์ขาว ธุรกิจจะสะดุด ตระกูลพันธมิตรมีโอกาสตีตัวออกห่าง ปัญหาด้านการเงินและอีกมากมาย
ระหว่างน้องสาวกับหัวหน้าแก๊งมาเฟียที่เป็นผู้มีพระคุณ เขาจะเลือกอะไร
“กดมันลงไป” เลลักซ์หันไปสั่งลูกน้อง
โรซาร์ดถูกกดหัวลงจนหน้าแนบกับพื้น ราวกับต้องการหยามเกียรติขั้นสุด ประเทศทาร์ลักซ่ามีเชื้อสายของคนไทยมากมายจึงมีความเชื่อว่าหัวเป็นของสูง พวกมันรู้เรื่องนั้นเลยทำกับเขาแบบนี้
ทว่าชายหนุ่มไม่ได้คิดเรื่องถูกหยามเกียรติ ในหัวคิดวกวนเกี่ยวกับเรื่องที่เลลักซ์พูด สมมติว่าเขาสามารถเอาชนะมาเฟียทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ได้ แก๊งพยัคฆ์ขาวก็จะโดนยกเลิกสัญญาการนำเข้าสินค้าและเกิดวิกฤตอยู่ดี ไม่ว่าจะทางไหนก็เลวร้าย มีแต่ต้องพ่ายแพ้และสูญเสียน้องสาวไปเท่านั้น
รองเท้าหนังขัดมันเงาของเลลักซ์เหยียบลงบนหัวของมาเฟียหนุ่มจากนั้นก็กดแรงลงไปราวกับต้องการขยี้ขยะชิ้นหนึ่ง
“อึก!”
“ทำไม เลือกไม่ได้งั้นเหรอ ฮ่า ๆ ก็อย่างว่าแกมันขี้ขลาด มาเฟียบนเกาะเล็ก ๆ นี่จะไปทำอะไรได้ ถ้าไม่พึ่งพาแก๊งกิ้งก่าเงินของเรา พวกแกมันก็แค่หมาจนตรอก”
โรซาร์ดกำหมัดแน่น เขาเลือกโทษโชคชะตา เรียกหัวหน้าแก๊งหรือไม่เรียกผลลัพธ์ก็เหมือนกันแล้วจะทำยังไง ปาฏิหาริย์จะไม่เกิดขึ้นกับพวกเขาเลยงั้นเหรอ...
ฟึบ!!
“นั่นสินะ ถ้าพวกเราขาดการช่วยเหลือจากแก พยัคฆ์ขาวคงโดนผลกระทบหลายฝ่าย แต่ว่า...ถ้าพวกแกยอมเซ็นสัญญาที่พวกเราได้ผลประโยชน์มากกว่านี้ล่ะ”
“คะ...ใครกัน อึก!!”
โลหะเย็นปลายแหลมถูกจี้ที่คอขาวของเลลักซ์ ลูกกระเดือกขยับขึ้นลงด้วยความประหม่า เสียงที่พูดไม่ใช่ของโรซาร์ดหรือลูกน้องสูทดำที่นอนสลบอยู่บนพื้น น้องชายสุดรักของมาเฟียกิ้งก่าเงินพยายามกรอกตาเหลือบไปมองผู้ที่ปองร้ายตน แต่เพราะอยู่ด้านหลังก็เลยมองไม่เห็น ในระยะสายตาเห็นเพียงลูกน้องสูทเทาที่นอนเกลื่อนอยู่บนพื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ
เขาจะขยับตัวไม่ได้เพราะถูกล็อคคอโดยมีมีดแหลมจี้อยู่ด้านข้าง หมดหนทางขยับทุกประการ
ก่อนหน้านี้เลลักซ์กำลังใช้รองเท้าหนังขยี้หัวของผู้จัดการฝ่ายผลิตจึงไม่สังเกตรอบข้าง ส่วนคนที่ถูกขยี้หัวก็ถูกจำกัดการมองเห็นเพราะลงไปกองกับพื้น เพียงไม่กี่นาทีเกิดอะไรขึ้น ทำไมมีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่มาจี้คอของเขาได้!
และในที่สุดโรซาร์ดก็ให้คำตอบกับทุกคน เพราะขาของเลลักซ์ผ่อนแรงลงเขาจึงลุกขึ้นมาได้ ดวงตาเรียวของชายหนุ่มจับจ้องไปยังแขกไม่ได้รับเชิญที่กำลังจี้คอศัตรู
เสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมสองเม็ดบนกับกางเกงดำ ไร้ตราสัญลักษณ์ของคนในตระกูลพยัคฆ์ขาว ไร้เสื้อคลุมเฟอร์ขาว เครื่องหมายที่บ่งบอกว่าเป็นนายหญิง ทว่าคนคนนี้ก็คือ...
“ธนิน...นายหญิงธนิน”