บททดสอบการเอาชีวิตรอดของนักล่าต่างสายพันธุ์

รวมเรื่องสั้น - ตอนที่ 6 เพื่อนแท้ เพื่อนตาย โดย ลักกี้ หยาง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,แฟนตาซี,ระทึกขวัญ,เรื่องสั้น,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

รวมเรื่องสั้น

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,แฟนตาซี,ระทึกขวัญ,เรื่องสั้น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

บททดสอบการเอาชีวิตรอดของนักล่าต่างสายพันธุ์

ผู้แต่ง

ลักกี้ หยาง

เรื่องย่อ

สารบัญ

รวมเรื่องสั้น-ตอนที่ 1 ล่าปีศาจเสือสมิง,รวมเรื่องสั้น-ตอนที่ 2 ล่าเหี้ยมไอ้เข้พันธุ์นรก,รวมเรื่องสั้น-ตอนที่ 3 บ้านแสนสุข,รวมเรื่องสั้น-ตอนที่ 4 ลูกซองเจาะกะโหลกปีศาจ,รวมเรื่องสั้น-ตอนที่ 5 การตกหลุมรักของคุณหนูจอมเวท,รวมเรื่องสั้น-ตอนที่ 6 เพื่อนแท้ เพื่อนตาย,รวมเรื่องสั้น-ตอนที่ 7 หน้ากากแก้ว,รวมเรื่องสั้น-ตอนที่ 8 ไม่เคยหนีพ้น (1/2)

เนื้อหา

ตอนที่ 6 เพื่อนแท้ เพื่อนตาย

ถ้าฉันรอดแกก็ต้องรอด

ถ้าแกตายฉันก็จะตายเคียงข้าง

ฉันไม่มีวันทิ้งแกเอาตัวรอดเด็ดขาด

ชินจงฮัก


สำหรับทหารหรือตำรวจการมีคู่หูที่พร้อมจะลุยฝ่านรกทุกสมรภูมิ และไม่ทอดทิ้งซึ่งกันและกัน เป็นเหมือนดั่งพี่น้องร่วมเป็นร่วมตาย ทว่านอกคู่หูที่เป็นมนุษย์ด้วยกัน ยังมีคู่หูสี่ขาที่มีความซื่อสัตย์ไม่แพ้กัน และสุนัขทหารหรือสุนัขตำรวจเหล่านี้ก็พร้อมสู้ตายเคียงข้างเจ้านายของพวกมัน จนลมหายใจเฮือกสุดท้าย

ในกองทัพฟรอนเทียร์ก็มีศูนย์เพาะเลี้ยงสุนัขที่มีไว้ในทหาร ตำรวจ หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยด้วยเช่นกัน โดยศูนย์ที่นี่จะสงวนไว้เพียงแค่ชาวฟรอนเทียร์เท่านั้น และวันนี้ทางศูนย์ได้เจอสุนัขมีที่ลักษณะโดดเด่นอยู่สี่ตัว ภายหลังมันทั้งสี่ก็ได้รับการตั้งชื่ออันได้แก่ เขี้ยวดำ เขี้ยวขาว เขี้ยวเงิน และ เขี้ยวทอง เนื่องจากมันยังเป็นลูกสุนัขอยู่ยังไม่ได้เอาเข้าโปรแกรมฝึก

กาลเวลาผ่านพ้นไปเขี้ยวดำและอีกสามตัวเริ่มโตมากพอที่จะฝึกได้ มันกับลูกสุนัขหลายตัวถูกนำส่งตัวมายังลานสนามกว้าง เขี้ยวดำกระดิกหางไปมาอย่างตื่นเต้น และยิ่งเห็นว่าที่สนามมีกลุ่มคนยืนมุงดูอยู่ เจ้าสุนัขตัวน้อยก็หวนนึกถึงเรื่องเล่าของ ลุงทวน สุนัขทหารที่ตอนนี้เกษียณวางมือแล้ว ได้เล่าให้บรรดาลูกสุนัขว่าอีกไม่นานพวกมันจะมีคู่หูเป็นของตัวเอง

และเขี้ยวดำอดทนรอที่จะได้เจอกับ "คู่หู" ที่ยืนรออยู่บนลานกว้าง

"เฮ้ เขี้ยวดำ อย่าบังสิ" เสียงของเขี้ยวเงินดังมาจากด้านหลัง "ฉันก็อยากเห็นข้างนอกเหมือนกัน"

เขี้ยวดำหันมาหัวเราะเยาะใส่เขี้ยวเงินที่อยู่ด้านหลัง แม้ทั้งสองตัวจะยังเป็นลูกสุนัขก็จริง แต่หากเทียบขนาดแล้ว เขี้ยวดำตัวใหญ่กว่าเขี้ยวเงินมาก เมื่อโดนหัวเราะเยาะเหยียดหยามแบบนี้ เขี้ยวเงินไม่รอช้าพุ่งกระโจนใส่ มันกัดเข้าที่ขาหน้าด้านซ้ายของเขี้ยวดำ เจ้าลูกสุนัขตัวใหญ่ร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด และพยายามจะสลัดเขี้ยวเงินออก แต่ก็ทำได้ยากลำบาก

"นี่ ! หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ ทั้งสองตัวเลย" เสียงร้องห้ามปรามมาจากฝั่งลูกสุนัขเพศเมียตัวหนึ่ง

เขี้ยวเงินหันมาโพร่งใส่อีกฝ่าย "มันหัวเราะเยาะฉันก่อนนะ นมสด"

"แต่เธอก็ไม่ควรกัดเขี้ยวดำนะ" ลูกสุนัขเพศเมียชื่อ "นมสด" พูดและหันมาตำหนิเขี้ยวดำ "แล้วเธอก็เหมือนกัน เลิกหัวเราะเยาะตัวอื่นที่ตัวเล็กกว่าได้แล้ว"

คำพูดของนมสดเปรียบได้เหมือนลมตด เขี้ยวดำไม่สนใจและหันมามองวิวด้านนอกเช่นเดิม นมสดได้แต่สั่นศีรษะอย่างเหนื่อยหน่าย แต่เขี้ยวเงินที่ยังอารมณ์ร้อนอยู่ จึงพุ่งตรงเข้ามากัดหางของเขี้ยวดำอีกรอบสอง คราวนี้เขี้ยวดำไม่ยอมอีกต่อไป มันสะบัดเขี้ยวเงินให้ออกจากหาง แต่เขี้ยวเงินก็ไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ 

ส่งผลให้เขี้ยวดำหันมากัดหางของเขี้ยวเงินบ้าง ลูกสุนัขที่รูปร่างแตกต่างกัน หันมาแลกคมเขี้ยวใส่กันท่ามกลางฝูงเชียร์ของเหล่าลูกสุนัขตัวอื่น ๆ แต่มันก็ไปรบกวนบรรยากาศ ช่วงที่มีการอธิบายวิธีฝึกลูกสุนัขอยู่

ทำให้ครูฝึกสุนัขที่พวกเขี้ยวดำรู้จักในนาม "พี่เลี้ยง" ต้องเอาไม้หวายหวดกลางอากาศให้เกิดเสียงดัง "หวื่ด ๆ" เพื่อให้พวกลูกสุนัขจอมซนอยู่ในความสงบ ทว่าเขี้ยวดำกลับไม่ยอมทำตาม แถมยังหันมาเห่าพี่เลี้ยงใส่อีก

นมสดเห็นท่าไม่ดีจึงรีบห้ามปราม "เขี้ยวดำ ! ทำอะไรของเธอ เดี๋ยวก็โดนลงโทษหรอก"

"อย่ามายุ่ง !" เขี้ยวดำหันมาตวาดใส่ "ฉันไม่กลัวหรอก"

ความใจกล้าของเขี้ยวดำในสายตาของมนุษย์แล้ว มันคือความดื้อดึงที่ต้องกำราบเสียให้อยู่หมัด ไม่ทันไหร่ประตูกรงเปิดออกและพี่เลี้ยงก็นำตัวแสบออกมา และเขี้ยวดำก็ถูกลงโทษตามระเบียง ผ่านไปสามนาทีมันก็ถูกส่งกลับมาอยู่ในกรงตามเดิม

เขี้ยวเงินรู้สึกสะใจเล็กน้อย 

และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาที่เหล่าลูกสุนัขรอคอย นั้นคือการได้ฝึกร่วมกับคู่หูของพวกมัน พี่เลี้ยงเปิดกรงออก ปล่อยให้บรรดาลูกสุนัขวิ่งออกมาวิ่งเล่น แต่โดยส่วนใกญ่ก็วิ่งไปหายุวชนทหารรุ่นเด็กที่นั่งรออยู่ 


เขี้ยวขาวซึ่งอยู่อีกกรงหนึ่งสังเกตว่า เขี้ยวดำน้องชายของมัน ไม่ได้อยู่บนลานสนามหญ้ามันจึงหันซ้ายและขวา จนสายตาของมันเห็นหลังของเขี้ยวดำนั่งตรงมุมกรง ด้วยความเป็นห่วงมันจึงวิ่งไปหาอีกฝ่าย

"เขี้ยวดำ แกทำอะไรอยู่ทำไมไม่ออกมาล่ะ" เขี้ยวขาวถามขึ้น "เดี๋ยวแกก็ไม่ได้ "คู่หู" หรอก"

"ไม่เอาแล้ว" เขี้ยวดำว่า "พี่เลี้ยงใจร้ายขนาดนี้ คู่หูก็คงไม่ต่างกันหรอก"

"พูดแบบนี้แสดงว่าโดนพี่เลี้ยงทำโทษมาสินะ" เขี้ยวขาวเดินมานั่งข้างเขี้ยวดำ "แกคงดื้อมาละสิ ถ้าแกไม่ดื้อเหมือนตัวอื่น ๆ พี่เลี้ยงก็ไม่ลงโทษแกหรอก"

เขี้ยวดำหันขวับมามองอย่างไม่พอใจ 

"นี่แกไม่คิดจะเข้าข้างฉันเลยใช่ไหม"

เขี้ยวขาวที่ได้ยินก็สั่นศีรษะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย แต่แล้วลูกสุนัขทั้งสองก็พากันชะงักนั่งนิ่ง เพราะได้ยินฝีเท้าของพี่เลี้ยงกำลังตรงมาที่กรง ทั้งสองตัวต่างได้กลิ่นคนแปลกหน้าอีกสองคนเดินตามหลังพี่เลี้ยงมาด้วย

เมื่อพวกมันหันมามองก็สบตาเข้ากับสายตาของสองยุวชนทหาร ซึ่งยืนอยู่ด้านหลังพี่เลี้ยงท่าทางจะสนใจเขี้ยวขาวกับเขี้ยวดำพอสมควร โดยหนึ่งในสองเดินมาทางเขี้ยวขาว และยื่นขนมสุนัขให้เพื่อเป็นการผูกมิตร 

"อย่ากินนะ !" เขี้ยวดำตะโกนห้ามปราม "ถ้าแกกินของในมือมนุษย์นั่น หมายความว่าแกต้องไปกับมัน !"

เจ้าแสบหันมาเห่าใส่ยุวชนทหารที่ยื่นขนมให้เขี้ยวขาว ในความคิดของเขี้ยวดำไม่ว่ายังไงมันจะไม่ยอมให้ใครแย่งพี่ชายของมันเด็ดขาด เสียงเห่าของมันดังระงมทั่วสนาม พี่เลี้ยงเห็นท่าไม่ดีจึงตั้งใจจะมากำราบ เขี้ยวดำที่พึ่งโดนลงโทษก็มีตัวสั่นเทาเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ยอมหยุดเห่า

ทว่าในวินาทีนั้นเองที่ยุวชนทหารคนหนึ่งเข้ามาห้ามปรามไว้ โดยเขายืนบังเขี้ยวดำเอาไว้ เจ้าลูกสุนัขชะงักไปเพราะตลอดที่ผ่านมา เวลาที่มันถูกพี่เลี้ยงทำโทษไม่เคยมีใครออกมาปกป้องเลย แม้แต่เขี้ยวขาวก็ยังไม่กล้า เพราะส่วนใหญ่จะกลัวพี่เลี้ยงกันหมด

"อย่าตีน้องเลยครับครู แค่ถือไม้น้องก็กลัวแล้วล่ะครับ" 

"เจ้านี่น่ะ แสบสุดเลยล่ะแค่ขู่อย่างเดียวเอาไม่อยู่หรอก" พี่เลี้ยงตอบ

"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะฝึกน้องเอง" 

เขี้ยวดำจ้องมองแผ่นหลังของคนที่กำลังยืนบัง ไม่ให้พี่เลี้ยงเข้ามาทำร้ายมันได้ เขี้ยวขาวเดินมาหาเขี้ยวดำและเอาอุ้มเท้าแตะหลังน้องชาย ดูเหมือนว่าในที่สุดเขี้ยวดำและมันได้เจอ "คู่หู" ที่จะคอยเคียงคู่ไปจนลมหายใจสุดท้าย แบบที่ลุงทวนบอก

ขณะเดียวกันยุวชนทหารผู้ที่จะมาเป็นคู่หูของเขี้ยวดำ ก็หันมาทางลูกสุนัขที่ตนรู้สึกถูกชะตา และยื่นมือที่มีขนมให้กับเขี้ยวดำ 

"ไม่ต้องกลัวนะ จากนี้ไปฉันจะปกป้องแกเอง" ยุวชนทหารคนนั้นกล่าว "มากับฉันเถอะ คู่หู"

เขี้ยวดำจ้องเข้าไปในนัยน์ตาของอีกฝ่าย ไม่รู้ทำไมแต่คำว่า "คู่หู" ที่เปร่งออกมาจากปากของคน ๆ นี้ มันทำให้ลูกสุนัขที่ขึ้นชื่อว่าดื้อที่สุด ยอมเดินมาซบตัวของยุวชนทหารอย่างง่ายดาย


🪖🪖🪖🪖🐕🐕🐕🐕


วันเวลาผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว นับแต่เหตุการณ์ในวันนั้น ที่เขี้ยวดำได้พบกับคู่หู ชินจงฮัก ผู้ที่เข้ามาปกป้องมันในตอนที่ยังเป็นลูกสุนัข ทว่าบัดนี้ทั้งสองก็เติบโตกลายเป็นทหารเต็มตัว เช่นเดียวกับเขี้ยวดำซึ่งกลายเป็นหมาใหญ่ที่แข็งแรงสมกับเป็นสุนัขทหาร ทุกภารกิจทุกสมรภูมิรบเขี้ยวดำจะติดตามชินจงฮักเสมอ

ซึ่งภารกิจส่วนใหญ่ของมันคือค้นหาคลังอาวุธของศัตรู หรือการหาแหล่งกบดานของศัตรู แน่นอนว่าภารกิจที่มันกำลังจะได้รับเร็ว ๆ นี้ ก็คงไม่ต่างจากรอบก่อนเท่าไหร่นัก ระหว่างรอฟังรายละเอียดของภารกิจ ชินจงฮักพาเขี้ยวดำออกมาเดินเล่นที่สวนของค่าย

"อยากวิ่งออกกำลังไหม เขี้ยวดำ" ชินจงฮักหันมาถามสุนัขคู่ใจ

เขี้ยวดำกระดิกหางแรงด้วยความชอบใจ

"อยาก ๆ เร็ว ๆ เลยรีบปลดสายจูงที อยากวิ่งแล้ว" เขี้ยวดำพูดเสียงตื่นเต้น

อนิจจาน่าเสียดายสำหรับชินจงฮัก ที่เขากลับได้ยินร้องของเขี้ยวดำ ที่ไม่ได้เป็นภาษามนุษย์อย่างที่เข้าใจ ทหารหนุ่มรู้แค่ว่ามันเป็นกิจกรรมที่คู่หูสี่ขาของเขาชอบ ไม่รอช้าเขาทำการปลดสายจูงออก เขี้ยวดำก็พุ่งทะยานออกวิ่งทันที ถึงกระนั้นมันก็เลือกวิ่งเล่นไล่นกอยู่ในบริเวณที่ชินจงฮักอยู่

ระหว่างนั้นเองที่มันได้ยินเสียงเห่าทักทายดังขึ้น และมันจดจำเสียงเห่านี้ได้ เขี้ยวดำจึงหันมากระดิกหางด้วยความดีใจ เพราะนานมากแล้วที่เขี้ยวดำไม่ได้เจอเขี้ยวขาว พอได้เจอกันทั้งสองก็วิ่งไล่เล่นกันเหมือนสมัยที่ยังเป็นลูกสุนัข ส่วนคู่หูของเขี้ยวขาวกำลังนั่งคุยกับชินจงฮัก

"ให้ตายสิ เขี้ยวดำ" เขี้ยวขาวพูด "แกวิ่งเร็วเป็นบ้า ฉันตามแกแทบไม่ทันแล้ว"

เขี้ยวดำหัวเราะ "มันแน่อยู่แล้ว ก็ฉันเป็นสุนัขที่แข็งแรงที่สุด" พูดจบก็วิ่งหมุนตัวไล่งับหางตัวเองเล่น

"ฉันอาจอยู่เล่นกับแกได้ไม่นานนะ" เขี้ยวขาวบอก

"ทำไมล่ะ" เขี้ยวดำสลดลงทันทีที่ได้ยิน

"ฉันกับคู่หูมีภารกิจต้องไปทำนะสิ"

"แล้วรอบนี้แกต้องไปที่ไหน"

"ไม่รู้เหมือนกันเขายังไม่เรียกตัวเลย รู้แค่ว่ามีภารกิจ"

สองนาทีต่อมาคู่หูของเขี้ยวขาวก็ส่งเสียงเรียก เป็นการสิ้นสุดการวิ่งเล่นกันของทั้งสองตัว เขี้ยวดำคอตกเล็กน้อย เพราะนานมากแล้วที่มันไม่ได้วิ่งเล่นกับเขี้ยวขาวเลย นับตั้งแต่เริ่มมีคู่หูเป็นของตัวเอง 

ด้านเขี้ยวขาวที่รู้ว่าน้องชายกำลังคิดอะไรอยู่ มันก็เดินมาเอาอุ้มเท้าแตะตัวเขี้ยวดำ "ไม่เป็นไรหรอก ภารกิจเสร็จสิ้นเราค่อยมาวิ่งเล่นกันใหม่นะ" 

"อืม" เขี้ยวดำครางเสียง "หงิง" เบา ๆ

ครู่ต่อมาชินจงฮักก็เดินมาหาเขี้ยวดำพร้อมสายจูง ซึ่งมันย่อมแปลว่าการวิ่งเล่นของมันเองก็คงสิ้นสุดเช่นกัน


🪖🪖🪖🪖🐕🐕🐕🐕


ชินจงฮักและเขี้ยวดำนั่งเครื่องบินมาถึงที่หมาย หลังต้องอยู่บนเครื่องมานานถึงสิบชั่วโมง สองคู่หูต่างสายพันธุ์เดินรวมกลุ่มกับทหารคนอื่น เพื่อมารายงานตัวกับผู้บัญชาการ เขี้ยวดำหันซ้ายแลขวาพบว่า บรรยากาศโดยรอบดูวุ่นวายพอสมควร มันเป็นภาพที่เขี้ยวดำเห็นจนชินตาแล้ว ในทุกครั้งที่มันติดตามชินจงฮักมายังที่ที่มันไม่คุ้นเคย

และเพราะมันเป็นแค่สุนัขมันย่อมไม่เข้าใจว่า เหตุใดกันหน่าพวกมนุษย์ทั้งหลาย ถึงต้องพากันเร่งรีบอะไรเยี่ยงนั้น แต่ชินจงฮักซึ่งเป็นมนุษย์ย่อมรู้ดีว่าตอนนี้มีพลเรือนหลายร้อยชีวิต ต่างพากันหนีอพยพหลีกภัยสงครามกลางเมือง สถานการณ์ตอนนี้เรียกได้วิกฤติหนัก การสู้รบระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มกบฏยืดยาวเกินไป ส่งผบให้เศรษฐกิจในประเทศล่ม ผู้คนอดอยากจนต้องพากันหนีไปที่อื่น

ภารกิจที่ชินจงฮักกับเขี้ยวดำได้รับก็คือ สองคู่หูต้องติดตามไปกับทีมหก เดินทางไปอารักขาหมู่บ้านหนึ่ง ที่คาดว่าจะตกเป็นเป้าของฝ่ายกบฎเนื่องจากพื้นที่ตรงนั้น มีจิตอาสาอยู่หลายคนและหนึ่งในนั้น มีบุตรสาวของบุคคลสำคัญอยู่ หน้าที่ของทีมหกตามด้วยทีมอพยพต้องพาเธอคนนั้นและจิตอาสา รวมทั้งชาวบ้านหลบหนีออกมา ก่อนที่พวกกบฎจะมาถึง

"ขึ้นรถเร็ว เขี้ยวดำ" ชินจงฮักหันมาบอกคู่หูสี่ขา

เขี้ยวดำกระโจนขึ้นรถโดยมันไปนั่งตำแหน่งริมทางออกฝั่งซ้าย ทหารคนหนึ่งบ่นออกมาทำนองว่า "เฮ้ย หมานายแย่งที่ฉันว่ะ" พลางหันมามองชินจงฮัก

เจ้าสุนัขมองทหารคนนั้นด้วยความเย้ยหยัน "เสียใจด้วยนะพวก ใครดีใครได้" มันหันมาทางชินจังฮักที่ย้ายมานั่งข้าง ๆ 

"ลงจากเบาะซะเขี้ยวดำ นี่ไม่ใช่ที่นั่งของแก" ทหารหนุ่มออกคำสั่งเด็ดขาด และกระตุกสายจูง

เขี้ยวดำคอตกและยอมเดินลงมานั่งพื้นข้างขาขวาของชินจงฮัก จากนั้นรถก็แล่นออกจากฐานทัพ เสียงโวยวายด้านนอกทำให้เขี้ยวดำเกิดความอยากรู้อยากเห็น จึงเดินไปดูวิวด้านนอกทางท้ายรถบรรทุกทหาร สิ่งที่เจ้าสุนัขเห็นคือฝูงชนที่พลุ่นพล่านวุ่นวายไปหมด

"ทำไมมนุษย์พวกนี้ต้องเร่งรีบกันขนาดนี้ด้วยนะ" เขี้ยวดำเกิดความสงสัย "อาหารไม่มีงั้นหรือ ถึงกับต้องยื้อแย่งอาหารแบบนั้น" 

ในขณะที่เขี้ยวดำจ้องมองเหตุการณ์ด้านนอกด้วยความสงสัย แต่สำหรับชินจงฮักกลับรู้สึกหดหู่เหลือเกิน บริเวณโดยตลอดทางที่รถผ่านเห็นได้ชัดว่า การต่อสู้ของผู้มีพลังมานาสร้างความเสียหายมากมาย สามนาทีต่อมาชินจงฮักเรียกให้เขี้ยวดำกลับมาอยู่ที่เดิม

คู่หูสี่ขาสัมพันธ์ได้ถึงอารมณ์เศร้าสร้อยของชินจงฮัก เขี้ยวดำอาจรับรู้ถึงความเศร้าได้ แต่ไม่อาจเข้าใจถึงสาเหตุของอารมณ์ สิ่งที่สุนัขอย่างมันทำได้คือการเอาอุ้มเท้า มาวางบนตักของคู่หูและมันได้ผลทุกครั้ง เพราะมันทำให้เขายิ้มได้เสมอ

"คู่หูของนายคงกังวลที่นายทำหน้าแบบนี้" ทหารที่นั่งข้างชินจงฮักบอก

"เออ ก็อาจจะเป็นอย่างที่นายว่าแหละ" เขาลูบหัวมัน "ขอบใจแกมากนะ คู่หู"

เขี้ยวดำเห่ารับออกมาก่อนที่นาทีต่อมา มีเสียงตะโกนบอกจากข้างคนขับ "อีกสองนาทีจะถึงที่หมาย ทหารทุกนายเตรียมตัวให้พร้อม ทุกคนทราบ !"

"ทราบ !"

รถบรรทุกแล่นเข้ามาในเขตหมู่บ้าน ซึ่งบรรยากาศมันเงียบผิดปกติ สร้างความไม่ไว้ใจให้กับทุกคนมาก ส่วนชินจงฮักได้แต่ภาวนาว่าอย่าได้เกิดเหตุร้ายกับทุกคนเลย ทันทีที่รถจอดสนิทสองคู่หูต่างสายพันธุ์ ก็รีบลงมาจากท้ายรถเขี้ยวดำมีท่าทางตื่นเต้น เพราะมันแปลว่ามันจะได้ออกกำลังแล้วนั้นเอง

"สิบตรีชินจงฮัก" เสียงของทหารคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้าทีม

ชินจงฮักพาเขี้ยวดำมารายงานตัว "ครับ ผู้กอง" เขาทำความเคารพต่อทหารยศสูง

"นายกับคู่หูออกไปตามหาเป้าหมาย แล้วพาเธอกลับมาที่นี่ก่อนพวกข้าศึก" หัวหน้าทีมมอบหมายหน้าที่แก่ทั้งสอง

"รับทราบครับ" 

"เอาให้มันดม มันคือผ้าเช็ดหน้าของเธอ"

เมื่อเขี้ยวดำสูดดมสิ่งที่ชินจงฮักยื่นให้ "โธ่เอ้ย ของแค่นี้หาไม่ยากหรอก คอยดูสิ" มันพูดและวิ่งนำคู่หูไปทางขวามือของหมู่บ้าน เขี้ยวดำวิ่งลากชินจงฮักไปตามทางเรื่อย กลิ่นเป้าหมายที่มันได้กลิ่นดูจะปะปนกับกลิ่นอีกหลายกลิ่น แสดงให้เห็นว่าเป้าหมายไม่ได้อยู่ตามลำพัง หลังตามกลิ่นมาเรื่อย ๆ ก็พบว่าพวกเขาอยู่ท้ายหมู่บ้าน

ชินจงฮักไม่คิดจะหยุดเขี้ยวดำ เพราะรู้นิสัยของคู่หูดีส่วนเขี้ยวดำที่ทำหน้าที่ดมกลิ่น ได้แต่ฉงนใจว่าทำไมเป้าหมายถึงเลือกมาอยู่ท้ายหมู่บ้าน แต่แล้วเขี้ยวดำก็พาชินจงฮักมาหยุดที่อาคารหลังหนึ่ง แต่ยังไม่ทันที่ความสงสัยจะทำงาน เสียงประตูเปิดดังขึ้นพร้อมกับชายคนหนึ่ง กำลังฉุดกระซากร่างเด็กสาวคนหนึ่งออกมา เธอร้องโวยวายและพยายามขอให้ใครมาช่วย

แม้เขี้ยวดำจะไม่รู้ว่าชายคนนี้คิดกระทำสิ่งใด แต่กลิ่นที่ลอยออกมาเเตะจมูกเขี้ยวดำ ก็ทำให้มันรับรู้ได้ถึงความชั่วร้ายที่มากับกลิ่นทันที และสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือเขี้ยวดำส่งเสียงขู่ พอดีกับที่ชินจงฮักปล่อยสายจูงเมื่อเป็นอิสระ เขี้ยวดำวิ่งตรงเข้าไปที่ชายตรงหน้า เจ้าสุนัขทหารไม่รอช้ามันพุ่งกระโจนใส่ศัตรูจนล้ม และคมเขี้ยวของมันก็ฝังลงไปที่ผิวเนื้อตรงคอ มันขย้ำไม่ยอมปล่อยแม้ว่าอีกฝ่ายจะส่งเสียงร้องดังแค่ไหน 

มันไม่สนใจแม้กระทั่งเสียงบริเวณโดยรอบ หรือแม้แต่เด็กสาวที่นั่งตัวสั่นด้วยความกลัว ประมาณสามนาทีหรืออาจเร็วกว่า ชินจงฮักวิ่งมาจับแยกเขี้ยวดำออกจากร่างที่แน่นิ่งไป เขากับทหารอีกคนพาเด็กสาวไปรวมกลุ่มกับคนอื่น ส่วนศัตรูที่ถูกพรากลมหายใจ เพราะคมเขี้ยวของคู่หูเขาทำแค่ยึดอาวุธ แล้วพามารวมกลุ่มกับคนอื่น ๆ 

แต่เขี้ยวดำกลับได้กลิ่นบางอย่างเข้า มันเป็นกลิ่นไม่ดีนักเพราะมันคือกลิ่นที่เขี้ยวดำ และสุนัขทหารจะเรียกว่า "กลิ่นแห่งความตาย" 

"เราต้องรีบบอกคู่หู แบบนี้ไม่ดีแน่" จากนั้นมันก็หันมามาทางชินจงฮัก "คู่หู เราต้องรีบออกจากตรงนี้ มันไม่ปลอดภัยแล้ว" 

นี้คือสิ่งที่มันตั้งใจจะบอกทุกคนแต่น่าเสียดาย ที่ไม่มีใครฟังมันออกจากเสียงเห่าของมันเท่านั้น จึงได้แต่คาดเดาว่ามันอาจได้กลิ่นอะไรบางอย่างเข้า 

"หรือมันจะได้กลิ่นเลือด" ชาวบ้านคนหนึ่งพูดขึ้น 

"กลิ่นเลือด... เลือดอะไร" ชินจงฮักถาม

"พวกมันสังหารหมู่ผู้ชายในหมู่บ้านเรา ศพของพวกเขาอยู่ในป่าทางโน้น"

คำตอบที่ได้รับทำให้ชินจงฮักและเพื่อนทหาร พึ่งสังเกตว่าไม่มีผู้ชายหลงเหลือ แถมยังมีปัญหาหนักตามมาอีก เป้าหมายที่ต้องพากลับไปไม่อยู่ที่นี่แล้ว แค่ถูกพวกโจรป่านำตัวไปให้กบฎ ชินจงฮักกับเพื่อนร่วมทีมหัวเสียมาก ในขณะที่เขี้ยวดำยังคงระแวง "กลิ่นแห่งความตาย" 

สุดท้ายพวกเขาจำต้องรายงานให้พวกหัวหน้าทราบ นำมาสู่ภารกิจใหม่ที่ทั้งหมดต้องไปพาตัวกลับมา ชินจงฮักนำเสื้อผ้าของโจรให้เขี้ยวดำดมอีกครั้ง และให้มันวิ่งนำทางทีมหกไปยังฐานที่มั่นของโจรป่า ซึ่งรอบนี้ต้องเดินด้วยเท้าเท่านั้น ชินจงฮักผูกสายจูงไว้ที่เอวและวิ่งไล่ตามหลังคู่หูมาเรื่อย ๆ

เขี้ยวดำตามกลิ่นเข้ามานอกหมู่บ้าน มันสัมผัสได้ถึงกลิ่นที่เหล่าสุนัขเรียกว่า "กลิ่นอันตราย" เขี้ยวดำหวนนึกถึงประโยคที่ชินจงฮักพูดไว้ก่อนเริ่มภารกิจว่า

"เราต้องรีบช่วยเธอน่ะคู่หู เธอคนนี้ตกอยู่ในอันตราย"

แม้ไม่รู้ว่าอันตรายที่ว่ามันคืออะไร แต่เขี้ยวดำรู้อย่างเดียวคือต้องทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ ไม่ถึงสิบนาทีเขี้ยวดำก็พาทีมจู่โจมที่หกมายังกระท่อมหลายหลัง ซึ่งน่าจะเป็นรังของกลุ่มโจร และเขี้ยวดำได้กลิ่นเป้าหมายอยู่ข้างใน....

บึ้ม !

จู่ ๆ แรงระเบิดจากใต้พื้นก็เกิดขึ้น และร่างของคู่หูต่างสายพันธุ์ปลิวลอยกลางอากาศ ก่อนจะกระเด็นไปคนละทิศละทาง เขี้ยวดำตกกระแทกพื้นเต็มแรง มันรู้สึกจุกที่กลางลำตัวพร้อมกับบริเวณเหงื่อกมีเลือดซึมออกมา ทว่าถึงกระนั้นเขี้ยวดำก็ไม่ได้แยแสต่ออาการบาดเจ็บของมัน สิ่งที่มันนึกถึงเป็นอันดับแรกคือชินจงฮัก

"คู่หู ! นายอยู่ไหน" เขี้ยวดำร้อนใจและพยายามลุกขึ้นยืน พร้อมกับวิ่งฝ่าฝุ่นที่ตลบบดบังหนทางข้างหน้า 

เสียงการสู้รบดังต่อเนื่องอยู่รอบ ๆ ตัว แต่เขี้ยวดำไม่มีท่าทางตกใจ มันวิ่งฝ่าลมฝุ่นจนเห็นร่างของชินจงฮักนอนแผ่ที่พื้นหญ้า ซึ่งในนาทีต่อมามีศัตรูคนหนึ่งกำลังจะเข้าไปทำร้ายชินจงฮัก เขี้ยวดำวิ่งพุ่งกระโจนใส่ศัตรูทันที

"อย่ามาทำร้ายคู่หูฉันนะ !" 

เขี้ยวดำกระโจนพุ่งตัวใส่จนศัตรูล้ม และมันตรงเข้าขย้ำคอของศัตรูทันที ทว่าเขี้ยวดำไม่ทันได้ระวังศัตรูอีกคนที่เข้ามาช่วยพวกเดียวกัน เขี้ยวดำถูกไม้ตีเข้าที่ข้างลำตัว และโดนลูกเตะเหวี่ยงกระเด็น ซึ่งเสียงร้องของเขี้ยวดำเรียกสติของชินจงฮักกลับมาพอดี ถึงจะเจ็บหนักแต่ทหารหนุ่มก็กัดฟันลุกขึ้นยืน และรีบไปช่วยคู่หูในทันที

ฝั่งเขี้ยวดำที่แม้จะเจ็บหนักทั้งโดนระเบิด หรือแม้แต่โดนเตะ แต่มันไม่ยอมสิ้นฤทธิ์โดยง่ายมันลุกขึ้นยืนจ้องมองเหล่าศัตรู ที่กำลังรุมมันแบบสองต่อหนึ่ง ศัตรูทั้งสองต่างใช้ไม้ไล่หวดตีแต่เขี้ยวดำหลบได้ ซึ่งเขี้ยวดำกำลังหาทางที่จะวิ่งหลุดจากการโดนล้อม 

"มึงจะหนีไปไหน ไอ้หมาเวร" ศัตรูหนึ่งในสองยืนขวางทางเขี้ยวดำ "ตายคามือกูซะ !" 

มีบางอย่างแทงทะลุจากหลังมากลางอก พร้อมประโยค "มึงนั่นแหละตาย !" มันมาจากชินจงฮักที่ใช้ปลายง้าวแทง 

"เฮ้ย มึง !"

เมื่อศัตรูหันไปทางอื่นกลายเป็นโอกาส ให้เขี้ยวดำวิ่งเข้าขย้ำที่น่องขา พอศัตรูเสียหลักชินจงฮักก็ใช้ง้าวตัดคอจนขาด ทหารหนุ่มทรุดฮวบลงกับพื้นและใช้ง้าวพยุงตัวไว้ ด้านเขี้ยวดำก็เดินมาหาคู่หูของมัน และเลียมืออีกฝ่าย

"คู่หู นายเจ็บมากไหม" มันส่งเสียงหงิง ๆ ขนาดเลียมือชินจงฮัก "ฉันจะปกป้องนายเอง"

ชินจงฮักรับรู้ถึงความห่วงใยจากคู่หูสี่ขา จึงเอามือลูบหัวเขี้ยวดำ "ขอบใจแกมาก แต่งานเรายังไม่จบ" ทั้งสองต่างพากันวิ่งฝ่าตรงเข้าไปยังรังของกองโจร ดูเหมือนพวกมันส่วนมากจะไปสู้กับทีมจู่มโจมอยู่ จึงกลายเป็นทางสะดวกในการลักลอบเข้ามา

เขี้ยวดำวิ่งตามกลิ่นอย่างสุดความสามารถ จนกระทั่งมาหยุดที่กระท่อมหนึ่ง เสียงโวยวายดังมาจากด้านใน เขี้ยวดำวิ่งเข้ามาข้างในและเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังพยายามขัดขืนโจรคนหนึ่ง เขี้ยวดำพุ่งเข้ามากัดขาของโจรคนนั้น

ความเจ็บแปลบทำให้โจรผงะออกห่างจากหญิงสาว และหันมาใช้มีดจะแทงกลางหลังเขี้ยวดำ ทว่าชินจงฮักที่เข้ามาทันก็ใช้ง้าวฟันขาของโจร มันร้องโหยหวนก่อนจะโดนหญิงสาวใช้ไม้ฟาดเข้าที่หน้าล้มลงนอนกับพื้นแน่นิ่ง

"เราต้องรีบแล้ว เร็ว !" ชินจงฮักพูด "เขี้ยวดำ วิ่ง !"

เขี้ยวดำวิ่งนำทั้งสองตรงไปยังเส้นทางที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะเพื่อไม่ให้พลเรือนโดนลูกหลง สามชีวิตวิ่งมารวมกลุ่มกับทหารได้สำเร็จ ทั้งหมดไม่รอช้าต่างรีบถอยในทันที โดยมีการปิดงานด้วยระเบิดไฟหนึ่งลูก นาทีนี้ไม่มีใครหยุดวิ่งแม้แต่เขี้ยวดำ 

ลิ้นของมันสัมผัสได้ถึงรสคาวของเลือดที่เริ่มไหลออกจากปาก แต่ตราบใดที่ชินจงฮักกับคนอื่นไม่หยุดวิ่ง มันก็จะวิ่งต่อแต่ทันใดนั้นจู่ ๆ ภาพตรงหน้าเริ่มเลือนลางจนแทบจะมองไม่เห็น

และไม่นานภาพทุกอย่างก็ดับวูบลง


🪖🪖🪖🪖🐕🐕🐕🐕


เขี้ยวดำสะดุ้งตื่นเพราะได้กลิ่นไก่ย่างลอยติดจมูก มันมึนงงงวยอยู่พักใหญ่ก่อนจะเริ่มหันไปมองรอบ ๆ จึงพบว่าตอนนี้มันอยู่ในเตียงพยาบาลสำหรับสุนัขทหาร ชินจงฮักนอนอยู่บนโซฟา เขี้ยวดำนึกถึงเหตุการณ์ล่าสุดคือมันพยายามวิ่งหนีไปพร้อมกับคนอื่น แต่หลังจากนั้นมันก็จำอะไรไม่ได้แล้ว

"แกตื่นแล้วสินะ เขี้ยวดำ" 

เขี้ยวดำหันมาทางต้นเสียงซึ่งก็คือเขี้ยวทอง เพื่อนสุนัขทหารตั้งแต่สมัยยังเป็นลูกสุนัข 

"เขี้ยวทอง... ฉันโผล่มาที่นี่ได้ไง" เขี้ยวดำถาม

"แกบาดเจ็บสาหัสมากเลย" เขี้ยวทองบอก "ฉันได้ยินคู่หูของฉันคุยกับคนอื่นมา" มันมองมาทางชินจงฮัก "แกหมดสติในสนามรบ แต่คู่หูของแกเลือกที่จะแบกแกกลับมา ทั้งที่ตัวเองก็เจ็บไม่น้อย"

เขี้ยวดำที่ได้ยินก็ซาบซึ้งในตัวคู่หูมันยิ่งนัก

"แล้วตอนนี้คู่หูของแกก็นอนเฝ้าแกมาตลอดเลย" เขี้ยวทองเล่าต่อ "เขาต้องดีใจมาก ๆ ถ้าเห็นแกฟื้น"

"อืม แล้วเขี้ยวขาวล่ะ" เขี้ยวดำถามถึงพี่ชายของมัน

"ยังเลย ฉันยังไม่เห็นเขี้ยวขาวเลย" เขี้ยวทองตอบ

"เขี้ยวเงินด้วยหรือ"

"รายนั่นไม่ได้ข่าวมาหลายเดือนแล้ว"

บทสนทนาจบลงด้วยการตื่นของชินจงฮัก เขี้ยวทองพูดถูก คู่หูของเขี้ยวดำดีใจมากที่เห็นมันฟื้นแล้ว ซึ่งไม่นานเขี้ยวทองก็ออกไปพร้อมกับคู่หู เหลือแค่เขี้ยวดำกับชินจงฮัก ที่เข้ามากอดด้วยความโล่งใจ เขี้ยวดำเลียมืออีกฝ่ายเพื่อปลอบโยน จากนั้นชินจงฮักก็ได้นำกระดาษใบหนึ่งออกมา

แน่นอนว่าเขี้ยวดำไม่รู้ว่าสิ่งที่อยู่ในมือของคู่หูคืออะไร แต่ชินจงฮักรู้ว่ามันคือจดหมายจากหญิงสาวที่เขากับเขี้ยวดำช่วยเอาไว้ อีกทั้งยังส่งขนมสุนัขมาให้อีกด้วย เมื่อเห็นขนมในมือชินจงฮัก เขี้ยวดำก็ลุกตาวาวหลงลืมอาการบาดเจ็บจนหมดสิ้น 

ชินจงฮักจึงยื่นขนมให้กับมัน

"เราทำสำเร็จแล้วนะ คู่หู"


🪖🪖🪖🪖🐕🐕🐕🐕