ความนับถือที่พวกเจ้าประเดประดังเข้ามานั้นล้วนถวายความสิ้นหวังแด่ตัวข้าทั้งสิ้น

ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น) - 1/4 . โดย เขียวขจีคือควายกินหญ้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ตะวันตก,ดาร์ค,ระทึกขวัญ,พารานอมอล,ดาร์กแฟนตาซี,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ตะวันตก,ดาร์ค,ระทึกขวัญ,พารานอมอล

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดาร์กแฟนตาซี,แฟนตาซี

รายละเอียด

ความนับถือที่พวกเจ้าประเดประดังเข้ามานั้นล้วนถวายความสิ้นหวังแด่ตัวข้าทั้งสิ้น

ผู้แต่ง

เขียวขจีคือควายกินหญ้า

เรื่องย่อ

ขอบคุณนักอ่านที่สนใจเรื่องต่อกิ่งกันเป็นราชานะครับ เรื่องค่อนข้างสั้นแต่แบ่งออกมาเป็นสี่ตอนในเว็บนี้เพื่อให้อ่านง่ายขึ้น เตือนตัวใหญ่ ๆ เลยว่า เนื้อหาโหดพอสมควร มี TW ตามนี้เลยครับ...



Trigger Warning: Amputation (การตัดชิ้นส่วนอวัยวะ), Blood (เลือด), Brutality (ความโหดร้ายทารุณ), Corpse (ซากศพ), Surreal Gore (ความรุนแรงทางกายแบบเหนือจริง)



สามารถติชมผลงานได้ตามสะดวกครับ ถ้ากดไลค์ให้ผมจะขอบคุณมากติดตามผลงานได้ที่เฟจเฟสบุ๊ค "เขียวขจีคือควายกินหญ้า" ได้นะครับ

สารบัญ

ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น)-1/4 .,ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น)-2/4 .,ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น)-3/4 .,ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น)-4/4 .

เนื้อหา

1/4 .

อันตัวข้านั้นเป็นบุตรชายของอสุรกายในคราบขององค์ราชัน



ไม่มีคำเปรียบเปรยใดเหมาะสมกับองค์ท่านมาเทียบเท่า จากทั้งอิริยาบถอึมครึมอยู่ทุกเพลา รอยย่นบนพระพักตร์อันหม่นหมองและน้ำเสียงแข็งกระด้างไร้ซึ่งอารมณ์ แม้พระบิดามักขานรับบุคคลใด ๆ ด้วยคำเอ่ยสั้น ๆ ก็สัมผัสได้ถึงความวิปลาสเสมอ หากมาอยู่เป็นคนใกล้ชิดขององค์ท่านจะคลับคล้ายกับการที่ข้างกายมีซากศพล้อเลียนท่าทางของมนุษย์อย่างแข็งเกร็งเสียมากกว่า


อีกประเด็นน่าฉงนหนึ่งคือพระองค์ท่านทรงมีร่างกายใหญ่โตมโหฬารจนเรียกว่า ‘น่าเกรงขาม’ มิได้ ยิ่งเทียบกับขนาดของข้าแล้วไซร้ ช่างน่าขนลุกชวนสะอิดสะเอียนเหลือทน ท่านมีชนมพรรษาเกือบสี่สิบพรรษา ส่วนข้านั้นพึ่งสิบเจ็ดหมาด ๆ หากแต่ร่างขององค์ท่านดูไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเติบโตขยายใหญ่แซงหน้าข้าเรื่อยไปดั่งพันธุ์ไม้โอ๊ค ไม่สมควรเป็นไปได้ในฐานะของมนุษย์เสียด้วยซ้ำ ยิ่งสวมผ้าคลุมสีเขียวตะไคร่ปกคลุมสรีระเสียมิดชิดกระทั่งยามร่วมโต๊ะอาหารหรือเข้าบรรทมคล้ายจงใจปิดให้เป็นความลับ ด้วยเหตุไฉนข้าถึงควรยั้งความคิดว่าบิดาแห่งข้าเป็นอสุรกายกันเล่า แถมเจ้าข้ารับใช้หนุ่มคนสนิทผู้คอยดูแลข้าแทนเขากลับคอยปิดบังทุกความลับของวงศ์ตระกูลกระทั่งว่าองค์ราชินีหายไปไหน ข้าได้แต่อุปมานว่าท่านแม่คงถูกเจ้าอสุรกายเขมือบกินไปเมื่อนานนม



ข้าหยุดครุ่นคิดวุ่นวายได้ไม่ เมื่อพระองค์ท่าน ราชาแห่งอาณาจักรนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามข้าในระยะเผาขน วันนี้หน้าที่ของข้าคือเพียงติดสอยห้อยตามเขาไปร่วมพิธีกรรมเท่านั้น ราชรถจึงเคลื่อนตัวขณะที่สองเราพ่อลูกมิได้เอื้อนเอ่ยคำใด ๆ พอถึงจุดหมายและเท้าข้าเหยียบลงพื้นดินร่วนแล้ว ความประหลาดใจค่อยมาตบหน้าข้าเสียฉาดใหญ่ ยิ่งเห็นเหล่าไพร่แต่งตัวซอมซ่อแหกปากต้อนรับการเสด็จประพาสต่างก้มกราบแทบเท้า ประนมมือเหนือหัวเทิดทูนกษัตริย์ผู้กำลังเดินนำหน้าข้าอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง



ทุกอย่างดูอลังการเว้นเสียแต่องค์ท่านผู้ไม่แม้แสดงความไยดีกลับเพียงเศษเสี้ยว ยายเฒ่าโผล่เข้ามาเกะกะหมายจะมอบดอกไม้ขาวช่อเล็กให้องค์ท่านก็ถูกพระหัตถ์ปัดตัวออกให้ล้มลง ต้องเป็นตัวข้าที่ไปพยุงตัวนางและรับช่อดอกไม้นั้นไว้แทน คนชราในสมัยของสงครามและโรคระบาดนั้นหายากยิ่ง ยิ้มปนรอยเหี่ยวย่นนั้นก็คงเช่นกัน ข้าอำลานางและตามหลังองค์ราชาไปต้อย ๆ




พระองค์ท่านไม่แยแสผู้ใดขณะย่ำเท้าหลีกทางจากพวกไพร่ ผ่านพวกขุนนางท่าทางประจบประแจงผู้มาร่วมพิธีด้วยค่อยทำท่าพยักหน้ารับรู้บ้าง เดินไปจนถึงหน้าบัลลังก์ทองคำประดับเพชรสุกสกาวตั้งตระหง่านกลางลานดินกว้าง เมื่อบิดาประทับบนพระที่นั่ง ตัวข้าถึงมีสิทธินั่งลงบนเก้าอี้ไม้สักข้าง ๆ และเหล่าขุนนางที่ยืนคอยรออยู่แล้วค่อยหย่อนบั้นท้ายลงที่นั่งเรื่อย ๆ ทีละคนตามลำดับชั้น พวกเราเหล่าชนชั้นสูงถูกห้อมรอบจากด้านหลังโดยชนเมืองที่มาร่วมชมงาน กุลีกุจอกันแย่งตำแหน่งติดรั้วกั้นให้ใกล้ชิดพิธี จนกระทั่งมาสงบเสงี่ยม ครั้นถึงเพลาที่ทุกคนต้องสำรวมต่อหน้าพิธีการอันสำคัญยิ่ง



การบูชายัญองค์เทพประจำปีเริ่มต้นขึ้นแล้ว



ม้าสีน้ำตาลอำพันส่งเสียงหายใจฟึดฟัดเตะแข้งขาพยศถูกบังคับดึงมาจากทิศหนึ่ง ส่วนอีกทิศหนึ่งพาลูกแพะสองตัวจ้อยตัวหันมองรอบด้านกระวนกระวายมาไว้ด้วยกัน ผู้นำพิธีคลุมผ้าสีดำสนิททั้งร่างเริ่มบริกรรมคาถาแข่งกับเสียงสัตว์ทั้งสามหวีดร้องวิงวอนเมื่อชายกำยำคลุมโม่งง้างขวานด้ามคมกริบจ้ำเท้าเข้าใกล้



พวกสัตว์รับความตายได้น่าอดสูยิ่ง หากแต่ทั้งหมดนี้เป็นไปนั้นเพื่อความผาสุกของผู้คนในอาณาจักร ต่อให้การดิ้นครวญครางอย่างทุรนทุรายเมื่อเสียดสีท่อนลำคอเจ้าอาชาให้เลือดทะลักไหลหลั่งนั้นจะเข้าทุบตีจิตใจเบื้องลึกของข้าอย่างแสบสัน ต่อให้เจ้าอาชาจะหลั่งน้ำตาสีแดงฉาน ต่อให้หัวม้าจะหลุดออกมาให้ชาวไพร่แห่ตะโกนสรรเสริญเริงร่า ตัวข้านั้นแข็งทื่อห้ามไหวหวั่นใด ๆ แม้เหลือบมองเจ้าอสุรกายบนบัลลังก์จ้องสามหัวสัตว์อาภัพไม่ละสายตาก็ตามที



ความสงสัยใคร่รู้เหลือล้นของข้านั้นถามหาเหตุผลอันแท้จริงของการที่เหล่าสัตว์ไร้เดียงสาพวกนี้ต้องถูกบั่นหัวอย่างทารุณ ข้ารับใช้หนุ่มคนสนิทเคยอธิบายความว่าคือการสังเวยวิญญาณแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า โลหิตและมังสานั้นจะถูกถวายแด่เบื้องบนเพื่อตอบแทนความอุดมสมบูรณ์ที่ท่านได้มอบให้ชาวเราเสมอมา เมื่อนั้นข้ายังไม่รู้ความ หากแต่เป็นข้าในกาลนี้ ความเคลือบแคลงต่อพระผู้เป็นเจ้าจะก่อการผิดบาปเสียเปล่า…



โอ้ พลาดไปเสียได้ พระผู้เป็นเจ้า ได้โปรดอภัยข้าผู้นี้ด้วยเถิด