ความนับถือที่พวกเจ้าประเดประดังเข้ามานั้นล้วนถวายความสิ้นหวังแด่ตัวข้าทั้งสิ้น

ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น) - 2/4 . โดย เขียวขจีคือควายกินหญ้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ตะวันตก,ดาร์ค,ระทึกขวัญ,พารานอมอล,ดาร์กแฟนตาซี,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ตะวันตก,ดาร์ค,ระทึกขวัญ,พารานอมอล

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดาร์กแฟนตาซี,แฟนตาซี

รายละเอียด

ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น) โดย เขียวขจีคือควายกินหญ้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ความนับถือที่พวกเจ้าประเดประดังเข้ามานั้นล้วนถวายความสิ้นหวังแด่ตัวข้าทั้งสิ้น

ผู้แต่ง

เขียวขจีคือควายกินหญ้า

เรื่องย่อ

ขอบคุณนักอ่านที่สนใจเรื่องต่อกิ่งกันเป็นราชานะครับ เรื่องค่อนข้างสั้นแต่แบ่งออกมาเป็นสี่ตอนในเว็บนี้เพื่อให้อ่านง่ายขึ้น เตือนตัวใหญ่ ๆ เลยว่า เนื้อหาโหดพอสมควร มี TW ตามนี้เลยครับ...



Trigger Warning: Amputation (การตัดชิ้นส่วนอวัยวะ), Blood (เลือด), Brutality (ความโหดร้ายทารุณ), Corpse (ซากศพ), Surreal Gore (ความรุนแรงทางกายแบบเหนือจริง)



สามารถติชมผลงานได้ตามสะดวกครับ ถ้ากดไลค์ให้ผมจะขอบคุณมากติดตามผลงานได้ที่เฟจเฟสบุ๊ค "เขียวขจีคือควายกินหญ้า" ได้นะครับ

สารบัญ

ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น)-1/4 .,ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น)-2/4 .,ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น)-3/4 .,ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น)-4/4 .

เนื้อหา

2/4 .

แล้วฤดูกาลก็หมุนเวียนครบหนึ่งรอบถ้วน



ร่างของพระบิดาได้ขยายใหญ่ขนาดต้องให้คนงานทุบกำแพงทางเดินปราสาทและประตูเพื่อสามารถเดินผ่าน อุปนิสัยของซากศพนั้นยังคงเดิมแม้นทำหน้าที่ปกครองอาณาจักรเสมอมา หากจำเป็นให้ข้าต้องสนทนากับเขาอยู่บ่อยครั้ง ข้าคงได้สำรอกระบายความอัดอั้นเสีย ดีที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาคนเคียงข้างข้ามีเพียงหนึ่ง นั่นคือข้ารับใช้หนุ่มผู้คอยประคบประหงมข้าไม่เคยขาดทั้งน้ำและอาหาร อีกทั้งยังมอบวิชาความรู้การเป็นกษัตริย์เพื่อเตรียมพร้อมต่อการสืบอำนาจให้เรื่อยมา



มีเพียงวันนี้ที่เจ้าข้ารับใช้หนุ่มคนนั้นทำตัวพิลึกไป



ขณะที่ข้ากำลังงุ่นง่านอยู่ในห้องบรรทมช่วงยามวิกาล เขาโผลงผลางผลักประตูเข้ามาเอาข้าตกใจตื่นหมด ฝนด้านนอกพรำลงและเสียงฟ้าผ่าดังสนั่นหนึ่งครั้งก่อนปากของเขาจะเริ่มขยับมุบมิบพูด



“องค์ชาย อันตัวข้าน้อยนั้นมีคำขอร้องอันเหิมเกริมอยู่หนึ่งอย่างพ่ะย่ะค่ะ”



ข้าฉงนใจนัก คนคนนี้ไม่ค่อยเอ่ยปากพูดอันใดนอกเหนือจากการสั่งสอนหรือคอยให้ความช่วยเหลือ



“ย่อมได้เสมอ ถือว่าเจ้ามีบุญคุณต่อเรา หากประทานได้ เราจะหามาให้



บัดนั้นเขาคุกเข่าเอามือชกพื้นและก้มหน้าต่อข้า แสดงท่าทางเคารพเยี่ยงข้ามีเชื้อพระวงศ์เป็นครั้งแรกตั้งแต่ข้าเกิดมา



"ขอคำบัญชาขององค์ชาย สั่งให้สังหารองค์เหนือหัวได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ หากองค์ชายอยากได้รับพระราชอำนาจมาในกำมือ ข้าน้อยจักสนองความต้องการขององค์ชายได้ในบัดดล”



เขาเป็นคนเถรตรงซื่อสัตย์เสมอมา ในแววตานั้นไร้ซึ่งความชิงชังหากแต่เพียงปรารถนาจะบรรลุเป้าหมาย ข้าไม่ได้ประหลาดใจหรือกระทั่งจะยินดียินร้ายหากอสุรกายตนนั้นจะสิ้นชีพไปเสีย จึงทำเพียงเอ่ยถามข้ารับใช้จอมอุกอาจอย่างสั้นกระชับเอาความ



“อันตัวเรานั้นอนุญาต เราเพียงอยากทราบว่าใจท่านต้องการสิ่งใดกันแน่”



“พวกขุนนางไม่พอใจการใช้อำนาจเก็บเบี้ยเรี่ยไรขององค์เหนือหัว ข้าน้อยถูกจ้างวานมาด้วยเหรียญเงินมหาศาลอันตัวข้าน้อยนั้นมิอาจปฏิเสธได้ บัดนี้องค์ชายถึงชันษาครองราชย์ได้เหมาะสมแล้ว หากท่านขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อ การกระทำนี่เสียถึงไม่เป็นการกบฏ อีกประเด็นหนึ่ง พวกขุนนางให้คำสัตย์ต่อพระผู้เป็นเจ้าว่าจักไม่ลงมือกับองค์ชายหากร่วมมือในแผนการแต่โดยดี”



ข้ามองสายฝนด้านนอกพลางคำนึงครุ่นคิด แล้วค่อยถอนหายใจเป็นลมอุ่น



“เรารู้ดี บิดาแห่งเราเปรียบได้กับอสุรกาย ทั้งรูปลักษณ์หรือวิสัยของการปกครองต่าง ๆ ผู้ใดหมายจะปลิดชีพทิ้งเสียคงไม่ใช่เรื่องพิลึกพิลั่น ทว่าวานเจ้าตอบเราก่อนได้หรือไม่ ใต้ผ้าคลุมสีเขียวของบิดาเรานั้นแลดูไม่คล้ายกับร่างของมนุษย์เดินดิน มีอะไรซุกซ่อนอยู่งั้นหรือ?”



“ประทานอภัยที่ข้าน้อยไม่เคยตอบคำถามนั้นได้เสมอมา มันจะเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งเมื่อกษัตริย์ของอาณาจักรนี้สิ้นลมหายใจไปแล้วเท่านั้น”



เราสองตกลงกันทำสัญญาอย่างไร้อารมณ์ร่วมของความเคืองแค้นใด ๆ แล้วด้วยความบังเอิญ เป็นจังหวะดีที่ร่างหนาเทอะทะขององค์ท่านเดินเข้ามาใกล้พวกเราในความมืดของค่ำคืน ข้าส่งสายตาให้ผู้ร่วมแผนการณ์ลอบสังหารให้รู้กันด้วยสมองอันฉับไว มืออันผ่านการฝึกปรือกระบวนดาบมานานของข้าชักด้ามคมออกจากฝักได้รวดเร็วเหนือจินตนาการข้าเองเสียด้วยซ้ำ หนึ่งปาดดาบฟันลูกกระเดือกขององค์ราชาเปิดรอยแผลย้อมน้ำสีแดงฉาน



เสียงหวีดร้องโอดโอยของอสุรกายอันละม้ายคล้ายม้าที่ถูกบูชายัญเมื่อปีก่อนนั้นไม่มีผิดทำข้าไร้ความลังเล พุ่งตัวกำข้อมือปักดาบลงกลางแผ่นหลังทะลุถึงส่วนขั้วหัวใจ องค์เหนือหัวล้มลงนอนแน่นิ่งในบัดนั้น “มันตายแล้ว” ไอรัศมีของปีศาจได้หายไปแล้ว ข้ารับใช้หนุ่มตบมือชื่นชมตัวข้าคล้ายจะประชดประชันกัน



แม้ข้าเคลือบแคลงว่าเหตุอันใดถึงได้สิ้นลมเสียง่ายดายเพียงนี้ แต่มีข้อสงสัยหนึ่งที่ข้าต้องสะสางให้จบลง ข้าพลิกกายหยาบหนักอึ้งหงายขึ้นและเปิดผ้าคลุมนั้นออก



อา ความอยากรู้อยากเห็นหวนกลับมาทำร้ายข้าในอีกคราเสียแล้ว



ไม่มีคำกล่าวใด ๆ มาพูดให้สะอิดสะเอียนไม่ได้ อวัยวะหลายส่วนระโยงระยางกันเสียจับต้นชนปลายหาส่วนตัวไม่ถูกหากไร้ซึ่งสิบเอ็ดพระหัตถ์แห้งกรังเงื้อหาหน้าอกก่อนสิ้นใจ มังสาพระองค์อันซีดเซียวอุดมไปด้วยแผลอัปลักษณ์ บนผิวสีน้ำตาลเขียวเน่าเปื่อยบ้างเป็นแผลกำพร้าจมลงลึกเห็นกระดูกและสะเก็ดสีขาวแตกร้าวในหลุมบ่อหนองเหลืองเน่าเฟะมีหนอนชอนไช บ้างก็บวมออกจากชั้นหนังกำพร้า งอกเป็นชิ้นเนื้อเท่าหัวแม่โป้งตะปุ่มตะป่ำติดทั่วพระวรกาย มองส่วนคออันเต็มไปรูกลวงก่อนที่ข้าจะเหลือบเห็นพระศพแย้มสรวลยินดีใต้เงามืด



ข้ามิอาจนับจำนวนของดวงตาบนหน้าอกและแขนขายั้วเยี้ยทั้งหมดก่อนจะสำรอกคอไหม้ไฟ ขย้อนอาหารออกมาจนหมดสติอยู่ข้างร่างของความวิปลาส