ความนับถือที่พวกเจ้าประเดประดังเข้ามานั้นล้วนถวายความสิ้นหวังแด่ตัวข้าทั้งสิ้น

ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น) - 4/4 . โดย เขียวขจีคือควายกินหญ้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ตะวันตก,ดาร์ค,ระทึกขวัญ,พารานอมอล,ดาร์กแฟนตาซี,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ตะวันตก,ดาร์ค,ระทึกขวัญ,พารานอมอล

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดาร์กแฟนตาซี,แฟนตาซี

รายละเอียด

ความนับถือที่พวกเจ้าประเดประดังเข้ามานั้นล้วนถวายความสิ้นหวังแด่ตัวข้าทั้งสิ้น

ผู้แต่ง

เขียวขจีคือควายกินหญ้า

เรื่องย่อ

ขอบคุณนักอ่านที่สนใจเรื่องต่อกิ่งกันเป็นราชานะครับ เรื่องค่อนข้างสั้นแต่แบ่งออกมาเป็นสี่ตอนในเว็บนี้เพื่อให้อ่านง่ายขึ้น เตือนตัวใหญ่ ๆ เลยว่า เนื้อหาโหดพอสมควร มี TW ตามนี้เลยครับ...



Trigger Warning: Amputation (การตัดชิ้นส่วนอวัยวะ), Blood (เลือด), Brutality (ความโหดร้ายทารุณ), Corpse (ซากศพ), Surreal Gore (ความรุนแรงทางกายแบบเหนือจริง)



สามารถติชมผลงานได้ตามสะดวกครับ ถ้ากดไลค์ให้ผมจะขอบคุณมากติดตามผลงานได้ที่เฟจเฟสบุ๊ค "เขียวขจีคือควายกินหญ้า" ได้นะครับ

สารบัญ

ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น)-1/4 .,ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น)-2/4 .,ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น)-3/4 .,ต่อกิ่งกันเป็นราชา (เรื่องสั้น)-4/4 .

เนื้อหา

4/4 .


กาลเวลาผันผ่านมาเกินหนึ่งทตศวรรษ




ทุกสิ่งเป็นไปอย่างที่แคสเซียนว่าไว้จริง ๆ ชิ้นเนื้อของนิ้วนับร้อยต่อกันบนหน้าผากนั้นร่วมเปล่งอำนาจได้ทรงสง่าราศียิ่งนัก บัดนี้ข้าได้ครอบครองเขาของเนื้อ สมันอันประกอบไปด้วยนิ้วชี้ กลาง นาง ก้อยของผู้ยอมสังเวยชีวิตแก่ข้า เกียรติยศของกษัตริย์ประดับประดาอยู่บนร่าง ผู้ใดมองก็ต้องแสดงความเคารพต่อข้าแลชาวประชาต่างสรรเสริญข้าเพราะความขลังของอำนาจและความผาสุกร่มเย็นของบ้านเมืองที่ข้าได้ประทานให้ด้วยความอุตสาหะ เมืองนี้จึงกลายเป็นสถานที่ที่ดียิ่งกว่าเมื่ออดีตหลายเท่า




ข้ารักประชาราษฎรทุกคนอย่างเท่าเทียม เว้นเสียแต่พวกก้างขวางคอ เหล่าขุนนางมีอำนาจผู้เริ่มแข็งข้อต่อข้าเพราะไม่พอใจในเบี้ยเลี้ยง พวกมันไม่เข้าใจวิธีการปกครองอันเที่ยงธรรมแลหวังเพียงเอาลาภยศชื่อเสียงเข้าตัวเอง คอยส่งอัศวินที่กล่าวอ้างว่าฝีมือฉกาจดาหน้ากันมาเพื่อสังหารข้าเพียงผู้เดียว บ้างหมายจะลอบปลงพระชนม์ บ้างก็ร่วมกันเป็นฝูงหมาป่าหวังรุมฆ่าเหยื่อ…




หากแต่ข้ามิใช่เหยื่อ ข้าคือราชาผู้สมบูรณ์ในทุกด้าน ผู้ปกครองแห่งอาณาจักรของข้า ต่อให้มีสิบคมดาบฟาดฟันรุมข้า ต่อให้มีฝนห่าของลูกธนูหวังจะทิ่มแทงข้า ด้วยศัสตราวุธเต็มแต่ละกร แขนซ้ายข้างที่สิบถือโล่ปัดป้องทุกอันตราย แขนขวาข้างที่ห้ากวัดไกวศาสตราได้คล่องแคล่ว แถมด้วยดวงตาที่อยู่ตามเนื้อตัวร่วมมองการโจมตีไม่มีทางที่ข้าจะเผยช่องโหว่ ไม่มีสิ่งใดในโลกามามอบความปราชัยแก่ข้าได้ ไม่ใกล้เคียงเสียด้วยซ้ำ




ผ่านมาไม่นานมาก มีอัศวินสวมชุดเกราะเต็มตัวพร้อมสัญลักษณ์ไม้กางเขนที่อกขวาเข้ามาประจันหน้ากับข้า มันเอาแต่กล่าวร้ายว่าข้าเป็นตัวอสุรกาย ประกาศกร้าวว่าราชาจอมวิปลาสจะถูกเพลิงชำระแห่งพระเจ้านำลงนรก ข้าสังเกตท่าทางตั้งดาบและแววตาที่แน่วแน่ ดูเผิน ๆ ก็ได้รู้ว่ามีวิชาแก่ข้า ข้ารับสั่งให้มันหนีไปเสียพร้อมจะประทานรางวัลเป็นเงินให้อย่างงาม น่าเสียดายที่คนมากความสามารถกลับติดนิสัยดื้อด้าน เอาปากกล้าใช้ด่าทอข้า…แกสมควรตายเสียที ไอ้จอมปีศาจ… มันแหกปากลั่นก่อนจะพุ่งหันคมดาบเข้ามา บัดนั้นที่สี่แขนร่วมออกแรงฟันคอมันหลุดจากบ่าเรียบง่ายดั่งตัดต้นไผ่





“ราษฎรของข้ารักข้า มอบชีวิตให้แก่ข้า เหตุใดข้าจึงสมควรตายเล่า”





ข้าไม่ใช่ผู้เอื้อนเอ่ยประโยคนั้นกับอัศวินไร้หัว หากแต่เป็นลิ้นที่สามของข้า





บัดนี้เพียงจิตใจเท่านั้นอันเป็นของข้า หากแต่กายหยาบและปรารถนาทั้งหมดเสียสละเพื่อความเป็นอยู่ของราษฎร เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของทุกผู้คน เหล่าไพร่คอยมอบส่วนของร่างกายมาเป็นพลังให้ข้า ทั้งหมดจึงเป็นการตอบแทน การที่ข้าต้องฆ่าฟันก็เพื่อพวกเขา การที่ข้าต้องคงร่างอัปลักษณ์ไว้ก็เพื่อพวกเขา การที่ข้าต้องสืบพันธุ์ก็เพื่อคงสายเลือดไว้ให้พวกเขา ประชาชนรักใคร่ในตัวข้าอย่างบริสุทธิ์ ด้วยเหตุฉะนั้นข้าจึงรักเหล่าประชาชนในทำนองเดียวกัน





ทว่าน่าเสียดายยิ่งนัก ข้าดูแลที่นี่มานานแล้ว เวลาของข้าคงใกล้มอดดับลงทุกวันทุกวัน แคสเซียนผู้ตายจากไปเมื่อหลายปีก่อนเคยกล่าวต่อข้าว่ากษัตริย์ควรคงพระชนมพรรษาไว้สักสี่สิบถึงจะสมพระเกียรติกึกก้องเกรียงไกร มันคงฟูมฟักสั่งสอนโอรสของข้าไว้เพื่อมาปลิดชีพข้าทิ้งอีกทีหนึ่งดั่งที่ข้าปลิดชีพท่านบิดา…ไม่ใช่ ข้าเข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้งแล้ว ข้าไม่ใช่ผู้ลงมือแต่เป็นพระองค์ท่านเข้ามาตายเพื่อส่งไม้ต่อให้ข้าต่างหาก อา ขอบคุณเหลือเกินที่ให้ข้าได้มาปกครองผู้ที่รักข้า ไม่นานจากนี้จักเป็นเพลาส่งต่อสายเลือดของข้าบ้างแล้ว




ณ หน้าปราสาท สายตาแมลงวันของข้าแหงนหน้าขึ้นมองฟ้าอนธการอันมีดวงดาวระยิบระยับประดับก้อนกลมขาวผ่องเรียกขานกันว่าดวงจันทร์ คิดคำนึงถึงความอัปลักษณ์จากรอยเปื้อนเทาเลอะเทอะเห็นได้ชัดของมัน หากแต่ว่ามองจากฟ้าไกลแล้วนั้น ดวงจันทร์ยังคงเจิดจรัสส่องแสงแจ่มจ้าแก่หมู่เรา คงไม่ต่างกับสายตาของเหล่าชาวประชาที่มองมายังตัวข้า...อยู่สูงเสียมิอาจเอื้อมถึง มองจากมุมห่างไกลแล้วช่างวิจิตรตระการตา หากแต่ตัวข้าเองนั้นรู้ดี ข้าห่างจากความงดงามเฉกเช่นนั้นอยู่หลายขุม



ขาขวาข้างที่หกเชื้อเชิญให้ข้าเดินย่ำไปด้านหน้า ไม่อาจตั้งคำถามด้วยซ้ำว่าด้วยเหตุผลอันใดร่างถึงเลือกออกเสด็จในยามวิกาลเช่นนี้ เดินทางไปขจัดขุนนางเสี้ยนหนามให้เหี้ยนกระมัง ข้าควบคุมอะไรไม่ได้อีกต่อไปแล้ว หน้าที่อันเป็นเพียงสาระเดียวของเราคือการปกป้องบ้านเมืองเท่านั้น




หากพิจารณาปรัชญาว่ามนุษย์นั้นมีชีวันได้เมื่อคงไว้ซึ่งความฝันหรือปณิธาน อันตัวข้านั้นคงสิ้นเสียแล้ว เหลือไว้เพียงกษัตริย์ผู้เกรียงไกรในดินแดนนี้ สืบสานสายเลือดบริสุทธิ์ให้ปวงประชาได้นับถือแลศรัทธาสืบไป





อวสาน