ถึงวัยจะห่าง ต่างกันแค่เอื้อม...มันก็เท่านั้น
สืบสวนสอบสวน,อาชญากรรม,ชาย-หญิง,ไทย,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
สะดุด (กลางใจ) ยัยเฒ่าถึงวัยจะห่าง ต่างกันแค่เอื้อม...มันก็เท่านั้น
พ่อเลี้ยงหนุ่มนามว่า 'พันธ์ศักดิ์' เกิดไปสะดุดกับสาวใหญ่กลางคนอย่าง 'บุรณี' โดยไม่คาดคิด จากเหตุการณ์ที่เขาต้องเข้าไปหลบอยู่ในห้องลองชุดชั้นในสตรีห้องเดียวกันวันนั้น
เธอผวาจนแทบช็อคเมื่อปืนสั้นในมือของชายผิวสองสีหน้าตาเอเชียกำลังเล็งมาที่หน้าเธอ เขาจู่โจมโดยเอาร่างกระแทกประตูห้องจนล็อคหลุดกระเด็น ทันใดเธอก็ถูกดันเข้ามุมจนชายหนุ่มเอามือปิดปากแน่นเพื่อไม่ให้เธอส่งเสียงกรี๊ด...
จากวันนั้นสาวใหญ่อย่างเธอต้องเข้าไปพัวพันกับการตามล่าของเจ้าพ่อมาเฟียธุรกิจแฟชั่นที่โรม จนชีวิตของเธอและครอบครัวที่เหลือเพียงแม่สามีและลูกติดของสามีอิตาเลี่ยนที่เพิ่งเสียชีวิตจากหัวใจวายเฉียบพลันตกอยู่ในอันตราย...แทบบ้า
ชายหนุ่มจึงเข้ามารับผิดชอบชีวิตครอบครัวของเธออย่างจำยอม
แต่แล้วเธอก็ต้องมาติดบ่วงตกเป็นจำเลยผูกพันกับความรักที่ไม่น่าจะเป็นไปได้กับชายหนุ่มทายาทเจ้าของรีสอร์ตแห่งไร่ 'เทียมฟ้าภูลังกา'
ด้วยวัยสามสิบกว่าของชายหนุ่มกับสาวใหญ่อายุสี่สิบกว่าเช่นเธอ แน่นอนย่อมมีเสียงครหาสารพัดต่อต้านจากคำว่า 'รักต่างวัย'
รวมทั้งหัวใจของเธอด้วย ที่มีแต่คำว่า 'ยัยเฒ่า' อยากกินเด็ก เสียงเยาะเย้ยถากถาง
จากทุกสารทิศ จะทำให้เธอยอมพ่ายแพ้ หรือว่าจะไปต่อ อย่างที่ชายหนุ่มผู้ไม่เคย
ยอมปล่อยมือที่กำหัวใจเธอไว้
"ถึงวัยจะห่าง ต่างกันแค่เอื้อม...มันก็เท่านั้น"
ดราม่าเรื่องนี้จะตลกทั้งน้ำตา หรือว่า เย็นชาแบบไร้หัวใจ
แต่หัวใจสาวใหญ่เช่นเธอจะไม่หวั่นไหวได้อย่างไร เพราะผู้คุมหัวใจอยู่นั้น...ไม่มีวันถอยเลิกรานั่นเอง
คำโปรย
ทุกปริศนา...มันซุกซ่อนมายาแห่งเงินตรา
----------------
“ต้องเปลี่ยนรถ...เอาหัวลงต่ำ...bello ดี!!!” พันธ์ศักดิ์เอื้อมหยิบปืนพกที่อยู่ตรงลิ้นชักด้านซ้ายของพวงมาลัย มันเด้งเปิดออกจากแรงที่เขาเอาข้อมือตบที่ปุ่มหน้าคอนโซล สายตากร้าวขบกรามแน่นของเขาดูน่าสะพรึง
“พร้อมยัง...” เขามองตรงไปข้างหน้า และเลี้ยวซ้ายไปทางที่ไม่น่าใช่เส้นทางเข้าโรม
“ทำไม???” บุรณีเอาหัวลงต่ำแต่ก็ยังถามอีก
“Sei sposato???...แต่งงานรึยัง...” พันธ์ศักดิ์เสียงห้วนเข้มถามเธอ
“เอ้า...ไม่มีผัว จะมาที่นี่ยังไง” หญิงสาวทำเสียงแค่นหัวเราะเบาๆ
“เฮ้อ..ออออ...” เขาทำเสียงถอนหายใจยาวมาก
คิ้วที่ขมวดเหมือนโบว์อยู่ตรงกลางหน้าผากของเขา ยิ่งทำให้บุรณีใจสั่นเต้นตึ้กๆ ตั้กๆ เขาคงกำลังประเมินสถานการณ์
“วันนี้...ไม่ไปเอาชุดชั้นในได้ไหม” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเสียงเครียด ทั้งไม่หันมามองหน้าเธอเลย
“เรื่องนั้นไม่ใหญ่เท่าชุดแต่งงาน”
“ฮะ...ยังไม่แต่ง งง...แต่งงานอีกรึ” เสียงกระเซ้าของเขาทำให้อารมณ์เคร่งเครียดในรถเริ่มคลายลง
“ฉันหมายถึง...ชุดแต่งงานของแม่สามี...น่ะ” เธอทำเสียงกระเง้ากระงอด
“แล้วนี่มีลูกเต้ารึยัง...” เขาเริ่มถามเรื่องส่วนตัวของบุรณี
“มี 1 คน และ...” ชายหนุ่มเริ่มทำเสียงอึดอัดใจ เหมือนเขากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
“...ใกล้ถึง...” พันธ์ศักดิ์มีท่าทีกังวลมาก เขาเหมือนส่งข้อความอะไรบนจอมือถือ ซึ่งเชื่อมต่อด้วยสัญญาณตรงพวงมาลัย
“ผมให้คนเอาเสื้อผ้ามาให้เลือกที่นี่...แล้วค่ำๆ ผมจะไปส่ง ห้ามออกไปไหน...เด็ดขาด!!!” เสียงดุของเขาน่ากลัวพอตัว
“ข้อเท้าดีขึ้นไหม...Lara, abbi cura di te!!! ดูแลตัวเองด้วย” ชายหนุ่มส่งภาษาอิตาเลียนแม้จะตะกุกตะกักฟังยาก สำหรับเธอแล้วมันดูดีมาก สำหรับชื่อ ‘ลาร่า’ ที่เขาใช้เรียกเธอ
----------------
เขาเดินออกไปอย่างเงียบๆ ทำให้บุรณีมองตามหลังอย่างใจแป้ว รู้สึกกังวลใจอย่างบอกไม่ถูกเพียงแค่เมื่อวันวานต่อมาถึงวันนี้ที่เจอกันจากอุบัติเหตุอย่างไม่คาดฝัน
เธอต้องมาตกอยู่ในอันตรายไปด้วยหรือนี่ แล้วครอบครัวสามีเธอล่ะ...ที่เหลือเพียงแม่และลูกชายของเขาจะต้องมารับชะตากรรมด้วยหรือไม่ เป็นอะไรอย่างที่เธอเริ่มสังหรณ์ใจเพราะเหตุการณ์น่าหวาดผวาต่างๆ จะต้องตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“Signora…คุณผู้หญิง เลือกตามใจเลย Signore…Punto คุณผู้ชาย ‘ปุนโต’ ขอให้ผมเอามาให้ทั้งชุดชั้นในและชุดแต่งงานของคุณแม่ nonna” บุรณีเลือกเสื้อผ้าพวกสีพื้นๆ ให้แม่สามี และลูบคลำชุดชั้นในที่เธออยากได้อย่างเบามือราวกับมันคืออัญมณีที่มีค่า
“โห... ลา เพอร์ลา ...ก็จัดเต็มมาให้ Bravo…เย้...เย้” บุรณียังไม่ทิ้งความเป็นคนแก่นในอดีตอยู่บ้าง เธอดีใจเหมือนเด็กน้อยได้ของเล่นชิ้นใหม่
ภาพความเคลื่อนไหวทั้งหมดของหญิงสาวไปปรากฏอยู่บนหน้าจอในห้องของเจ้าพ่อมาเฟียแฟชั่นแห่ง Bernado Esposito ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินย่างเท้าขึ้นไปด้านบนของตัวตึกที่เขามาจอดรถไว้เพื่อจะสับเปลี่ยน
พันธ์ศักดิ์ก้าวเข้าห้องทำงานของแบร์นาโด ชะงักเท้าสีหน้าผงะเล็กน้อยที่เห็นภาพบนจอกว้างขนาดเจ็ดสิบนิ้วบนผนังที่มองตรงจากโต๊ะทำงานของเจ้าของห้อง
“Ciao Ciao ปุนโต นายเอาใครมาที่ห้องรับแขกส่วนตัว นางเป็นคนที่นี่???...” เสียงแบร์นาโดสงสัย เพราะในใจของเขาเริ่มไม่ไว้ใจชายหนุ่ม
“นายถอดรหัสปริศนาให้ฉันได้ยัง” เขามองลอดแว่นอย่างใจเย็น สายตาเหยี่ยวมองจิกพันธ์ศักดิ์เหมือนเป็นเหยื่อที่พร้อมจะฉีกเนื้อได้ทุกเมื่อ
พันธ์ศักดิ์เข้ามาอยู่ในแวดวงเจ้าพ่อ เพราะเขาเป็นคนที่ชอบตระเวนไปดูโน่นนี่ ไม่ชอบเข้าเรียน จนวันหนึ่งเขาดันขับรถเก่าๆ ไปชนท้ายรถปอร์เช่ของเจ้าพ่อนายนี้อย่างไม่ตั้งใจ และด้วยเงินจำนวนมหาศาลที่เขาเองก็ไม่มีปัญญาชดใช้ได้ จึงเป็นเหตุทำให้เขาต้องจำยอมติดกับ...กลายมาเป็นมือขวาอยู่จนถึงทุกวันนี้
การตอบแทนด้วยคุณค่าความหวานหอมของเงินตรา ทำให้พันธ์ศักดิ์ยังรีรอไม่กลับบ้านเพื่อไปทำหน้าที่ตอบแทนผู้มีพระคุณ อย่างที่ทุกคนกำลังตั้งใจรอคอยอย่างใจจดใจจ่อด้วยความสงสัยไปว่า ชายหนุ่มกำลังทำอะไรอยู่
การเรียนในหลักสูตรนี้ก็จบสิ้นไปสามเดือนแล้ว เขายังทำตัวราวกับเป็นลูกชายมหา
เศรษฐีที่ยังเที่ยวเตร่หาความสำราญในยุโรปไปเรื่อย
“ขอเวลาเคลียร์ ว่าที่ลูกสะใภ้ ของแม่...ไม่นานผมจะรีบพาเธอกลับไปแต่งงานและจัดการธุรกิจที่บ้าน...นะครับบบ” เขาสัญญากับแม่ได้ไม่นาน แล้วในที่สุดก็เกิดเหตุให้พิมพ์ชญาต้องมาด่วนจากไปก่อนที่อะไรๆ จะลงตัว
พันธ์ศักดิ์จ้องแววตาคมกริบของเจ้านายที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน เขายังไม่ลากเก้าอี้ออกมาเพื่อหย่อนก้นลงไป รอให้อีกฝ่ายเอ่ยปากเชื้อเชิญแต่รออยู่พักใหญ่ชายผิวขาวจมูกโด่งงุ้มก็ยังไม่พูดอะไร นอกจากยังมองเลยหัวของชายหนุ่มไปสนใจหญิงสาวที่อยู่บนจอทีวี
พันธ์ศักดิ์พลาดจริงๆ สำหรับงานนี้ เขาไม่รอบคอบเอง แท้จริงแล้วคฤหาสน์ที่ทำเป็นเหมือนโรงแรมหลังนี้มัน คือ ‘เซฟเฮ้าส์ทรงอิทธิพล’ หลังหนึ่งของเจ้าพ่อคนนี้
เขาชะล่าใจเกินไปคิดว่ามันคือโรงแรม ไม่คิดว่าห้องรับแขกวีไอพีห้องนั้นจะเปิดกล้องวงจรปิดที่ซุกซ่อนไว้ในเวลานี้ เขาควรสั่งให้เธอนั่งคอยเขาอยู่ในรถน่าจะปลอดภัยกว่า คิดได้ก็สายเกินแก้แล้ว
ณ เวลานี้ดูเหมือนอารมณ์ของแบร์นาโดคุกรุ่นอยู่ข้างใน ชายหนุ่มไม่คิดว่าเขาจะมากเรื่อง แต่สายตานั้นมันฟ้องชัดเจนว่าเขาไม่พอใจชายหนุ่มที่พาคนไม่รู้จักและไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องงานของเขาเข้ามายุ่มย่ามถึงที่นี่
“สมองนายมัน...มีแต่เรื่องพรรค์นี้...” เจ้าพ่อสูงวัยอายุราวหกสิบเศษกระแทกเสียง
ด่าเขาอ้อมๆ
“ผู้หญิงคนนั้น...ก็คนหนึ่งแล้ว...” เหมือนเสียงด่าทำนองหยาบคายภาษาอิตาเลี่ยนดังทิ่มแทงเข้าไปถึงหัวใจของชายหนุ่ม พันธ์ศักดิ์รู้สึกว่าชายสูงวัยผู้นี้ไม่เคยให้เกียรติใคร
เขาเองที่จำยอมมาทำงานนี้ก็เพราะชายแก่ผู้นี้ขอร้องวิงวอน
“ช่วยฉันหน่อย...NFT ภาพชุดชั้นในที่นายออกแบบให้ รหัสมันถูกขโมย เงินลงทุนเกือบห้าสิบล้านถูกแฮค งานนี้นายแกะรอยมันได้ใช่ไหม”
พันธ์ศักดิ์ปวดหัวมากที่ต้องกลายมาเป็นลูกไล่เจ้าพ่อนายนี้ ซึ่งมีชื่อเรียกในวงการว่า ‘แบร์โด’ ก็เพราะภาพ NFT บ้าบอนั่น พวกนักเลงกลุ่มนี้มีศัตรูการค้าที่ดูเหมือนถูกกฎหมายเพื่อบังหน้าธุรกิจเทาๆ ของพวกมัน วัน...วัน เอาแต่คิดค้าขายชั่วๆ
‘โคตรเฮงซวย!!! ทั้งเสียคนรัก ทั้งเสีย self ...ฟ้าดินทำไมต้องให้มายุ่งกับพวกมันเนี่ย ไทเบอร์ตอบ...ที....ที...ที’ เขาเคยตะโกนก้องด้วยคำด่าอย่างรุนแรงต่อท้องน้ำไกลสุดตาซึ่งลำน้ำสายนี้เลียบไหลผ่านเมืองหลวงอันงามสง่าแห่งนี้
“ผมขอลาออก...” ชายหนุ่มเปิดฉากแบบตัดช่องน้อย ไม่อยากยุ่งเกี่ยวอีกต่อไป เพราะดีโน่คนขับรถมารับเขาเมื่อวานตอนนี้ยังไม่ฟื้น หมอจีโทรบอกเขาเมื่อคืนว่าสาหัสมาก กระสุนทะลุช่องท้องตัดกระเพาะอาหาร ต้องส่งไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลใหญ่
“งานยังไม่เสร็จ...”
เขามองชายสูงวัยกำลังโทรมือถือสั่งให้คนสนิทของเขาจัดการให้โรงพยาบาลซานตันเดรอา (Sant’Andrea) ส่งรถพยาบาลไปรับดีโน่ที่สถานพยาบาลเมดดะโค อันนา (Studio Medico Anna)
“il denaro è un'illusione…sei reale เงินทองคือมายา แต่นาย...ของตาย” เสียงหัวเราะเย้ยฟ้า...ท้าชายหนุ่ม ก้องทะลุรูหูเข้าไปเต็มขั้วหัวใจ
แต่แล้วเสียงสั่นสะเทือนหนึ่ง...ดังก้องขึ้น ราวระเบิดทะลุกำแพงย้อนกลับไป
‘Sei morto… แล้วจะรู้ ใครกัน...’