เมื่อมรดกตกทอดที่ได้รับมาจากรุ่นพ่อ และแม่ สู่รุ่นลูกกลับกลายเป็นคำสาปร้าย ทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากคำสาปเหล่านั้นมีเพียงแค่ ตามหาความรักที่แท้จริงเท่านั้น

นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา - ตอนที่ ๑๑ ๑๑ โดย แมวสลิดศรีสยาม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,แฟนตาซี,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา โดย แมวสลิดศรีสยาม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เมื่อมรดกตกทอดที่ได้รับมาจากรุ่นพ่อ และแม่ สู่รุ่นลูกกลับกลายเป็นคำสาปร้าย ทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากคำสาปเหล่านั้นมีเพียงแค่ ตามหาความรักที่แท้จริงเท่านั้น

ผู้แต่ง

แมวสลิดศรีสยาม

เรื่องย่อ

บทนำ

-กาลครั้งหนึ่ง มีชายหนุ่มได้ติดตามเดินทางพร้อมคณะชาวตะวันตก ได้เดินทางไปยังป่าอันแสนไกล เพื่อตามหาเพรช พลอย จินดา ที่สวยงามเพื่อนำมาทำเป็นเครื่องประดับให้กับเหล่า ลูกๆ ของตนนั้น ชายหนุ่มและคณะได้เดินทางหาสมบัติเหล่านี้ เป็นวัน เป็นเดือน จนย่านกลายเป็นปี ในที่สุดแผนที่ได้นำเหล่าคณะหยุดที่ถ้ำแห่งหนึ่งกลางป่าลึกที่มีธรรมชาติรายล้อม ดูช่างสวยงาม คณะและชายหนุ่มไม่รอช้า ได้เข้าไปข้างในถ้ำหวังว่าจะมีสมบัติมหาศาล ซ่อนอยู่ภายใน เมื่อได้เข้าไปยังตัวถ้ำ ทั้งคณะและชายหนุ่มได้พบกับสมบัติดั่งใจหวัง แต่แล้วกับมีสมบัติที่แสนจะวิเศษนั้นคือ อัญมณีทั้ง ๗ เม็ดที่สุดแสนจะบริสุทธิ์ ที่มิอาจจะประเมินค่าของ อัญมณีเหล่านั้นได้ แต่แล้วความโลภที่กัดกินภายในใจ หรือเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นก็ตามได้ทำให้เหล่าคณะมีความต้องการที่จะครอบครองสมบัติไว้เพียงผู้เดียว ก่อให้เกิด โศกอนาถกรรมขึ้นเหล่าคณะได้ฆ่าฟัน เพื่อแย่งชิงสมบัติทำให้ถ้ำสั่นไหวอย่างรุนแรงจนได้ถล่มลงมา กลับมีเพียงชายหนุ่มที่หนีรอดออกมาได้ แต่ภายในมือของเขานั้นกลับมีกล่องไม้โบราณ ทีได้บรรจุเหล่าอัญมณีเหล่านั้นไว้-

 

สารบัญ

นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑ ๑,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๒ ๒,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตทนที่ ๓ ๓,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๔ ๔,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๕ ๕,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๖ ๖,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๗ ๗,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๘ ๘,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๙ ๙,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๐ ๑๐,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๑ ๑๑,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๒ ๑๒,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๓ ๑๓,นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๔ ๑๔

เนื้อหา

ตอนที่ ๑๑ ๑๑

๑๑

 

ในห้องนอนที่แสนใหญ่โต และกว้างขวาง ประดับประดาไปด้วยสิ่งสวยงาม ลดาตื่นขึ้น ณ ห้องที่ไม่คุ้นเคยต่างจากห้องนอนของตน ที่โฮมสเตย์ ของตนที่เรียบง่ายและไม่ได้โอ่อ่าเช่นนี้ ผ่านไปได้ไม่นาน เสียงเคาะ ประตูดังขึ้น ก๊อก ก๊อก ก๊อก 

 

“คุณลดา ตื่นหรือยังค่ะ คุณท่านให้เรียกคุณลดา ไปทานอาหารเช้าด้วยกันคะ”

“ลดาตื่นแล้วคะ ป้านิ่ม เดียวลดาลงไปนะคะ”

 

ลดาลุกขึ้นเตรียมตัว ก่อนใช้เวลาไม่นาน ลดาได้เดินไปยังห้องทานอาหาร ตามที่รับปากกับป้านิ่ม เมื่อเดินเข้าไปด้านในห้อง ลดาพบเจอกับ พาขวัญที่กำลังพูดคุยกับธราเทพ ที่กำลังเล่าเรื่องแม่ของพาขวัญอยู่ด้วยท่าทางจริงจังของทั้งคู่

 

“สวัสดีตอนเช้าค่ะ คุณตา”

 

ลดากล่าว พร้อมหันไปโบกมือทักทายให้พาขวัญ และได้เดินไปนั่งลงข้าง พาขวัญ ในขณะที่รออาหารลดากล้าวผมตนขึ้น พร้อมกับนำปิ่นที่ติดตัวอยู่ตลอดนั้นขัดกับผมของตน

 

“ใช่ปิ่นของทิม ใช่ไหมลดา”

 

ธราเทพถามขึ้นเมื่อเห็นปิ่นของลดา “ใช่ค่ะ คุณตา” ลดาตอบกลับ

 

“ดีแล้วละ แล้วเราเจอคู่ของทับทิมแล้วใช่ไหม เห็นเจ้าคิรันเล่าให้ฟังหนะ”

“ใช่ค่ะ แต่...มีตั้งสองชิ้นหนะสิค่ะ ลดาต้องทำยังไงค่ะ”

“หลานอย่าพึ่งคิดมากเลย ตอนนี้เราแค่ระวังผลกระทบของอัญมณีก็พอ ส่วนเรื่องคู่กันแล้วยังไงก็ย่อมไม่แคร่วกันหรอก แต่สิ่งที่น่าห่วงก็มีแต่คนที่จ้องจะขโมยอัญมณีไปใช่ในทางที่ผิดเนี่ยสิ ที่เรายังไม่แน่ใจว่าเป็นใครที่คอยบงการอยู่เบื้องหลัง”

“อย่าบอกนะว่าหลานชอบหนึ่งในนั้นแล้วหนะ”

 

ลดานั่งเงียบก้มหน้า ซ่อนใบหน้าแดงก่ำของตน ไม่นานแม่บ้านได้ยกสำรับอาหารเข้ามาได้จังหวะพอดี ลดาถอนหายใจ ก่อนจะปรับอารมณ์เตรียมรับประทานอาหาร 

 

“เออ!! จริงสิ เดียววันนี้สาย ๆ เราทั้งสองตามตาไปที่โรงแรมที่บริษัทเราเปิดใหม่ด้วยนะ ตาจะให้พาขวัญฝึกงานที่โรงแรมของเราหนะ ส่วนลดาตามไปช่วยน้องด้วยดีไหมแก้เบื่อก่อนเปิดเทอมหนะ”

 

“ได้ค่ะคุณตา” ลดาตอบรับธราเทพ 

”ขอบคุณค่ะ คุณตา” พาขวัญตอบกลับธราเทพ

 

ช่วงเวลาอาหารผ่านไป “หลาน ๆ ขึ้นไปเตรียมตัว ถึงเวลาเดี่ยวตาให้ป้านิ่มไปเรียกนะ” ก่อนต่างแยกย้ายใช้เวลาส่วนตัวของแต่ละคน

 

อีกทางด้านหนึ่งรถโดยสารขับเข้ามายังชาลชาลา เมื่อล้อจอดสนิท ชายก้าวลงจากรถโดยสาร ที่คอมีล็อกเก็ตห้อยอยู่ที่คอ ในชุดลำรองกางเกงยีน เดินลงมา ด้วยใบหน้าอันหล่อเหลานั้นทำให้สาว ๆ ในเมืองกรุงหันมามอง ทั้งเด็กเล็ก จนถึงหญิงวัยกลางคนต่างตกอยู่ในผวังใบหน้าอันหล่อเหลานั้น ชายหนุ่มคนนี้คือ พัฒ ตำรวจหนุ่มที่ได้เข้ามายังเมืองกรุงเพื่อสัมมนาของสายอาชีพตน

 

ช่วงสาย ณ โรงแรมในเครือของบริษัท P.J.P ย่านใจกลางเมืองกรุงลักษณะติดสูงหลายชั้นในส่วนของตึกนั้นเปิดเป็นพื้นที่โรงแรมในชั้นที่ ๒-๓๐ ส่วนชี้นที่ ๓๑-๓๓ นี้นเป็นส่วนของออพฟิต ส่วนอีก ๒๐ ชั้นที่เหลือเป็นส่วนของพื้นที่ปล่อยเช่าให้บริษัท เอกชนเข้ามาเช่าสร้างสำนักงานในระยะยาวด้วยทำเลที่ตั้งของสถานที่จึงมี หลายส่วนงานสำในเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้จึงเต็มทุกชั้นด้วยเวลาไม่นาน 

 

รถของธราเทพ เข้ามายังพื้นที่โรงแรม พนักงานรีบมารอรับประธานของตน ด้วยเหตุที่ว่านานทีบอร์ดบริหารจะเดินทางเข้ามายังพื้นที่ เนื่องด้วยธุรกิจที่มีจำนวนมากและหลากหลายสาขา แต่สิ่งที่ยังคงเหมือนกันนั้นคือ บอร์ดบริหารที่ และผูกขาดของ ตระกูล ปริญรัตน แต่เพียงผู้เดียว จึงทำให้นานครั้งภายในหนึ่งเดือน เหล่าผู้บริหารจะเข้ามาตรวจสอบ และเซ็นอนุมัติเอกสาร อาทิตย์ละครั้ง เท่านั้น แต่ใช่ว่าจะนิ่งนอนใจ แต่ละที่จะมีผู้ที่สามารถตัดสินใจแทนเหล่าบริหารได้ในเรื่องไม่ใหญ่โตมากนัก ทุกที่จะเรียกตัวแทนเหล่านี้ว่าผู้ดูแลประจำตระกูล คือเหล่าเด็กกำพร้าที่ ธราเทพได้เป็นเปิดศูนย์ดูแล ตั้งแต่ที่ยังไม่มีฐานะเท่าในปัจจุบัน หลังจากเหล่าเด็ก ๆ ในบ้านกำพร้าเติบโต จึงมีความตั้งใจที่คล้าย ๆ กันในการตอบแทนผู้มีพระคุณของตน จึงเป็นที่มาของผู้แลตระกูล ปริญรัตน นั้นเอง กลับมายังปัจจุบัน พนักงานวิ่งเข้าไปยังรถหรูที่จอดอยู่ด้านหน้าทางเข้า พร้อมเปิดประตูด้านหลังคนขับ ธราเทพ ก้าวลงจากรถของตน 

 

“สวัสดี ครับ/ค่ะ ท่านประธาน”

 

เหล่าพนักงานหลายสิบคนกล่าวทักทายพร้อมกัน ซึ่งผู้คนเหล่านี้คือหัวหน้าแผนก ที่ทำงาน ณ โรงแรม P.J.P แห่งนี้ 

 

“สวัสดีครับ ท่านประธาน”

 

ชายหนุ่มชุดสูทแต่งตัวดูภูมิฐาน เดินผ่านเหล่าพนักงานที่มีท่าทีเกรงใจในชายหนุ่มผู้นี้ที่กำลังเดินผ่าน ไปยังธราเทพ 

 

“สวัสดี พิรัตน” ธราเทพกล่าวทักทายตามเสียง พิรัตน ยิ้มด้วยท่าทางอ่อนโยนพร้อมเดินไปถือกระเป๋าให้ธราเทพ 

 

เสียงซุบซิบของพนักงานด้านในเคาน์เตอร์ไกล ๆ ที่กำลังพูดคุยถึงตัวพิรัตนนั้น ทำให้พิรัตนหันไปมอง ในทางด้านพนักงานเหล่านั้นที่ยืนอยู่ หลายเมตร พนักงานต่างตกใจก่อนที่จะแยกย้าย พิรัตน หนึ่งในเด็กจากบ้านกำพร้าที่เติมโตมาช่วยงานให้ธราเทพ ด้วยการวางตัวที่ดี และมีความสามารถ ทำให้พนักงานต่างเกรงในตัวพิรัตน

 

“พิรัตน” เสียงของธราเทพ เรียกเตือนสติ ทำให้พิรัตน รู้สึกตัว 

“ขออภัยครับ” พิรัตนตอบกลับ สายหาหันไปมอง สองสาวที่ติดรถมากับธราเทพ

“ทั้งคู่น่าจะเป็น น้องลดา กับน้องพาขวัญ สินะครับ”

 

พิรัตน หันไปกล่าวทักทาย และยิ้มให้สองสาวที่กำลังลงจากรถ สองสาวมองไปทางพิรัตนที่กล่าวทักทายตน “สวัสดีค่ะ” ทั้งคู่กล่าวทักทายพร้อมกัน

 

“ทั้งคู่มานี่สิ นี่พี่พิรัตน เป็นผู้บริหารที่ตาให้ดูแลธุรกิจโรงแรมที่นี้ มีอะไรก็บอกพี่เขา ส่วน ที่อยู่ด้านหลังเป็นผู้จัดการแต่ละส่วน”

“ยินดีที่ได้รู้จักทั้งคู่นะครับ”

 

พิรัตนดูนาฬิกาข้อมือของตน “ใกล้ได้เวลาแล้วนะครับ เชิญท่านประธาน เข้าห้องประชุมดีกว่าครับ” เมื่อพิรัตนกล่าวเสร็จสิ้น ธราเทพพยักหน้าตอบรับ พร้อมเดินนำหน้าไปยังห้องประชุม ส่วนสองสาวได้มีผู้จัดการแผนกทั่วไปที่ได้รับหน้าที่ดูแล ลดา และพาขวัญ ได้พาทั้งคู่ขึ้นไปยังแผนก 

 

 

ในขณะเดียวกัน ณ โรงแรม P.J.P มีการเช่าสถานที่จัดสัมมนาในช่วงค่ำของวันนี้ ทำให้ลดา และพาขวัญที่อยู่แผนกทั่วไป จึงต้องเข้าไปช่วยดูแลความเรียบร้อย ร่วมกับแผนกต้อนรับ......

 

”น้องขวัญ น้องลดา มาช่วยพี่ทางนี้ที” 

เสียงพี่นานา ผู้จัดการแผนกของทั้งคู่ ได้เรียกทั้งคู่ เวลาผ่านไปทั้งคู่วุ่นอยู่กับการจัดห้องประชุม จนรู้ตัวอีกทีเวลาก็ล่วงเลยไปถึงช่วงเย็นแล้ว ทั้งสองเข้าห้องน้ำเสร็จกำลังจะเดินกลับไปที่ห้องประชุม....ลดากำลังจะเดินเลี้ยวไปทางห้องประชุม ด้านหน้าที่ไม่ระวังนั้นเอง “โอ๊ย!!!” ลดาเดินชนเข้ากับคนเดินสวนมาข้างหน้าอย่างจัง

 

“เป็นอะไรไหมครับ”

“ไม่เป็นไรค่ะ”

 

ชายหนุ่มยื่นมือออกไปทางลดา ลดายื่นมือออกไปจับมือที่ยื่นมาทางตน สายตาจ้องประสานกัน “สวัสดีครับน้องลดา” มือ และเสียงชายหนุ่มคนนั้นคือ นายตำรวจพัฒ นั้นเอง ทั้งคู่สบตากัน ลดาใจเต้นแรงกับสถานะการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น โดยมีพาขวัญยืนอยู่อย่างเงียบ ๆ 

 

“อ้าว!! เจอกันอีกแล้วนะครับ” แต่แล้วทุกอย่างต้องหยุดลงเมื่อมีเสียงหนึ่งดังขึ้น ทั้งหมดหันมองตามเสียงเรียกดังกล่าว ภาพตรงหน้าคือ มาร์ค หลานพรานบุญ แต่ในขณะที่ใส่เครื่องแบบสีกากีแขนยาว ที่ไหล่มีดาวติดอยู่ ๓ ดวง สิ่งที่ทุกคนเห็นกลายเป็นว่า มาร์ค หลานพรานป่าที่จริงแล้ว คือผู้กองหนุ่ม ที่ได้ไปปฏิบัติการเฉพาะกิจที่ได้รับมอบหมายที่ จังหวัด เชียงราย แต่ช่วงที่พักจึงได้กลับไปหา ปู่ของตนที่เป็นพราน ประจวบเหมาะกับช่วงที่ได้นำ นักท่องเที่ยวของโฮมสเตย์ของลดา 

 

“เจอกันอีกแล้วนะครับคุณพัฒ ไม่ใช่สิ”

”นั้นสิครับคุณมาร์ค ไม่สิผู้กองมาร์ค สินะครับ” ........