เมื่อมรดกตกทอดที่ได้รับมาจากรุ่นพ่อ และแม่ สู่รุ่นลูกกลับกลายเป็นคำสาปร้าย ทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากคำสาปเหล่านั้นมีเพียงแค่ ตามหาความรักที่แท้จริงเท่านั้น

(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา - ตอนที่ ๒๕ ๒๕ โดย แมวสลิดศรีสยาม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,แฟนตาซี,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,ครอบครัว,ไทย,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา โดย แมวสลิดศรีสยาม @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เมื่อมรดกตกทอดที่ได้รับมาจากรุ่นพ่อ และแม่ สู่รุ่นลูกกลับกลายเป็นคำสาปร้าย ทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากคำสาปเหล่านั้นมีเพียงแค่ ตามหาความรักที่แท้จริงเท่านั้น

ผู้แต่ง

แมวสลิดศรีสยาม

เรื่องย่อ

 

บทนำ

"กาลครั้งหนึ่ง มีชายหนุ่มได้ติดตามเดินทางพร้อมคณะชาวตะวันตก ได้เดินทางไปยังป่าอันแสนไกล เพื่อตามหาเพรช พลอย จินดา 

ที่สวยงามเพื่อนำมาทำเป็นเครื่องประดับให้กับเหล่า ลูกๆ ของตนนั้น ชายหนุ่มและคณะได้เดินทางหาสมบัติเหล่านี้ เป็นวัน เป็นเดือน จนย่านกลายเป็นปี ในที่สุดแผนที่ได้นำเหล่าคณะหยุดที่ถ้ำแห่งหนึ่งกลางป่าลึกที่มีธรรมชาติรายล้อม ดูช่างสวยงาม คณะและชายหนุ่มไม่รอช้า ได้เข้าไปข้างในถ้ำหวังว่าจะมีสมบัติมหาศาล ซ่อนอยู่ภายใน เมื่อได้เข้าไปยังตัวถ้ำ ทั้งคณะและชายหนุ่มได้พบกับสมบัติดั่งใจหวัง แต่แล้วกับมีสมบัติที่แสนจะวิเศษนั้นคือ อัญมณีทั้ง ๗ เม็ดที่สุดแสนจะบริสุทธิ์ ที่มิอาจจะประเมินค่าของ อัญมณีเหล่านั้นได้ แต่แล้วความโลภที่กัดกินภายในใจ หรือเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นก็ตามได้ทำให้เหล่าคณะมีความต้องการที่จะครอบครองสมบัติไว้เพียงผู้เดียว ก่อให้เกิด โศกอนาถกรรมขึ้นเหล่าคณะได้ฆ่าฟัน เพื่อแย่งชิงสมบัติทำให้ถ้ำสั่นไหวอย่างรุนแรงจนได้ถล่มลงมา กลับมีเพียงชายหนุ่มที่หนีรอดออกมาได้ แต่ภายในมือของเขานั้นกลับมีกล่องไม้โบราณ ทีได้บรรจุเหล่าอัญมณีเหล่านั้นไว้"

 

สารบัญ

(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑ ๑,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๒ ๒,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตทนที่ ๓ ๓,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๔ ๔,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๕ ๕,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๖ ๖,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๗ ๗,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๘ ๘,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๙ ๙,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๐ ๑๐,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๑ ๑๑,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๒ ๑๒,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๓ ๑๓,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๔ ๑๔,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๕ ๑๕,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๖ ๑๖,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๗ ๑๗,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๘ ๑๘,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๑๙ ๑๙,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ดอนที่ ๒๐ ๒๐,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๒๑ ๒๑,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๒๒ ๒๒,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๒๓ ๒๓,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๒๔ ๒๔,(อ่านฟรี 60 วัน)นิยายชุด ปริญธิดา เรื่อง ปิ่นลดา-ตอนที่ ๒๕ ๒๕

เนื้อหา

ตอนที่ ๒๕ ๒๕

๒๕

 

...ลดาที่ค่อยๆ ฟื้นสติหลังจากที่เข้ามายังแสงสว่างที่อยู่ตรงหน้าได้สำเร็จ ลดาค่อยๆ ลืมตาขึ้นสายตาเริ่มปรับแสงได้ทีละนิดเมื่อทุกอย่างเริ่มชัดเจน ภาพตรงหน้าคือของใช้ที่ลดาต่างจำได้ดี นั้นคือห้องนอนของตนในบ้านของคุณตาของตนนั้นเอง ลดาค่อยๆ พยุงตัวขึ้น...

“พี่ลดาได้สติแล้วค่ะ” เสียงพาขวัญได้กล่าวแจ้งให้ทุกคนทราบ

“…” ไม่นานนักก่อนที่ทุกคนที่ลดาต่างคุ้นเคย ได้เข้ามาภายในห้องของตน ทั้งคุณตา แม่ รวมทั้งพาขวัญ และพยาบาลอีกสองคน ที่ทางบ้านของลดา ได้ไหว้วานให้มาดูแลตนที่นอนไม่ได้สติ 

“เป็นยังไงบ้างคะ พี่ลดา” พาขวัญที่เข้ามาถึงเป็นคนแรกได้พยุงลดา พิงกับหัวเตียง

“พี่รู้สึกดีขึ้นแล้วน้องขวัญ...” ลดามองไปที่พาขวัญ น้องของตน “แต่เดี๋ยวนะ นี่เราแต่งตัวอะไรเนี่ย...” ลดามองไปที่พาขวัญในชุดที่ดูภูมิฐาน และรูปลักษณ์ภายนอกดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเป็นอย่างมากต่างจากเด็กน้อยที่ลดารู้จัก

“ขวัญมาทำงานที่โรงแรมของคุณตาแล้ว พี่ลดา” พาขวัญตอบกลับลดาที่กำลังเรียบเรียงสถานะการณ์ในปัจจุบัน

“ก็เรานอนไม่ได้สติตั้งสองปีแล้วแหนะ” ทิมพิกาตอบข้อสงสัยให้ลูกสาวของตน

“ห๊ะ! สองปีเลยหรอแม่” ลดาตกใจกับสถานะการณ์ของตน

“ใช่แล้วพี่ลดา..กว่าหนูจะตามหาพี่เจอตั้งแต่ตอนนั้นก็ผ่านมาสองปีแล้วคะ” พาขวัญเข้าไปนั่งใกล้ๆ และจับมือลดาที่ยังตื่นตระหนกอยู่

ด้วยเหตุที่เกิดกับลดาในครั้งนั้น ทางฝั่งของธราเทพ และครอบครัวของลดา พยายามหาวิธีในการช่วยเหลือลดาให้กลับมาได้สติอีกครั้งจนเวลาได้ล่วงเลยไปถึงสองปี จนทำให้พลังอัญมณีของพาขวัญได้ตื่นขึ้นมา

“ตั้งแต่พลังหนูตื่นขึ้นมา หนูพยายามตามหาดวงจิตของพี่ จนได้เจอกับคุณตาคนหนึ่ง แกได้สื่อกับหนูว่าให้รอเวลาช่วง สิบห้าค่ำ ในช่วงสองทุ่มของวันนั้นซึ่งตรงกับเมื่อวานหนูเลยใช่พลังอีกครั้ง คุณตาเขาได้บอกอีกว่าให้เรียกพี่ จนกว่าพี่จะได้สติคะ” พาขวัญเล่าให้ลดาฟังเกี่ยวกับที่ไปที่มาของเหตุการณ์ต่างๆ

“ลูกดีขึ้นหรือยัง” ทิมพิกายืนอยู่ด้านหลังพาขวัญพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“ดีขึ้นแล้วค่ะแม่ แต่...ตอนที่สลบอยู่ลดาได้...” ลดาได้เล่าทุกอย่างให้กับทางครอบครัวได้ฟังเกี่ยวกับเรื่องราวที่ตนได้พบเจอมา “บอกเลยตอนนี้ลดาสู้คนได้แล้วนะแม่” ลดาได้อวดความสามารถของตนก่อนจะยื่นหมัดชกออกไปข้างหน้า “โอ๊ยๆ เจ็บ…” ลดายื่นแขนที่มีสายน้ำเกลือติดอยู่ออกไปจนรู้สึกเจ็บขึ้นมา

“สมน้ำหน้าตื่นมาก็ซ่าเลยนะ” ทิมพิกาพูดพร้อมอมยิ้มให้ลูกสาวตน

“เอาล่ะๆ ให้ลดาพักก่อนอาการจะได้ดีขึ้นนะ” ธราเทพให้ทุกคนแยกย้ายเพื่อให้ลดาได้พักผ่อนอย่างเต็มที่

“มีอะไรเรียกแม่ได้เลยนะลูกแม่อยู่ห้องข้างๆ นี่ละ” ทิมพิกาที่ออกห้องไปเป็นคนสุดท้ายบอกลดาที่กำลังจะล้มตัวลงนอน

“ได้คะแม่ ฝันดีนะคะ” ลดายิ้มให้แม่ของตน

เมื่ออยู่คนเดี่ยวลดาได้ย้อนคิดถึงสิ่งที่ตนได้พบเจอต่างๆ ลดาทั้งกลัว ทั้งสบายใจ อารมณ์ที่ผสมปนกันไปหมดในขณะนี้จนเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว

เช้าวันรุ้งขึ้น หน้าประตูทางเข้ารถสีดำคันหรูขับเข้ามาหน้าประตูทางเข้าคฤหาสน์ กระจกรถค่อยๆ ลดระดับลง

“อ่าว...คุณพัฒ มาหาใครครับ” คิรัน ที่นั่งอยู่ภายในรถ สอบถามพัฒที่มายืนอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า

“น้องขวัญบอกผมว่า น้องลดาฟื้นแล้วน่ะครับ ผมเลยจะมาเยี่ยม” พัฒตอบกลับคิรัน

“ถ้าอย่างนั้นเชิญด้านในก่อนครับ เดี๋ยวผมไปบอกลดาให้” เมื่อคิรันพูดจบประตูทางเข้าได้เปิดออก ตัดเข้าไปภายในบ้านภายใต้ห้องรับแขกขนาดใหญ่ที่ถูกตกแต่งไปด้วยเครื่องประดับราคาแพงมากมายที่ถูกจัดวางอย่างลงตัว

“นั้นไงตัวแสบลงมาละ” คิรันบอกพัฒหลังจากเห็นลดาเดินลงมาจากบันได

"พี่พัฒมาได้ยังไงกันคะเนี่ย" เสียงของลดาดังขึ้นพร้อมกับร่างบางที่เดินลงมาจากชั้นบน

"พี่มาเยี่ยมน้องลดาครับ ได้ข่าวว่าน้องลดาฟื้นแล้ว" พัฒยิ้มให้กับลดาที่เดินลงมาจากบันได

"ขอบคุณมากนะคะที่มาเยี่ยม" ลดายิ้มตอบกลับไป ต่างจากข้างในที่เต้นแรงไม่เป็นจังหวะด้วยความดีใจที่ได้เจอพัฒอีกครั้ง

"ไม่เป็นไรครับ พี่ดีใจที่น้องลดาฟื้นขึ้นมาจากวันนั้นก็ผ่านมาสองปีแล้ว" พัฒพูดด้วยความเป็นห่วงเมื่อพูดเสร็จพัฒเตรียมตัวลุกขึ้น

"แล้วนี่จะกลับเลยหรอคะ" ลดาถามเมื่อเห็นว่าพัฒกำลังจะลุกขึ้น และกำลังเก็บของ

"พี่ขอตัวกลับก่อนนะครับ พี่มีงานที่ต้องไปทำต่อน่ะน้องลดา" พัฒตอบลดา

"งั้นเดี๋ยวลดาส่งนะคะ" ลดาเดินไปส่งพัฒที่หน้าประตู

"ไม่เป็นไรครับ ผมกลับเองได้" พัฒปฏิเสธ

"ไม่ได้หรอกค่ะ ลดาอยากไปส่ง" แต่ลดายืนยันกรานจะไปส่งให้ได้ จนสุดท้ายพัฒก็ต้องยอมให้ลดาไปส่งที่รถ ระหว่างทางที่ไปส่งพัฒ ลดาได้เล่าเรื่องราวที่ตนเองได้เจอมาให้พัฒฟัง

"พี่พัฒรู้ไหมคะว่าลดาได้ไปผจญภัยมาด้วย" ลดาเล่าอย่างตื่นเต้น

"แต่ทางนี้เป็นห่วงน้องมากเลยนะครับ" พัฒจับที่หัวลดา แล้วเข้าไปใกล้ใกล้พร้อมกับยิ้มให้ ลดาหน้าแดงจะเห็นได้ชัด “อย่าแกล้งลดาสิคะ”

"แต่น้องลดาเก่งมากเลยนะครับ" พัฒชม

"ขอบคุณค่ะพี่พัฒ" ลดายิ้มด้วยความภาคภูมิใจ เมื่อมาถึงรถของพัฒ ลดาได้ยื่นมือไปจับมือกับพัฒ

"ขอบคุณนะคะที่มาเยี่ยม" ลดาพูด

"ไม่เป็นไรครับ พี่คิดถึงน่ะจนอดใจไม่ไหว" พัฒตอบกลับลดา และมองไปที่ใบหน้าอันแสนคิดถึง

"พี่บ้า!...ถ้าอย่างนั้นลดาขอตัวก่อนนะคะ" ลดาพูด พร้อมกับหันหน้าหนี ก่อนที่จะรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน พัฒ อดที่จะอมยิ้มให้กับลดาไม่ได้ และได้ขับรถออกไป...ลดาเดินกลับเข้าไปในบ้านด้วยความอารมณ์ดี เธอรู้สึกดีใจที่ได้เล่าเรื่องราวของตนเองให้พัฒฟัง

"ฮั่นแหนะ...พี่ลดาอารมณ์ดีเชียวนะคะ" เสียงของพาขวัญดังขึ้น

"บ้า! ไม่มีอะไรหรอก" ลดาตอบ กับใบหน้าที่ยังไม่หายแดง พาขวัญยิ้มกรุ้มกริ่มกับอาการพี่ของตน

"ไปทานข้าวกันเถอะ" ลดาพูด

"คะ..." พาขวัญตอบ

ย้อนกลับไปก่อนที่ลดาจะเดินลงมาจากชั้นสอง พัฒ ได้นั่งปรึกษา และสารภาพความรักที่ตนมีให้กับลดา “ผมไม่อยากเสียน้องลดาไปอีกแล้วครับคุณคิรัน” พัฒรู้ว่าเขาไม่สามารถสูญเสียเธอไปได้อีกแล้ว เขาจึงตัดสินใจที่จะบอกความรู้สึกของตัวเอง

“ผมก็มั่นใจว่าลดา ก็ชอบคุณเหมือนกัน” คิรัน หยุดคิดสักครู่ “งั้นเอางี้...ผมจะให้คุณพาลดาไปทานข้าว แล้วจากนั้นคุณก็หาจังหวะบอกรักยัยตัวแสบละกัน”

“จริงหรอครับ!” พัฒดีใจเป็นอย่างมากเมื่อรู้ว่าลดา ก็ชอบตนเหมือนกัน 

“น่าสนใจดีนะคะหนุ่มๆ” ศิตาที่เดินมาจากห้องทำงานของธราเทพ เดินผ่านและได้ยินทั้งสองโดยบังเอิญ

“ทำอะไรกันคะ” พาขวัญ ก็ได้เดินเข้ามาด้วยอีกคน ทำให้พัฒต้องเล่าความรู้สึกตนอีกครั้ง 

“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาคะ ศิตาจัดให้”

...สองอาทิตย์ต่อมา หลังจากที่ลดาพักฟื้นจนหายดี คิรันได้จัดงานเลี้ยงอาหารค่ำสุดหรูบนดาดฟ้าของตึกสูงใจกลางเมือง โดยที่ศิตา และพาขวัญ ได้ไปร่วมงานเลี้ยงด้วย เมื่อลดามาถึงเธอรู้สึกประหลาดใจกับบรรยากาศที่สวยงาม และโรแมนติก แสงไฟที่ส่องสว่างทั่วเมือง อาหารค่ำรสเลิศ และเสียงเพลงบรรเลงเบาๆ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนอยู่ในฝันขณะที่ลดากำลังเพลิดเพลินกับบรรยากาศ ในชุดราตรีอันสวยงาม ลดาแต่งชุดสีขาวดุจดังนางฟ้าที่มัดผมโดยที่มีปิ่นปักผมอันเป็นเอกลักษณ์ เมื่อเดินผ่านผู้คน มุ่งเข้าไปห้องส่วนตัวที่จองไว้นั้น ต่างทำให้ผู้คนต่างเหลียวมองด้วยความงดงาม เมื่อถึงห้องนั้นเอง

“พี่ขอตัวไปติดต่อเคาน์เตอร์ก่อนนะ น้องลดานั่งรอในห้องก่อนนะเดี๋ยวพี่มา...” คิรัน ขอตัวและเดินออกมาจากห้อง

“พี่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะน้องลดา...ขวัญไปกับพี่ไหม?” ศิตาลุกขึ้น และชวนพาขวัญไปด้วย

“ได้ค่ะ...พี่ศิตา” พาขวัญลุกขึ้นเดิมตามศิตาไปติดๆ ปล่อยให้ลดานั่งสงสัยอยู่เพียงลำพัง ก่อนที่พัฒก็ได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับช่อดอกไม้สวยงาม เขาเดินเข้าไปหาลดา และยื่นดอกไม้ให้กับน้องลดา

“ดอกไม้สำหรับคนที่สวยที่สุดครับ”

ลดาตกใจเมื่อเห็นพัฒปรากฏตัวต่อหน้า พร้อมกับดอกไม้ตนจึงรับช่อดอกไม้โดยไม่รู้ตัว “ขอบคุณค่ะ พี่พัฒ”

เมื่อลดารับดอกไม้ของตนพัฒได้นั่งลงคุกเข่าและได้สารภาพความรู้สึกของตน "น้องลดาครับ... ตั้งแต่ที่เราได้รู้จักกัน พี่ก็รู้ว่าคุณเป็นคนพิเศษ" พัฒกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "น้องเป็นคนเข้มแข็ง กล้าหาญ และมีจิตใจดี พี่ตกหลุมรักน้องลดาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าพี่ไม่อยากให้น้องลดาจากผมไปไหนอีกแล้ว" ลดาฟังคำพูดของพัฒด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งดีใจ ตกใจ และประหม่า เธอไม่เคยคิดว่าพัฒจะมีความรู้สึกดีๆต่อเธอ

"พี่พัฒ... ลดา..." ลดาพูดไม่ออก เธอไม่รู้จะตอบอย่างไร

"พี่รู้ว่าน้องลดาอาจจะยังไม่พร้อมที่จะรับความรู้สึกของพี่" พัฒกล่าวต่อ "แต่พี่แค่อยากให้น้องรู้ว่า...พี่รักน้องลดามากแค่ไหน พี่จะรอน้องจนกว่าน้องจะพร้อม" ลดารู้สึกซาบซึ้งในความรักและความจริงใจของพัฒ

"ขอบคุณนะคะพี่พัฒ" ลดาตอบ "ลดา..."

"ไม่เป็นไรครับ" พัฒยิ้มให้ลดา "พี่จะรอ..."

"ไม่ค่ะลดา...ไม่รอพี่พัฒ... ลดาจะรักพี่พัฒค่ะ" ลดาพูดด้วยความเขินอาย ก่อนที่จะพุ่งเข้าไปประทับริมฝีปากที่แก้มของพัฒ พัฒมีอาการตกใจเล็กน้อยแต่ก็ดีใจเป็นอย่างมากที่ลดาตอบรับรักของตน 

"พี่ก็รักลดานะครับ" พัฒตอบกลับด้วยความดีใจ เขาไม่เคยคิดว่าลดาจะตอบรักเขา ทั้งสองคนสวมกอดภายใต้ค่ำคืนอันโรแมนติก ภายใต้แสงไปของเมืองที่งดงาม และดนตรีที่เตรียมไว้สร้างบรรยากาศให้กับทั้งสอง ทั้งคู่ประกบริมฝีปาก เมื่อรักทั้งสองได้ตอบรับด้วยใจจริง ปิ่นปักผมของลดา เปร่งแสงประกายสีแดง แต่ในครั้งนี้จากแสงที่มองดูหดหู่กลับกลายเป็น แสงสีแดงสดใสจากปิ่นปักผม และแสงสีขาวจากล็อกเก๊ตที่อยู่ภายในกระเป๋าเสื้อของพัฒฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้องหลังจากที่ริมฝีปากประกบเข้าด้วยกัน คำสาปของเจ้าหญิงมณีรินทร์ มลายหายไปจนหมดสิ้น ลดาพ้นคำสาปเป็นที่เรียบร้อย...

แต่ไม่ไกลนักมีคนที่แอบดูอยู่ห่างๆ สามคน คิรันที่ยืนอยู่ตรงการ ที่กำลังอดทนกับมือที่จิกที่แขนของตนทั้งสองฝั่ง

“อีกนานไหมทั้งคู่” คิรัน กล่าวเรียกสติทั้งสอง

“ขอโทษค่ะ พี่คิรัน” พาขวัญปล่อยมือก่อนยกมือไหว้ขอโทษ คิรัน ส่วนศิตา เพียงปล่อยมือไม่ได้พูดอะไร

“แก้ไขได้แล้วหนึ่งคนนะคะ” ศิตาพูดขึ้น...

“นั้นสิ...” คิรัน ตอบกลับ

“ดีจังเลยนะคะ โรแมนติกจัง” พาขวัญ ที่ดีใจตัวบิดกับรักของทั้งคู่ ก่อนที่จะมีสายตาสองคู่จ้องมาที่ตน “อะไรหรอค่ะ...”

“ไม่ต้องมาอะไรเลย...ถึงตาเราแล้วยัยแสบสอง” คิรันพูดเสร็จ เหมือนดั่งพาขวัญนึกขึ้นได้ว่ากระพรวนที่เท้าของตนนั้นก็มีอัญมณีคำสาปฝั่งอยู่เช่นเดียวกันพร้อมกับอุทานออกมา “ไม่นะ...”

 

-จบบริบูรณ์-