สมัยนี้แล้วยังมีจดหมายลูกโซ่อยู่อีกเหรอ? — ถ้าหากมันเป็นแค่เรื่องงมงาย ถ้ามันไม่ได้มีอาถรรพ์... ใครก็ได้บอกผมที ว่าทำไมเงาที่อยู่นอกหน้าต่างตอนนี้ ถึงได้ดูเหมือนกันคน(?)ในจดหมายเลย...
สืบสวนสอบสวน,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ชาย-ชาย,อาชญากรรม,นิยายวาย,ไสยศาสตร์,วิญญาณ,สัมผัสพิเศษ,ฆาตกรรม,มนตร์ดำ,สยองขวัญ,เล่นของ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
In Danger สัมผัสมรณะสมัยนี้แล้วยังมีจดหมายลูกโซ่อยู่อีกเหรอ? — ถ้าหากมันเป็นแค่เรื่องงมงาย ถ้ามันไม่ได้มีอาถรรพ์... ใครก็ได้บอกผมที ว่าทำไมเงาที่อยู่นอกหน้าต่างตอนนี้ ถึงได้ดูเหมือนกันคน(?)ในจดหมายเลย...
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
สถานที่ เหตุการณ์ และตัวละครเป็นเรื่องสมมติ มิได้พาดพิงถึงองค์กร วิชาชีพ หรือบุคคลใด มีการแต่งเรื่องราวที่เกินจริงเพื่อให้นิยายมีความสนุกและระทึกมากขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ
แนะนำเรื่อง:
ในคืนที่แสนจะปกติแต่ไม่ปกติ เมื่อจดหมายลูกโซ่ถูกส่งเข้าอีเมลรัว ๆ จน 'ภูมิ์วา' ไม่สามารถพิมพ์รายงานต่อได้ ความรำคาญทำให้เขาเปิดอ่านมันในที่สุด แต่ใครจะรู้ว่านั่นไม่ใช่อีเมลธรรมดา เพราะมันมีส่งผีมาด้วย...
ข้าวแมวของผมหมดลงอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น ผมมองตัวเลข 18.11 ที่ขึ้นบอกเวลาตรงหน้าจอ วันนี้ทำเวลาได้ดี แถมยังดูซีรีส์ตอนที่ค้างไว้เมื่อวานจบพอดีด้วย
ผมจัดการเก็บจานข้าวนำไปล้างให้เรียบร้อย ก่อนจะกลับมาที่หน้าคอมพิวเตอร์แล้วเปิดไฟล์รายงานที่ต้องปรับแก้ จากนั้นจึงเปิดเข้าแอปพลิเคชันในโทรศัพท์เพื่อดูพยากรณ์อากาศของคืนนี้ อากาศแจ่มใส ฟ้าโปร่ง ไม่มีแนวโน้มว่าฝนจะตกด้วย ผมเช็กดูในเว็บไซต์ของกรมอุตุนิยมวิทยาอีกครั้งเพื่อให้มั่นใจในความถูกต้อง แล้วจึงเริ่มนำข้อมูลที่ได้มาใส่ในรายงานการพยากรณ์อากาศถึงพื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนัก
ดูเหมือนอาจารย์จะอยากให้เขียนเกี่ยวกับปัจจัยด้วยสินะ คงต้องหาข้อมูลในเว็บไซต์เพิ่มอีกหน่อย มิน่าล่ะ ไอ้รัญถึงบรรยายเสียละเอียดยิบ
ผมนั่งกดแป้นพิมพ์ไปพร้อมกับเปิดเพลงฟังไปด้วย คนสมาธิสั้นอย่างผมครั้นจะให้จดจ่อกับงานนาน ๆ มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะแบบนั้นผมก็เลยเปิดเพลงคลอระหว่างนั่งพิมพ์งาน วิธีนี้เป็นวิธีที่ได้ผลดีสำหรับผมเลยในการทำให้ตัวเองมีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานที่ทำ แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่เกิดผลเท่าไร เพราะงั้นช่างมันเถอะ
แต่หลังจากนั่งพิมพ์งานไปได้สักพัก ตอนนี้ผมก็เริ่มรู้สึกว่าวิธี Music therapy ของผมมันเริ่มไม่ได้ผลละ เพราะตอนนี้สิ่งที่ทำให้สมาธิของผมไม่อยู่กับตัวก็คือไอ้หนังตาข้างขวาที่เอาแต่กระตุกไม่เลิก
ตากระตุกตลอดแบบนี้ น่ารำคาญจริง ๆ
ผมทั้งนวดทั้งขยี้ตาตัวเองให้มันหยุดกระตุกสักที แต่มันก็ไม่หยุด แถมยังเป็นหนักขึ้นอีก
ทำไมอุปสรรคมันถึงเยอะจังเลยเนี่ย! เฮ้อ
กระทั่งแสงของวันหมดลงไปตอนไหนไม่รู้ ผมยังคงนั่งพิมพ์งานอยู่ที่เดิมในท่าเดิม ๆ แม้ระหว่างทางผมจะมีแอบแวบไปเล่นโทรศัพท์บ้าง แต่งานก็ถือว่าคืบหน้าไปเยอะพอสมควร ถึงจะยังแก้ไขในส่วนที่อาจารย์ติงมาไม่หมดก็เถอะ
สี่ทุ่มแล้วเหรอเนี่ย...
ผมมองตัวเลข 22.01 บนหน้าจอโทรศัพท์ ปกติเวลานี้ผมควรจะออกไปตี้กับเพื่อนในคณะแล้ว ผมกดเปิดเข้าเช็กหน้า PageBook ของตัวเอง เพื่อนคนที่ชวนผมไปก๊งเมื่อตอนเย็นกำลังลงรูปเช็กอินอยู่ที่ร้านเหล้าตอนนี้
เฮ้อ... อยากไปว่ะ แต่ติดที่งานยังไม่เสร็จ
ถึงผมจะเป็นคนติดเที่ยวขนาดนั้น แต่ผมก็ยังมีความรับผิดชอบนะครับ เพราะแบบนั้นตัวก็เลยยังอยู่ตรงนี้ไง แม้ใจจะไปแล้วก็ตาม
ตึ๊ง!
จู่ ๆ ก็มีแจ้งเตือนเข้ามาจากอีเมลที่ไม่ขึ้นชื่อผู้ส่ง ผมมองกล่องข้อความตรงมุมขวาล่างที่เลื่อนโชว์ขึ้น ตรงหัวเรื่องของมันถูกเขียนเอาไว้ว่า
‘ไม่ส่งต่อ ระวังมีอันเป็นไป’
แค่เห็นหัวเรื่องผมก็รู้แล้ว จดหมายลูกโซ่สินะ ของแบบนี้ทำอะไรผมไม่ได้หรอก แต่จะว่าไปไอ้เรื่องราวอาถรรพ์เกี่ยวกับจดหมายลูกโซ่นี่มันก็ตั้งนมนานแล้วไม่ใช่เหรอ เกินสิบปีแล้วมั้ง สมัยนี้คนเขาฉลาดกันหมด ไม่มาเชื่ออะไรไร้สาระแบบนี้กันแล้ว
ผมจับเมาส์เลื่อนเคอร์เซอร์ไปกดปิดการแจ้งเตือน ก่อนจะหันกลับมาพิมพ์รายงานต่อ
ตึ๊ง!
ตึ๊ง!
ตึ๊ง!
ตึ๊ง!
ตึ๊ง!
ตึ๊ง!
ตึ๊ง!
ตึ๊ง!
ทว่าอีเมลแบบเดิมกลับเด้งเข้ากล่องข้อความของผมอย่างต่อเนื่อง มันรัวเข้ามาเยอะเกินไปจนภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์กระตุกและเริ่มค้าง เสียงเพลงของผมตอนนี้ถูกกลบด้วยเสียงแจ้งเตือนอีเมลไปแล้ว
“อะไรวะเนี่ย?”
ข้อความถูกส่งเข้ามาเยอะจนเกินไป ผมพยายามกดปิดมัน แต่ข้อความใหม่ก็แทรกเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน จนแล้วจนรอดในที่สุดผมก็กดเข้าไปอ่านมันจนได้ จากนั้นเสียงแจ้งเตือนที่รบกวนโสตประสาทของผมมาหลายนาทีถึงหยุดลง
หยุดแล้วแฮะ...
ผมมองไปยังหน้าต่างอีเมล คราวนี้ตรงชื่อผู้ส่งมันแปลกไป ทีแรกมันไม่ขึ้นชื่อผู้ส่ง แต่ตอนนี้มันกลับขึ้นโชว์เป็นอักขระอะไรสักอย่างที่ผมไม่สามารถเข้าใจได้
บางทีอาจจะเป็นภาษาของประเทศอะไรสักประเทศ เพียงแค่ผมอ่านมันไม่ออกก็เท่านั้น ผมคิดว่าผมควรจะบันทึกภาพหน้าจอมันเอาไว้ก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยเอาไปถามเพื่อนที่คณะมนุษย์ฯ มันต้องมีสักคนสิที่รู้ว่านี่คือภาษาอะไร
ทว่าจังหวะที่ผมกำลังจะกดปิดหน้าต่างอีเมล สายตาของผมก็ดันไปสะดุดเข้ากับข้อความในจดหมาย
หากคุณได้อ่านข้อความนี้ แสดงว่าคุณเป็นคนที่โชคร้ายมาก
อืม ก็คงจะเป็นแบบนั้นแหละมั้ง เพราะถ้าผมไม่มาเสียเวลาอ่านจดหมายโง่ ๆ นี่ ป่านนี้งานผมอาจจะเสร็จไปแล้วก็ได้ แล้วก็ต้องโทษคนส่งด้วยที่มันเอาแต่ส่งมาหาผมเป็นสิบฉบับ นี่อย่าบอกนะว่ามันลืมเปลี่ยนอีเมลผู้รับ?
ผมส่ายหัวอย่างหงุดหงิดก่อนจะไล่สายตาอ่านข้อความต่อ
กรุณาส่งต่อจดหมายนี้ไปหาคนที่คุณต้องการให้พบเจอโชคร้ายจำนวน 10 คน ไม่อย่างนั้น คุณเองนั่นแหละที่จะโชคร้ายเสียเอง เพราะหากหญิงคอหักรู้เมื่อไรว่าคุณไม่ส่งต่อจดหมาย เธอจะไปหาคุณที่ห้องพร้อมกับมีดอีโต้
ผมถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายเมื่ออ่านมาถึงตรงจุดนี้ ใครจะคิดว่าแม้โลกจะพัฒนาไปไกล แต่ก็ยังมีพวกก่อกวนเขียนจดหมายลูกโซ่ส่งสร้างความรำคาญไปทั่ว โชคดีนะที่ผมเป็นคนฉลาด ไม่ได้เชื่อใครง่าย ๆ เพราะแบบนั้นผมจะไม่มีวันส่งต่อความน่ารำคาญนี้ไปให้กับใคร
สายตาของผมกวาดไปที่ข้อความนั้นอีกครั้ง
หญิงคอหักงั้นเหรอ?
ครืน...
เสียงฟ้าร้องดังกึกก้องอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย สักพักสายฝนก็กระหน่ำตกลงมา คืนนี้สภาพอากาศมันแปลกไป ผมจำได้ว่าผมดูพยากรณ์อากาศไปเมื่อตอนเย็น มันไม่มีแจ้งเตือนเรื่องพายุจะเข้าเลยนี่
แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ตอนนี้ผมต้องไปปิดหน้าต่างก่อน ไม่อย่างนั้นฝนได้สาดจนห้องเปียกแน่ ๆ ระหว่างที่ผมกำลังดึงบานหน้าต่างที่เปิดอ้าอยู่เข้ามาปิด นั้น สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างตรงนอกระเบียง
ไม่สิ... ไม่ใช่อะไรบางอย่าง คนต่างหาก…
แต่ว่าใครที่ไหนจะมายืนอยู่ตรงระเบียงห้องของคนอื่น ถ้าไม่ใช่... โจร?
ผมรูดผ้าม่านผืนบางมาปิดหน้าต่าง ก่อนจะถอยหลังมาตั้งหลัก แล้วคิดทบทวนกับตัวเองว่าเมื่อครู่เพิ่งจะเห็นอะไรไป
อะไรน่ะ...
ผมมองลอดผ่านผ้าม่านสีขาวผืนบาง สิ่งที่อยู่ด้านนอกเป็นเงาของคนไม่ผิดแน่ รูปร่างคล้ายกับผู้หญิงเลย แต่ว่าจะเป็นไปได้ยังไงกัน นี่มันหอพักชายนะ! ต้องเป็นพวกขโมยแน่นอน!
ทว่าหลังจากนั้นชีพจรของผมก็เต้นเร็วขึ้นด้วยความกลัว เมื่อผมเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของผู้หญิงคนนั้น
มันคือมีดอีโต้...
พกอาวุธมาด้วยงั้นเหรอ?
ผมกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ แล้วเดินก้าวถอยหลังมาช้า ๆ ภายในห้องตอนนี้มืดสนิท มีเพียงแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้นที่ส่องสว่างให้ผมพอมองเห็น และบรรยากาศก็ยิ่งวังเวงขึ้นเมื่อเธอคนนั้นหันมามองผมช้า ๆ ศีรษะของเธอเอียงไปข้างหนึ่งราวกับว่ามีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกคอ จากนั้นข้อความในจดหมายก็ผุดเข้ามาในหัวของผม
...หญิงคอหัก...
ไม่จริงน่า
ร่างกายของผมขนลุกชันทั้งตัว เสียงเพลงที่เคยเปิดคลอเบา ๆ จู่ ๆ ก็หยุดไป ผมเหลือบมองหน้าต่างเบราว์เซอร์เว็บไซต์ ตรงหัวมุมของมันขึ้นรูปสัญญาณวงกลมหมุนวนไปมาคล้ายว่ากำลังพยายามเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ต สงสัยชะมัดว่าที่สัญญาณขาดหายไปเป็นเพราะอากาศที่แปรปรวนนี้หรือเปล่า
ตึ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนจากคอมพิวเตอร์ทำเอาผู้ชายอย่างผมสะดุ้งโหยง ผมเหล่มองหน้าจอสลับกับหน้าต่าง ‘เธอ’ คนนั้นยังอยู่ที่เดิม เพิ่มเติมคือหันหน้ามามองผม ส่วนที่หน้าจอมีแจ้งเตือนจากอีเมลเพิ่มมาอีกหนึ่งฉบับ แต่ถึงไม่เปิดดูผมก็รู้ว่ามันคืออีเมลอะไร...
ปัง!
ผมสะดุ้งตัวโยนอีกครั้ง เสียงนั้นมันมาจากประตูบานที่เชื่อมระหว่างห้องของผมกับระเบียง แม้จะมืดเพียงไหนแต่สายตาของผมในตอนนี้ก็มองเห็นได้ชัดเจนเลยว่า มีอะไรบางอย่างกำลังพยายามจะพังประตูเข้ามา
มีดอีโต้ด้ามใหญ่กำลังสับทะลวงบานประตู ผมรีบตั้งสติตัวเองคว้าหยิบกุญแจรถและโทรศัพท์ก่อนจะก้าวขาวิ่งออกมา
ถึงจะห่วงเรื่องรายงานวิชาลมฟ้าอากาศ แต่ว่าผมคงต้องห่วงชีวิตของตัวเองก่อน! ผมไม่รู้หรอกนะ ว่าสิ่งที่ผมเพิ่งเห็นมาคืออะไร อาถรรพ์ในจดหมายลูกโซ่มันมีจริงหรือไม่ ตอนนี้สมองผมมันไม่ยอมวิเคราะห์อะไรทั้งนั้น เพราะสิ่งเดียวที่มันสั่งให้ผมทำคือ วิ่ง!
⋆⋆⃟⊱✪⃝⃞⃝⊰⋆⃟⋆ ⋆⋆⃟⊱✪⃝⃞⃝⊰ ⋆⃟⋆⋆⋆⃟⊱✪⃝⃞⃝⊰
มาแบบรวดเร็วทันใจ ไม่ให้โอกาสได้ส่งต่อ