สมัยนี้แล้วยังมีจดหมายลูกโซ่อยู่อีกเหรอ? — ถ้าหากมันเป็นแค่เรื่องงมงาย ถ้ามันไม่ได้มีอาถรรพ์... ใครก็ได้บอกผมที ว่าทำไมเงาที่อยู่นอกหน้าต่างตอนนี้ ถึงได้ดูเหมือนกันคน(?)ในจดหมายเลย...
สืบสวนสอบสวน,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ชาย-ชาย,อาชญากรรม,นิยายวาย,ไสยศาสตร์,วิญญาณ,สัมผัสพิเศษ,ฆาตกรรม,มนตร์ดำ,สยองขวัญ,เล่นของ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
In Danger สัมผัสมรณะสมัยนี้แล้วยังมีจดหมายลูกโซ่อยู่อีกเหรอ? — ถ้าหากมันเป็นแค่เรื่องงมงาย ถ้ามันไม่ได้มีอาถรรพ์... ใครก็ได้บอกผมที ว่าทำไมเงาที่อยู่นอกหน้าต่างตอนนี้ ถึงได้ดูเหมือนกันคน(?)ในจดหมายเลย...
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
สถานที่ เหตุการณ์ และตัวละครเป็นเรื่องสมมติ มิได้พาดพิงถึงองค์กร วิชาชีพ หรือบุคคลใด มีการแต่งเรื่องราวที่เกินจริงเพื่อให้นิยายมีความสนุกและระทึกมากขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ
แนะนำเรื่อง:
ในคืนที่แสนจะปกติแต่ไม่ปกติ เมื่อจดหมายลูกโซ่ถูกส่งเข้าอีเมลรัว ๆ จน 'ภูมิ์วา' ไม่สามารถพิมพ์รายงานต่อได้ ความรำคาญทำให้เขาเปิดอ่านมันในที่สุด แต่ใครจะรู้ว่านั่นไม่ใช่อีเมลธรรมดา เพราะมันมีส่งผีมาด้วย...
ผมเป็นแค่คนธรรมดา ผมไม่มีสัมผัสพิเศษ ผมไม่เคยเชื่อเรื่องผีหรือวิญญาณ เรื่องแบบนั้นมันไม่อยู่จริงหรอก ผมคิดแบบนั้นมาโดยตลอดจนกระทั่งวันนี้
เชี่ย!
ทันทีที่สองขาของผมก้าวออกจากห้องได้ ประตูตรงระเบียงห้องก็ถูกพังลงในทันที ผู้หญิงที่มีลักษณะแบบเดียวกับในจดหมายก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับเอียงคอที่ไม่สมประกอบมองมาที่ผม มีดอีโต้ที่มีคราบเลือดแห้งกรังถูกสายฝนชะล้างบางส่วนให้ไหลหยดลงกระทบพื้นห้องจนชื้นแฉะ
จังหวะนั้นผมวิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิต ดูหนังสยองขวัญมาก็หลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งตัวเองจะต้องมาหนีตายเสียเอง
มือของผมสั่นด้วยความตระหนก นิ้วมือพยายามไล่จิ้มโทรศัพท์เพื่อกดโทรออกหาไอ้รัญ
รับสิวะ ไอ้รัญ!
ทว่านอกจากร่างกายที่สั่นเทาด้วยความตื่นกลัวแล้ว อัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจก็สั่นเทาไม่แพ้กัน ผมได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองดังชัดเจน แต่ทว่าเสียงที่ได้ยินชัดที่สุดคือเสียงลากเท้าที่กำลังใกล้เข้ามาจากทางด้านหลัง
ผมหันกลับไปมองก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้างมากขึ้นกว่าเดิม แล้วจึงเร่งฝีเท้าของตัวเองให้ไวขึ้น
เชี่ย! นี่มันอะไรวะเนี่ย? อย่าบอกนะว่าผมกำลังเจอผีอยู่? ผีที่มาจากอาถรรพ์จดหมายลูกโซ่น่ะนะ?!
‘ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก’
ผมกดตัดสายไปเมื่อได้ยินข้อความอัตโนมัติ แม้ในใจจะนึกหงุดหงิดนิดหน่อยเมื่อที่พึ่งของตัวเองไม่ยอมรับสาย แต่ผมก็พอจะเข้าใจได้ เวลานี้หากไอ้รัญจะรับสายก็แปลกแล้ว ถ้ามันไม่ได้นอนไปแล้ว เผลอ ๆ ก็คงจะทำอะไรสักอย่างอยู่กับพี่รามิลนั่นแหละ!
ผมวิ่งผ่านโถงทางเดินจนไปเจอกับลิฟท์ ขณะที่กำลังกดลิฟท์ย้ำ ๆ อยู่นั้น ตัวเลขบนหน้าจอแอลอีดีที่กำลังเปลี่ยนจากเลข 8 มาเป็นเลข 7 อย่างเชื่องช้าก็เริ่มทำให้ผมหงุดหงิด ความเร็วในการเปลี่ยนตัวเลขของมันไม่ได้ว่องไวเหมือนสัญลักษณ์ลูกศรลงลิฟท์เลยสักนิด
และเพราะมีหญิงคอหักกำลังจ้องเอาชีวิตของผมอยู่ ผมจึงตัดสินใจวิ่งลงบันไดมาแทน เพราะกว่าลิฟท์จะลงมาถึงชั้น 4 มีหวังคอของผมได้โดนมีดอีโต้นั่นฟันไปก่อนแน่
เอาไงดีวะ?
ผมมองเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง ผมคิดว่าถ้าตอนนี้ผมต้องทำอะไรสักอย่างให้ตัวเองรอด ผมคงจะต้องไปอยู่ในที่ที่มีคนเยอะ ๆ ไว้ก่อน ตอนนี้ก็จะห้าทุ่มแล้วด้วย ถ้าไปร้านเหล้าคงอยู่ได้ไม่นานเพราะเดี๋ยวเที่ยงคืนก็ปิดแล้ว หรือไปอยู่ร้านที่ปิดตีหนึ่งตีสองดีวะ
ครืด!
โทรศัพท์มือถือในมือสั่นครืดจนผมเกือบทำมันหลุดมือ
ไอ้รัญโทรกลับมาหาผม
“รัญ! ช่วยกูด้วย!”
“เกิดอะไรขึ้นกับมึงวะ ไอ้ภู? ทำไมเสียงมึงสั่นแบบนี้?”
ผมอยากจะบอกมันไปว่าผมเพิ่งจะเจอผีมา แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะเชื่อผมหรือเปล่า ผมจึงตัดสินใจบอกมันไปว่า
“มึงช่วยออกมาเจอกูที่ร้าน All Day Long ที”
จากนั้นผมก็กดตัดสายมันไปเลย เพราะเสียงที่น่ากลัวไล่หลังผมมาแล้ว
เมื่อลงมาถึงชั้นล่างสุด ผมก็รีบตรงหรี่ไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง เสียงเครื่องยนต์สตาร์ทดังลั่นท่ามกลางสายฝน แสงไฟสาดส่องภาพเม็ดฝนที่กำลังตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย เส้นผมที่เปียกชุ่มปัดตกลงมาปิดบังดวงตา ผมปาดผมด้านหน้าที่ตกลงมาก่อนจะรีบบิดรถออกไป ภาพสะท้อนของกระจกรถมอเตอร์ไซค์ฉายภาพของผู้หญิงคนนั้นกำลังวิ่งตามผมมาด้วยสภาพไม่สมประกอบ
ให้ตายสิ แม่งตามไม่เลิกจริง ๆ!
ตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่ในร้าน All Day Long ด้วยสภาพที่เนื้อตัวเปียกชุ่ม แอร์ที่เปิดตลอดเวลาของร้านยิ่งทำให้ผมหนาวสั่นมากขึ้นไปอีก โชคดีที่มีพนักงานนำผ้าขนหนูมาให้ผมยืม ไม่อย่างนั้นผมคงจะหนาวตายไปตรงนั้น แต่จะว่าไปหนาวตายก็ยังดีกว่าโดนผีฆ่าหรือเปล่านะ
เฮ้อ
ผมถอนหายใจออกมาให้กับความโชคร้ายของตัวเอง ก่อนจะหันไปผงกหัวขอบคุณพนักงานคนนั้นอีกครั้ง
ร้าน All Day Long เป็นร้านคาเฟ่ Co-Working space[1] ที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง แสงจากหลอดไฟสีเหลืองนวลที่ส่องสว่างทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจ และเป็นอย่างที่ผมคิดจริง ๆ ด้วย ถ้าอยู่ในที่ที่มีคนเยอะ ผมจะปลอดภัย... สำหรับตอนนี้น่ะนะ
อีกอย่างก็เพราะไอ้รัญมันไม่กินเหล้า ผมก็เลยตัดสินใจบอกให้มันมาหาที่นี่แทน
ผมลุกเดินไปสั่งนมน้ำผึ้งร้อนที่หน้าเคาน์เตอร์ โชคดีจริง ๆ ที่ทางร้านรับสแกนจ่ายเงินผ่าน QR Code ไม่อย่างนั้นผมที่ตอนนี้ไม่มีเงินสดติดตัวและเหมือนลูกหมาเปียกน้ำคงจะดูน่าสมเพชสิ้นดี
พนักงานคนเดียวกับที่ให้ผมยืมผ้าขนหนูยื่นเครื่องเรียกคิวมาให้ผมก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรว่า
“นี่ครับ ถ้าเครื่องดัง ลูกค้าเดินมารับเครื่องดื่มได้เลยนะครับ”
ผมยิ้มตอบก่อนจะรับมา แล้วเดินหันหลังกลับไปนั่งที่ของตัวเองตรงมุมของร้านที่มีผนังกระจกมองเห็นวิวด้านนอก
ผมหันกลับไปมองพนักงานหน้าตาดีคนนั้นอีกรอบ ถึงพนักงานคนนี้จะงานดีแค่ไหน แต่จากสถานการณ์ที่เพิ่งเผชิญมา ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะไปจีบพนักงานหรอก
แล้วก็นะ ที่ผมบอกไปว่าผมจะปลอดภัยเมื่อผมอยู่ในที่ที่คนเยอะน่ะ ผมขอกลับคำและกลืนน้ำลายตัวเองก็แล้วกัน
ทำไมน่ะเหรอ?
ก็ผู้หญิงคนนั้นน่ะ ตอนนี้กำลังยืนมองผมอยู่ที่อีกฟากของถนน...
⋆⋆⃟⊱✪⃝⃞⃝⊰⋆⃟⋆ ⋆⋆⃟⊱✪⃝⃞⃝⊰ ⋆⃟⋆⋆⋆⃟⊱✪⃝⃞⃝⊰
อยู่ที่ที่คนเยอะแล้วจะปลอดภัย จริงไหมนะ...
เชิงอรรถ