เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นในหอพักที่ฉันเช่าอยู่ค่ะ
ลึกลับ,ระทึกขวัญ,เลือดสาด,ไทย,blood,gore,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ห้อง(ไม่)ว่างให้เช่า [มี E-book]เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นในหอพักที่ฉันเช่าอยู่ค่ะ
**คำเตือน**
นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาบางส่วนที่ค่อนข้างรุนแรง
เช่น การบรรยายถึงเลือด น้ำหนอง อวัยวะของมนุษย์
รวมไปถึงพฤติกรรม การกระทำหรือคำพูดที่ไม่เหมาะสม
นักเขียนไม่มีเจตนาส่งเสริมการกระทำใดก็ตามที่เกิดขึ้นในเรื่อง
ฉะนั้นโปรดใช้วิจารญาณในการอ่านนะคะ
หากท่านใดไม่สะดวกใจที่จะอ่านเนื้อหาดังกล่าว
รออ่านนิยายเรื่องอื่นของภุมโมได้นะคะ💕
ปล.นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของภุมโมเท่านั้น
ขอให้ทุกท่านสนุกกับการอ่านค่ะ🍀
คุณอรัญพาฉันเดินมาจนสุดอาคาร ก่อนที่ฝีเท้าจะหยุดลงตรงหน้าประตูห้องฝั่งซ้ายทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่าตอนนี้เราทั้งสองคนมาถึงห้องพักที่พูดถึงแล้ว ประตูไม้เก่าตรงหน้าสลักตัวอักษรไว้อย่างชัดเจน ห้องหมายเลข ๑
“ถึงห้องพักแล้ว เชิญครับ” คุณอรัญหยิบกุญแจสีเงินไขเปิดประตู พร้อมผายมือเชิญให้ฉันเข้าไปดูสภาพภายในห้องพัก
“อ้อ! ผมลืมบอกไป เนื่องจากคุณบัวยังไม่ได้แจ้งประสงค์จะย้ายเข้า ผมเลยไม่ได้ตรวจสอบพวกของที่อาจชำรุดให้นะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
ได้ยินแบบนั้นฉันก็รีบสำรวจห้องพักทันที ขนาดห้องน่าจะกว้างประมาณยี่สิบห้าตารางเมตร บานประตูห้องที่ถูกเปิดติดชิดกับผนังห้องซ้ายมือพอดี ตรงข้ามประตูเป็นผนังสีครีมนั่นคงเป็นห้องน้ำ ขวามือมีตู้เย็นขนาดกลางสภาพเหมือนใหม่วางอยู่หนึ่งตู้ ฝั่งเดียวกับตู้เย็นมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศขนาดเล็กซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานภายในห้องเล็ก ๆ แบบนี้ให้ด้วย
ถัดจากตู้เย็นก็เป็นเตียงไม้ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง พร้อมเบาะนอนสภาพดีน่าจะความกว้างประมาณห้าฟุตถือว่าใหญ่กว่าขนาดทั่วไปที่มีบริการในหอพัก ถัดจากเตียงก็มีโต๊ะและเก้าอี้ไม้สีน้ำตาลหนึ่งชุด ดูจากสภาพแล้วน่าจะยังแข็งแรงดี ติดกับโต๊ะไม้ก็เป็นตู้เสื้อผ้าขนาดกลางซึ่งทำมาจากไม้อีกเช่นเคย เปิดดูภายในแล้วมีกลิ่นอับชื้นของไม้เล็กน้อยแต่ยังพอรับได้
ตรงข้ามกับโต๊ะไม้และตู้เสื้อผ้าก็เป็นประตูห้องน้ำตามที่ฉันคาดเดาไว้ ซึ่งก่อนถึงห้องน้ำจะมีประตูบานเล็กอีกบานที่สามารถเปิดออกได้ พื้นที่ด้านนอกเป็นระเบียงแต่แอบรู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ระเบียงนั้นมีพื้นที่จำกัดน่าจะสำหรับตากผ้าเท่านั้น ออกมานั่งเล่นไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคสำหรับการพักอาศัยที่นี่เพราะฉันสามารถออกไปนั่งตรงโต๊ะหินอ่อนด้านนอกได้ จะว่าไปการออกแบบและจัดวางสิ่งของเครื่องใช้ภายในห้องพักถือว่าทำได้ดีทีเดียว สามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วน
หลังจากสำรวจสภาพภายในห้องพักทุกซอกทุกมุมจนพอใจแล้ว ฉันตัดสินใจเช่าห้องพักและต้องคุยเรื่องราคาค่าเช่ากับคุณอรัญเสียก่อนแต่เขาไม่อยู่หน้าประตูห้องแล้ว ฉันไม่กล้าตะโกนเรียกหาเขาเลยปิดประตูห้องหมายเลขหนึ่งไว้ตามเดิมและเดินไปตามทางโถงทางเดินขณะเดียวกันก็มองสำรวจห้องอื่นด้วย
ห้องแรกที่สายตาหันไปเห็นคือบานประตูห้องหมายเลขแปดบรรยากาศที่ออกมาจากห้องนั้น มันช่างว่างเปล่า...ไม่มีอะไรเลย ไม่ได้ให้ความรู้สึกพิเศษอะไร ก็คงเป็นห้องพักทั่วไปของใครบางคน ซึ่งมันก็แน่นอนอยู่แล้วสิ จะให้มีผีสางนางไม้หรือสิ่งลี้ลับในห้องนั้นได้ยังไง ฉันนี่เพ้อเจ้ออีกแล้ว คิดได้แบบนั้นก็ละสายตาจากห้องนั้นและมองไปยังประตูห้องอื่น
ห้องหมายเลขสองเป็นห้องพักที่อยู่ติดกับห้องที่ฉันดูเมื่อครู่ ถึงประตูห้องจะปิดอยู่แต่บานประตูไม่ค่อยพอดีกับวงกบสักเท่าไหร่ เลยทำให้มีร่องเล็ก ๆ น่าจะมองลอดเข้าไปด้านในได้ ด้วยความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นที่ก่อตัวขึ้นภายในจิตใจ ทำให้ฉันตัดสินใจแนบดวงตาไปกับร่องเล็กนั้นและมองสภาพภายในห้องพัก สิ่งที่เห็นมีเพียงผนังสีครีมเท่านั้น สงสัยห้องพักที่นี่คงถูกออกแบบมาโดยใช้แบบแปลนเดียวกันหมดแน่เลย คงเพื่อให้สะดวกต่อการสร้างสินะ ถือว่าเป็นการสร้างหอพักที่คิดมาอย่างดี
ฉันผละตัวออกจากร่องเล็กนั้น เมื่อรู้ว่าที่นี่ก็เป็นหอพักปกติธรรมดาเหมือนหอพักทั่วไปก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมา ไว้ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เมื่อไหร่ฉันจะต้องหาโอกาสมาแนะนำตัวกับเพื่อนร่วมหอให้ได้เลย
ฉันเร่งฝีเท้าและเดินตรงไปตามทาง ขณะนั้นต้องเดินผ่านหน้าห้องหมายเลขสามและห้องหมายเลขหก คุณอรัญบอกว่าที่นี่มีว่างแค่หนึ่งห้องเท่านั้นแสดงว่าทุกห้องนี้มีคนเช่าอยู่แล้ว แต่ทำไมบรรยากาศถึงได้ดูเงียบเชียบขนาดนี้กันนะ
กว่าจะเดินผ่านพ้นโถงทางเดินก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างจ้องมองมาตลอดเวลา ภายในใจได้แต่ภาวนาให้ตัวเองเดินไปถึงด้านหน้าให้เร็วที่สุดและหวังว่าคุณอรัญจะยืนอยู่ตรงนั้น เมื่อเดินมาถึงก็เห็นร่างสูงของคุณอรัญกำลังเตรียมเอกสารบางอย่างอยู่ วินาทีนั้นฉันรู้สึกโล่งใจขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ทำไมบรรยากาศด้านหน้าอาคารกับด้านในอาคารถึงต่างกันราวฟ้ากับเหวแบบนี้
“คุณบัวดูเสร็จแล้วเหรอครับ ห้องพักเป็นยังไงบ้างครับ” เขาถามอย่างเป็นมิตร ขณะที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมเอกสาร ตั้งแต่ฉันมาถึงเขายังไม่ได้หันมามองเลย เขารู้ได้ยังไงกันว่าฉันอยู่ตรงนี้ ฉันเก็บความสงสัยไว้ในใจ ก่อนจะตอบคำถามของเขา
“เสร็จแล้วค่ะ ห้องก็น่าอยู่ดีนะคะ ถึงของบางอย่างจะดูเก่าไปบ้างแต่ก็ยังสะอาดและแข็งแรงดีค่ะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! สิ่งของเครื่องใช้ที่นี่ดูเก่ามากจริง ๆ ครับ เพราะส่วนใหญ่สร้างจากไม้ทั้งนั้นทำให้ดูแลยากลำบาก บางอย่างก็เสื่อมสภาพหรือเก่าเร็วกว่าปกติแต่ผมก็พยายามบำรุงรักษาเท่าที่จะทำได้ครับ” เขาหัวเราะทันทีที่ได้ยินคำตอบอันแสนจริงใจจากฉัน จังหวะนี้คงเหมาะที่จะสอบถามเรื่องค่าเช่าแล้วสิ
“ค่าเช่าเดือนละเท่าไหร่คะ” ตอนนี้ฉันได้แต่ภาวนาอีกครั้ง ขอให้ราคาห้องพักไม่เกินเดือนละสี่พันถึงห้าพันบาทเถอะ หากเกินกว่านี้ฉันต้องใช้ชีวิตด้วยความลำบากแน่ ๆ และเหมือนสวรรค์จะตอบรับคำขอของฉันคนนี้
“เดือนละสองพันบาทครับ” ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อรู้ราคา
“ห้องพักติดแอร์ มีห้องน้ำส่วนตัว มีเฟอร์นิเจอร์ให้พร้อมการเดินทางก็สะดวกสบายเพราะอยู่ใกล้มหาลัยฯ สวนสาธารณะและห้าง ให้เช่าเดือนละสองพันเองเหรอคะ ทำไมราคาถูกจัง”
“ราคานี้ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟนะครับ ที่นี่ไม่มีบริการสัญญานอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายพูดง่าย ๆ คือไม่มีไวไฟ ไม่มีกล้องวงจรปิด ไม่มียามหรือระบบรักษาความปลอดภัย อีกอย่างที่นี่ค่อนข้างเก่า...ผมว่าราคานี้เหมาะสมแล้วนะครับ” คุณอรัญอธิบายถึงที่มาของราคาห้องเช่าแสนถูกอย่างมีเหตุผลแต่นั่นก็ยังไม่ทำให้ฉันคลายข้อสงสัยเคลือบแคลงใจลงไปได้
“เข้าใจแล้วค่ะ ขอถามอีกนิดนะคะ ไม่ทราบว่าคุณอรัญเป็นเจ้าของที่นี่เองรึเปล่าคะ”
“เปล่าครับ ผมเป็นแค่ผู้ดูแล ผมไม่เคยเจอคุณเจ้าของครับ พอดีผู้ดูแลคนเก่าค่อนข้างมีอายุแล้วและเขาไม่สามารถมาดูแลหอพักต่อได้ ผมเลยกลายมาเป็นผู้ดูแลที่นี่แทนครับ” รอบนี้เขาตอบกลับมาโดยไม่สบตาฉันอย่างทุกทีราวกับกำลังปิดบังอะไรบางอย่างแต่ฉันไม่ได้สนใจเพราะตอนนี้เอกสารฉบับหนึ่งที่คุณอรัญยื่นมาให้น่าสนใจกว่าซึ่งเอกสารนี้เป็นสัญญาเช่าห้อง ราวกับเขารู้ว่าฉันจะเช่าห้องนี้อย่างแน่นอน เขาอ่านใจฉันได้รึไงกันนะ
“ถ้าคุณบัวสนใจเช่าห้องพักก็สามารถกรอกรายละเอียดและเซ็นชื่อนามสกุลลงในเอกสารได้เลยนะครับ” ฉันพยักหน้าและกรอกข้อมูลส่วนตัวลงในเอกสารอย่างถูกต้องและครบถ้วน ก่อนจะเซ็นชื่อนามสกุลและยื่นเอกสารฉบับนั้นคืนเขาไป
ทันทีที่ปลายนิ้วมือเรียวยาวสีขาวซีดของคุณอรัญสัมผัสกับแผ่นกระดาษที่ฉันยื่นไป สายลมกรรโชกพัดเข้าปะทะเราทั้งคู่จนฉันเผลอหลับตาลงอย่างอัตโนมัติด้วยความกลัว อีกทั้งยังกังวลว่าเอกสารอาจจะปลิวไปตามแรงลมจึงออกแรงจับเอกสารแน่นขึ้น
เพียงครู่เดียวสายลมที่พัดอย่างรุนแรงนั้นก็สงบลงดังเดิม ฉันลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ พลางปล่อยมือออกจากเอกสารฉบับนั้นและพบว่ามันมีรอยยับไปตามแรงจับ สายตาของฉันเหลือบไปเห็นคุณอรัญยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“เท่านี้ก็ถือว่าการเซ็นสัญญาเข้าอยู่ที่นี่เป็นอันเสร็จสิ้นเรียบร้อยครับ” เขากล่าวพลางหยิบเอกสารใส่แฟ้มและเก็บเข้าตู้
ฉันมองแผ่นหลังของเขาพลันคิดไปเองว่าเหตุการณ์ ลมกรรโชกแรงเมื่อครู่ช่างบังเอิญเหลือเกิน ถ้าเกิดเปรียบเทียบเหตุการณ์นี้เป็นฉากใดฉากหนึ่งในนิยายสยองขวัญก็คงจะเป็นช่วงที่ตัวละครพาตัวเองเข้าสู่หายนะบางอย่างโดยไม่รู้ตัวสินะ ทว่าฉันก็ต้องหยุดความคิดของตัวเองไว้แค่นั้นเพราะคำพูดจากคุณอรัญ
“ขอให้อยู่ที่นี่อย่างมีความสุขนะครับ...คุณบัว”
หลังจากเซ็นสัญญาเช่าห้องพักใหม่เรียบร้อย ฉันบอกลาคุณอรัญและเดินทางกลับที่พักเก่า โดยไม่ลืมติดต่อป้าจุ๋มเพื่อบอกรายละเอียดเกี่ยวกับวันย้ายออกและพูดคุยเรื่องการคืนเงินค่ามัดจำตามที่ได้ตกลงกันไว้ วางสายจากป้าจุ๋มฉันก็ติดต่อรถขนย้ายจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งพร้อมนัดแนะวันเวลาและสถานที่สำหรับการขนย้ายข้าวของเครื่องใช้รวมไปถึงสัมภาระทั้งหมด
การย้ายของเข้าห้องพักใหม่กินเวลาไปกว่าหนึ่งวันเต็ม หลังจากนั้นยังต้องจัดระเบียบสิ่งของเครื่องใช้ให้อยู่ในที่ที่เหมาะสมและสะดวกต่อการใช้งานอีก โดยรวมแล้วกว่าจะเสร็จเรื่องเสร็จราวก็กินเวลาไปทั้งสิ้นสามวัน ระยะเวลาสามวันที่ผ่านมานี้ฉันมัวแต่ง่วนอยู่กับเรื่องของตัวเอง จนไม่ทันได้สังเกตถึงผู้เช่าคนอื่นเลย
.
.
.
ขอให้อ่านอย่างมีความสุขนะคะ
ปล.ภุมโมมีทวิตเตอร์แล้วค่าาา อัพเดตทุกความเคลื่อนไหวที่ @poommo792