เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นในหอพักที่ฉันเช่าอยู่ค่ะ
ลึกลับ,ระทึกขวัญ,เลือดสาด,ไทย,blood,gore,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ห้อง(ไม่)ว่างให้เช่า [มี E-book]เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นในหอพักที่ฉันเช่าอยู่ค่ะ
**คำเตือน**
นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาบางส่วนที่ค่อนข้างรุนแรง
เช่น การบรรยายถึงเลือด น้ำหนอง อวัยวะของมนุษย์
รวมไปถึงพฤติกรรม การกระทำหรือคำพูดที่ไม่เหมาะสม
นักเขียนไม่มีเจตนาส่งเสริมการกระทำใดก็ตามที่เกิดขึ้นในเรื่อง
ฉะนั้นโปรดใช้วิจารญาณในการอ่านนะคะ
หากท่านใดไม่สะดวกใจที่จะอ่านเนื้อหาดังกล่าว
รออ่านนิยายเรื่องอื่นของภุมโมได้นะคะ💕
ปล.นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของภุมโมเท่านั้น
ขอให้ทุกท่านสนุกกับการอ่านค่ะ🍀
เกศราเริ่มย้ายของเข้าสู่ห้องพักใหม่ในวันถัดมา ตอนนี้เธออาศัยอยู่ที่หอพักแห่งนี้เกือบครบสัปดาห์แล้ว วันธรรมดาก็เดินทางไปเรียนตามปกติ ส่วนวันหยุดก็ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนสนิทตามประสาวัยรุ่นทั่วไป การใช้ชีวิตช่วงนี้ถือว่ามีความสุขกายสบายใจ ไม่พบเจอปัญหาหรืออุปสรรคอะไรเลย
ความจริงเกศราอยากพาเพื่อนทุกคนมาเที่ยวที่หอพักเป็นอย่างมากเพราะที่นี่ทั้งปลอดโปร่งร่มรื่นเย็นสบาย ลานหญ้าด้านหน้าอาคารก็กว้างขวางเหมาะจะทำกิจกรรมกลางแจ้ง แต่น่าเสียดายที่หอพักนี้มีกฎห้ามพาคนนอกเข้ามาอย่างเด็ดขาดและเธอก็ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดเพราะเข้าใจดีว่าหากเธอแหกกฎอาจอยู่ร่วมกับผู้เช่าคนอื่นได้ยาก
อีกอย่างถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น คุณผู้ดูแลคงรู้สึกไม่สบายใจและเธอต้องมีปัญหาในภายหลังแน่นอน ซ้ำร้ายถ้าเกิดมีบางคนทำตามจะยิ่งเป็นปัญหามากขึ้นอีก ฉะนั้นเพื่อเป็นการตัดปัญหาเกศราจึงคิดว่าการเคารพกฎระเบียบในการอยู่ร่วมกันเป็นเรื่องที่ถูกต้องและควรทำ แต่เพราะความอยากอวดเธอจึงตัดสินใจว่าวันนี้จะวิดีโอคอลหากลุ่มเพื่อนและโชว์ห้องพักผ่านมือถือซะเลย คิดได้แบบนั้นเธอจึงลุกขึ้นจัดแจงตัวเองและเตรียมห้องให้พร้อมสำหรับการเปิดกล้อง
ขณะที่เกศรากำลังจัดเก็บเสื้อผ้าที่แห้งแล้วไว้ในตู้เสื้อผ้าด้วยความเพลิดเพลินนั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ปรากฎชื่อ ‘คุณแม่’ เด่นหราบนหน้าจอหญิงสาวรีบกดรับสายทันที เพราะคิดได้ว่าตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่นี่ยังไม่ได้ติดต่อไปหาทางบ้านเลย และด้วยความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นสงสัยครั้งนี้เกศราคงต้องอ้อนแม่เยอะกว่าปกติสักหน่อยแล้ว
“สวัสดีค่ะแม่ เกศคิดถึงพ่อกับแม่จังเลย” เสียงออดอ้อนจากหญิงสาวถูกส่งไปหาบุพการีผ่านมือถือ
“เป็นไงบ้างเกศ ตั้งแต่โทรมาบอกแม่เมื่อวันก่อนว่าจะย้ายหอก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่มั้ยลูก” น้ำเสียงของแม่ที่ดังมาจากปลายสายยังคงเต็มไปด้วยความห่วงใยเหมือนทุกครั้ง
“เรียบร้อยดีค่ะ ก่อนหน้านี้เกศวุ่นวายเรื่องย้ายของเข้าห้องใหม่กับเรื่องเดินทางไปมหาลัยฯ นิดหน่อย เลยไม่ได้โทรหาพ่อกับแม่แต่ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวดีแล้วค่ะ”
“หอพักอยู่ไกลมากมั้ยลูก เดินทางยากรึเปล่า”
“ไม่ไกลค่ะแม่ ช่วงแรกก็หลงทางนิดหน่อยต้องใช้เวลาจำเส้นทางสองสามวันแต่ตอนนี้ต่อให้หลับตาเดินยังได้เลยค่ะ อิอิ”
“จ้าาา เก่งมากจ้ะ แล้วนี่ยังมีเงินพอใช้รึเปล่าลูก”
“เหลือเฟือค่ะแม่ ค่าห้องที่ใหม่ถูกมาก เงินที่แม่ให้เกศมาครั้งก่อนก็ยังใช้ไม่หมด เกศเก็บเงินไว้ซื้อขนมและของกินอร่อย ๆ ได้เยอะแยะเลยค่ะ” หญิงสาวพูดพลางหัวเราะไปด้วย ยังไม่ทันที่ผู้เป็นแม่จะได้ตอบกลับก็มีเสียงของผู้เป็นพ่อดังแทรกเข้ามา
“โถ่แม่! ขอพ่อคุยบ้างสิ ทำไมไม่โทรแบบเห็นหน้ากันล่ะ พ่ออยากเห็นหน้าลูกสาวของพ่อบ้าง” เกศราขำกับคำพูดของพ่อ เธอเลยกดเปิดกล้องสำหรับวิดีโอคอลและทันทีที่อีกฝ่ายกดปุ่มยอมรับ ทั้งสามคนก็ยิ้มกว้างให้กันและกัน
“เอ้อ! มันต้องอย่างนี้สิจะได้เห็นหน้าลูกด้วย เกศสบายดีนะลูก” พ่อของเธอยังคงเป็นคนพูดจากระโชกโฮกฮากและเสียงดังไม่เปลี่ยนแต่เกศราก็รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นจากคำพูดพวกนั้น
“เกศสบายดีค่ะ พ่อล่ะสบายดีมั้ย แก่ขึ้นป่ะเนี่ยเกศเห็นหนวดเครารุงรังเชียว” เกศราอดไม่ได้ที่จะแซวพ่อของเธอ
“ไม่ได้แก่ซะหน่อยโว้ย แบบนี้เค้าเรียกหล่อเหลาคมเข้ม นี่ถ้าให้พ่อโกนหนวดเคราออกหมด พ่อหน้าตาจิ้มลิ้มเลยนะลูก แบบนั้นพ่อรับไม่ได้หรอก” พ่อรีบโต้กลับเธอทันทีพร้อมลูบคลำคางตัวเอง ก่อนจะทำหน้านิ่วคิ้วขมวดและส่ายหน้าไปมารัว ๆ เกศราหัวเราะชอบใจเมื่อมองการกระทำของผู้เป็นพ่อ ก่อนจะหมุนกล้องให้พ่อแม่ดูห้องพักใหม่ของเธอ
“ฮ่าฮ่าฮ่า! พ่อหล่อที่สุดจ้าาา นี่ห้องเกศ เป็นไงสบายมั้ย”
ห้องของเธอไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติมจากตอนย้ายเข้าเลย เพราะช่วงนี้เธอไม่อยากใช้จ่ายฟุ่มเฟือยสักเท่าไหร่ สิ่งที่มีเพิ่มมาคือสมุดจดบันทึกกับเอกสารประกอบการเรียนวางกองอยู่บนโต๊ะ แท่นรองเตารีดตัวเก่าที่ตอนนี้ถูกพับเก็บเข้าซอกตู้อย่างเรียบร้อย ชั้นวางรองเท้าซึ่งมีรองเท้าวางอยู่สองสามคู่ กระบองเพชรต้นเล็กสี่ห้ากระถาง เสื้อผ้าในตู้และผ้านวมที่อยู่ในตะกร้าผ้าเพื่อรอซัก
“ช่วงนี้เกศผมร่วงเยอะขึ้นรึเปล่าลูก” เกศราขมวดคิ้วเข้าหากันทันทีเมื่อได้ยินคำถามนี้ พร้อมหมุนกล้องกลับมาที่ตัวเอง
“ก็ผมร่วงปกตินะแม่ มีอะไรรึเปล่าผมเกศดูบางลงเหรอ” หญิงสาวตอบพลางเอามือสางผม
“เปล่าจ้ะ แม่เห็นเศษผมที่พื้นน่ะเป็นสาวเป็นนางก็กวาดห้องบ้าง อย่าปล่อยให้ห้องสกปรกนะลูก อีกอย่างนะถ้าจะพาเพื่อนมาเที่ยวที่ห้องเกศก็ต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะลูก แม่รู้ว่าตอนนี้เกศโตแล้วแต่แม่เป็นห่วงนะ” เกศยิ้มพลางพยักหน้าน้อมรับคำตักเตือนที่แสนอ่อนโยนจากแม่
“ที่นี่มีกฎห้ามพาคนนอกเข้ามา แม่สบายใจได้หายห่วง” ผู้เป็นแม่ที่ได้ยินคำตอบนั้นก็นิ่งงันไปเล็กน้อย ก่อนจะบอกปัดและกล่าวลาลูกสาวอันเป็นที่รัก
“มีกฎห้ามพาคนนอกเข้ามาเหรอแต่เมื่อกี้แม่ว่าแม่เห็น…ช่างเถอะแม่คงจะตาฝาดไปเอง งั้นแม่วางสายก่อนนะ ลูกจะได้พักผ่อนต่อ”
“ไม่มีอะไรแน่นะแม่...แม่พูดแบบนี้เกศกลัวนะ” เกศราถามย้ำอีกครั้งก่อนจะต้องวางสาย
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่มีอะไรจริง ๆ จ้ะลูก แม่น่าจะมองผิดไปเอง เกศดูแลตัวเองด้วยนะ แม่คิดถึงลูกเสมอนะ รักลูกจ้ะ” คนเป็นแม่หัวเราะกับความขี้กลัวของลูกสาวตัวน้อย ส่วนคนเป็นพ่อโบกมือลาเสร็จสรรพก็เดินหายออกไปจากกล้องทันที
“เกศดูแลตัวเองดีอยู่แล้ว คิดถึงพ่อกับแม่เหมือนกันนะ บายค่ะ” เกศราโบกมือลาทั้งสองคนก่อนกดวางสาย การที่เธอได้กำลังใจจากคนในครอบครัวก็เหมือนเป็นการเติมพลังให้ร่างกายและฟื้นฟูสภาพจิตใจไปในเวลาเดียวกัน เกศรานอนยิ้มบนเตียง จนกระทั่งได้ยินเสียงคำพูดของแม่ดังขึ้นในหัว
‘แม่เห็นเศษผมที่พื้นน่ะเป็นสาวเป็นนางก็กวาดห้องบ้าง อย่าปล่อยให้ห้องสกปรกนะลูก’
เศษผมตรงซอกมุมไหนของห้องที่ทำให้แม่พูดแบบนั้นนะ ทันทีที่คิดได้เกศราเด้งตัวลุกจากเตียงและมองไปรอบ ๆ เพื่อสำรวจความสกปรกแต่ก็ไม่เห็นมีอะไรแปลกแตกต่างไปจากเดิม นอกจากเส้นผมบนศีรษะของเธอที่นับวันจะยิ่งหลุดร่วงลงพื้นมากขึ้นไปทุกทีก็ไม่มีเศษฝุ่นอย่างอื่นแล้ว หรือจะเป็นเส้นผมตรงผ้าเช็ดเท้าหน้าห้องน้ำรึเปล่านะ วันนี้ตอนกวาดห้องเธอลืมสะบัดผ้าซะด้วยสิ
คิดแล้วก็ได้แต่รู้สึกหงุดหงิดในใจและไม่สบอารมณ์ ทำไมเส้นผมบนหัวถึงร่วงได้ร่วงดีขนาดนี้ ไม่รู้จะงอกขึ้นมาทำไมถ้าจะหลุดร่วงไปเยอะกว่าผมที่งอกขึ้นใหม่ อุตส่าห์เสียเงินเพื่อซื้อแชมพูและครีมนวดแพง ๆ สำหรับทำความสะอาดและดูแลผมเป็นอย่างดี แต่มันก็ยังหลุดร่วงทุกครั้งที่หวี เธอไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับการเติบโตของผู้หญิงคนหนึ่งในวัยยี่สิบ
ระหว่างที่เกศราพร่ำบ่นในใจ เธอจัดเก็บหมอนอิงใบใหญ่และพับผ้าห่มที่อยู่บนเตียงให้เรียบร้อย รวมถึงปัดกวาดเศษฝุ่นและเส้นผมที่หลุดร่วงตอนเธอนอนคุยกับแม่เมื่อครู่นี้ออกด้วย ตอนนั้นเองที่เธอเห็น ‘เส้นผมสีน้ำตาลแดง’ เส้นหนึ่งปะปนอยู่กับเส้นผมสีดำขลับของเธอ
เกศราหยิบเส้นผมสีน้ำตาลแดงเส้นนั้นขึ้นพิจารณาและรีบตรงดิ่งไปหน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำเพื่อสำรวจเส้นผมบนศีรษะของตัวเองและอดสงสัยไม่ได้ว่าเส้นผมของเธอเปลี่ยนสีไปเพราะอะไร หรือช่วงนี้เธอตากแดดมากเกินไปเลยทำให้เส้นผมถูกทำร้ายจากแสงแดด คิดมาถึงตรงนี้เกศราก็ยกมือกุมขมับทันที
“นี่ฉันต้องหาเงินซื้อน้ำมันบำรุงผมอีกแล้วใช่มั้ยเนี่ย” หญิงสาวพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายขณะเอามือสางผมอันเป็นที่รัก เธอทำได้เพียงบ่นอุบไปงั้นแหละ เพราะสุดท้ายเธอก็ยอมเสียเงินซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลเส้นผมของเธออยู่ดี
หลังจากหันซ้ายหันขวามองเส้นผมบนหัวเรียบร้อยแล้ว เธอก็ไม่สนใจเส้นผมสีน้ำตาลแดงนั้นอีกต่อไป เธอก็แค่ต้องบำรุงเส้นผมให้ดีขึ้นเท่านั้นเอง อีกอย่างผมของเธอก็ยังเป็นสีดำเงางามและไม่มีผมเสียสีน้ำตาลเลย ไม่แน่ว่าผมเส้นนั้นอาจเป็นของผู้เช่าคนเก่าที่หลงเหลืออยู่ก็ได้ เธออาจจะทำความสะอาดห้องไม่ดีเอง คิดได้ดังนั้นมือขาวอมชมพูของเธอก็ค่อย ๆ เก็บเศษผมพวกนั้นอย่างเบามือเพื่อป้องกันไม่ให้มันปลิวไปกับสายลม ก่อนจะนำไปทิ้งลงถังขยะทันที
และถึงแม้ว่าเรื่องนั้นจะผ่านมาสักระยะหนึ่งแล้วก็ตาม ไม่ว่าเกศราจะไปเรียนหนังสือที่มหาลัยฯ ไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน กินข้าว ดูหนังฟังเพลงหรืออาบน้ำ ก็ไม่อาจสลัดเรื่องเส้นผมปริศนาสีน้ำตาลแดงที่เธอเจอในตอนนั้นได้เลย ผมเส้นนั้นยังคงติดอยู่ในความคิดของเธอ
.
.
.