เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นในหอพักที่ฉันเช่าอยู่ค่ะ
ลึกลับ,ระทึกขวัญ,เลือดสาด,ไทย,blood,gore,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ห้อง(ไม่)ว่างให้เช่า [มี E-book]เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นในหอพักที่ฉันเช่าอยู่ค่ะ
**คำเตือน**
นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาบางส่วนที่ค่อนข้างรุนแรง
เช่น การบรรยายถึงเลือด น้ำหนอง อวัยวะของมนุษย์
รวมไปถึงพฤติกรรม การกระทำหรือคำพูดที่ไม่เหมาะสม
นักเขียนไม่มีเจตนาส่งเสริมการกระทำใดก็ตามที่เกิดขึ้นในเรื่อง
ฉะนั้นโปรดใช้วิจารญาณในการอ่านนะคะ
หากท่านใดไม่สะดวกใจที่จะอ่านเนื้อหาดังกล่าว
รออ่านนิยายเรื่องอื่นของภุมโมได้นะคะ💕
ปล.นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของภุมโมเท่านั้น
ขอให้ทุกท่านสนุกกับการอ่านค่ะ🍀
**คำเตือน**
อาจมีเนื้อหาบางส่วนที่ค่อนข้างรุนแรง เช่น การบรรยายถึงเลือด น้ำหนอง อวัยวะของมนุษย์
รวมไปถึงพฤติกรรมหรือการกระทำที่ไม่เหมาะสม นักเขียนไม่มีเจตนาส่งเสริมการกระทำใดก็ตามที่เกิดขึ้นในเรื่อง
ฉะนั้นโปรดใช้วิจารญาณในการอ่านนะคะ
.
.
.
เส้นผมร่วงลงพื้นทีละกระจุก จนในที่สุดเกศราก็หลุดพ้นจากการพันธนาการของร่างนั้นได้เสียที หญิงสาวตะเกียกตะกายพาร่างที่แสนบอบช้ำออกจากชิ้นไม้ที่ทับขาเธอได้สำเร็จและคลานไปจนถึงประตู ขณะเดียวกันร่างนั้นก็เอาแต่จ้องมองเส้นผมสีดำขลับแสนสวยของเกศราที่อยู่ในมือ เพราะเมื่อได้เส้นผมมาครอบครองแล้ว ร่างนั้นก็แสยะยิ้มพึงพอใจและไม่สนใจอะไรอีก
ตึง!! ตึง!! ตึง!!
“เฮ้ยเธอ! เป็นบ้าอะไรถึงทำเสียงดังตึงตังเอาเวลานี้ห๊ะ! ฉันเพิ่งเลิกงานมาเหนื่อย ๆ แทนที่คืนนี้จะได้นอนหลับสบายใจกลับต้องมาทนฟังเสียงรบกวนจากเธอเนี่ยนะ! ให้ตายเถอะ!” เสียงทุบประตูดังขึ้น ก่อนจะมีเสียงของชายหนุ่มห้องหมายเลข ๖ ตะโกนดังลั่น
“ออกมาเปิดประตูเดี๋ยวนี้เลยนะ! ฉันรู้ว่าเธออยู่ในห้อง! นี่เธอ! โดนตู้ทับตายไปแล้วรึไงห๊ะ!” เกศราได้ยินทุกคำพูดจากคนที่อยู่อีกฟากของประตูแต่เธอไม่มีแรงมากพอจะตอบกลับไป
“…ชะ...ช่วย...ย...ด้...วย…” เกศราขอความช่วยเหลือด้วยน้ำเสียงที่เหือดแห้งเต็มที มือขาวที่ถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานของเลือดสด เอื้อมมือหมายจะหมุนลูกบิดเพื่อเปิดประตู
“กลิ่นอะไรวะเนี่ย นี่เธอ! ตอบหน่อยสิวะ!” ชายหนุ่มที่อยู่ด้านนอกสบถกับตัวเอง ก่อนจะตะโกนเรียกเกศราอีกครั้ง
เขาได้กลิ่นอะไรบางอย่างเล็ดลอดออกมาจากประตูห้องตรงหน้า ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกกระวนกระวายเมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากหญิงสาวเลย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งได้ยินเสียงดังภายในนั้น เขาออกแรงหมุนลูกบิดประตูอย่างแรงแต่ไม่เป็นผล จึงถอยห่างออกจากประตูสองสามก้าวและตะโกนเสียงดังอีกครั้ง
“นับหนึ่งถึงสามฉันจะถีบประตู! อย่าเสร่อมายืนอยู่หน้าประตูนะยัยคนมีมารยาท!” พูดจบ ชายหนุ่มก็นับหนึ่งถึงสามและออกแรงถีบประตูอย่างบ้าระห่ำจนบานพับประตูหลุดจากวงกบ ทันทีที่บานประตูเปิดออก สภาพภายในห้องพักที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าทำเอาชายหนุ่มชะงักไปด้วยความตกใจ
.
.
.
สภาพห้องแสนเละเทะ...ข้าวของพังยับเยิน
เส้นผมหลากสีมากมาย...เปรอะเปื้อนเมือกข้น
ร่องรอยเลือดสีแดง...คละคลุ้งกลิ่นเน่าเหม็น
และตรงนั้นร่างของหญิงสาวที่เขาเรียกหา
.
.
.
ชายหนุ่มกวาดสายตาไปรอบห้องแต่ไม่พบเจอใครหรือสิ่งมีชีวิตใดเลย เขาจึงรีบเข้าไปอุ้มร่างของหญิงสาวอย่างเบามือและพาออกไปจากห้องนั้น ก่อนจะวางร่างของเธอให้นอนลงบนพื้นด้านหน้าอาคาร
สภาพของหญิงสาวช่างน่าเวทนา เส้นผมสีดำสนิทที่เขาแอบนึกชื่นชอบภายในใจ บัดนี้กลับเว้าแหว่งเหลือเพียงบางส่วนเท่านั้น หนังศีรษะบริเวณกลางกระหม่อมมีเลือดซึมออกมาให้เห็นเล็กน้อย ตามเนื้อตามตัวก็เต็มไปด้วยรอยบอบช้ำอย่างกับผ่านการหนีตายมา อีกทั้งมือขาวมีบาดแผลสดเหวอะหวะและมีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก
ชายหนุ่มฉีกชายเสื้อเชิ้ตสีขาวของตนเองไปพันแผลที่มือของหญิงสาว เขาหวังว่าสิ่งนี้อาจจะช่วยหยุดเลือดของเธอได้บ้างไม่มากก็น้อย เกศราที่เริ่มได้สติลืมตาขึ้นมาเห็นชายหนุ่มที่เธอเคยเจอกำลังพันแผลให้เธออยู่ ความรู้สึกโล่งใจและดีใจก็พรั่งพรูออกมาผ่านหยาดน้ำตาของเธอ ตอนนี้เธอออกมาจากห้องพักนั้นได้แล้วสินะ รับรู้เพียงเท่านี้หญิงสาวก็ปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง ก่อนจะหลับไหลไปพร้อมความรู้สึกอ่อนล้าและเจ็บปวด
...และแล้วค่ำคืนที่แสนยาวนานสำหรับเกศราก็ได้จบลง…
.
.
.
“เรื่องราวของห้องหมายเลขสองจบแค่นี้ครับ” คุณอรัญกล่าวพร้อมระบายยิ้ม ก่อนจะยกโกโก้ร้อนขึ้นดื่ม
“จบแล้วเหรอคะ” ฉันเงยหน้าขึ้นมองชายตรงหน้า พลางคิดว่าน่าเสียดายจังกำลังจดเรื่องราวอย่างสนุกมือเลย
“ครับ จบแล้วครับ” เขาพูดย้ำคำเดิมอีกครั้ง
“แล้วตอนนี้คุณเกศเป็นยังไงบ้างคะ” ฉันถามออกไปด้วยความสงสัย การที่เธอต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้สภาพจิตใจจะเป็นยังไงบ้างนะ
“ไม่รู้สิครับ...จะว่าไปโกโก้ของคุณบัวดูเหมือนจะไม่ลดลงเลยนะครับเนี่ย ถ้าปล่อยให้เย็นระวังจะไม่อร่อยนะครับ” เขามองโกโก้ร้อนของฉันที่ยังมีเกือบเต็มแก้ว ก่อนเชิญชวนให้รีบลิ้มลอง
“ถึงจะไม่ร้อนแล้วแต่ยังอร่อยอยู่ค่ะ...จะว่าไปเรื่องนี้ทำฉันหลอนนิดหน่อยนะคะเนี่ย หลังจากนี้เวลากวาดเส้นผมที่อยู่บนพื้น ฉันคงต้องเผลอคิดว่านั่นใช่เส้นผมของฉันจริง ๆ รึเปล่า” ฉันเอ่ยออกไปตามความคิดแต่พูดถึงตรงนี้ก็รู้สึกกลัวขึ้นมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า! มันก็เป็นแค่เรื่องเล่าน่ะครับ อย่าคิดมากสิ” คุณอรัญหัวเราะออกมาเต็มเสียง ทำเอาฉันเขินเล็กน้อยที่พูดอะไรไร้สาระออกไป
“นั่นสินะคะ งั้นเรื่องถัดไปเป็นของห้องไหนคะ” คราวนี้คุณอรัญเลิกคิ้วใส่ฉัน ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงและสีหน้างงงวย
“อยากฟังต่อเลยเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ เมื่อกี้กำลังเพลินเลย ฉันอยากฟังต่อหรือเรื่องเล่ามีแค่ของห้องนี้เหรอคะ”
“ทุกห้องมีเรื่องราวของตัวเองครับ ผมแค่รู้สึกแปลกใจที่คุณบัวอยากฟังต่อตอนนี้เลย” เขาส่งยิ้มแบบนั้นมาให้ฉันอีกแล้ว เวลาพูดเรื่องอะไรแบบนี้ทำไมรอยยิ้มของเขาดูหลอนพิกล แต่ช่างเถอะตอนนี้ฉันกำลังสนุกเลย
“จริงสิคะ ลืมถามเรื่องสำคัญไปเลยค่ะ ผีที่คุณเกศเจอ...เอ่อ...ฉันหมายถึงที่นี่มีผีจริงมั้ยคะ ถ้ามีจริงแล้วทำไมผีตัวนั้นถึงอยู่ที่นี่ล่ะคะ ใช่คนที่ตายคาเตียงนอนในห้องอย่างที่ผู้เช่าห้องหกบอกรึเปล่า แล้วทำไมต้องเป็นเส้นผมด้วยคะ มีแต่เรื่องน่าสงสัยเต็มไปหมดเลยค่ะ” ฉันร่ายยาวข้อสงสัยออกไปทั้งหมดที่คิดได้
“โห ให้ผมตอบคำถามไหนก่อนดีครับเนี่ย...เรื่องที่หอพักนี้มีผีจริงมั้ย ทำไมผีตัวนั้นถึงอยู่ที่นี่หรือผีตัวนั้นจะใช่คนที่ตายคาเตียงรึเปล่า ผมขอไม่ตอบละกันครับ ถือซะว่าเป็นความลับของหอพัก ไว้คุณบัวค่อยหาคำตอบด้วยตัวเองดีมั้ยครับ” คำตอบของเขาช่างแสนเจ้าเล่ห์ ก่อนจะพูดอีกครั้ง
“ส่วนเรื่องเส้นผมอาจเป็นความชอบส่วนบุคคลมั้งครับ จากข้อมูลที่ผู้เช่าห้องหกบอกว่าห้องนั้นชอบสะสมของแปลก ๆ เธออาจจะชอบสะสมเส้นผมก็ได้ครับ”
“ชอบสะสมเส้นผมเหรอคะ รสนิยมลึกล้ำกว่าที่คิดนะคะ แต่ฉันจะคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องเล่าดีกว่าค่ะเพราะฉันอยู่ติดห้องนั้น ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริงขึ้นมา น่ากลัวแย่เลยนะคะ” คิดถึงตรงนี้ก็ขนลุกอีกครั้ง ถ้าฉันเจอเรื่องแบบนั้นมีหวังตายแน่
“หืม น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอครับ เอาไงดีล่ะ ผมไม่กล้าเล่าเรื่องใหม่ให้คุณบัวฟังแล้วนะครับเนี่ย” ครั้งนี้ฉันไม่เชื่อคำพูดของเขาเลยแม้แต่น้อยเพราะถึงปากจะบอกว่าไม่อยากเล่า แต่แววตากลับเปล่งประกายพร้อมเล่าต่อเป็นอย่างมาก ไว้วันไหนฉันเจอเรื่องหลอนแบบนี้จะมาเล่าให้คุณอรัญฟังเป็นคนแรกเลย
“สรุปว่าเรื่องถัดไปเป็นเรื่องของห้องไหนคะ ฉันถามไปนานแล้วแต่คุณยังไม่ตอบเลย” ฉันทวงคำตอบ
“ผมจะเล่าโดยเรียงลำดับตามหมายเลขห้องพักนะครับ...จะได้ไม่ลืมว่าคุณบัวฟังเรื่องของห้องไหนไปแล้วบ้าง” ฉันรู้สึกดีใจอีกครั้งที่เขาใส่ใจแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยขนาดนี้
“ดีเลยค่ะ ฉันจะฟังทุกเรื่องเล่าของหอพักนี้เลย” ฉันตอบพร้อมยกยิ้มกว้าง ก่อนหยิบปากกาเตรียมจดบันทึกเรื่องถัดไป
“งั้นผมเล่าเรื่องถัดไปให้ฟังเลยนะครับ”