เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นในหอพักที่ฉันเช่าอยู่ค่ะ
ลึกลับ,ระทึกขวัญ,เลือดสาด,ไทย,blood,gore,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ห้อง(ไม่)ว่างให้เช่า [มี E-book]เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นในหอพักที่ฉันเช่าอยู่ค่ะ
**คำเตือน**
นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาบางส่วนที่ค่อนข้างรุนแรง
เช่น การบรรยายถึงเลือด น้ำหนอง อวัยวะของมนุษย์
รวมไปถึงพฤติกรรม การกระทำหรือคำพูดที่ไม่เหมาะสม
นักเขียนไม่มีเจตนาส่งเสริมการกระทำใดก็ตามที่เกิดขึ้นในเรื่อง
ฉะนั้นโปรดใช้วิจารญาณในการอ่านนะคะ
หากท่านใดไม่สะดวกใจที่จะอ่านเนื้อหาดังกล่าว
รออ่านนิยายเรื่องอื่นของภุมโมได้นะคะ💕
ปล.นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของภุมโมเท่านั้น
ขอให้ทุกท่านสนุกกับการอ่านค่ะ🍀
ในยุคที่งานเริ่มหายากขึ้นเรื่อย ๆ ชายวัยทำงานคนหนึ่งกลับถูกไล่ออกจากงาน เขาเดินคอตกกลับไปยังโต๊ะของตนเองเพื่อเก็บของพลางนึกถึงชีวิตที่ผ่านมา เขาเรียนจบเกียรตินิยมจากคณะบริหารทั่วไป มหาวิทยาลัย XX และได้เข้าทำงานในบริษัทชั้นแนวหน้าหลายแห่ง ก่อนจะถูกไล่ออกจากบริษัทเหล่านั้น
ปัจจุบันชายคนนี้อายุย่างเข้าสามสิบห้าแล้ว เขามีรูปร่างผอมบางสูงโย่ง ผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นทรง เดินห่อไหล่หลังโก่ง สวมแว่นสายตาหนาเตอะบดบังครึ่งหน้า สวมกางเกงสแลคสีดำตัวโคร่ง เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนที่มีรอยยับยู่ยี่ราวกับไม่ได้ผ่านการรีดช่างเหมาะสมกับรองเท้าหนังสีดำที่ไม่ได้รับการดูแลเลย มันไม่มีความเงาวาวแม้แต่น้อย
สายตาคนรอบข้างที่มองเขาต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาไม่มีความกระตือรือร้นเอาซะเลย ชีวิตช่างดูเอื่อยเฉื่อยราบเรียบ ไม่คบค้าสมาคมกับใคร ไม่มีการเข้าร่วมงานสังสรรค์หรือกิจกรรมของบริษัท ไม่ดูแลเอาใส่ใจตัวเอง เทียบได้ว่าเป็นบุคคลชนชั้นล่างในห่วงโซ่อาหารของวัฏจักรสังคมการทำงานอย่างแท้จริง และตอนนี้เขาทำได้เพียงถือลังสัมภาระขนาดกลางที่ภายในเต็มไปด้วยเอกสารและของใช้ส่วนตัว ก่อนจะเดินอำลาเพื่อนร่วมงานในแผนกและก้าวเท้าออกจากบริษัท
สองขายาวเดินทอดน่องไปตามทางเดินอย่างไร้จุดหมาย ก่อนจะหยุดตรงม้านั่งในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เขาวางสัมภาระลงข้างตัวและนั่งพัก ชายวัยทำงานเงยหน้ามองท้องฟ้าพลางหลับตาลงหวังตัดขาดตัวเองออกจากโลกใบนี้เพียงชั่วครู่ ลมเย็นพัดมาเป็นระยะช่างผ่อนคลายเหลือเกิน บรรยากาศที่เงียบสงบทำให้จิตใจของเขาเหมือนได้รับการปลอบประโลม เขาเคลิบเคลิ้มไปกับช่วงเวลาอันแสนสุข โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้มีใครบางคนนั่งลงตรงพื้นที่ว่างข้าง ๆ เขา
“บรรยากาศดีใช่มั้ยครับ ผมก็ชอบมานั่งที่นี่เหมือนกัน” เสียงนุ่มทุ้มปริศนาของชายคนหนึ่งดังขึ้นและทำให้ชายวัยทำงานลืมตาด้วยความตกใจ เขารีบหันมองเจ้าของเสียงก่อนจะพบว่ามีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างตัว ชายวัยทำงานรีบขยับลังสัมภาระให้ชิดตัวเองมากขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้อีกฝั่ง พร้อมตอบกลับคำทักทายเมื่อครู่
“...ผมเพิ่งเคยมา...ที่นี่ครับ…” น้ำเสียงแสนเบาหวิวของชายวัยทำงานถูกเอื้อนเอ่ยตอบชายแปลกหน้าและมองพิจารณา
ชายแปลกหน้าคนนี้มีรูปร่างผอมบางกว่าเขา ผิวขาวซีดเหมือนคนป่วย สวมเสื้อเชิ้ตคอจีนสีครีมช่างเข้ากับกางเกงขายาวสีน้ำตาลเข้มเสียเหลือเกิน สวมใส่รองเท้าผ้าใบสีขาวสะอาดตา เส้นผมสีดำถูกเซ็ตทรงมาอย่างดีเหมาะกับใบหน้าอันหล่อเหลา ช่างแตกต่างจากชายวัยสามสิบห้าอย่างเขาราวฟ้ากับเหว
สำรวจชายแปลกหน้าเสร็จแล้วก็นั่งมองใบหญ้าพลิ้วไหวเอนลู่ไปตามลม รับฟังเสียงใบไม้จากต้นไม้รอบข้างสีกันไปมาด้วยอารมณ์ผ่อนคลายกระทั่งเวลาได้ล่วงเลยไป ชายวัยทำงานหยิบลังสัมภาระขึ้นและกำลังจะลุกออกจากม้านั่ง ทว่าร่างกายก็หยุดชะงักจากความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา ‘ตอนนี้เขาต้องไปที่ไหนล่ะ’
ชายวัยทำงานที่เพิ่งกลายเป็นคนว่างงานแถมยังไม่มีเงินมากพอสำหรับจ่ายค่าเช่าห้องที่ค้างอยู่อีกด้วย เจ้าของห้องเช่าต้องบังคับให้เขาย้ายออกแน่แต่จะให้ย้ายไปไหน ในเมื่อตอนนี้เขายังไม่ได้หาห้องเช่าใหม่เลย คิดได้แบบนั้นชายวัยทำงานก็วางลังสัมภาระที่ถืออยู่และนั่งลงตามเดิม
“ไม่กลับแล้วเหรอครับ” ชายแปลกหน้าเอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“…ครับ...คือผมเพิ่งถูกไล่ออกจากงานและไม่มีเงินจ่ายเช่าห้องสองเดือนแล้วครับ...คิดว่าคงต้องหาที่พักใหม่เร็ว ๆ นี้...แต่ผมไม่รู้ว่าต้องหาห้องเช่าแถวไหน…เพราะตอนนี้ผมเพิ่งว่างงาน...กลัวว่าถ้าได้งานที่ไกลจากห้องพักจะต้องย้ายห้องอีก...แบบนั้นผมคิดว่าเงินที่มีคงไม่พอครับ” ชายวัยทำงานบอกเล่าเรื่องจริงด้วยน้ำเสียงหดหู่พร้อมท่าทางหมดอาลัย
“เรื่องราวสาหัสน่าดูเลยนะครับ ว่าแต่คุณไม่มีครอบครัว ญาติ เพื่อนสนิทหรือใครสักคนที่พอจะขอความช่วยเหลือได้เลยเหรอครับ” ชายแปลกหน้าพูดพลางแสดงสีหน้าสงสารจับใจ
“…ตั้งแต่จำความได้...ผมก็ใช้ชีวิตอยู่กับยายมาตลอด...แต่ยายเสียแล้วครับ...ไม่มีใครจะมาช่วยเหลือคนแบบผมหรอก...ผมมีภรรยาครับ...แต่เธอจากไปเมื่อหลายปีก่อน…ตั้งแต่ตอนนั้นหน้าที่การงานของผมก็ตกต่ำลง...ทำให้การเงินมีปัญหาไปด้วย” ชายวัยทำงานตอบกลับด้วยน้ำเสียงเศร้าหมองหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง พูดจบเขาก็นั่งนิ่งและทอดสายตามองออกไปเบื้องหน้าอย่างเลื่อนลอย
“สงสัยการที่เราได้มาเจอกันในวันนี้คงไม่เรื่องบังเอิญแน่เลยครับ มันอาจจะฟังดูแปลก ๆ แต่อันที่จริงผมเป็นผู้ดูแลหอพักแห่งหนึ่งแถวนี้ครับ หออยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่แถมตอนนี้ก็มีห้องว่างเหลืออยู่ด้วย โชคชะตาพาให้คุณมาเจอผมแล้วนะครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าคุณสนใจรึเปล่า” ชายแปลกหน้ากล่าวเชิญชวนพร้อมรอยยิ้ม คำพูดนั้นทำให้ชายวัยทำงานรู้สึกมีความหวังขึ้นมา
“…ค่าเช่าแพงมากมั้ยครับ...ผมต้องจ่ายเงินค่ามัดจำก่อนเข้าอยู่รึเปล่า...ผมมีเงินไม่เยอะนะครับ...อีกอย่างคุณก็รู้ว่าตอนนี้ผมเป็นคนว่างงาน…คุณมั่นใจได้ยังไงครับว่าผมจะไม่เบี้ยวค่าเช่า” เขารัวคำถามใส่ชายแปลกหน้า เพราะภายในใจเต็มไปด้วยความกังวลและความเกรงใจ
“ผมคิดว่าค่าเช่าไม่แพงนะครับ ค่ามัดจำก็ไม่ต้องจ่าย ส่วนเรื่องที่กลัวคุณเบี้ยวค่าเช่าเนี่ย ไม่เป็นไรครับ คุณมีงานมีเงินพร้อมจ่ายเมื่อไหร่ก็ค่อยเอามาจ่ายผมนะครับ” ชายแปลกหน้าตอบไปยิ้มไปพร้อมหันมองชายวัยทำงานก่อนจะลุกขึ้นยืน
“...แบบนั้นจะดีเหรอครับ...ผมเกรงใจ...” ชายวัยทำงานยังคงลังเลกับเรื่องนี้
“แต่ยังไงคุณก็ต้องหาห้องเช่าใหม่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ ผมคิดว่าไปดูห้องว่างที่หอผมไว้ก่อน ก็ไม่น่ามีอะไรเสียหายนะ อีกอย่างหอพักอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ด้วย ไปกันเถอะครับ…คุณ…” ชายแปลกหน้าเอ่ยเชิญชวนเขาอีกครั้งและดูเหมือนว่าจะสำเร็จ
“…ปรีชาครับ..ผมชื่อปรีชา...เรียกชาก็ได้ครับ…”
“ครับ...ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณชา”
ทั้งคู่เดินออกจากสวนสาธารณะไปด้วยกัน ระหว่างทางปรีชาไม่กล้าแม้แต่จะถามชื่อของชายแปลกหน้า เขาทำเพียงเดินตามไปอย่างเงียบ ๆ พลางนึกเห็นด้วยกับเรื่องที่เจ้าตัวเล่าว่ามาที่สวนสาธารณะแห่งนี้บ่อยเพราะชายแปลกหน้ารู้จักเส้นทางแถวนี้เป็นอย่างดี ทว่าตอนนั้นเองที่ภายในใจของปรีชารู้สึกกังวลเพราะเขาไม่รู้เลยว่าห้องพักที่อีกฝ่ายเสนอให้เช่านั้นมีสภาพแบบไหน
จนกระทั่งชายแปลกหน้าหยุดนิ่งตรงหน้าประตูรั้วสีขาวที่ปิดล้อมอาคารไม้หลังหนึ่งไว้ภายใน สนามหญ้าสีเขียวกว้างขวาง สายลมเย็นพัดมาตลอดเวลาให้ชื่นใจ สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้านี้ทำให้ความคิดของชายวัยทำงานเปลี่ยนไป สวรรค์! หอพักนี้เปรียบเหมือนสวรรค์ไม่ก็วิมานบนดินสำหรับปรีชา
“เชิญครับคุณชา ตอนนี้น่าจะมีห้องว่างอยู่หลายห้อง เดี๋ยวผมพาไปดูนะครับ” ชายแปลกหน้าเปิดประตูรั้วก่อนจะเดินนำไปยังหอพัก ทว่าตอนนั้นเองที่คิ้วของเขาต้องขมวดเข้าหากันเพราะไม่มีวี่แววของชายวัยทำงานที่ควรเดินตามหลังมา
“คุณชาทำอะไรอยู่ครับ” ชายแปลกหน้าเอ่ยถามทันทีเมื่อเจอคนที่เขาตามหา ขณะเดียวกันปรีชาที่กำลังถอดรองเท้าอยู่ก็สะดุ้งเพราะเสียงเรียก
“...ถอดรองเท้า...ครับ…” ชายวัยทำงานเห็นว่าพื้นอาคารสะอาดเอี่ยมอ่อง เขาไม่อยากให้สิ่งสกปรกจากรองเท้าของเขาสร้างรอยเปื้อนทิ้งไว้ จึงตัดสินใจจะถอดรองเท้าวางไว้ด้านนอก
“ทำไมถอดตรงนี้ล่ะครับ คุณชาควรจะถอดรองเท้าไว้ในห้องของตัวเองนะครับ” พูดจบชายแปลกหน้าก็เดินนำไปโดยไม่รอช้า ปรีชารู้สึกเขินอายกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเมื่อครู่ เขาจึงรีบลุกขึ้นเพื่อจะเดินตามอีกฝ่ายให้ทัน ทว่าจังหวะที่ลุกขึ้นนั้นไม่ได้ระวังเลยชนเข้ากับเด็กสาวคนหนึ่งที่เพิ่งออกมาจากห้องพอดี
.
.
.
โมเพิ่งหายจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A มาค่ะ...หวังว่าทุกคนจะสบายดีนะคะ
ปล. อย่าลืมดูแลสุขภาพเพื่อจะได้มีแรงกลับมาอ่านนิยายกันนะ><