เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นในหอพักที่ฉันเช่าอยู่ค่ะ
ลึกลับ,ระทึกขวัญ,เลือดสาด,ไทย,blood,gore,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ห้อง(ไม่)ว่างให้เช่า [มี E-book]เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นในหอพักที่ฉันเช่าอยู่ค่ะ
**คำเตือน**
นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาบางส่วนที่ค่อนข้างรุนแรง
เช่น การบรรยายถึงเลือด น้ำหนอง อวัยวะของมนุษย์
รวมไปถึงพฤติกรรม การกระทำหรือคำพูดที่ไม่เหมาะสม
นักเขียนไม่มีเจตนาส่งเสริมการกระทำใดก็ตามที่เกิดขึ้นในเรื่อง
ฉะนั้นโปรดใช้วิจารญาณในการอ่านนะคะ
หากท่านใดไม่สะดวกใจที่จะอ่านเนื้อหาดังกล่าว
รออ่านนิยายเรื่องอื่นของภุมโมได้นะคะ💕
ปล.นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของภุมโมเท่านั้น
ขอให้ทุกท่านสนุกกับการอ่านค่ะ🍀
เย็นวันถัดไปสาววัยทำงานมารอเจอลุงแปลกหน้าคนนั้นในสวนสาธารณะตามที่นัดหมายกันไว้และขณะนี้เวลาสิบแปดนาฬิกาสามสิบห้านาที เธอนั่งลงบนม้านั่งตัวเดียวกับเมื่อวานพลางคิดว่าตั้งแต่เข้าสู่ช่วงชีวิตวัยทำงานก็ไม่มีเวลามากพอให้มานั่งดื่มด่ำธรรมชาติแบบนี้เลย เธอมองไปรอบข้างเพื่อเก็บภาพบรรยากาศเหล่านั้นด้วยความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ ก่อนจะหลับตาลง เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยและสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด ทว่าเธอก็ต้องลืมตาขึ้นเพราะมีเสียงของใครบางคนเอ่ยทักเธอ
“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณคือคนที่มาตามหาห้องเช่าเมื่อวานรึเปล่าครับ”
“ใช่ค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ” สาววัยทำงานหันมองตามเสียงเรียกและตอบกลับไป ขณะมองสำรวจชายตรงหน้า
“คุณลุงผู้ดูแลให้ผมมาพาคุณไปดูห้องว่างที่หอน่ะครับ พอดีแกมาไม่ได้แล้ว” เมื่อได้ยินชายแปลกหน้ากล่าวอ้างถึงคนที่เธอกำลังรอคอย สาววัยทำงานก็ลุกขึ้นจากม้านั่งด้วยความตกใจ
“ลุงมาไม่ได้แล้วหมายความว่ายังไงคะ เกิดอะไรขึ้น” น้ำเสียงของเธอร้อนรนกระวนกระวายกว่าทุกครั้ง
“ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงแต่ตอนนี้คุณลุงมาไม่ได้แล้ว...ไม่แน่ใจว่าคุณยังอยากไปดูห้องเช่าอยู่มั้ยครับ” ชายแปลกหน้าไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรกับเธอเลยแถมยังถามประเด็นหลักเรื่องการไปดูห้องพักที่เธอได้นัดหมายไว้อีกด้วย
“ไปค่ะ” สาววัยทำงานไม่คิดเอะใจเรื่องของชายตรงหน้าเลยสักนิด แต่ถึงแม้เธอจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจก็ทำอะไรไม่ได้เพราะตอนนี้เธอต้องการห้องเช่าเพื่ออยู่อาศัยเลยทำได้แค่หวังให้ชายแปลกหน้าคนนี้เป็นคนดี
ทั้งคู่ใช้เวลาไม่นานก็เดินทางมาถึงหอพักที่เขากล่าวถึง ระหว่างนั้นท้องฟ้ายามเย็นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทาครึ้มเมฆครึ้มฝน สาววัยทำงานรีบเดินเข้าไปในอาคารก่อนจะโดนเม็ดฝนเล่นงาน เธอมองสายฝนที่สาดซัดลงมาพลางคิดว่าเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝนอย่างเต็มตัวแล้วสินะ ก่อนจะคิดได้ว่าถ้าฝนยังตกหนักแบบนี้ไปอีกสักระยะเธอต้องกลับห้องไม่ได้อย่างแน่นอน
“เอ่อ...คุณ...” ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลิดเพลินอยู่นั้น เสียงนุ่มทุ้มของชายแปลกหน้าก็เอ่ยขึ้นท่ามกลางเสียงฝน
“ลืมแนะนำตัวกันเลย ฉันชื่อนาค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” เสียงทักจากเขาทำให้สาววัยทำงานรู้ตัวว่าทั้งคู่ยังไม่รู้จักกันเลย
“ยินดีเช่นกันครับ หลังจากนี้ผมน่าจะต้องเป็นผู้ดูแลหอต่อจากคุณลุง งั้นคุณเรียกผมว่าคุณผู้ดูแลดีมั้ยครับ”
“ตามนั้นค่ะคุณผู้ดูแล” สาววัยทำงานตอบตกลงเพราะเธอคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องรู้จักสนิทสนมกับผู้ดูแลหอพักขนาดนั้น ชายแปลกหน้าอยากให้เธอเรียกเขาว่าอะไร เธอก็จะเรียกตามนั้น
“ของที่หล่นอยู่ตรงนั้นใช่ป้ายชื่อของคุณนารึเปล่าครับ” สายตาของเธอมองตามมือขาวซีดที่ชี้ออกไปนอกอาคาร ก่อนจะเห็นเข็มกลัดป้ายชื่อตัวเองตกหล่นอยู่บนพื้นที่ตอนนี้เต็มไปด้วยแอ่งน้ำนองจากสายฝน
“เดี๋ยวผมไปเก็บให้ครับ” สิ้นเสียง ชายแปลกหน้าก็รีบวิ่งฝ่าฝนออกไปหยิบป้ายชื่อและกลับเข้ามาในอาคารด้วยสภาพเปียกปอน มือขาวซีดยื่นป้ายชื่อแผ่นนั้นมาตรงหน้าเธอ ก่อนจะยกมืออีกข้างขึ้นเสยผม
“ป้ายชื่อครับคุณพรรณนา” สาววัยทำงานเกรงใจมากที่ป้ายชื่อของเธอทำให้ชายตรงหน้าต้องตกอยู่ในสภาพนี้ ทว่าการกระทำของเขากลับส่งผลให้หัวใจเธอเต้นผิดจังหวะเล็กน้อย
“คุณแอบอ่านชื่อฉันเหรอคะเนี่ย” จากชื่อที่เขาเรียกเธอเมื่อครู่ก็แน่ชัดอยู่แล้วว่าเขาอ่านชื่อจริงของเธอที่สลักอยู่บนป้าย
“ผมเผลอเห็นนิดหน่อยเองครับ” คุณผู้ดูแลลูบท้ายทอยแก้เขินขณะตอบเสียงเบาจนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะท่าทีเขินอายนั้น
“แต่ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ...อันที่จริงรอให้ฝนหยุดก่อนก็ได้ค่ะ ฉันค่อยไปเก็บเอง...คุณจะได้ไม่ต้องเปียกแบบนี้” เธอรับป้ายชื่อมาไว้ในมือโดยไม่ลืมกล่าวขอบคุณ
“ผมกลัวว่าป้ายชื่อจะไหลไปตามน้ำก่อนสิครับ เลยคิดว่าออกไปหยิบตอนนี้น่าจะดีกว่าแต่คุณนากลับบอกว่ารอให้ฝนหยุดก่อนค่อยไปเก็บเอง ผมที่ยอมเปียกขนาดนี้เสียใจแย่เลยครับ” ชายตรงหน้าที่เธอต้องเรียกว่าผู้ดูแลหันมายิ้มกว้างหลังพูดจบ จังหวะนั้นเองคำพูดแซวเล่นจากรุ่นน้องที่ทำงานก็ผุดขึ้นมาในหัว ‘พี่อาจจะไปได้แฟนใหม่สักคน ใครจะไปรู้’ เธอเผลอยิ้มให้กับความคิดไร้สาระนั้น...นั่นสินะ ใครจะไปรู้
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ แต่ฉันว่าคุณผู้ดูแลไปเปลี่ยนชุดก่อนดีค่ะ เปียกโชกขนาดนั้นเดี๋ยวจะป่วยเอาได้นะคะ” พรรณนาอ้ำอึ้งเล็กน้อยเพราะคิดว่าสิ่งที่เธอพูดอาจเป็นเรื่องส่วนตัว แต่เธอก็เลือกที่จะเสนอเรื่องเปลี่ยนเสื้อให้ชายตรงหน้ารับรู้
“แบบนั้นก็ดีนะครับ ผมยิ่งป่วยง่ายกว่าคนทั่วไปอยู่ด้วย งั้นระหว่างรอผมเปลี่ยนชุดคุณนาดูห้องพักไปพลาง ๆ ดีมั้ยครับ เดี๋ยวผมไขกุญแจห้องไว้ให้” คุณผู้ดูแลรู้ดีว่าการปล่อยให้ร่างกายเปียกแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเท่าไหร่และต้องรีบไปเปลี่ยนชุด ทว่าจะปล่อยให้สาววัยทำงานมายืนรอก็รู้สึกเกรงใจและกลัวว่าอาจจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์เลยเสนอให้อีกฝ่ายเลือกดูห้องพักที่เธอสนใจ
“ไม่ทราบว่าห้องนี้ว่างมั้ยคะ ถ้าว่างฉันขอดูห้องนี้ก็ได้ค่ะ” สาววัยทำงานเอ่ยถามขณะมองตรงไปยังบานประตูห้องตรงหน้า ระหว่างนั้นก็เห็นคุณผู้ดูแลหยิบพวงกุญแจขึ้นมาและหาดอกที่ติดป้ายกำกับหมายเลขห้องด้วยท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ ท้ายที่สุดบานประตู ห้องหมายเลข ๕ ก็ถูกเปิดออก คุณผู้ดูแลผายมือเชิญให้เข้าสำรวจห้องได้ตามอำเภอใจ
พรรณนาเดินสำรวจภายในห้องครบทุกองค์ประกอบและรู้สึกพึงพอใจกับการออกแบบภายในเป็นอย่างมากจนอยากคุยเรื่องเช่าห้องกับคุณผู้ดูแลโดยเร็ว ทว่าเขายังไม่กลับมาเสียที ขณะเดียวกันสายฝนด้านนอกก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง เธอเห็นแบบนั้นจึงตัดสินใจวางแผนนอนค้างที่นี่
สาววัยทำงานคิดว่าหากเธอเช่าห้องนี้เลยตั้งแต่วันนี้ก็อาจจะนอนค้างที่นี่ได้เลยรึเปล่า ทว่าไม่ทันได้วางแผนขั้นต่อไปเสียงของคุณผู้ดูแลก็ดังมาจากหน้าประตูห้อง
“เป็นไงครับ ห้องดูดีเลยใช่มั้ย” เขากล่าวน้ำเสียงติดเล่นแต่ดูเหมือนจะแฝงไปด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนจะยกมือขึ้นกอดอกขณะเอนตัวพิงวงกบประตู
“ค่ะ ฉันจะเช่าห้องนี้ค่ะ” สาววัยทำงานตกลงเช่าห้องนี้หลังจากคิดทบทวนอยู่พักใหญ่
“เยี่ยมเลยครับ...ได้คนแรกมาแล้ว” ดูเหมือนว่าคุณผู้ดูแลจะดีใจเกินไปหน่อยทำให้ประโยคแรกของเขาเสียงดังฟังชัดมาก ก่อนจะลดระดับเสียงให้เบาลงในประโยคถัดไป ขณะเดียวกันสาววัยทำงานที่ได้ยินประโยคหลังไม่ชัดจึงเอ่ยถามย้ำให้แน่ใจ
“อะไรนะคะ”
“เปล่าครับ” เสียงตอบของคุณผู้ดูแลถูกส่งมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง เธอจึงคิดว่าประโยคเมื่อครู่ที่เขาพูดเสียงเบานั้นคงพูดพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะลองเชิงว่าเขาใจดีหรือไม่ด้วยการถามถึงสิ่งที่เธอต้องการไปตามตรง ซึ่งสิ่งนั้นคือเธอต้องการนอนพักที่นี่ในคืนนี้เลย
“จริงสิ ยังไงฉันก็เช่าห้องนี้แน่นอนอยู่แล้ว คืนนี้ขอค้างที่นี่เลยได้มั้ยคะ ข้างนอกฝนยังตกหนักอยู่เลยและดูเหมือนจะยังไม่หยุดตกเร็ว ๆ นี้”
“พักได้เลยครับห้องนี้เป็นของคุณแล้ว แต่ดูเหมือนคุณจะไม่ได้เตรียมของใช้ส่วนตัวมาเลย คุณนามั่นใจนะครับว่าจะอยู่ได้” เขาตอบทันทีราวกับมีคำตอบในใจอยู่แล้ว พลางยื่นกุญแจห้องให้สาววัยทำงานก่อนถามไถ่เรื่องส่วนตัวเล็กน้อยด้วยความห่วงใย
“ในห้องมีเตียงนอนให้แล้วฉันน่าจะพออยู่ได้ค่ะ ขอแค่ผ่านคืนนี้ไปได้ก็โอเคแล้ว ส่วนข้าวของเครื่องใช้คงต้องขนย้ายมาอีกทีค่ะ” เธอตอบพร้อมหันมองเตียงนอนที่ตั้งเด่นอยู่กลางห้อง จากการสำรวจห้องเมื่อครู่เธอมั่นใจมากว่าสามารถใช้ชีวิตให้ผ่านคืนนี้ไปได้ ตอนเช้าค่อยเดินทางกลับห้องเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน ส่วนเรื่องย้ายของคงต้องวางแผนกันอีกที
“เอ่อ...งั้นผมขอตัวก่อนดีกว่าครับ คุณนาจะได้พักผ่อน” เมื่อมอบกุญแจห้องให้ผู้เช่าเรียบร้อยก็หมดหน้าที่ของผู้ดูแลแล้ว เขาเองก็คิดว่าจังหวะนี้เป็นเวลาอันสมควรที่จะปล่อยให้เธอได้มีเวลาส่วนตัวจึงกล่าวลา สาววัยทำงานพยักหน้ารับคำบอกลานั้น ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างเพราะประโยคถัดมา
“ยังไงก็...ยินดีต้อนรับนะครับคุณนา”
.
.
.