เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นในหอพักที่ฉันเช่าอยู่ค่ะ
ลึกลับ,ระทึกขวัญ,เลือดสาด,ไทย,blood,gore,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ห้อง(ไม่)ว่างให้เช่า [มี E-book]เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นในหอพักที่ฉันเช่าอยู่ค่ะ
**คำเตือน**
นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาบางส่วนที่ค่อนข้างรุนแรง
เช่น การบรรยายถึงเลือด น้ำหนอง อวัยวะของมนุษย์
รวมไปถึงพฤติกรรม การกระทำหรือคำพูดที่ไม่เหมาะสม
นักเขียนไม่มีเจตนาส่งเสริมการกระทำใดก็ตามที่เกิดขึ้นในเรื่อง
ฉะนั้นโปรดใช้วิจารญาณในการอ่านนะคะ
หากท่านใดไม่สะดวกใจที่จะอ่านเนื้อหาดังกล่าว
รออ่านนิยายเรื่องอื่นของภุมโมได้นะคะ💕
ปล.นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของภุมโมเท่านั้น
ขอให้ทุกท่านสนุกกับการอ่านค่ะ🍀
สาววัยทำงานปิดประตูห้องก่อนจะล็อคกลอนเรียบร้อยพลางนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ช่วงนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเธอตามที่รุ่นน้องบอกก็เป็นได้ เธอภาวนาให้ชีวิตต่อจากนี้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามความเหมาะสมที่โชคชะตาจะนำพา
พรรณนาถอดรองเท้าส้นสูงสีดำวางชิดริมผนังใกล้ตู้เย็น หมุนข้อเท้าทั้งสองข้างเล็กน้อยคลายอาการปวดเมื่อย ก่อนจะเดินไปวางกระเป๋าใบเล็กบนโต๊ะไม้ตัวเก่า ถอดเสื้อสูทออกและพาดบนพนักพิงเก้าอี้ไม้ที่วางคู่กัน เธอนั่งลงพลางยกมือข้างถนัดถอดหน้ากากอนามัยที่สวมอยู่
ขณะที่มืออีกข้างหยิบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่พกติดตัวออกจากกระเป๋าและบรรจงเช็ดคราบเครื่องสำอางบนใบหน้า รอบดวงตา ลำคอและท้ายทอยจนสะอาดหมดจด สองมือแกะมวยผมที่ผูกมัดไว้ให้เป็นอิสระก่อนจะรวบผมใหม่อีกครั้งและมัดอย่างลวก ๆ
เธอลุกไปห้องน้ำขณะเดียวกันก็ถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เต็มไปด้วยคราบเหงื่อออกด้วย เธออยากล้างหน้าเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้ตัวเองสักหน่อย ทว่าจมูกดันได้กลิ่นเหม็นไม่พึงประสงค์เสียก่อน
“กลิ่นอะไรเนี่ย” สาววัยทำงานย่นจมูกทันทีที่ได้กลิ่นเหม็นเน่าราวกับมีอะไรบางอย่างตายในห้องน้ำนี้ เธอก้มมองน้ำที่ไหลออกมาจากก๊อกและใช้มือรองรับน้ำพวกนั้นก่อนยกขึ้นดม แต่ก็ไม่ได้กลิ่นผิดปกติจึงรีบล้างหน้าเพื่อออกจากพื้นที่ตรงนั้น
“สงสัยเหม็นส้วม ผู้เช่าคนก่อนใช้ชีวิตยังไงให้ห้องน้ำเหม็นเน่าขนาดนี้...จะขอเปลี่ยนห้องตอนนี้ก็เกรงใจคุณผู้ดูแลอีก ตอนย้ายเข้าค่อยซื้อน้ำยาล้างห้องน้ำมาทำความสะอาดละกัน” พรรณนาทำงานโดยมีความหอมห้อมล้อมตลอดเวลาจึงไม่แปลกที่เธอจะหัวเสียกับเรื่องกลิ่นเหม็นเป็นอย่างมาก
เธอนั่งลงบนเตียงก่อนจะเอนตัวนอนหนุนแขนบางของตัวเองและผล็อยหลับไป ขณะที่กำลังหลับใหลอยู่นั้นเธอมีอาการคันจมูกยุบยิบเป็นระยะแถมยังได้กลิ่นเหม็นโชยมาตลอดทั้งคืน ไม่ว่าพรรณนาจะขยี้จมูกอย่างแรงให้หายคันหรือบีบจมูกเพื่อไม่ให้ได้กลิ่นก็ไม่ช่วยให้อาการดีขึ้นเลย แต่เพราะความเหนื่อยล้าในช่วงหลายวันที่ผ่านมาบวกกับการเดินทางตามหาห้องพักและสายฝนที่ต้องเจอในวันนี้ทำให้เธอไม่อาจลืมตาตื่นขึ้นมาได้ พรรณนานึกแค้นในอกที่เธอต้องจำใจนอนในห้องใหม่แสนเหม็นและฝุ่นเยอะแบบนี้
.
.
.
เช้าวันใหม่ก่อนเดินทางกลับห้อง พรรณนาบังเอิญเจอคุณผู้ดูแลพอดีเลยถือโอกาสนี้บอกเขาถึงแผนการย้ายของเพราะเธอจำได้ว่าห้องเดิมที่เช่าอยู่น่าจะหมดสัญญาในอีกสองถึงสามสัปดาห์จึงอยากอยู่ที่นั่นให้ครบตามกำหนดและอาจจะไม่ได้ย้ายของเข้าอยู่ที่นี่เร็ว ๆ นี้
จนเวลาผ่านล่วงเลยมาถึงวันนี้วันที่เธอต้องย้ายห้องพัก และตอนนี้รถขนย้ายพัสดุที่พรรณนาติดต่อไว้จอดรออยู่หน้าห้องของเธอแล้ว เธอจัดเตรียมของไว้ตั้งแต่เมื่อสองวันก่อน ทั้งยังห่อหุ้มข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ อย่างแน่นหนาป้องกันการชำรุดเสียหายระหว่างขนส่ง ก่อนจะเดินทางไปยังห้องพักใหม่พร้อมพนักงานขนย้าย
เมื่อพรรณนาและพนักงานเดินทางมาถึงหอพักก็เห็นประตูรั้วสีขาวถูกเปิดกว้างจึงเลี้ยวรถเข้าไปจอดหน้าอาคารทันที สาววัยทำงานเดินลงไประบุห้องพักของตัวเองให้พนักงานทราบก่อนจะเห็นพนักงานทุกคนเร่งมือขนย้ายพัสดุอย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณมากนะคะ” สาววัยทำงานไม่ลืมกล่าวขอบคุณบรรดาพนักงานขนย้ายก่อนที่พวกเขาจะกลับ
“ด้วยความยินดีครับ” พนักงานตอบรับด้วยรอยยิ้มและกลับขึ้นรถ จากนั้นรถขนย้ายพัสดุก็ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกนอกรั้ว สาววัยทำงานยืนมองรถคันนั้นขับหายไปจนลับตา ก่อนจะสะดุ้งเพราะเสียงของคุณผู้ดูแล
“คุณนาของเยอะเลยนะครับ”
“คุณผู้ดูแลมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะคะ ตกใจหมดเลยค่ะ” เธอหันมองต้นเสียงด้วยความตกใจ สาบานได้ว่าเธอไม่รับรู้ถึงการมีตัวตนของเขาเลยแม้แต่น้อย นี่เขามายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“ตกใจขนาดนั้นเลยเหรอครับ ต้องขอโทษจริง ๆ ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณตกใจนะ” เขารีบเอ่ยขอโทษเมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอทำให้อีกฝ่ายตกใจกลัว
“แค่อย่าทำอีกก็พอค่ะ...จริงสิ วันนี้ฉันน่าจะอยู่ห้องทั้งวันเพื่อจัดข้าวของพวกนี้ ถ้าคุณมีอะไรให้ช่วยก็เคาะประตูได้นะคะ” พรรณนารู้ดีว่าพัสดุของเธอเยอะมากแค่ไหน การใช้เวลาทั้งวันสำหรับจัดเก็บของพวกนั้นให้เข้าที่เข้าทางเป็นการตัดสินใจที่ดี
“ผมรับปากว่าจะไม่ทำแบบนี้กับคุณนาอีกครับ...ผมขอเวลาคุณนาสักครู่ รบกวนเซ็นชื่อในเอกสารสัญญาแผ่นนี้ด้วยครับ ผมจะได้มีหลักฐานว่าคุณเข้าอยู่ที่นี่จริง” กระดาษแผ่นหนึ่งถูกยื่นมาให้สาววัยทำงาน
“เอกสารสัญญาแค่แผ่นเดียวใส่รายละเอียดเงื่อนไขและข้อตกลงการเช่าห้องพักได้ครอบคลุมเหรอคะ” จากประสบการณ์เธอคิดว่าข้อความที่ระบุในสัญญาเช่าห้องพักน่าจะเยอะและจุกจิกมากกว่านี้เลยถามคุณผู้ดูแลให้แน่ใจ
“ผมก็มือใหม่ซะด้วยสิ ไม่รู้เลยครับว่าต้องมีเงื่อนไขหรือต้องระบุอะไรในเอกสารบ้าง ไว้ผมจะลองศึกษาดูครับ”
“พยายามเข้านะคะ” พรรณนารับกระดาษแผ่นนั้นมาก่อนจะกวาดสายตาอ่านตัวหนังสือบนนั้นคร่าว ๆ ตอนนั้นเองที่พรรณนาเพิ่งนึกได้ว่าที่นี่เป็นหอพักและเคยมีผู้ดูแลอยู่แล้วจึงไม่มีเหตุจำเป็นที่คุณผู้ดูแลคนใหม่จะต้องร่างสัญญาเช่าขึ้นมาใหม่ เธออดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามถึงเรื่องนี้
“ว่าแต่ทำไมคุณถึงต้องร่างสัญญาเช่าฉบับใหม่ด้วยล่ะ ปกติหอพักแบบนี้น่าจะมีเอกสารพวกนั้นอยู่แล้วนะคะ ไม่แน่ใจว่าคุณลองถามคุณลุงดูรึยังคะ เผื่อแกมีเอกสารต้นฉบับค่ะ”
“จริงด้วยครับ ผมลืมคุณลุงไปเลย” สาววัยทำงานรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เขาพูดออกมาว่าลืมนึกถึงคุณลุงผู้ดูแลคนเก่า แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป ก่อนจะจรดปากกาและเขียนชื่อตัวเองลงในสัญญา ทันใดนั้นสายลมเย็นก็พัดมาพรรณนาหมุนตัวหลบทว่าไม่สามารถหลบได้ เธอเลยใช้มือซ้ายจับแผ่นกระดาษไว้แน่นขณะที่มือขวาเร่งเขียนชื่อให้เสร็จ เซ็นสัญญาเรียบร้อยสายลมนั้นก็มลายหายไป
“เมื่อกี้ลมพัดแรงมากเลยนะคะ” พรรณนาพูดขณะยื่นเอกสารสัญญาคืนคุณผู้ดูแล
“ปกตินะครับ แผ่นนี้ผมขอเก็บไว้เป็นต้นฉบับนะครับ” เขาตอบพลางเก็บกระดาษแผ่นนั้นใส่แฟ้มสีดำ
“ไม่ทราบว่าตอนนี้มีคนอยู่ในหอพักกี่คนคะ” พรรณนาอดไม่ได้ที่จะถามเรื่องนี้เพราะเธอจำได้ว่ายังไม่เคยเจอใครเลย
“หมายถึงผู้เช่าใช่มั้ยครับ ตอนนี้มีคุณทัศน์ห้องเจ็ดและน้องกันต์ห้องหก สองคนนั้นเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ก่อนหน้าคุณนาไม่กี่วันเองครับ แล้วก็มีน้องปรียวห้องสี่และคุณชาห้องสามครับ” ได้ยินแบบนั้นเธอก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อยที่รู้ว่าหอพักนี้มีคนอยู่เยอะกว่าที่เธอคิดไว้
“หมายความว่าตอนนี้ทุกคนอยู่ที่นี่กันหมดเลยเหรอคะ พอดีหอพักค่อนข้างเงียบมากจนไม่คิดว่าจะมีคนอยู่เยอะ ฉันรู้สึกวังเวงยังไงไม่รู้ค่ะ”
“สองคนที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ตอนนี้ก็พักอยู่ที่นี่นะครับ แต่คุณชาย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ได้สัปดาห์นิด ๆ ห้องเขาก็มีเหตุไฟไหม้ ช่วงนี้เลยต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อน ส่วนน้องเปรียวช่วงแรกก็เจอกันบ้างครับแต่วันก่อนเธอบอกว่าจะไปเที่ยวกับแฟน ตั้งแต่วันนั้นผมจำได้ว่าเห็นเธอกลับมานอนค้างที่นี่แค่คืนเดียวเลยไม่แน่ใจว่าเธอจะกลับมาที่นี่อีกทีวันไหนครับ” คำตอบจากคุณผู้ดูแลทำให้พรรณนาอึ้งเล็กน้อยเพราะเขาบอกรายละเอียดได้ครบถ้วนมาก มากจนรู้สึกว่าเขาจ้องมองทุกคนอยู่ตลอดเวลา
“ไฟไหม้เหรอคะ แล้วผู้เช่าคนนั้นเป็นอะไรมากรึเปล่า” เธอไม่ลืมที่จะถามถึงคุณชาเจ้าของห้องสามที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ด้วยความเป็นห่วง
“เขาไม่เป็นไรมากหรอกครับคุณนาไม่ต้องกังวล” ทว่าคำตอบของคุณผู้ดูแลยิ่งทำให้เธอรู้สึกกังวลพลางคิดว่าห้องพักเกิดไฟไหม้เจ้าของห้องจะไม่เป็นไรได้ยังไงกันแต่เธอก็ทำได้แค่เก็บความคิดนั้นไว้ใจ
“งั้นเหรอคะ...ไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ ถ้าคุณผู้ดูแลไม่มีธุระอะไรแล้ว ฉันขอตัวกลับไปจัดของต่อนะคะ” หากคิดในแง่ดีคืออย่างน้อยเธอก็ได้รับรู้ว่ามีคนอาศัยอยู่ที่นี่จริง ถึงแม้ว่าฟังดูแล้วช่วงเวลาอาจจะแคล้วคลาดกันก็ตาม
.
.
.
การไม่จามเป็นลาภอันประเสริฐ...โมเป็นภูมิแพ้ค่ะ จามทุกวันเลย TT