เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นในหอพักที่ฉันเช่าอยู่ค่ะ
ลึกลับ,ระทึกขวัญ,เลือดสาด,ไทย,blood,gore,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ห้อง(ไม่)ว่างให้เช่า [มี E-book]เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นในหอพักที่ฉันเช่าอยู่ค่ะ
**คำเตือน**
นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาบางส่วนที่ค่อนข้างรุนแรง
เช่น การบรรยายถึงเลือด น้ำหนอง อวัยวะของมนุษย์
รวมไปถึงพฤติกรรม การกระทำหรือคำพูดที่ไม่เหมาะสม
นักเขียนไม่มีเจตนาส่งเสริมการกระทำใดก็ตามที่เกิดขึ้นในเรื่อง
ฉะนั้นโปรดใช้วิจารญาณในการอ่านนะคะ
หากท่านใดไม่สะดวกใจที่จะอ่านเนื้อหาดังกล่าว
รออ่านนิยายเรื่องอื่นของภุมโมได้นะคะ💕
ปล.นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของภุมโมเท่านั้น
ขอให้ทุกท่านสนุกกับการอ่านค่ะ🍀
วันรุ่งขึ้น ชายหนุ่มก็ใช้ชีวิตทำงานเรื่อยเปื่อยตามปกติ ก่อนจะเดินทางมาถึงหอพักแสนรื่นรมที่บังเอิญเจอเมื่อวานในเวลาใกล้เคียงกัน ทว่าวันนี้เขากลับไม่เจอคุณผู้ดูแลคนนั้นเลย ชายหนุ่มจึงฉวยโอกาสนี้เดินเข้าไปสำรวจรอบ ๆ อาคาร ก่อนจะมาหยุดนิ่งอยู่หน้าต้นไทรต้นใหญ่ที่มีลำต้นหนามากจนอาจจะต้องใช้หลายคนโอบถึงจะล้อมรอบ
ชายหนุ่มเดินวนรอบต้นไทรต้นนั้นและมองด้วยความทึ่งพร้อมหยิบยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาไว้ในมือเตรียมพร้อมกดชัตเตอร์ เขายกกล้องขึ้นและแนบดวงตามองผ่านเลนส์ ก่อนจะหันไปเห็นชายกระโปรงสีขาวกำลังพลิ้วไหวอยู่ตรงระเบียงห้องริมสุดพลางคิดว่าจะต้องเป็นผู้หญิงคนที่เจอเมื่อวานแน่นอน
เขาตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้ขึ้นอีกหน่อยเพื่อดูให้แน่ใจขณะเดียวกันก็ปรับโฟกัสเลนส์กล้องไปด้วย ทว่าสายลมเย็นก็ได้พัดผ่านมาวูบใหญ่พร้อมกับใบหน้าหญิงสาวที่ยื่นออกมารับลม ทัศพลเห็นแบบนั้นก็ไม่รอช้าที่จะกดชัตเตอร์ถ่ายรูปเธอทันที
“สวัสดีครับคุณทัศน์” เสียงของคุณผู้ดูแลที่เอ่ยทักเขานั้นทำให้ทัศน์รีบลดระดับกล้องในมือลงและหันมอง
“โอ้! สวัสดีครับ ผมต้องขอโทษด้วยที่ถ่ายรูปโดยพลการแต่เมื่อกี้ลมพัดมาทำให้ต้นไทรดูน่าหลงใหลมาก ผมอดไม่ได้ที่จะหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายภาพนั้นเก็บไว้จริง ๆ ครับ” ชายหนุ่มเดินตรงไปหาคุณผู้ดูแลและรีบกล่าวคำขอโทษทันที เพราะเขากลัวว่าถ้าอีกฝ่ายรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของการกระทำเมื่อครู่ เขาอาจจะแย่เอาได้
“ไม่เป็นไรครับ คุณทัศน์ถ่ายได้เต็มที่เลย” ทว่าอีกฝ่ายตอบกลับพร้อมรอยยิ้มและนั่นยิ่งทำให้ทัศพลรู้สึกเกรงใจมากขึ้นไปอีก ก่อนที่คุณผู้ดูแลจะหันไปพูดกับเด็กหนุ่มแปลกหน้าคนหนึ่ง
“คนนี้คุณทัศน์ครับ คนที่พี่บอกว่านัดมาดูห้องพักวันนี้...ส่วนคนนี้คือ...น้อง...” คุณผู้ดูแลผายมือมาทางเขาและกล่าวแนะนำให้เด็กหนุ่มคนนั้นรู้จัก ก่อนจะผายมือไปทางเด็กหนุ่มและหยุดชะงักไปเล็กน้อย
“กันต์” น้ำเสียงเรียบนิ่งของเด็กหนุ่มแปลกหน้าเอ่ยขึ้นจนทำให้ชายหนุ่มคิดในใจว่าเด็กสมัยนี้น่ากลัวจริง ๆ
“โอเคครับ พอดีผมบังเอิญเจอกับน้องกันต์ระหว่างทาง น้องก็กำลังหาห้องเช่าอยู่เหมือนกัน ผมเลยตั้งใจพาน้องมาดูห้องพร้อมกันเลย หวังว่าคุณทัศน์จะไม่ว่าอะไรนะครับ”
“ผมไม่ปัญหาอะไรครับ แล้วแต่คุณผู้ดูแลสะดวกเลย” พูดจบชายหนุ่มก็หันไปยิ้มทักทายทั้งสองคนด้วยความเป็นมิตร ก่อนที่ทุกคนจะเดินเข้าไปในตัวอาคารพร้อมกัน
“แล้วพี่ล่ะชื่ออะไร” จู่ ๆ เสียงของเด็กหนุ่มก็เอ่ยถามขึ้นท่ามกลางความเงียบทำให้ทัศน์และคุณผู้ดูแลหยุดเดินกะทันหัน ก่อนจะเห็นว่าคุณผู้ดูแลหันไปมองเด็กหนุ่มพลางเลิกคิ้วสงสัย
“หมายถึงพี่เหรอครับ”
“จะให้หมายถึงใครล่ะ...ก็ผมรู้แล้วว่าพี่คนนั้นชื่อทัศน์” ทันทีที่ได้ยินคำตอบทัศพลก็รู้สึกว่าคิ้วของเขากระตุกเล็กน้อยเพราะความหงุดหงิดพลางคิดว่าเด็กอะไรกวนบาทาได้ขนาดนี้
“น้องกันต์เรียกพี่ว่าคุณผู้ดูแลเหมือนคนอื่น ๆ ก็ได้ครับ” ทว่าน้ำเสียงและรอยยิ้มที่คุณผู้ดูแลแสดงออกมาทำให้ชายหนุ่มกลับมามีสติและใจเย็นลง ก่อนจะคิดได้ว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กหนุ่มเลือดร้อนฉะนั้นเขาเองก็ควรจะใจเย็นให้ได้เหมือนคุณผู้ดูแลสินะ
“ตอนนี้มีห้องว่างสามห้องนะครับ ห้องสอง ห้องหกและห้องเจ็ด เลือกดูห้องได้ตามสบายเลย ผมขอตัวไปเตรียมเอกสารสักครู่ มีอะไรสงสัยก็เรียกผมได้ตลอดนะครับ” พูดจบ คุณผู้ดูแลก็เดินจากไปทิ้งให้เขากับเด็กหนุ่มอีกคนเลือกสำรวจห้องพักกันเอง
“น้องกันต์อยากเลือกห้องก่อนมั้ยครับ” คนอายุมากกว่าเอ่ยถามขึ้นอย่างใจเย็น ทัศน์คิดว่าอีกฝ่ายเด็กกว่าอาจจะอยากเลือกห้องก่อน ทว่าคำตอบที่ได้กลับมาทำให้รู้เลยว่าเด็กหนุ่มตรงหน้ามีความเป็นผู้ใหญ่มากทีเดียว
“พี่เลือกก่อนเลย พี่เป็นคนนัดไว้” น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้นพลางมองชายหนุ่มด้วยสายตาเฉยชา ช่างเป็นเด็กที่ดูดุดันซะจริง
“พี่ขออยู่ห้องเจ็ดนะครับ” ทัศน์ตอบกลับพลางหันมองห้องที่เขาเล็งไว้ ขณะที่อีกฝ่ายก็พยักเพยิดไปทางห้องที่อยู่ติดกัน
“งั้นผมอยู่ห้องนี้”
เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มเดินหายเข้าไปในห้องแล้ว ทัศพลก็แยกตัวไปสำรวจห้องที่เขาต้องการทันที ชายหนุ่มเดินตรงไปยังระเบียงด้านหลังและชะโงกหน้าไปดูระเบียงห้องริมสุดที่อยู่ติดกันทว่าไม่เห็นใครเลย ชายหนุ่มจิ๊ปากไม่สบอารมณ์เล็กน้อยและเดินกลับเข้ามาในห้อง เขามองไปรอบห้องและหยุดนิ่งราวกับกำลังคิดคำนวณอะไรบางอย่าง
เขาเปิดประตูห้องมาเจอเตียงนอนอยู่ซ้ายมือแสดงว่าผนังด้านขวาติดกับห้องเด็กหนุ่มห้องหก ฉะนั้นผนังด้านตรงข้ามก็ต้องติดกับห้องสุดท้ายคิดได้แบบนั้นก็ยกยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกหัวเสียอีกครั้งเพราะพื้นที่ตรงนั้นเป็นเตียงนอน ทว่าชายหนุ่มไม่ลดละความพยายาม เขาปีนขึ้นเตียงนอนและใช้หลังมือเคาะไปตามฝาผนังบนหัวเตียงเบา ๆ
“อ๊ะ! เจอแล้ว” เขาพูดกับตัวเองเสียงเบา ก่อนจะละมือออกจากฝาผนังและหยิบปากกาขึ้นทำสัญลักษณ์กากบาทเอาไว้
เมื่อสำรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทัศน์ก็เดินออกไปนอกห้องและเห็นว่าประตูของห้องหกถูกปิดไว้สนิทพลางคิดว่าเด็กหนุ่มหน้าดุคนนั้นดูห้องเสร็จแล้วแน่เลยหรือไม่ก็คงคุยกับคุณผู้ดูแลอยู่ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเดินไปหาคุณผู้ดูแลเช่นกัน
“ดูเสร็จแล้วเหรอครับคุณทัศน์”
“อ่าครับ...น้องเค้าไปไหนแล้วครับเนี่ย”
“น้องกันต์ดูห้องเสร็จสักพักแล้วครับ เขาตัดสินใจจะเช่าผมก็เลยให้เขาเซ็นสัญญาอะไรให้เรียบร้อย เอ่อ...เขาบอกว่าจะย้ายของเข้าวันนี้เลย คิดว่าน้องคงกลับไปเก็บของครับ”
“อ๋อครับ ผมก็เช่าเหมือนกันครับ ของผมห้องเจ็ด”
“งั้นรบกวนคุณทัศน์เซ็นเอกสารสัญญาตรงนี้เลยครับ” มือหนาของทัศพลหยิบปากกาขึ้นและจรดลงบนกระดาษที่ถูกยื่นมาตรงหน้าขณะเดียวกันก็มีสายลมเย็นโชยมาให้รู้สึกสดชื่นจนชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มกว้างออกมา เมื่อเซ็นเอกสารเสร็จเขาก็ส่งคืนให้คุณผู้ดูแล
“เรียบร้อยครับ ส่วนนี่กุญแจห้องครับ” เมื่อคุณผู้ดูแลตรวจสอบเอกสารเรียบร้อยก็ยื่นกุญแจ ห้องหมายเลข ๗ ให้ชายหนุ่มพร้อมกล่าวต้อนรับ
“ยินดีต้อนรับนะครับ...คุณทัศน์”
หลังจากได้รับกุญแจห้องแล้ว ทัศน์ก็กลับที่พักเก่าเพื่อไปเก็บของใช้ส่วนตัวเช่นกัน หนุ่มโสดที่ใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อยไปวัน ๆ และทำในสิ่งที่ชอบ อยากไปไหนก็ไป อยากกินอะไรก็กิน หลายคงมองมาที่เขาคงคิดว่านี่เป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ทว่าความจริงอาจไม่เป็นแบบนั้น
มือหนาของทัศน์เก็บของใส่กระเป๋าได้ไม่นานก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ชายหนุ่มกดรับสายทันทีและรับรู้ว่าเขามีงานด่วนวิ่งเข้าชนอย่างจัง ซึ่งงานนี้เป็นงานวิวาห์ของรุ่นพี่ที่รู้จักกันมานานและเขาไม่อาจปฏิเสธได้
ชายหนุ่มรวบรวมสัมภาระอันน้อยนิดที่จัดไว้ขึ้นมาวางบนเตียงนอนแสนเก่าเกรอะที่หอพักเดิมมีให้ ก่อนจะรีบเดินทางไปทำงานทันทีพลางคิดในใจว่าค่อยมาย้ายของไปห้องพักใหม่หลังกลับจากงานนี้ละกัน
ทว่ากว่าจะเสร็จงานวิวาห์นี้ก็กินเวลาไปทั้งสิ้นสามวัน ทัศน์หอบสังขารอันอ่อนล้ากลับที่พักเก่าและแทรกตัวลงบนเตียงอย่างหมดแรง สายตาเหม่อมองไปยังสัมภาระที่ตัวเองจัดไว้ซึ่งวางอยู่ไม่ไกล
“เอาวะ! ค่อยไปนอนที่หอใหม่ละกัน” พูดกับตัวเองเสร็จก็ลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าหนึ่งใบและกระเป๋ากล้องถ่ายรูปสามใบขึ้นบ่า ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ระหว่างเดินทางไปหอพักใหม่ ชายหนุ่มที่หลงใหลในธรรมชาติรอบข้างก็แวะชื่นชมต้นไม้ใบหญ้าแถวนั้นอีกเช่นเคย แวะลูบหัวและหยอกล้อน้องหมาน้องแมวแถวนั้นจนแช่มชื่นใจ ทำให้กว่าจะมาถึงที่หมายใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้
ทัศน์เดินมาถึงรั้วไม้สีขาวก็เห็นรถจักรยานยนต์คันหนึ่งจอดอยู่หน้าอาคาร เขานึกดีใจไปว่าวันนี้อาจได้เจอเพื่อนร่วมหอคนอื่น ทว่าการได้เจอเพื่อนใหม่ครั้งนี้ไม่ใช่แบบที่เขาคิดไว้เพราะวินาทีนั้นมีวัยรุ่นหนุ่มหน้าตาไม่คุ้นอุ้มเด็กสาวออกมาจากอาคารด้วยท่าทีร้อนรน
สภาพของเด็กสาวในอ้อมกอดนั้นน่าสยดสยองมาก คราบเลือดเลอะเปื้อนเต็มเสื้อผ้าไปหมดแถมยังมีเลือดไหลยืดออกมาจากนิ้วมือนิ้วเท้าที่ไม่มีเล็บอีกด้วย ชายหนุ่มตรงดิ่งไปหาหวังจะช่วยทั้งสองแต่วัยรุ่นหนุ่มคนนั้นกลับเดินผ่านเขาไปราวกับว่าไม่มีใครยืนอยู่ตรงนี้
.
.
.
การโกหกเป็นเรื่องไม่ดีนะคะคุณทัศน์...ระวังจะโดนลงโทษ