เขาว่ากันว่าถ้าเราสบตาใครมากกว่าสามวินาทีเราจะชอบเขา แต่ถ้าเราสานสัมพันธ์กับเขาล่ะ? เราจะคลั่งรักเขามากแค่ไหนกัน
รัก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย,ข้ามเวลา,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,รักวัยรุ่น,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
กลิ่นเหม็นของถังขยะในบ้านทำให้ผมไม่สามารถที่จะเมินเฉยได้อีกต่อไปเลยทำให้ผมต้องฝืนความขี้เกียจนี้ลุกขึ้นไปทิ้งขยะ
แต่แค่ผมก้าวออกมานอกบ้านร่างกายก็แทบจะสลายกลายเป็นฝุ่นเพราะผมชอบใช้ชีวิตกลางคืนเหมือนชาวแวมไพร์เลยไม่สามารถโดนแดดโดยตรงได้
"ทาครีมกันแดดเป็นว่าเล่นเลยเว้ยทั้งที่จะใช้ทาตอนออกมาทำธุระสำคัญแท้ๆ"
หลังจากที่ทาครีมเสร็จและออกแดดอีกครั้งมันก็ไม่ค่อยร้อนเท่าไรออกแนวอบอุ่นมากกว่า
เดินมาสักพักจนมาถึงถังขยะใหญ่ของเทศบาลและพอผมเปิดก็มีฝูงยุงออกมาทำเอาผมหลบแทบไม่ทัน
แต่ผมก็ไม่ได้ทันหลบแบบร้อยเปอร์เซ็นต์นะเพราะมันมีอยู่ตัวนึงมากัดผมซึ่งน่าแปลกที่มันเป็นตัวสีชมพูคงจะเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ผมไม่เคยเห็นล่ะมั้ง
แต่ถึงมันจะเป็นสายพันธุ์ใหม่จริงๆ มันก็คงจะตายเหมือนยุงทั่วๆ ไปนั่นแหละ
เพี๊ยะ!
"อย่าคิดว่าจะได้มีความสุขในการดูดเลือดของกูนะ"
กำลังจะกลับไปนอนเหมือนเดิมแต่อยู่ๆ อีกใจนึงก็อยากเดินเล่นเพราะยังไงก็ทาครีมกันแดดมาแล้ว
เดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงหน้าห้างตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้เลยคิดว่าไหนๆ ก็มาซื้อขนมหวานแก้ร้อนหน่อยก็แล้วกัน
แต่เพราะรสที่ออกใหม่ขายดีจนเกิดไปเลยทำให้มันหายากอยู่พอสมควร
"กำลังหากระไรอยู่หรือขอรับ?" ได้ยินเสียงที่ไม่คุ้นเคยผมเลยหันไปมองและได้เห็นเด็กคนนึงที่แต่งตัวเหมือนหลุดออกมาจากยุคกรุงศรีอยุธยา
ที่นี่มีการแสดงละครด้วยหรือเนี่ย!
"?" สงสัยคงเพราะผมมองเขานานจนเกินไปจึงต้องส่ายหัวก่อนที่จะหาต่อไปจนกว่าจะเจอถึงจะกลับบ้าน "ให้ข้าช่วยดีมั้ยขอรับ?" น้องเขาว่าอย่างนั้นก่อนที่จะช่วยผมหาและบอกว่าแบบนี้ใช่มั้ยหรือแบบโน้น
จนกระทั่งผมรู้สึกอยากตัดใจแล้วและลุกขึ้นยืนซึ่งน้องขุน(ผมตั้งชื่อให้เองเพราะน้องเขาเหมือนท่านขุนมากตอนนี้)ก็ยืนตามผมแต่หัวดันกระแทกกับชั้นวางเข้า
"อือ~" เป็นเสียงชวนให้เกิดอารมณ์จนท่อนเอ็นที่อยู่ในกางเกงของผมถึงกับขยายใหญ่ขึ้นจนแน่นกางเกงพร้อมกับมีอะไรบางอย่างหล่นลงมาใส่หัวของน้องขุนอีกทีมันคือขนมที่ผมกำลังตามหา
ผมคงดีใจมากจนเกินไปเลยถือวิสาสะเข้าไปสวมกอดน้องขุนจนน้องเขาลูบหลังผมเบาๆ จนผมรู้สึกตัว "เออ...ขอโทษนะ"
"ไม่เป็นไรหรอกขอรับ" พร้อมกับรอยยิ้มจนตาเป็นสระอิ พอมองน้องขุนใกล้ๆ แล้วก็น่ารักดีอยู่เหมือนกันนะ
ผมเอาขนมไปจ่ายตังค์โดยที่ไม่ได้สนใจน้องขุนอีกและไม่ได้รับรู้ว่าน้องขุนก็ตามมาด้วยจนผมออกจากห่างจนสะดุดเท้าของตัวเองเพราะความซุ่มซ่ามนั่นแหละถึงจะเพิ่งรู้สึกตัวว่าน้องขุนตามผมมาด้วย
"ไม่ต้องส่งผมถึงที่นี่ก็ได้ครับไปทำงานต่อเถอะ"
"ตอนนี้ข้าก็กำลังทำงานอยู่นี่ไงขอรับ" ได้ยินน้องขุนว่าอย่างนั้นผมถึงกับงุนงงเป็นไก่ตาแตกจนน้องขุนชี้ไปที่ขนมที่อยู่ในถุง "ขนมหวานอันนั้นข้าไม่เคยเห็นข้ากลัวว่าถ้าเจ้ากินเข้าไปจะปวดท้องข้าเลยเป็นห่วง" ถึงปากจะพูดแบบนั้นแต่สายตาและการกลืนน้ำลายมันสวนทางเลยนะครับน้องชาย