แค่ได้ย้อนเวลากลับมาเจอทุกคนแค่นี้วาฬก็ดีใจมากพอแล้ว แต่กับคนบางคนวาฬขอไม่เจอเลยจะดีกว่าครับ เพราะคน ๆ นั้นเนี่ยแหละที่ทำให้ชีวิตวาฬต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ (mpreg)

[BL] ชีวิตใหม่ในร่างเดิม - ONE เริ่มใหม่ โดย ชาเขียวนมกลิ่นมะลิ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ข้ามเวลา,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[BL] ชีวิตใหม่ในร่างเดิม

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ข้ามเวลา

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

[BL] ชีวิตใหม่ในร่างเดิม โดย ชาเขียวนมกลิ่นมะลิ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แค่ได้ย้อนเวลากลับมาเจอทุกคนแค่นี้วาฬก็ดีใจมากพอแล้ว แต่กับคนบางคนวาฬขอไม่เจอเลยจะดีกว่าครับ เพราะคน ๆ นั้นเนี่ยแหละที่ทำให้ชีวิตวาฬต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ (mpreg)

ผู้แต่ง

ชาเขียวนมกลิ่นมะลิ

เรื่องย่อ

สารบัญ

[BL] ชีวิตใหม่ในร่างเดิม-ZERO จุดเริ่มต้น,[BL] ชีวิตใหม่ในร่างเดิม-ONE เริ่มใหม่,[BL] ชีวิตใหม่ในร่างเดิม-TWO เริ่มใหม่ 2

เนื้อหา

ONE เริ่มใหม่


ONE

ชื่อ นามสกุล สถานที่ในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นความจริงถูกแต่งเติมขึ้นมาตามจินตนาการและเพื่อความบันเทิงของผู้แต่งเพียงเท่านั้น

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน




เปลือกตาสีไข่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น สายตาจับจ้องไปยังสิ่งของรอบตัวอย่างไม่คุ้นตา กลิ่นภายในห้องตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นยาฆ่าเชื้อทำให้ร่างเพรียวฉุกนึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในห้องพักของโรงพยาบาลที่ไหนสักที่หนึ่งในเมือง

แกร๊ก…

เสียงเปิดประตูเรียกสติร่างเพรียวอีกครั้งให้สนใจเสียงตรงหน้าทันที ภาพตรงหน้าปรากฎร่างเพรียวพอ ๆ กับอนาวิลเดินตรงเข้ามาภายในห้องพร้อมกับของมากมายเดินตรงเข้ามาโดยก้มมองของในมือ โดยไม่ได้สังเกตเห็นว่าน้องชายฟื้นได้สติ

“พะ…พี่คะ…ครับ” เสียงแหบแห้งของอนาวิลเรียกสติของอชิรวิชญ์พี่ชายคนโตของบ้านให้ละสายตาจากของในมือหันมองน้องชายบนเตียงของโรงพยาบาล

ฉลาม อชิรวิชญ์ ทีรฆทรรศ พี่ชายคนโตของบ้านทีรฆทรรศซึ่งเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของอนาวิลรีบวางของในมือเอาไว้บนโต๊ะใกล้ ๆ และเดินตรงเข้าไปหาน้องชายทันที

“อะ…นี่น้ำ แล้วตื่นมานานหรือยัง” มือเรียวยื่นแก้วน้ำให้พี่ชายเมื่อดื่มน้ำในแก้วจนหมด มือเรียววางลงบนศีรษะของน้องชายด้วยความเอ็นดู

“ก่อนพี่เข้ามาแค่แป๊บเดียวเอง แล้วทำไมวาฬถึงเข้ามานอนอยู่ในห้องแบบนี้ได้ยังไง” ร่างเพรียวเอ่ยถามด้วยความสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ความทรงจำครั้งสุดท้ายคือเสียงเบรคของรถยนต์ที่ดังไปทั่วท้องถนนและภาพทุกอย่างรอบตัวก็ดับสนิทเหมือนไม่มีวันฟื้นขึ้นมาอีก

“นี่จำอะไรไม่ได้ก่อนหน้านี้เลยใช่ไหมเนี่ย” อนาวิลส่ายหน้าเพราะตอนนี้เขาจำเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่ได้เลย

“งั้นเดี๋ยวพี่เล่าให้ฟังเอง” เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ก่อนที่อนาวิลจะเข้ามานอนในห้องพักของโรงพยาบาล เป็นการประชุมบอร์ดครั้งใหญ่ที่รวมหุ้นส่วนใหญ่มาคุยกันเรื่องผลประกอบการของปีนี้ อนาวิลทำงานอย่างหนักจนไม่มีเวลาพักผ่อนเมื่อจบการประชุมเจ้าตัวหมดสติล้มลงลงไปกับพื้นทันที

เมื่อได้ยินเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ก็ทำให้ร่างเพรียวนึกขึ้นได้ว่าเขาเจอเหตุการณ์นี้เมื่อแปดปีก่อน สมองของเขาประมวลผลอย่างรวดเร็วว่าตอนนี้เขาย้อนกลับมาในอดีตที่ผ่านมาแล้วเกือบแปดปีเต็ม เพราะหลังจากที่เขาออกจากโรงพยาบาลได้ไม่นานเขาถูกขอแต่งงาน

มันจะเป็นไปได้ได้อย่างไร ไหนเมื่อเรื่องพวกนี้มันอยู่เพียงแค่ในนิยายหรือละครหลังข่าวเท่านั้นที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ แล้วหลังจากนี้เขาจะทำยังไงต่อ แต่เขายังไม่แน่ใจว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร อนาวิลตีเนียนคุยเรื่องอื่นกับพี่ชายต่อ

“แล้วนี่พี่ไม่ทำงานเหรอ” อชิรวิชญ์ส่ายหน้า เพราะเมื่อเลขาของน้องชายโทรมาแจ้งให้ทราบว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เจ้าตัวรีบลางานขับรถตรงมาหาอนาวิลที่โรงพยาบาลทันที

“แล้วแบบนี้เด็ก ๆ ในห้องพี่เขาจะไม่น้อยใจพี่แย่เลยเหรอที่พี่หนีออกมาแบบนี้น่ะ” อนาวิลเอ่ยแซวพี่ชายเพราะเขารู้ดีว่าพี่ชายของเขาเนี่ยเป็นคนที่รักในหน้าที่การงานของตัวเองเป็นอย่างมาก แทบจะนับครั้งได้เลยที่เจ้าตัวจะลางานด่วนแบบนี้

“ไม่ว่าอะไรหรอก ยังไงเด็ก ๆ ก็รักคุณครูฉลามอยู่แล้วครับ” ร่างเพรียวบางฉีกยิ้มส่งให้น้องชายเพื่อให้น้องชายได้สบายใจว่าที่เขามาหาเพราะความเป็นห่วงกลัวน้องชายจะเป็นอะไร

“อย่างนี้รางวัลคุณครูดีเด่นของโรงเรียนก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้วสิ” อนาวิลก็ยังคงเอ่ยแซวพี่ชายไม่หยุด

“เราน่ะปากหวานเกินไปแล้วนะ ใครจะมาให้รางวัลพี่กัน” อชิรวิชญ์เอ่ยออกมาตรง ๆ เขาเป็นเพียงชั้นผู้น้อยเท่านั้น ไม่มีปากมีเสียงในเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยนิสัยส่วนตัวของอชิรวิชญ์ก็ไม่ได้เป็นคนที่ชอบในอำนาจหน้าที่อยู่แล้ว เขาเพียงต้องการเวลาอยู่กับเด็ก ๆ ก็เท่านั้นเอง

“เดี๋ยวเรื่องนี้วาฬลองคุยกับพี่ฝุ่นให้ ว่าพอจะมีรางวัลนี้ให้พี่ชายคนเดียวของวาฬสักรางวัลไหมครับ” เมื่อได้ยินชื่อของผู้อำนวยการปัจจุบันพี่ชายคนโตของบ้านก็ต้องตาโตขึ้นมาทันทีเพราะไม่นึกว่าน้องชายจะสนิทสนมถึงขั้นเรียกเพียงแค่ชื่อเล่นสั้น ๆ ได้

“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ ก็ยังไงพี่ก็จะแต่งงานกันอยู่แล้วนิครับ”

“แต่ที่โรงเรียนพี่ไม่มีใครรู้เลยนะว่าพี่กับฝุ่นเราคบกันอยู่” สายตาของอชิรวิชญ์ซ่อนความเศร้าไว้ข้างในแต่ก็เปลี่ยนเรื่องคุยกับน้องชาย

“แล้วนี่แฟนเรารู้เรื่องที่เราเข้าโรงพยาบาลหรือยังไง” พี่ชายเอ่ยถึงแฟนหนุ่มก็คงไม่พ้นกรภัคที่ในอนาคตข้างหน้าจะกลายมาเป็นสามีและพ่อของลูก แต่อนาวิลไม่อยากนึกถึงวันที่เขาได้รับรู้ความจริงว่าสามีแอบนอกกายและนอกใจเขามาอยู่ตลอดหลายปีซึ่งเป็นสิ่งที่เขารับไม่ได้และไม่อยากจะยอมรับมัน

“ทำไมทำหน้าเศร้าละ เราสองคนทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า” อนาวิลส่ายหน้า

“ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันหรอกครับพี่ แค่นึกถึงอะไรที่ไม่อยากนึกถึงมากกว่าน่ะครับ” อชิรวิชญ์ไม่ได้เซ้าซี้ให้น้องชายเล่าเรื่องที่น้องไม่สบายใจอยู่ตอนนี้ เขาเชื่อว่าถ้าน้องพร้อมที่จะเล่า เขาก็ยินดีที่จะรอวันนั้นมากกว่า

“แล้วคุณหมอได้บอกอะไรกับพี่บ้างครับ เกี่ยวกับอาการของวาฬเป็นยังไงบ้าง” อชิรวิชญ์เอ่ยแค่ว่าน้องชายของเขาจะต้องนอนดูอาการอีกหนึ่งคืนและกำชับอย่างดีว่าจะต้องดูและและหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประโยคด้านหลังเป็นความห่วงของพี่ชายที่มีต่อน้องชาย ความจริงแล้วแพทย์เจ้าของไข้ให้คนไข้อย่างอนาวิลกลับบ้านได้แล้วแต่อชิรวิชญ์ขอให้น้องชายอยู่พักสักหนึ่งคืน ซึ่งแพทย์เจ้าของไข้ก็ตกลงที่จะให้คนไข้ในความดูแลอยู่ต่อ

“ป๊ากับแม่จะมาหาหรือเปล่าครับ วาฬกลัวว่าป๊ากับแม่จะเป็นห่วง”

“เขาเป็นห่วงเราอยู่แล้วละ แต่พี่ก็บอกกับป๊ากับแม่ไปแล้วว่าไม่ต้องเป็นห่วง ตอนนี้เขารอเราอยู่บ้าน เรานั้นแหละต้องดูแลตัวเอง พักผ่อนให้เพียงพอแล้วเราจะได้รีบกลับบ้านกัน” อชิรวิชญ์ลูบหัวน้องชายด้วยความเอ็นดู

“แล้วนี่พี่จะมานอนเฝ้าวาฬงั้นเหรอ” อนาวิลกวาดสายตาหันมองสิ่งของต่าง ๆ ภายในห้องพักจนกวาดตาไปเจอกับกระเป๋าใบใหญ่ คาดว่าน่าจะเป็นของพี่ชายตนจึงเอ่ยถามออกไป

“ครับ พี่จะมานอนเป็นเพื่อนน้องชายคืนนี้ นาน ๆ ทีจะได้นอนกับน้องชาย” อนาวิลได้เพียงแต่ยิ้มหวานส่งให้พี่ชายและนึกโทษตัวเองในใจที่สมัยก่อนตัวเองสนใจแต่งานไม่ได้สนใจว่าคนรอบตัวและคนภายในครอบครัวจะเป็นอย่างไร

“หน้าเครียดอีกแล้ว เลิกเครียดได้แล้ว พักผ่อนครับพักผ่อน แล้วนี่หิวหรือเปล่า” ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมงกว่าแล้ว ซึ่งเลยเวลาอาหารเที่ยงของอนาวิลมานานมากแล้ว แต่ถ้าเป็นอนาวิลคนก่อนแล้วละก็จะต้องโวยวายพาลใส่คนอื่นไปแล้วว่าทำไมถึงยังไม่หาอะไรมาให้เขาทานแค่นึกเขาก็หงุดหงิดตัวเองสมัยก่อนเหมือนกัน แต่ตอนนี้เขาเป็นแม่คนแล้วความอดทนอดกลั้นจึงมีมากกว่าแต่ก่อนเยอะ

“ยังไม่ค่อยหิวเท่าไรเลยครับ สงสัยวาฬอิ่มน้ำเกลือมั้งครับ”

“หื้ม? ใช่เหรอปกติเราทานข้าวตรงเวลาไม่ใช่เหรอ” อชิรวิชญ์เอ่ยถามด้วยอาการตกใจเพราะน้องชายของเขาค่อนข้างจะจริงจังเรื่องอาหารและเรื่องตรงเวลาเป็นอย่างมากจนเคยอาละวาดใส่ผู้ช่วยมาหลายคนจนนับครั้งไม่ถ้วนกับเรื่องนี้มาแล้ว

“ไม่เป็นไรเลยครับ เรื่องแค่นี้เอง” อนาวิลยิ้มอ่อน

“พี่ว่าเรามาตรวจร่างกายอีกรอบดีไหม พี่ว่าบ้างทีสมองเราอาจจะได้รับความกระทบกระเทือนไปบ้าง” อชิรวิชญ์เอ่ยเพราะเขาเริ่มเป็นห่วงน้องชายอย่างจริงจัง เพราะความรู้สึกที่กำลังบอกเขาว่าคนตรงหน้าอาจจะไม่ใช่น้องชายที่เขารู้จัก นิสัยน้องชายของจะเปลี่ยนได้ชั่วพริบตาได้ขนาดนี้เลยหรือ มันจะต้องมีอะไรบ้างอย่างเกิดขึ้นกับน้องชายเป็นแน่

“วาฬไม่ได้เป็นอะไรจริง ๆ ครับ พี่ไม่ต้องเป็นห่วง พี่อยากกินอะไรพี่ซื้อเข้ามาเลยครับ” อนาวิลเอ่ยอย่างใจเย็นเพราะรู้นิสัยของพี่ชายตัวเองกีว่าเจ้าตัวเป็นคนยังไง อชิรวิชญ์เป็นคนที่รักคนในครอบครัวมากกว่าใคร ถ้าใครเป็นอะไรหรือเจ็บป่วยอะไรก็จะรีบเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดก็ไม่แปลกที่คนพี่จะสงสัยในตัวเขาที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ แต่มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นเพราะเขาไม่ใช่อนาวิลคนเก่าแต่เป็นอนาวิลคนใหม่ที่ได้โอกาสย้อนเวลากลับมา เขาหวังว่าสิ่งที่เบื้องบนให้เขาได้ย้อนเวลากลับมาเพื่อแก้ไขสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่ควรเกิดขึ้นในอดีตแก้ไขให้มันดีขึ้นและเขาจจะไม่มีวันกลับไปเลือกทางเดิมอีก

แต่มีเพียงแค่หนึ่งสิ่งที่เขาโหยหามากที่สุดตอนนี้คือคนที่เขารักหมดหัวใจแม้ต้องยอมแลกกับอะไรก็ตามก็คือ ลูกชายเพียงคนเดียวของเขา น้องโลมา อวัช จิณณิชวัรชญ์ ถึงตอนนี้เขาก็ยังคิดถึงอ้อมกอดของลูกชายว่าถ้ารู้ว่าเขาไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้วลูกชายของเขาจะเป็นยังไงต่อไป จะอยู่ได้ไหม จะร้องไห้หนักหรือเปล่า แค่นึกถึงน้ำตาก็ไหลอาบแก้มทั้งสองข้างโดยไม่รู้ตัว ระหว่างที่อชิรวิชญ์กำลังเก็บของเงยหน้าเห็นว่าน้องชายร้องไห้ก็ตกใจรีบหากระดาษมาซับน้ำตา

“เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนไหม ให้พี่เรียกหมอให้หรือเปล่า” อชิรวิชญ์เอ่ยถามน้องชายด้วยความเป็นห่วง

“เปล่าครับ แค่นึกถึงใครสักคนที่วาฬรักมาก ๆ แต่วาฬน่าจะไม่ได้มีโอกาสได้เจอเขาอีกแล้ว” อชิรวิชญ์กอดปลอบน้องชายย่างอ่อนโยน แม้จะไม่รู้ว่าคนนั้นที่น้องชายหมายถึงเป็นใครก็ตาม

“งั้นก็รีบรักษาตัว ทำตัวให้ร่างกายแข็งแรง เราจะได้ออกไปหาคนที่เราคิดถึง” อนาวิลได้แต่เถียงพี่ชายตัวเองในใจว่าเขาคงไม่มีโอกาสที่กลับไปหาลูกชายอีกแล้ว ได้แต่นึกถึงหน้าลูกชายน้ำตาก็แทบจะไหลออกมาอีกครั้ง






ปล.ยังไม่ได้ตรวจคำผิด

Tag : #ชีวิตใหม่ในร่างเดิม

X (Twitter) : @SkySiKhram