กรรมจากอดีตเวียนมาบรรจบ ถึงคราวที่ต้องชดใช้ บางสิ่งบางอย่างกำลังตามทวงแค้น สิ่งที่เขาเคยทำเอาไว้

เบญจอาฆาต - ตอนที่ 4 ค้างคืน โดย Cherplisorn @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ตลก,ไทย,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ผี,ฟีลกู๊ด,คาถาอาคม,หมอผี,ไสยศาสตร์,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เบญจอาฆาต

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ตลก,ไทย,ระทึกขวัญ,ลึกลับ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผี,ฟีลกู๊ด,คาถาอาคม,หมอผี,ไสยศาสตร์,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

เบญจอาฆาต โดย Cherplisorn @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

กรรมจากอดีตเวียนมาบรรจบ ถึงคราวที่ต้องชดใช้ บางสิ่งบางอย่างกำลังตามทวงแค้น สิ่งที่เขาเคยทำเอาไว้

ผู้แต่ง

Cherplisorn

เรื่องย่อ

มาวิน ชายหนุ่มวัย 25 ปี ที่กำลังเผชิญกับอาถรรพ์เบญจเพส เวรกรรมที่เคยทำไว้ในอดีตชาติถึงคราวที่ต้องชดใช้ เจ้ากรรมนายเวรกำลังตามทวงแค้น แม้ในยามนอนก็ไม่อาจข่มตาลงได้

     จนได้พบกับพ่อหมอจอม หรือจอมทัพ สัปเหร่อผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า เชี่ยวชาญทั้งไสยดำและไสยขาว


      หนึ่งคนกำลังถูกบางอย่างตามรังควาน อีกหนึ่งคนคอยปกป้องเขาจากสิ่งที่มองไม่เห็น เมื่อกรรมที่เคยกระทำเริ่มทำงาน จุดจบที่มันต้องการมีเพียง 'ความตาย'




———————————————-

     📌 สวัสดีรี้ดเดอร์ทุกท่านค่ะ ไรต์เป็นนักเขียนมือใหม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 ของไรต์ และเป็นเรื่องแรกสำหรับแนว ชช 

     หวังว่าทุกท่านจะชื่นชอบและสนุกไปกับผลงานของไรต์นะคะ


    📌 ท้ายนี้ หากรี้ดเดอร์ท่านไหนอ่านแล้วมีความคิดเห็นอย่างไร สามารถคอมเม้นท์พูดคุยแนะนำกันได้นะคะ ไรต์จะนำไปปรับปรุงและพัฒนาฝีมือเพื่อสร้างสรรค์ผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไปค่ะ 😁


     📌 ฝากติดตามด้วยนะคะ ❤️


———————————————-


             ⚠️ คำเตือน ⚠️


☑️ มีการบรรยายฉากสะเทือนขวัญ


☑️ มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรง


☑️ มีการใช้คำหยาบคายของตัวละคร


นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งและมีการบรรยายเนื้อหารุนแรงในบางช่วงบางตอน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ








นิยายเรื่องนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายไปเผยแพร่หรือกระทำการใด ๆ ก่อนได้รับการอนุญาตจากผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด





สารบัญ

เบญจอาฆาต-ตอนที่ 1 คืนผวา,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 2 สัปเหร่อจอม,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 3 เดินทาง,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 4 ค้างคืน,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 5 ไผ่,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 6 โดนของ,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 7 ดวงตาปริศนา,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 8 ห้ามทัก ห้ามขานรับในยามค่ำคืน,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 9 สวนยาง,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 10 ป่าช้า,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 11 วิ่ง!!!,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 12 คำเตือนจากพ่อหมอ

เนื้อหา

ตอนที่ 4 ค้างคืน


จอมทัพมองสำรวจชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาตรงหน้า ผิวขาวเนียน แต่ใบหน้าหมองคล้ำไร้สง่าราศี ก่อนจะตวัดสายตาคมดุมองออกไปด้านนอก กลุ่มควันสีดำมากมายลอยวนเวียนรายล้อมอยู่นอกเขตรั้วบ้าน กลิ่นอายความโกรธแค้น ความอาฆาตพยาบาทแผ่กระจายออกมาจนน่าหวาดหวั่น เขาละสายตามองไปยังพานที่มีตะกรุดที่เพิ่งผ่านพิธีปลุกเสกในคืนเสาร์ 5 ที่ผ่านมา แล้วเอื้อมมือไปหยิบตะกรุดบนพานยื่นไปตรงหน้าโดยที่เจ้าตัวยังไม่ได้พูดอะไร


มาวินมองตะกรุดเส้นนั้นแล้วยื่นมือไปรับด้วยสีหน้างงๆ


“สวมไว้ตลอดห้ามถอดเด็ดขาด”


“ครับ” มาวินขมวดคิ้วมองตะกรุดในมือ แล้วสวมลงไปที่คอ


“มันเป็นเวรกรรมที่มึงทำไว้ หมั่นเข้าวัดทำบุญเยอะๆ แล้วพยายามนั่งสมาธิภาวนาบ่อยๆ กูช่วยได้แค่นี้”


มาวินตาเบิกโพลง ขนหัวลุกกับสิ่งที่พ่อหมอจอมกล่าว ยังไม่ทันได้คิดอะไรก็ได้ยินเสียงพ่อหมอจอมเอ่ยขึ้นอีกครั้ง


“ขยับมาใกล้ๆ”


เขาค่อยๆ ขยับเข้าไปตามคำสั่งด้วยท่าทางหวาดกลัวคนตรงหน้า จากนั้นพ่อหมอจอมก็หยิบเอามีดเล่มหนึ่งที่วางอยู่บนพานขึ้นมา


มาวินถึงกับตาเหลือกผงะออกไปเล็กน้อย


‘ถึงกับจะฆ่ากันเลยเหรอ!’


จอมทัพมองมาวินนิ่งๆ ดวงตาดุดันจ้องมองอย่างกดดัน เจ้าตัวจึงค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้ๆ เขาหันมาใช้มีดหมออาคมจุ่มน้ำในขันน้ำมนต์ วาดอักขระบางอย่างลงบนหน้าผากของคนตรงหน้าแล้วทำปากขมุบขมิบสวดคาถาบางอย่างก่อนจะยื่นน้ำมนต์นั้นให้เจ้าตัวดื่ม


มาวินรู้สึกโล่งและสบายใจอย่างบอกไม่ถูก เหมือนบางอย่างที่กดทับเอาไว้ตลอดเวลาที่ผ่านมามันหายไป เขาลืมตาขึ้นมามองพ่อหมอจอม รอยยิ้มประดับบนใบหน้าด้วยความรู้สึกสบายใจ


จอมทัพมองสายตาและรอยยิ้มของคนตรงหน้าด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แต่ดวงตาแฝงแววบางอย่างเอาไว้


“ทำบุญบ่อยๆ หมั่นสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน แล้วฝึกนั่งสมาธิภาวนาอย่าให้ขาด” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยบอก มาวินพยักหน้ารับก่อนพ่อหมอหน้าดุจะหันไปกล่าวกับนนท์ต่อ


“ถอดเสื้อแล้วขยับมาใกล้ๆ”


นนท์ถอดเสื้อแล้วค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ๆ ตามที่พ่อหมอบอก


“ยกพานไหว้ครู”


นนท์ทำตามอย่างว่าง่าย ยกพานขนาดกลางที่ใส่เงินจำนวนหนึ่งลงไปเป็นค่าครูพร้อมกับธูปเทียนดอกไม้และอื่นๆ ขึ้นจรดศีรษะ เมื่อพ่อหมอจอมเริ่มลงเข็มเจ้าตัวก็พลันสะดุ้งโหยง ริมฝีปากหยักลึกของพ่อหมอจอมขยับพึมพำบริกรรมคาถากำกับอย่างต่อเนื่อง




มาวินนั่งมองเพื่อนอยู่ไม่ไกล เมื่อเห็นเข็มที่ยาวเป็นศอกก็ถึงกับทำหน้าเหยเก บทสวดที่ไม่เคยได้ยินเปล่งออกมาจากริมฝีปากสีเข้ม น้ำเสียงทรงพลังฟังดูขลังจนน่าขนลุก เขาลอบมองหน้าพ่อหมอจอม ใบหน้าคมเข้ม คิ้วขมวดเล็กน้อย แววตาดูจริงจัง ดวงตาคมดุยามมองผู้คนราวกับกำลังจ้องมองเหยื่อ จมูกโด่ง ริมฝีปากหยักลึกสีเข้มเล็กน้อยที่กำลังพึมพำคาถาดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก หล่อฉบับไทยแท้เลยทีเดียว อายุน่าจะสัก 30 กว่าปี หุ่นล่ำสัน ผิวเข้ม น่าจะสูงพอๆ กับเขาหรืออาจจะสูงกว่า ใส่ชุดสีขาวสวมสร้อยลูกประคำ รอยสักอักขระที่โผล่พ้นออกมาจากสาบเสื้อจนทั่วทั้งตัวไม่เว้นแม้แต่นิ้วมือ ทำให้เขาดูคล้ายกับจอมขมังเวทย์ในหนังที่เคยดู


นั่งนานๆ ก็ชักเมื่อยจึงเปลี่ยนมานั่งขัดสมาธิเท้าคางมองเพื่อนที่ทำหน้าเจ็บปวดรวดร้าว ร่างกายขยับยุกยิกไปมาด้วยความเจ็บแล้วขำเบาๆ ผ่านไป 2 ชั่วโมงพ่อหมอจอมก็หยุด


“เสร็จแล้วใช่ไหมครับ” นนท์หันไปถามพ่อหมอ


“ยัง กูเมื่อย”


นนท์ถึงกับหน้าถอดสีกัดฟันพยักหน้า


“ครับ”


ไม่นานพ่อหมอจอมก็ลงเข็มต่อ อีก 2 ชั่วโมงผ่านไปรอบนี้เสร็จจริงๆ แล้ว นนท์แทบหลั่งน้ำตา


“ข้อห้ามและวิธีปฏิบัติตัวครับ” ลูกศิษย์พ่อหมอยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้นนท์ เขาหยิบมาดูคร่าวๆ แล้วยื่นไปให้มาวินเก็บไว้ให้ ก่อนจะค่อยๆ ใส่เสื้อพลางสูดปากไปด้วย


“อย่าลืมที่กูบอก”


พ่อหมอจอมหันไปกล่าวย้ำกับมาวินอีกครั้ง


“ครับพ่อหมอ ขอบคุณครับ”


” งั้นพวกผมลาเลยนะครับ” นนท์กล่าวขึ้นมา


ทั้งสองคนทำท่ากราบลาพ่อหมอ ขณะที่จอมทัพมองออกไปนอกรั้วนิ่งๆ ก่อนจะพูดขึ้นมา


“คืนนี้อยู่ที่นี่ไปก่อนพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ” พ่อหมอกล่าวก่อนจะเดินหันหลังเข้าไปในห้องเดิม


“เชื่อพ่อหมอเถอะครับอยู่ที่นี่ปลอดภัยกว่า แถวนี้ของแรง พวกพี่อย่าเพิ่งออกไปดีกว่า ผมจะไปจัดห้องให้พวกพี่รอสักครู่ครับ” พูดจบลูกศิษย์พ่อหมอก็วิ่งไปทันที มาวินเบิกตาโพลงแล้วหันไปมองหน้าเพื่อนที่ทำตาโตไม่ต่างกัน ต่างกันแค่คนหนึ่งรู้สึกหวาดกลัวอีกคนกลับตื่นเต้น


“งั้นกูออกไปเอาของในรถแปป มึงรอนี่แหละเดี๋ยวกูหยิบมาให้” มาวินพูดจบก็ลงไปหยับของในรถแล้วแบกกระเป๋าของตัวเองกับเพื่อนเข้ามา ไม่นานลูกศิษย์พ่อหมอก็วิ่งมาเรียกพวกเขาทั้งสองคน


“เชิญพวกพี่ทางนี้ครับ”


สองหนุ่มมองไปรอบๆ แล้วรีบเดินตามลูกศิษย์พ่อหมอไปในห้องๆ หนึ่ง เป็นห้องขนาดพอดีมีที่นอนหมอนมุ้งให้อย่างดี


“ขอบคุณครับ ว่าแต่เราชื่ออะไรเหรอ” มาวินเอ่ยถาม


“ผมชื่อกล้าครับ”


“พี่ชื่อมาวิน ไอ้นี่ชื่อนนท์”


“ครับพี่มาวิน เดี๋ยวผมไปทำอาหารมาให้นะครับ พวกพี่พักผ่อนกันตามสบาย” พูดจบกล้าก็ถอยออกไปแล้วปิดประตูห้องให้เสร็จสรรพ


“มึงพากูมาเจออะไรเนี่ย” มาวินเอ่ยขึ้น


“ไอ้ห่า กูจะไปรู้เหรอวะ ว่าจะเจอเรื่องแบบนี้พอดี”


“แล้วมึงนึกยังไงวะ ถึงถ่อมาสักยันต์ถึงที่นี่”


“พี่ที่รู้จักเค้าแนะนำมา ช่วงนี้ดวงกูไม่ค่อยดี เบญจเพสด้วยกูเลยมาสักยันต์แคล้วคลาดป้องกันไว้หน่อยจะได้อุ่นใจ แล้วมึงก็เจอเรื่องแย่ๆ มาพอๆ กันกูเลยชวนมาด้วย”


“หนีเสือปะจระเข้หรือเปล่าวะงานนี้” มาวินกล่าวออกมาเบาๆ


“เอาน่า ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ กูเอายานอนหลับมาด้วย แดกแล้วหลับยาวแม่งเลย”


“มึงว่าคืนนี้จะมีอะไรวะ” นนท์พูดต่อทำสีหน้าตื่นเต้น


“กูจะไปรู้เหรอวะ ถามกล้าดูสิ” มาวินพูดจบกล้าก็เอาข้าวมาให้


“กล้า วันนี้มีอะไรเหรอ ทำไมพ่อหมอถึงห้ามเดินทาง”


“วันนี้เป็นวันปล่อยของครับพี่”


“วันปล่อยของเหรอ” นนท์และมาวินทำสีหน้างุนงง


“วันปล่อยของคือวันที่พวกเล่นไสยศาสตร์มนต์ดำจะปล่อยออกมาในวันอังคาร วันเสาร์ หรือไม่ก็วันโกน วันพระ เพื่อไม่ให้ของเข้าตัว ไม่จำเพาะว่าต้องทำใส่ใคร แค่ปล่อยออกไปสุดแท้แต่เวรแต่กรรมของใครจะโดน เรียกว่าลมเพลมพัดนั่นแหละพี่ อ้อ คืนนี้ถ้าพวกพี่ได้ยินเสียงอะไรห้ามทักเด็ดขาด ได้ยินเสียงใครมาเรียกก็ไม่ต้องตอบ ห้ามออกจากห้องเด็ดขาดในห้องมีห้องน้ำในตัว พอฟ้าสว่างค่อยเปิดประตูออกมา” กล้าพูดจบมาวินก็ขนลุกเบิกตาโตเท่าไข่ห่านมองไปรอบๆ ห้อง ส่วนอีกคนกลับรู้สึกอยากรู้อยากเห็น


“อีกอย่างที่นี่มีแค่พ่อหมอกับผม ได้ยินเสียงใครเรียกก็ไม่ต้องเปิด เพราะผมก็จะไม่ออกมาจนฟ้าสว่างเช่นกัน” มาวินกลืนน้ำลายลงคอ


“โอเค ขอบใจมาก กล้าไปพักเถอะ” นนท์กล่าว


“ครับ กินเสร็จพี่เอาจานวางไว้ในมุมห้องนี่แหละแล้วปิดประตูให้สนิท จำไว้ว่าห้ามทักห้ามขานรับเด็ดขาดนะครับ” กล้าย้ำอีกครั้ง


“โอเค”


“งั้นผมไปแล้ว พี่อย่าลืมล็อกประตูด้วยล่ะ” พูดจบก็ปิดประตูให้ มาวินรีบเดินไปล็อกประตูหน้าต่างให้สนิท ก่อนจะกลับมานั่งลงบนที่นอนที่กล้าปูไว้ให้


“มึงอาบน้ำไหมเนี่ย”


“กูซักแห้งเอาไม่อยากขยับตัวเลย เดี๋ยวมึงกินยานอนหลับซะจะได้ไม่ต้องได้ยินเสียงอะไรแล้วเผลอขานรับ วิธีนี้ชัวร์สุด” นนท์พูดขึ้นมาเพราะรู้ว่ามาวินกลัวผีขี้ขึ้นสมอง ต่างจากเขาที่ชอบเรื่องลี้ลับเป็นชีวิตจิตใจ


ทั้งสองคนกินข้าวเสร็จก็เอาจานไปวางไว้มุมห้อง มาวินลุกไปอาบน้ำแล้วมานอนลงข้างๆ เพื่อน


“แล้วมึงยังจะเที่ยวต่อไหม” มาวินเอ่ยถาม


“ไม่แล้ว กูว่ากูเที่ยวไม่สนุกแล้วแหละ ระบมขนาดนี้ ไว้หายดีค่อยมาใหม่”


“มึงกินยาหรือยัง”


“กินแล้ว กูวางไว้ให้มึงตรงนั้นอ่ะ กินให้หลับไปเลยไม่ต้องรับรู้อะไรตื่นอีกทีเช้า ปลอดภัยหายห่วง” พูดจบมันก็เงียบไปและดูท่าน่าจะหลับเพราะฤทธิ์ยาไปแล้ว มาวินลุกไปหยิบยาเข้าปากแล้วดื่มน้ำตาม เขาไม่อยากรับรู้อะไรเหมือนกัน ที่เจอมาทุกวันก็หนักหนาพอแล้วชิงหลับหนีไปเลยดีกว่า แล้วหวังว่ายานอนหลับจะช่วยได้


กินเสร็จก็วางขวดน้ำลงแล้วคลานไปบนที่นอน ไม่ถึง 5 นาทีก็หลับเป็นตายทั้งคู่ และเนื่องจากมาวินอยู่ในเขตอาคมของพ่อหมอสิ่งเร้นลับที่ตามรังควานเขาจึงไม่สามารถเข้าถึงตัวเขาได้


ทั้งคู่หลับสนิทไม่ได้รับรู้ว่าภายนอกกำลังเกิดเหตุการณ์น่าสะพรึงแค่ไหน




กลางดึกสงัด เสียงลมพัดอื้ออึงดังมาเป็นระยะก่อนจะทวีความรุนแรงขึ้นราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ เศษใบไม้ปลิวว่อน กิ่งไม้น้อยใหญ่ตกกระทบลงบนหลังคาเสียงดังสนั่นจนแทบจะพังลงมา เสียงหวีดร้องโหยหวนเย็นยะเยือกดังกังวานไปทั่วบริเวณรวมทั้งเสียงเห่าหอนของสุนัขที่ดังระงมรับกันเป็นทอดๆ จนน่าขนลุก




จอมทัพนั่งบริกรรมคาถาอยู่หน้าแท่นบูชา เปลวเทียนสั่นไหวไปตามแรงลมแต่กลับไปยอมดับลง ยังคงพลิ้วไหวอย่างอิสระ ไม่สะทกสะท้านต่อสายลมอันรุนแรงที่เกิดขึ้น กลิ่นธูปเทียนลอยตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้อง ริมฝีปากหยักลึกกำลังขยับร่ายบทสวดเป็นภาษาเขมรด้วยน้ำเสียงดุดันทรงพลังดังกังวานไปทั่วบริเวณท่ามกลางความมืดมิด เสียงหริ่งหรีดเรไรที่เคยขับขานบัดนี้กลับเงียบสนิทราวกับว่าพวกมันรับรู้ถึงภัยอันตรายจากพลังอำนาจที่มองไม่เห็นของผู้มีอาคม