กรรมจากอดีตเวียนมาบรรจบ ถึงคราวที่ต้องชดใช้ บางสิ่งบางอย่างกำลังตามทวงแค้น สิ่งที่เขาเคยทำเอาไว้

เบญจอาฆาต - ตอนที่ 9 สวนยาง โดย Cherplisorn @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ตลก,ไทย,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ผี,ฟีลกู๊ด,คาถาอาคม,หมอผี,ไสยศาสตร์,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เบญจอาฆาต

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ตลก,ไทย,ระทึกขวัญ,ลึกลับ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผี,ฟีลกู๊ด,คาถาอาคม,หมอผี,ไสยศาสตร์,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

เบญจอาฆาต โดย Cherplisorn @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

กรรมจากอดีตเวียนมาบรรจบ ถึงคราวที่ต้องชดใช้ บางสิ่งบางอย่างกำลังตามทวงแค้น สิ่งที่เขาเคยทำเอาไว้

ผู้แต่ง

Cherplisorn

เรื่องย่อ

มาวิน ชายหนุ่มวัย 25 ปี ที่กำลังเผชิญกับอาถรรพ์เบญจเพส เวรกรรมที่เคยทำไว้ในอดีตชาติถึงคราวที่ต้องชดใช้ เจ้ากรรมนายเวรกำลังตามทวงแค้น แม้ในยามนอนก็ไม่อาจข่มตาลงได้

     จนได้พบกับพ่อหมอจอม หรือจอมทัพ สัปเหร่อผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า เชี่ยวชาญทั้งไสยดำและไสยขาว


      หนึ่งคนกำลังถูกบางอย่างตามรังควาน อีกหนึ่งคนคอยปกป้องเขาจากสิ่งที่มองไม่เห็น เมื่อกรรมที่เคยกระทำเริ่มทำงาน จุดจบที่มันต้องการมีเพียง 'ความตาย'




———————————————-

     📌 สวัสดีรี้ดเดอร์ทุกท่านค่ะ ไรต์เป็นนักเขียนมือใหม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 ของไรต์ และเป็นเรื่องแรกสำหรับแนว ชช 

     หวังว่าทุกท่านจะชื่นชอบและสนุกไปกับผลงานของไรต์นะคะ


    📌 ท้ายนี้ หากรี้ดเดอร์ท่านไหนอ่านแล้วมีความคิดเห็นอย่างไร สามารถคอมเม้นท์พูดคุยแนะนำกันได้นะคะ ไรต์จะนำไปปรับปรุงและพัฒนาฝีมือเพื่อสร้างสรรค์ผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไปค่ะ 😁


     📌 ฝากติดตามด้วยนะคะ ❤️


———————————————-


             ⚠️ คำเตือน ⚠️


☑️ มีการบรรยายฉากสะเทือนขวัญ


☑️ มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรง


☑️ มีการใช้คำหยาบคายของตัวละคร


นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งและมีการบรรยายเนื้อหารุนแรงในบางช่วงบางตอน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ








นิยายเรื่องนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายไปเผยแพร่หรือกระทำการใด ๆ ก่อนได้รับการอนุญาตจากผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด





สารบัญ

เบญจอาฆาต-ตอนที่ 1 คืนผวา,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 2 สัปเหร่อจอม,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 3 เดินทาง,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 4 ค้างคืน,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 5 ไผ่,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 6 โดนของ,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 7 ดวงตาปริศนา,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 8 ห้ามทัก ห้ามขานรับในยามค่ำคืน,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 9 สวนยาง,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 10 ป่าช้า,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 11 วิ่ง!!!,เบญจอาฆาต-ตอนที่ 12 คำเตือนจากพ่อหมอ

เนื้อหา

ตอนที่ 9 สวนยาง


เช้าวันต่อมา รถยนต์ราคาแพงหลายคันก็เข้ามาจอดเรียงรายกันจนเต็มลานหน้าบ้าน กล้าพาทุกคนเข้ามาข้างในตรงไปยังห้องพิธีของพ่อหมอ ส่วนผู้หญิงให้รออยู่ข้างนอกห้ามเข้ามาในบ้าน


มาวินกับนนท์นั่งอยู่ตรงระเบียงมองคนเหล่านั้น มีแต่สาวๆ สวยๆ ทั้งนั้น


“ไอ้นนท์ มึงว่ากูเปลี่ยนมาทำอาชีพหมอผีดีไหมวะ แจ่มๆ ทั้งนั้นเลย” มาวินหันไปกระซิบกับเพื่อนมองสาวๆ ด้วยสายตาเป็นประกาย


“วงการเขาจะชิบหายก็เพราะมึงนี่แหละ” พูดจบนนท์ก็ตบหัวเขาไปหนึ่งที


มาวินยกมือลูบหัวตัวเองป้อยๆ


“ไอ้นี่ เดี๋ยวกูฉี่รดที่นอน”


นนท์มองเพื่อนด้วยหางตาตั้งแค่หัวจรดเท้า


‘มองแบบนี้สักฝุ่นกับกูเลยดีกว่า’


“กูไปนั่งตรงนั้นแปปนะ”


“มึงจะเข้าไปดูพ่อหมอทำพิธี?”


“หึ ดูสาวๆ” มาวินพูดจบก็หันมายิ้มแฉ่ง


“จะดีเหรอ รบกวนพ่อหมอเปล่าๆ” นนท์แย้งขึ้นมาแต่ขาขยับลุกขึ้นเดินไปก่อนแล้ว


“โถ! ไอ้คนดี”


ทั้งสองคนไปยืนแอคท่าอยู่ใกล้ๆ กับกลุ่มสาวๆ ที่นั่งกันอยู่ตรงโต๊ะหินอ่อน ทำท่าชมนกชมไม้ชำเลืองตาไปมองสาวๆ ทีละคน


จอมทัพมองพวกเขาครู่หนึ่งก็เลิกสนใจ ผ่านไปสักพักใหญ่ก็เสร็จพิธีจึงไล่ทุกคนกลับแล้วหันไปเก็บของเข้าที่


มาวินเดินเข้าไปหาพ่อหมอในห้องแล้วพูดขึ้นมา


“พ่อหมอรับลูกศิษย์อีกไหม ผมว่างนะ”


“ผมก็ว่างครับ ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ด้วยคนนะครับ” นนท์พูดด้วยใบหน้ายิ้มระรื่น


“ไม่” จอมทัพตอบสั้นๆ


“ไม่คิดหน่อยเหรอครับ”


“มึงจะมีเคราะห์เพราะผู้หญิง” จอมทัพมองหน้าทั้งสองคนนิ่งๆ แล้วหันไปพูดกับนนท์ที่นั่งยิ้มแฉ่งทำหน้าระรื่น


“มาเถอะ ขออกตู้มๆ นะ” พูดจบก็ยกมือขึ้นมาเต้นท่าแน่นอก






“พ่อหมอ ให้พวกผมไปด้วยสิครับ อยู่เฉยๆ ไม่มีอะไรทำ อีกอย่างมาอยู่กินข้าวกินน้ำฟรีๆ แบบนี้พวกผมเกรงใจ” มาวินเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นจอมทัพกำลังเตรียมตัวออกไปที่สวนยาง


“อืม” จอมทัพตอบ ก่อนจะลุกไปสั่งให้กล้าเตรียมเอารถพ่วงข้างออกมา


จอมทัพเดินนำทุกคนออกไปที่รถพ่วงข้างของเขา แล้วนั่งตำแหน่งคนขับทันที


“จะไปก็ขึ้นมา” เขากล่าว กล้าจึงขนของเข้าไปวางก่อนจะขึ้นไปนั่งประจำที่


มาวิน นนท์และไผ่ที่ตอนนี้เริ่มดีขึ้นมากแล้ว ยืนมองมอเตอร์ไซพ่วงข้างแล้วก้าวขึ้นไปนั่งเช่นกัน ทั้งสามคนพูดคุยหัวเราะเฮฮากันไปตลอดทาง เมื่อไปถึงทางเข้าสวนก็มองเห็นต้นยางแต่ละแถวที่ห่างกันราว 6-7 เมตร พื่นที่กว้างมากจนสามารถสร้างกระท่อมหลังน้อยได้หลังหนึ่งแถมยังร่มรื่นอีกต่างหาก น่าเอาเสื่อมาปูนอนสุดๆ รู้สึกถึงสายลมเย็นๆ ที่พัดมาเบาๆ ตัดกับอากาศที่ร้อนราวกับนรกข้างนอกนั่น


มาวินมองไปรอบๆ ขณะที่จอมทัพขับรถไปจอดข้างกระท่อมหลังหนึ่ง ก่อนที่ทุกคนจะพากันลงจากรถแล้วเดินตามเขาไป


“เอาไปคนละตะกร้า” จอมทัพยกตะกร้าและตะขอเกี่ยวยางออกมาวางตรงหน้าทุกคน ทั้งสามคนหยิบตะกร้าขึ้นมาแบบงงๆ


“ตามกูมา” พูดจบก็เดินถือตะกร้าเดินนำพวกเขาไปยังแถวที่พร้อมเก็บ


“แกะออกจากถ้วยแล้วใส่ตะกร้า เต็มแล้วก็เอาไปใส่ตรงนั้น” เขาชี้ไปยังรถเข็นที่อยู่ไม่ไกลก่อนจะเดินไปเก็บอีกแถว มาวินและเพื่อนอีกสองคนจึงถือตะขอเกาะยางเดินเก็บยางกันคนละแถว


กลิ่นเหม็นเน่าตุๆ ลอยมาตามลม เขาทำจมูกฟุดฟิดกวาดสายตามองไปรอบๆ


ไม่มีอะไรนี่หว่า


ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเก็บยางต่อ แต่กลิ่นนั้นยังคงรบกวนสมาธิเขาตลอดเวลา พลันนึกถึงเรื่องที่เคยประสบพบเจอก็หันซ้ายหันขวาอย่างหวาดระแวง มองพ่อหมอที่กำลังเดินเก็บยางอยู่ไกลๆ เพื่อนอีกสองคนก็อยู่ถัดไปอีกสองแถว จู่ๆ ก็ขนหัวลุกขึ้นมา


‘กลางวันแสกๆ แบบนี้ยังตามมาหลอกหลอนกันอีกเหรอวะ’


มาวินตัดสินใจจะเดินไปเก็บยางใกล้ๆ เพื่อน จึงก้มลงหยิบของที่วางอยู่บนพื้น แต่ยิ่งก้มลงไปกลิ่นก็ยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆ พลันสายตาก็ปะทะเข้ากับก้อนยางที่วางอยู่ หัวคิ้วเขาขมวดมุ่นพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยกยางก้อนนั้นขึ้นมาสูดดมเต็มปอดเพื่อพิสูจน์ความคิดของตัวเอง


‘อุ่กก!’


“เหม็นชิบหาย!” เขาร้องเสียงหลงโก่งคออ้วกอย่างเอาเป็นเอาตาย น้ำหูน้ำตาไหลหน้าแดงยิ่งกว่าตำลึงสุก


จอมทัพหันไปมองก่อนจะรีบหันกลับมายกมือปิดปากกลั้นขำจนหน้าดำหน้าแดง


“มึงไม่เหม็นเหรอวะ” มาวินตะโกนถามเพื่อนที่เดินเก็บยางด้วยสีหน้าเหมือนเดินอยู่ในทุ่งดอกไม้นานาพรรณ


“จมูกกูไม่ได้กลิ่นอะไรมาสักพักแล้วว่ะ” นนท์หันมาพูดด้วยท่าทางสบายๆ เหมือนเดิม คนถามถึงกับเหม่อไปพักใหญ่


มาวินถอดเสื้อเอามาคาดปิดจมูกไว้แล้วเดินเก็บยางต่อ




“เก็บหมดแล้วใช่ไหม” จอมทัพเดินเข้าไปหามาวินที่นอนแผ่หลาอยู่บนพื้นหลังจากเดินเก็บยางมาเกือบ 3 ชั่วโมงโดยไม่สนใจว่าจะเลอะ


“จมูกผมพังไปแล้ว”


มาวินพยักหน้าแล้วกล่าวอย่างเลื่อนลอย สายตามองขึ้นไปบนยอดไม้ที่พริ้วไหวเบาๆ


“หึหึ” จอมทัพยืนขำท่าทางของมาวิน


“แล้วใครให้มึงถอดเสื้อ ไม่เห็นรึไงว่ายุงมันเยอะ”


“เอามาปิดจมูก เหม็น” มาวินยู่หน้า


จอมทัพกลั้นขำ ปกติเขาไม่เก็บเองเพราะมันเหม็นนี่แหละ แต่วันนี้เห็นว่ามีคนอยากทำงานตอบแทนค่าอาหารเลยพามาด้วย


“ลุกขึ้น กูจะพาไปจับปลามาทำอาหารเย็น”


มาวินได้ยินก็รีบลุกขึ้นมาแล้วเดินตามไป มองเห็นเพื่อนอีกสองคนกำลังนั่งเหมือนคนหมดแรงเลยเรียกมันไปด้วย ไปถึงกระท่อมก็ขึ้นรถพ่วงข้างไปยังสระน้ำที่พ่อหมอบอก ไม่นานเขาก็มองเห็นสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ไม่ไกล


กล้าและจอมทัพหยิบแหและถังไปไว้ใส่ปลาเดินไปยังขอบสระแล้วถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่กางเกงขาสั้นข้างใน โชว์ซิกแพคของตัวเอง มาวินมองหุ่นพ่อหมอด้วยความอิจฉา


‘หุ่นอย่างกับนายแบบ ผิวสีแทนโคตรสวย’ คิดแล้วก็ถอดเสื้อผ้าตัวเองบ้าง เหลือไว้แต่กางเกงในตัวเดียวแล้วเดินไปยืนข้างๆ จอมทัพ


ลอนนั่นท่านได้แต่ใดมา


สายตาเหล่มองไปยังกล้ามหน้าท้องและกล้ามแขนที่ขึ้นเป็นมัดๆ ก่อนจะก้มลงมองหน้าท้องตัวเองแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ หัวคิ้วย่นเข้าหากันเล็กน้อย


ความรู้สึกด้อยกว่านี่มันอะไร


จอมทัพมองคนที่เอาแต่ยืนจ้องตัวเองนิ่ง มุมปากยกยิ้มบางเบาจนแทบจะมองไม่เห็น ก่อนจะหลุบตาลงซ่อนประกายบางอย่างในแววตา


“น้ำลึกมากไหมครับ” มาวินเอ่ยถามพลางมองไปในน้ำ


“ประมาณอก” เขาตอบ ก่อนจะหันไปมองหาจุดที่ปลากระโดดขึ้นมา แล้วเดินถือแหที่พันแขนเตรียมหว่านเหวี่ยงออกไปทันที ยืนรอสักพักแล้วเดินลงไปยังจุดนั้น


“ผมลงด้วย” มาวินรีบเดินตามลงไปแล้วหันไปพูดกับเพื่อน


“มึงรอเลย กูจะจับปลามาให้”


“ทำไงต่ออ่ะพ่อหมอ”


“ดำลงไปจับปลาใต้แห” พูดจบจอมทัพก็ดำลงไปทันที น้ำค่อนข้างขุ่นมาวินเลยหลับตาคลำใต้น้ำ เขาควานไปแตะโดนตัวจอมทัพก็รู้ว่ามาถูกทางแล้ว ค่อยๆ ควานหาแหที่พื้นก็ไม่เจออะไร มาวินดำผุดดำว่ายอยู่แบบนั้นโดยไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือขึ้นมาสักอย่าง


“มึงลงไปทำอะไรวะ” นนท์ตะโกนลงไปถามคนที่กำลังทำก้นผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในน้ำ


“จับปลาไง ถามได้” พูดจบก็ดำลงไปในน้ำต่อ


ไผ่ยืนมองเพื่อนที่เหมือนจะมาเล่นน้ำมากกว่ามาจับปลาแล้วได้แต่ส่ายหัว


พอตะวันใกล้จะตกดินจึงพากันกลับ


มาวินนั่งโต้ลมกอดอกแน่น หนาวจนปากสั่น พอถึงบ้านก็รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดทันที ส่วนไผ่และนนท์ก็อาสาไปช่วยกล้าทำอาหาร




“อื้ม อร่อย” มาวินตาโต


“ปลาสดๆ เนื้อจะหวานอร่อยครับ ยิ่งถ้าจับขึ้นมาแล้วเผากินตรงนั้นเลยยิ่งอร่อย” กล้าพูดขึ้นมา นนท์กับมาวินพยักหน้า


เมื่อกินข้าวเสร็จทุกคนจึงแยกย้ายกันเข้านอน




จอมทัพนั่งสมาธิอยู่ในห้อง อยู่ๆ ก็ได้สินเสียงเรียกของเพชรและทอง รักยมที่เขาเลี้ยงไว้ดังขึ้น


“พ่อ ไอ้หมอผีอ่ำกำลังเข้าไปในป่าช้า มันจะมาเอาน้ำมันพรายจากศพตายทั้งกลมขอรับ” เพชรรายงานจอมทัพทันทีที่มาถึง


“อืม ขัดขวางมันไว้ เดี๋ยวพ่อตามไป”


“ขอรับ” เพชรและทองหายตัวไปทันทีตามที่พ่อสั่ง


จอมทัพหยิบย่ามของตนแล้วรีบลุกขึ้นเปิดประตูออกไปทันที




มาวินที่ออกมารับโทรศัพท์ข้างนอกยืนมองจอมทัพสะพายย่ามใบหนึ่งเดินออกมาด้วยท่าทางรีบร้อน


‘พ่อหมอจะไปไหนวะดูรีบร้อนจัง’


“มึงไปเรียกไอ้กล้าให้กูหน่อย” จอมทัพพูดเสียงจริงจังจนมาวินตกใจ


“เอ่อ ครับ” พูดจบก็รีบวิ่งไปเคาะห้องของกล้าเสียงดัง


“กล้า พ่อหมอเรียก” มาวินเคาะประตูรัว ครู่เดียวกล้าก็เปิดประตูออกมาพร้อมกับสะพายย่ามไว้หนึ่งใบ


“กำลังจะออกไปครับ พี่ปิดประตูให้สนิทอยู่แต่ในห้องนะครับ” พูดจบกล้าก็รีบวิ่งไปหาพ่อหมอทันที


นนท์ที่ได้ยินเสียงเคาะประตูก็ตื่นมาเช่นกัน เขาเปิดประตูออกมาดูด้วยท่าทางงัวเงียแล้วเอ่ยถามมาวิน


“เกิดอะไรขึ้นวะ”


“ไม่รู้ว่ะ เห็นพ่อหมอสะพายย่ามออกไปท่าทางรีบร้อน บอกให้กูมาเรียกกล้า” มาวินตอบพลางทำหน้างงๆ


“เฮ้ย หรือว่าจะออกไปปราบผี” นนท์พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น


“หยุด กล้าบอกให้อยู่แต่ในห้องห้ามออกไปไหน” มาวินพูดอย่างรู้ทัน นนท์ไม่พูดอะไรเขากลับเข้าไปในห้องใส่เสื้อผ้าหยิบมือถือของตัวเองออกมา แล้วลากแขนมาวินไปด้วยกันปากก็ร้องตะโกนไปด้วย ไม่สนใจเสียงร้องโวยวายของมาวินสักนิด