เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ประถม มัธยม จนกระทั่งมหาวิทยาลัย
ตอนนี้จะถึงเวลาที่ต้องเลิกเป็นเพื่อนกันแล้วหรือยังนะ?
รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ตอนที่ ๒
“วันนี้ไม่ต้องทำกับข้าวเผื่อเรานะ เดี๋ยวเราจะออกไปกินข้าวกับเพื่อน”
เขมฉมาเอ่ยปากบอกกับรูมเมทที่รับหน้าที่ทำกับข้าว ก่อนจะหันกลับมารวบผมขึ้นและรัดผมด้วยผ้าผูกผมสีชมพูหวานแหววที่ชัชชนออกเงินซื้อให้ตอนไปเดินเล่นที่ตลาดด้วยกัน
“จ้า” เพื่อรวมห้องลากเสียงยาวและทำหน้าเหม็นเบื่อ
“ก็เรากับชลเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ นี่”
“นี่ร้อนตัวหรือเปล่าเนี่ย เมื่อกี้แกไม่ได้บอกเราเลยนะว่าจะไปกับเพื่อนคนไหน” อีกฝ่ายหัวเราะ ส่วนเขมฉมาได้แต่ค้อนใส่เพื่อน
“แล้วก็เสาร์อาทิตย์นี้ เราจะไปเที่ยวทะเลกับพวกไอรินะ” เธอเอ่ยปากบอกกับรูมเมทที่เรียนอยู่คนละคณะจึงไม่ได้สนิทกับเพื่อนจากคณะเดี๋ยวกันอย่างไอรดา
หญิงสาวลุกขึ้นจากโต๊ะเครื่องแป้งแล้วหยิบกระเป๋าผ้า ก่อนรีบเดินออกจากห้อง เนื่องจากชายหนุ่มกำลังรอเธออยู่หน้าหอพัก
“วันนี้ทำข้อสอบได้ไหมล่ะ” เพราะคุยกันตลอด เขมฉมาจึงรู้ทั้งตารางเรียนและตารางสอบของชัชชนอยู่ตลอด และเขาเองก็รู้ของเธอเช่นกัน
“พอทำได้”
“เบื่อคนเก่ง พอทำได้นี่หมายถึงทำได้ทุกข้อล่ะสิ” เธอค้อนก่อนจะขึ้นซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์คันน้อยของชัชชน
“ก็รู้แล้วจะถามทำไมล่ะ” ชายหนุ่มหัวเราะก่อนจะเริ่มขี่รถไปตามซอยเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยหอพักของนักศึกษา เพื่อไปร้านบุฟเฟต์หมูกระทะราคาถูก ซึ่งเหมาะกับศึกษาที่ยังคงใช้เงินของพ่อแม่
“มากี่ที่คะ” พนักงานเอ่ยถามทันทีที่ทั้งสองก้าวเข้ามาภายในร้าน
“สองค่ะ” เขมฉมายกนิ้วประกอบคำพูด ก่อนจะเดินตรงไปยังโซนโต๊ะเล็กๆ ทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส ซึ่งมีสี่ที่นั่ง
เนื่องจากมาด้วยกันบ่อยๆ ตั้งแต่ปี 1 ดังนั้นทั้งสองคนจึงแยกย้ายกันไปหยิบของกินตามความชอบของตัวเอง ก่อนจะกลับมาเริ่มย่างหมูด้วยกัน
“วันเสาร์นี้พร้อมนะ”
ชัชชนเข้าใจได้ทันทีว่านั่นหมายถึงเรื่องที่เขมฉมาชวนเขาไปทะเลด้วยกันในฐานะแฟน (ปลอม)
“พร้อมแล้ว”
“แต่พูดก็พูดเถอะ เราว่าเราไม่ค่อยชอบนายคนนี้เลย รู้สึกว่าพอยัยไอริไปชอบเขาก่อนก็ต้องยอมโอนอ่อนผ่อนตามเขาไปทุกเรื่อง แถมเวลาถูกปฏิเสธสีหน้ากับน้ำเสียงตอนพูดกับยัยไอริก็ไม่ดีเลย”
“แล้วมันมายุ่งกับขิมไหม จำได้ว่าตอนแรกขิมบอกว่ามันอยากได้เบอร์เธอ”
เขมฉมาทำสีหน้าหนักใจ “บางทีก็ส่งข้อความมาชวนคุย เหมือนทำเป็นถามนั่นนี่เกี่ยวกับยัยไอริ แล้วก็นอกเรื่อง นี่เรายังไม่กล้าบอกยัยไอริเลยว่าลับหลังเขาทำแบบนี้ รู้สึกลำบากใจอะ”
“ต้องบอกนะ ไม่ต้องกลัวว่าเพื่อนจะโกรธหรอก เพราะว่าถ้าโกรธเพราะรู้จากขิมมันดีกว่าโกรธเพราะรู้เอง เราว่ามันให้ความรู้สึกต่างกัน”
“อืม เราจะหาโอกาสบอกช่วงตอนไปเที่ยวกันนี่แหละ”
“เราว่าบางทีอาจจะทำให้เพื่อนขิมตาสว่างมากกว่า” แม้จะยังไม่รู้จักกัน ชัชชนก็บอกได้เลยว่าเขาคงเกลียดขี้หน้านายคนนี้แน่ๆ
“เราก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะ แต่กับคนนี้ดูยัยไอริหลงมากกว่าปกติยังไงก็ไม่รู้สิ” เขมฉมาคีบหมูที่สุกแล้วให้กับชัชชนก่อน เพราะติดนิสัยคอยดูแลน้องๆ เวลากินหมูกระทะด้วยกัน เธอจะให้น้องก่อนแล้วตัวเองค่อยกินทีหลัง ชายหนุ่มก็ชินกับพฤติกรรมนี้ของอีกฝ่าย จึงคีบหมูเข้าปาก เคี้ยวด้วยความเอร็ดอร่อยพลางคุยกันไปเรื่อยๆ
*****
เมื่อรถตู้จอดลงตรงหน้าหอพักของชัชชน ชายหนุ่มก็รู้ทันทีว่าเป็นรถตู้ที่พวกเขาเช่า เพื่อเดินทางไปเที่ยวทะเลด้วยกันและมารับเขาเป็นคนสุดท้าย
ชายหนุ่มมองหาเขมฉมาทันที ก่อนจะขึ้นไปนั่งยังที่ว่างข้างหญิงสาวที่ยังมีอาการง่วงอยู่เล็กน้อย เพราะตอนนี้ยังค่อนข้างเช้ามาก
“ตื่นหรือยังเนี่ย” ชัชชนถามเสียงเบาพลางรัดเข็มขัดนิรภัย
“เมื่อคืนเผลอไปดูซีรีส์น่ะสิ มีเก้าตอนจบเอง แรกๆ ยังดูเรื่อยๆ ออกแนวน่าเบื่อด้วย ดองอยู่ตั้งหลายวัน แต่พอถึงตอนที่สี่เท่านั้นแหละ ยังไงก็ต้องดูให้จบก่อน ไม่งั้นนอนไม่หลับ”
ชัชชนหัวเราะเบาๆ แล้วก็เงียบไป เพราะบนรถตู้ คนอื่นๆ ก็น่าจะยังอยากนอนต่อกันอยู่ เขาจึงไม่อยากรบกวนใคร ผ่านไปสักพักศีรษะของเขมฉมาก็เอนมาพิงไหล่ของเขา ชายหนุ่มจึงปล่อยให้เธอได้ซบเขาด้วยความยินดี
หลังจากการนั่งรถตู้อย่างยาวนาน ในที่สุดกลุ่มเพื่อนของหญิงสาวที่มีกันหกคนและแฟนหนุ่มที่ตามมาอีกสอง และถ้ารวมเขาด้วยก็เท่ากับผู้ชายสามคน ก็ได้ออกมายืดแข้งยืดขากันที่หน้าบังกะโลหลังเล็กๆ สีขาวสะอาดตา ซึ่งปลูกสร้างยาวเรียงรายกันไปตามแนวริมหาด
ดูเหมือนว่าเพื่อนของเขมฉมาจะช่วยเออออตามกันไปหมดว่าเขาเป็นแฟนของหญิงสาว ตามที่ไอรดาคนต้นเรื่องต้องการ
“ชล เราต้องนอนห้องเดียวกันนะ”
“เป็นแฟนกันนี่เนอะ ก็ต้องนอนห้องเดียวกันน่ะถูกแล้ว” มุมปากที่ยกยิ้มขึ้นของชัชชน ทำให้สีหน้าของเขาดูเจ้าเล่ห์
เขมฉมาจึงหยิกเข้าที่ต้นแขนของเขาแรงๆ จนอีกฝ่ายรู้สึกเจ็บจนหน้าเบ้ “สมน้ำหน้า” และแถมค้อนให้อีกหนึ่งวงใหญ่
“เจ็บนะ เดี๋ยวก็เดินไปบอกหมอนั่นหรอกว่าเราเป็นแค่เพื่อนสนิทกัน” ชัชชนพยักพเยิดหน้าไปทางชายหนุ่มที่กำลังทำหน้าที่เจ้าบ้านนำทางไปยังบังกะโลที่ถูกจองไว้ให้พวกเขา
“ก็ไปบอกสิ”
“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวมีคนร้องไห้งอแง” ชายหนุ่มล้อและสามารถหลบมือที่กำลังจะพุ่งมาหยิกเขาอีกหนได้ทัน
เสียงหัวเราะของทั้งสองที่เดินอยู่หลังสุด ดังไปถึงคนที่เดินอยู่หน้าสุดเลยทีเดียว ธราธิปซึ่งเอ่ยปากชวนให้ทุกคนมาพักที่บังกะโลของครอบครัว นึกรู้สึกรำคาญใจเสียงที่ได้ยินอย่างบอกไม่ถูก และเมื่อส่งทุกคนเข้าห้องพักเรียบร้อยแล้ว เขาก็มีโอกาสอยู่กับหญิงสาวที่กำลังตามจีบเขาเพียงลำพัง เพราะห้องของเธออยู่ไกลสุดและพักเพียงคนเดียว
“เห็นไหม เราบอกแล้วว่าขิมเขามีแฟนแล้วจริงๆ ทีนี้เชื่อหรือยัง” ไอรดาที่ตกหลุมรักหนุ่มรูปหล่อหุ่นนักกีฬาอย่างถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว จึงพยายามทำทุกทางให้เขาเลิกสนใจเพื่อนของตัวเอง แล้วหันมาสนใจเธอแทน จะได้ขยับสถานะจากคนคุยมาเป็นแฟนกันเสียที
“แล้วเราเคยบอกว่าไม่เชื่อตอนไหน” ธราธิปเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดใส่ไอรดา หญิงสาวจึงดึงสีหน้าไม่พอใจใส่เขาบ้างเช่นกัน
“ก็เธอยังดูสนใจขิมอยู่เลย เห็นมองอยู่นั่นแหละ”
“เธออย่ามาเยอะได้ไหม ก็แค่มองเฉยๆ” ชายหนุ่มช่วยยกกระเป๋าเสื้อผ้าใบโตเข้าไปไว้ภายในบังกะโลให้กับไอรดาด้วยความคิดว่ามาพักแค่คืนเดียวจะต้องพกเสื้อผ้ามาเยอะแยะทำไม
หญิงสาวหน้ามุ่ยขึ้นมาทันทีเพราะถูกว่า นึกน้อยใจจนน้ำตาแทบไหล ธราธิปเห็นแบบนั้นก็นึกสงสารขึ้นมาเหมือนกัน
“ไม่เอาน่า เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสวยๆ สิ เดี๋ยวออกไปเล่นน้ำกัน” ชายหนุ่มปลอบ สีหน้าของอีกฝ่ายจึงดีขึ้นและมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า
“เราเอาชุดมาเยอะแยะเลย เลือกไม่ถูกว่าจะใส่ชุดไหนดี ธิปช่วยเลือกหน่อยสิ”
ชายหนุ่มแอบถอนหายใจเบาๆ อ๋อ เพราะแบบนี้เอง กระเป๋าถึงใบใหญ่และหนัก แล้วจากนั้นเขาก็จิ้มมั่วๆ ไปชุดหนึ่ง
ส่วนอีกด้านชัชชนกับเขมฉมาก็กำลังอยู่ในห้องพักด้วยกัน ทั้งสองวางกระเป๋าเสื้อผ้าลงข้างเตียงหลังที่ตัวเองเลือก
“มีกิจกรรมอะไรวางไว้ต้องไปทำด้วยกันไหม”
“ตอนนี้แยกกันเที่ยว เล่นน้ำได้ตามสบายเลย แต่ตอนกลางคืนจะมาทำปิ้งย่างกินกันเองที่หาดน่ะ ส่วนตอนเช้าก็จะไปแวะตามสถานที่ท่องเที่ยวแถบนี้ ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็กลับ”
ชัชชนเห็นแฟนหนุ่มสักคนของเพื่อนๆ เขมฉมาพกกีตาร์มาด้วย คืนนี้ก็คงมีดนตรีสดให้ฟัง พร้อมล้อมวงกินเหล้ากันแน่ๆ
“ชล เอากางเกงกับเสื้อที่เราซื้อมาไปใส่สิ”
ชายหนุ่มมองดูกางเกงชายหาดขาสั้นสีเหลืองลายต้นมะพร้าวกับเสื้อยืดสีขาวแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถามเล็กน้อย ทว่าพอเห็นหญิงสาวหยิบอีกชุดออกมาจากกระเป๋า เขาก็เข้าใจ จึงถอดเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ออกแล้วใส่ชุดที่เธอเตรียมมา ในขณะที่เขมฉมาเข้าไปเปลี่ยนชุดภายในห้องน้ำและเมื่อเธอออกมา พวกเขาก็อยู่ในชุดที่เหมือนกัน
“กลัวเขาไม่เชื่อเหรอว่าเป็นแฟนกัน”
“ก็กลัวน่ะสิ” หญิงสาวว่าพลางหยิบเอาสเปรย์กันแดดออกมาพ่นใส่หน้าและส่วนอื่นๆ ที่อยู่นอกร่มผ้า “หลับตาสิ เดี๋ยวพ่นให้”
ดังนั้นเขาจึงหลับตาลง สเปรย์เย็นๆ ถูกพ่นลงบนหน้า ลำคอและส่วนอื่น ก่อนเขาจะลืมตาขึ้น เพราะอีกฝ่ายแตะมือเบาๆ ลงบนแก้มของเขาพร้อมกับเอ่ยเสียงเบาว่า “ลืมตาได้”
เขามองดูคนตรงหน้า เวลาสำหรับการเป็นเพื่อนสนิทกันใกล้จะหมดแล้ว เพราะถ้าเอ่ยปากบอกความรู้สึกออกไป ยังไงระหว่างพวกเขาก็คงไม่เหมือนเดิม
*****
ชัชชนเดินตามเขมฉมาลงมาที่ชายหาด แม้ตอนแรกหญิงสาวจะไม่ได้รู้สึกอยากมา แต่พอมาถึงทะเล เจ้าตัวกลับมีท่าทางสดชื่นแจ่มใส
“ไม่รู้ว่าทำไมมาทะเล แล้วรู้สึกเหมือนได้ชาร์จแบตก็ไม่รู้เนอะ”
“ถ้ามาเพราะอยากมาเอง คงน่าจะสนุกกว่านี้อีกนะ”
“เอาไว้ เราหาเวลามาด้วยกันอีกสักทีดีไหม ก่อนเรียนจบแล้วต้องแยกย้ายกันไปหางานทำ”
“ก็ดีนะ เรามากับขิมแค่สองคนก็พอ” ชัชชนยิ้มมองคนตรงหน้า อีกฝ่ายก็ยิ้มตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มแสนจริงใจ “แล้วก็ต้องไม่ใช่บังกะโลแถวนี้นะ รู้สึกเหม็นขี้หน้าเจ้าของยังไงก็ไม่รู้ คงนอนไม่เป็นสุข”
“แหมดูพูดเข้า เขาอุตส่าห์ให้มานอนฟรีๆ”
“นี่ดีนะที่ขิมพาเรามาด้วย รู้สึกว่ามันไม่น่าไว้ใจยังไงก็ไม่รู้ ถ้าเกิดคืนนี้กินเหล้าเมายากัน แล้วมันเกิดอยากจะเข้าไปในห้องที่เธอนอนอยู่จะทำยังไง”
“เราไม่ดื่มนี่” เขมฉมาคิ้วขมวดเข้าหากัน “ชลก็รู้ว่าเราไม่แตะของพวกนี้ เขาจะมาทำอะไรเราได้” เพราะเรื่องที่บิดาเคยทำไว้ในอดีต หญิงสาวจึงเข็ดขยาดกับน้ำเมา แต่ก็ไม่ได้รังเกียจคนที่ดื่มหรอกนะ เพียงแต่เธอตั้งปณิธานกับตัวเองว่าชาตินี้ทั้งชาติจะไม่แตะมันเด็ดขาด
“ไม่รู้แหละ ถ้าอนาคตเกิดมันคบกับเพื่อนของขิมแบบจริงจัง แต่ก็ยังแอบมาตอดเล็กตอดน้อย ต้องห้ามไปเที่ยวกับมันเด็ดขาด”
“ค่ะ คุณพ่อ เอ๊ย! คุณเพื่อน” หญิงสาวทำหน้าทะเล้น
“เราห่วงเธอจริงๆ นะขิม” ชายหนุ่มเห็นอีกฝ่ายรับปากไม่จริงจังก็หน้ามุ่ย
“โอ๋ๆ อย่าทำหน้างอนกันแบบนั้นสิ” เขมฉมายิ้มประจบ “สัญญาๆ ยังไงก็ไม่มาเที่ยวกับพวกเขาอีกแล้ว หายงอนเถอะ มาถ่ายรูปกันดีกว่า วันนี้อากาศดี น่าจะได้รูปสวยๆ เยอะเลย”
สุดท้ายชัชชนก็ต้องเลิกทำหน้ามุ่ยและยิ้มตอบอีกฝ่าย เพราะเขาจะทนไม่ยิ้มตามรอยยิ้มสดใสของอีกฝ่ายได้ยังไงกันเล่า
ดังนั้นทั้งสองคนจึงเดินเล่นไปตามริมหาดทรายพลาง ถ่ายรูปกันไป ทั้งรูปเดี่ยว รูปเซลฟี่กันสองคน นับร้อยๆ รูป
*****
แน่นอนว่าเมื่อถึงช่วงค่ำ เจ้าบ้านอย่างธราธิปก็นำเตาปิ้งย่างมาตั้งบนหาดพร้อมกับอาหารทะเลสดๆ มากมาย ให้ได้ย่างกินกันจนท้องแตกก็ยังไม่หมด อีกทั้งเหล้าเบียร์ก็มีไม่อั้นเช่นกัน สมกับหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี
ชัชชนกับเขมฉมาที่นอกจากจะใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน ก็ยังตัวติดกันแทบจะตลอดเวลา ไม่มีโอกาสให้ใครเข้ามาเกาะแกะได้เลย จนไอรดาต้องแอบแซว
“พวกเธอสองคนเนี่ย เป็นแฟนกันไปเลยจริงๆ ดีไหม ถ้าจะเล่นเป็นแฟนกันเนียนขนาดนี้”
“ยัยไอริอย่ามาแซว” เขมฉมายกที่คีบอาหารขึ้นทำท่าจะฟาดใส่เพื่อน แม้รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดจะเอาจริง แต่ไอรดาก็วิ่งหนีไปพร้อมกับจานที่เต็มไปด้วยหมึกตัวโตที่สุกแล้ว
หญิงสาวเห็นคนอื่นๆ ต่างก็ถือแก้วเหล้าในมือ จึงเอ่ยปากกับชัชชน “วันนี้ไม่ดื่มเหรอ”
“ไม่ เพราะจริงๆ เรารู้ว่าขิมไม่อยากให้เราดื่มใช่ไหมล่ะ”
“ไม่ดื่มก็ดี เรากลัวว่าเดี๋ยวเธอเมาแล้วจะลากกลับห้องพักไม่ไหว”
เขาได้แต่แอบคิด ถ้าดื่มแล้วเมาคงต้องขอนอนอยู่หน้าระเบียงของบังกะโลแทนนอนข้างในกับหญิงสาวน่ะสิ เพราะกลัวตัวเองจะสติหลุด พระอิฐพระปูนก็สติแตกได้เหมือนกัน
“มาทะเลไม่ดื่มกันสักหน่อยเหรอ” ธราธิปที่เดินมาพร้อมจานเปล่าในมือ เหมือนตั้งใจว่าจะมาเอาของบนเตาที่ทั้งชัชชนและเขมฉมารับหน้าที่ดูแลการย่างให้อยู่
“เราไม่ดื่มเหล้า” หญิงสาวทั้งยกมือปฏิเสธและส่ายหน้าไปมา
“ส่วนเรา งดเหล้าเบียร์ทุกวันพระว่ะ” ชัชชนเอ่ยตอบไปเรื่อยเปื่อย ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันพระหรือเปล่า และเขาก็แน่ใจว่าอีกฝ่ายคงไม่รู้เหมือนกัน
“ธิป เอาหอยหวานมาอีกเยอะๆ นะ” เสียงของไอรดาดังแหวกเสียงคลื่นขึ้นมา ชายหนุ่มจึงหันไปมองหญิงสาวที่สวยหุ่นดีคนหนึ่งที่กำลังนั่งล้อมวงอยู่กับคนอื่นบนชายหาด แล้วจึงหันกลับมามองเขมฉมาด้วยความเสียดาย เพราะเจ้าตัวถูกสเปกเขามากกว่า แม้จะรู้ว่ามีแฟนแล้วเขาก็ยังตัดใจไม่ขาด อยากจะลอง...
ทว่าสายตาของชัชชนที่มองมาเหมือนรู้ทัน และขยับเข้าใกล้เขมฉมามากกว่าเดิมก็ทำให้เขารู้ว่าตัวเองคงไม่มีโอกาสแล้ว