เสือสมิง สัตว์ร้ายยามราตรีที่ชาวบ้านต่างหวาดกลัว มันออกอาละวาดเข่นฆ่าผู้คนไม่เว้นแต่ละวันจนพรานเชิด พรานผู้มีฝีมือเก่งกาจด้านคาถาอาคมปราบมันจนสิ้นใจได้ เรื่องราวไม่ได้จบลงเท่านั้น เจ้าสัตว์ร้ายยังมีลูกอีกตัวหนึ่งเวลาพ้นผ่านมานานนับ๒๐ปี ความแค้นสุมอกสมิงผู้ลูกทำให้มันลอบเข้าเรือนพรานเชิดและฉกตัวลูกชายคนเล็กของพรานเชิดออกไปจากเรือน

พิษสมิงพราย - ตอนที่ ๒ คืนที่ ๒ โดย ยอดหลิว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,โอเมกาเวิร์ส,ย้อนยุค,ไทย,ลึกลับ,ทะลุมิติ,ต่างโลก,ไสยศาสตร์,เสือสมิง,ชาย-หญิง,ชายรักชาย,ชาย-ชาย,นิยายเกย์,นิยายรัก,นิยายบีแอล,นิยาย18+,แฟนตาซี,นิยายวาย,ดราม่า,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พิษสมิงพราย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,โอเมกาเวิร์ส,ย้อนยุค,ไทย,ลึกลับ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ทะลุมิติ,ต่างโลก,ไสยศาสตร์,เสือสมิง,ชาย-หญิง,ชายรักชาย,ชาย-ชาย,นิยายเกย์,นิยายรัก,นิยายบีแอล,นิยาย18+,แฟนตาซี,นิยายวาย,ดราม่า,#BL

รายละเอียด

พิษสมิงพราย โดย ยอดหลิว @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เสือสมิง สัตว์ร้ายยามราตรีที่ชาวบ้านต่างหวาดกลัว มันออกอาละวาดเข่นฆ่าผู้คนไม่เว้นแต่ละวันจนพรานเชิด พรานผู้มีฝีมือเก่งกาจด้านคาถาอาคมปราบมันจนสิ้นใจได้ เรื่องราวไม่ได้จบลงเท่านั้น เจ้าสัตว์ร้ายยังมีลูกอีกตัวหนึ่งเวลาพ้นผ่านมานานนับ๒๐ปี ความแค้นสุมอกสมิงผู้ลูกทำให้มันลอบเข้าเรือนพรานเชิดและฉกตัวลูกชายคนเล็กของพรานเชิดออกไปจากเรือน

ผู้แต่ง

ยอดหลิว

เรื่องย่อ

สารบัญ

พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๑ คืนที่ ๑,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๒ คืนที่ ๒,พิษสมิงพราย-ตอนที่๓ คืนที่ ๓,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๔ คืนที่ ๔,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๕ คืนที่ ๕,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๖ คืนที่ ๖,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๗ คืนที่ ๗,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๘ คืนที่ ๘,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๙ คืนที่ ๙,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๑๐ คืนที่ ๑๐,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๑๑ คืนที่ ๑๑,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๑๒ คืนที่ ๑๒,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๑๓ คืนที่๑๓เป็นของพ่อพญา,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๑๔ คืนที่ ๑๔,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๑๕ คืนที่ ๑๕,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๑๖ คืนที่ ๑๖,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๑๗ คืนที่ ๑๗,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๑๘ คืนที่ ๑๘,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๑๙ คืนที่ ๑๙,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๒๐ คืนที่ ๒๐,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๒๑ คืนที่ ๒๑,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๒๒ คืนที่ ๒๒,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๒๓ คืนที่ ๒๓,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๒๔ คืนที่ ๒๔,พิษสมิงพราย-ตอนที่ ๒๕ คืนที่ ๒๕ คืนถอดถอนคำสาป(ตอนจบ)

เนื้อหา

ตอนที่ ๒ คืนที่ ๒

เสียงโหวกเหวกโวยวายในตอนเช้ามืด บ่าวไพร่บนเรือนหน้าตาตื่นเมื่อพบว่าลูกของพรานเชิดหายไป

“พี่เชิด พี่เชิดจ๊ะ เห็นพ่อแก้วบ้างไหม”

“ลูกหายหรือ”

“จ้ะ แสงเดือนบอกว่าไม่เห็นตั้งแต่เมื่อคืน คิดว่ามานอนกับฉัน”

พรานเชิดหน้าตาตื่น ร่างกายที่สภาพตามสังขารตอนนี้รีบวิ่งไปที่ลำธารหลังเรือน ตาชายชราเบิกกว้าง รอยเท้าเสือใหญ่เกือบเท่ากระด้งฟัดข้าว พรานเชิดหงายตึง

“พี่เชิด เป็นอะไรจ๊ะ”

แม่สารภีรีบเข้ามาประคองสามี ที่หงายหลังลงกับพื้นพร้อมกับแสงเดือนที่เข้ามาช่วยอีกแรง

“แม่สารภี พวกมันกลับมาแล้ว”

“ใครจ๊ะพี่”

พรานเชิดมีสีหน้าวิตกกังวล คงเพราะเวรกรรมของตนที่ฆ่าพญาสมิงเมื่อหลายสิบปีก่อน ทำให้พวกมันกลับมาล้างแค้น

“เสือสมิง เสือสมิงเอาแก้วตาไปแล้ว”

พรานเชิดร้องไห้โฮ ถึงใครจะว่าเขาเป็นเนืองๆว่ารักลูกไม่เท่ากัน ไม่รักหรือห่วงใยแก้วตาเท่าแสงเดือนที่พอเป็นหน้าเป็นตาให้ครอบครัวได้ แก้วตาขี้โรค ปวกเปียก ชอบเก็บตัวห่างจากผู้คน ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วทั้งบาง ว่าพรานเชิดเกลียดลูกขี้โรคจึงปล่อยให้ลูกถูกเสือกิน

เจ้าคนงามขยับกายอิงแอบพรมขนสัตว์สีดำสนิท ไออุ่นจากพรมนิ่มทำให้กายบางรู้สึกสบายตัวแก้มนวลขาวถูไถด้วยความเคยชิน แก้วตาเป็นคนขี้อ้อน มักจะอ้อนแม่สารภีบ่อยๆ

“พี่ขาล(อ่านว่า ขาน แปลว่าเสือ)”

“มีอะไร”

“พี่เอาลูกไอ้พรานระยำนั่นมาถึงที่ ทำไมไม่จัดการมันเลย คนเช่นมันคงฆ่าได้ไม่ยาก”

“กูมีทางที่ดีกว่าฆ่าลูกมัน ยังไงลูกมันก็ไม่ได้รู้อะไรด้วย ถึงอย่างไรกูจะฆ่าไอ้เชิดให้ได้”

สมิงร้ายปรายตามอง กายงามงอนอ้อนแอ้นที่หลับอยู่บนพรมสีดำ โจงกระเบนสีชมพูกลีบบัว แผ่นอกเปลือยเปล่าโชว์ยอดถันเล็ก

“กูจะทำให้มันท้อง ให้ไอ้พรานเชิดมันอกแตกตาย ที่มันมีหลานเป็นสายเลือดสมิง”

“มึงแน่ใจรึ ไอ้ขาล”

ชายตัวสูงในชุดสีขาว หนวดเครายาวถึงเอว ผมสีขาวทั้งหัว ถือไม้ตะพดเดินเข้ามา สมิงร้ายทั้งสองนั่งลงก้มกราบผู้มาใหม่

“ท่านครูศารทูล(สา-ระ-ทูน)”

“มึงทำเช่นนั้นกับมันไม่ได้ดอก”

“ทำไมล่ะขอรับ”

“มันเป็นคู่ของมึง มึงนั่นแหละจะหลงรักมันเอง ไอ้สมิงโง่”

ศารทูลว่าพลางหัวเราะในลำคอ ดวงตาสมิงแก่จ้องมองใบหน้างามงอนยามหลับไหล ดวงสัมพันธ์มัดเข้าที่ต้นแขนของทั้งคู่เป็นแสงสีขาวเท่าเส้นด้าย ล้อมที่ต้นแขน

ด้านพรานเชิดที่กำลังร้อนรน สารภีเองก็เป็นลมล้มพับไปมีเพียงแสงเดือนที่ช่วยหายาหอมมาให้ทั้งพ่อและแม่

“ไม่มีวิธีเลยหรือจ๊ะพ่อ”

“พ่อวางมือนานแล้ว แสงเดือน”

“พรานคนอื่นๆก็มีนี่จ๊ะ ให้พวกมันไปจับก็ได้”

“จับไม่ได้หรอกลูก มันไม่ใช่เสือธรรมดา มันเป็นเสือสมิง”

พรานเชิดเดินเข้าไปในห้องพระ ชายแก่จ้องมองหัวเสือที่แขวนอยู่ข้างผนังเรือน

“เพราะกูหรือ ที่สร้างเวรสร้างกรรมกับมึง”

“วันนี้ลูกกูโดนพวกของมึงเอาไปแล้ว”

“กูจะปล่อยมึง ช่วยกูหน่อยเถอะ”

พรานเชิดยกหัวพญาพาฬวางลงบนโต๊ะพิธี มือเหี่ยวย่นหยิบสร้อยประคำคล้องคอก่อนจะเริ่มร่ายคาถา

“พยัคโฆ พยัคฆา สิงเสหรา สัพเพ พานา สิงเสหรา กูจะปลดปล่อยพญา พาฬ โอม สิงเสหรา กูจะปลดปล่อยพญาพาฬ”

พลันแสงสีขาวสว่างวาบสาดส่องทั่วไปหมด ร่างกายกำยำ ที่มีอักขระที่แผงอก ใบหน้าดุร้ายที่พรานเชิดจดจำมันได้ดี

“ไม่เจอแค่เพียงครู่ มึงแก่ขนาดนี้เชียวเรอะ ไอ้พรานขี้ครอก”

“ท่านพญาสมิง โปรดช่วยฉันด้วยเถิด”

พรานเชิดก้มลงกราบแทบเท้า พญาสมิงที่แม้เป็นเพียงดวงวิญญาณก็ยังดูดุร้ายไม่ต่างจากตอนมีชีวิต

“กูเป็นเพียงวิญญาณไปแล้ว กูจะช่วยสิ่งใดมึงได้”

“ท่านได้โปรดบอกพวกของท่าน คืนลูกให้ฉันเถอะ”

“นานขนาดนี้ ลูกมึงไม่กลายเป็นผีเช่นกูแล้วรึ”

สมิงร้ายขำในลำคอ พลางมองหน้าพรานเชิดที่กำลังร้องไห้โฮ มันนั่งยองลงตรงหน้าพลางใช้มือกระชากหัวพรานเชิดให้เงยขึ้น

“ลูกมึงไม่ตายดอก ไอ้พรานระยำ มันเป็นคู่กับลูกกู มึงรอเลี้ยงเลือดเนื้อเชื้อไขสมิงที่มึงเกลียดนักเถิด”

มันพูดจบแล้วพลันร่างของมันก็สลายไปกับอากาศ พรานเชิดยกมือขึ้นปาดน้ำตา ดวงใจชายแก่แม้ไม่ดีขึ้นมากแต่ก็ดีใจที่รู้ว่าอย่างน้อยลูกของมันยังไม่ตาย

เจ้าคนงามหลังจากหลับไปนาน กายบางก็ขยับหันซ้ายหันขวา ดวงตากลมโตมองไปทั่วเรือนไม้สักที่ดูเหมือนทำความสะอาดด้วยของราคาแพง เพราะแผ่นไม้ทุกแผ่นขึ้นเงาสวยทุกแผ่น

“มะ มีใครอยู่ไหมจ้ะ”

แก้วตาก้มมองกายขาวของตนที่พบว่านุ่งผ้าโจงกระเบนสีชมพูกลีบบัว ไม่ใช่ผ้าซิ่นที่แม่มอบให้ ทั้งยังมีผ้าผืนบางที่วางข้างเตียง มือน้อยหยิบขึ้นมาปกปิดยอดถันเล็ก อย่างนึกอายเพราะตนถูกใครไม่รู้เปลี่ยนเสื้อผ้าให้

“ตื่นแล้วรึ พ่อชายงามของข้า”

ชายหนุ่มร่างกายกำยำ นุ่งผ้าโสร่งสีดำทั้งยังถือไม้ตะพดค้ำพื้นกระดานไว้ ดวงตาสีทองสาดมองคนในชุดสวย

“เอ็งเหมาะกับสีนี้เสียจริง พ่อแก้ว”

“หิวแล้วกระมัง”

“เอ็งอยากกินอะไรเล่า พ่อแก้วคนงาม”

“ท่านรู้ชื่อแก้วได้ยังไงจ๊ะ”

“ข้าเดาเอา ว่าคนงามหยดย้อยเช่นเอ็งคงชื่อแก้ว”

ด้วยความซื่อ เจ้าคนงามไม่ได้ถามอะไรกลับไป ดวงตาใสยังคงมองชายตรงหน้า

“ท่านชื่ออะไรหรือจ้ะ”

“ไว้เอ็งเป็นเมียข้าเมื่อใด ข้าจะบอก”

คนงามทำหน้าตกใจกับคำพูดของชายตรงหน้าแก้มนวลขึ้นสีระเรื่อ คนงามหลุบตาต่ำลงพลางจิกเนื้อต้นขาเบาๆ

“ข้าชื่อ ขาล จำเอาไว้ครวญครางยามอยู่ใต้ร่างข้าด้วยเถิด”