เสือสมิง สัตว์ร้ายยามราตรีที่ชาวบ้านต่างหวาดกลัว มันออกอาละวาดเข่นฆ่าผู้คนไม่เว้นแต่ละวันจนพรานเชิด พรานผู้มีฝีมือเก่งกาจด้านคาถาอาคมปราบมันจนสิ้นใจได้ เรื่องราวไม่ได้จบลงเท่านั้น เจ้าสัตว์ร้ายยังมีลูกอีกตัวหนึ่งเวลาพ้นผ่านมานานนับ๒๐ปี ความแค้นสุมอกสมิงผู้ลูกทำให้มันลอบเข้าเรือนพรานเชิดและฉกตัวลูกชายคนเล็กของพรานเชิดออกไปจากเรือน
ชาย-ชาย,โอเมกาเวิร์ส,ย้อนยุค,ไทย,ลึกลับ,ทะลุมิติ,ต่างโลก,ไสยศาสตร์,เสือสมิง,ชาย-หญิง,ชายรักชาย,ชาย-ชาย,นิยายเกย์,นิยายรัก,นิยายบีแอล,นิยาย18+,แฟนตาซี,นิยายวาย,ดราม่า,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
พิษสมิงพรายเสือสมิง สัตว์ร้ายยามราตรีที่ชาวบ้านต่างหวาดกลัว มันออกอาละวาดเข่นฆ่าผู้คนไม่เว้นแต่ละวันจนพรานเชิด พรานผู้มีฝีมือเก่งกาจด้านคาถาอาคมปราบมันจนสิ้นใจได้ เรื่องราวไม่ได้จบลงเท่านั้น เจ้าสัตว์ร้ายยังมีลูกอีกตัวหนึ่งเวลาพ้นผ่านมานานนับ๒๐ปี ความแค้นสุมอกสมิงผู้ลูกทำให้มันลอบเข้าเรือนพรานเชิดและฉกตัวลูกชายคนเล็กของพรานเชิดออกไปจากเรือน
หลังจากวันนั้น แก้วตาคนงามก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับพญาสมิง ถึงพ่อขาลจะเรียกแก้วตาว่าเมีย แต่คนงามก็ไม่ได้เชิดหน้าชูคอทั้งยังทำอย่างเคยทำเมื่อตอนอยู่เรือน เช้าก็เตรียมน้ำล้างหน้าให้ผัว เตรียมสำรับ ทำขนมหวานให้เจ้ากุมารอ้วน ซักผ้าผ่อนจนมือนุ่มหยาบไปตามเวลา
“แม่จ๋า แม่มานั่งทำอะไรคนเดียวจ้ะ”
กุมารอ้วนโผล่หน้ามาทั้งยังยิ้มโชว์ฟันหลอ เหงือกสีแดงแจ๋ มือป้อมๆจับแขนแก้วตาบีบนวดๆตามประสาเด็กช่างประจบ
“ทำกับข้าวให้พ่อขาล หนูหิวไหมเจ้าอ้วนของแม่”
“หิวสิจ้ะ แม่ทำอะไรให้พ่อหรือจ้ะ”
“แกงเขียวหวานมังคุดกับปลาทอดของโปรดของหนูด้วยนะ”
ชายร่างสูงยืนพิงประตู ทอดสายตามองสองแม่ลูก ปากหยักยกยิ้มอย่างนึกเอ็นดู พ่อแก้วคนงามไม่ว่าจะมองมุมไหนก็งามหมดจด เจ้าส้มฉุนหันกลับมาเห็นพ่อพญาที่กำลังใช้นิ้วชี้ป้องปากตนไม่ให้กุมารอ้วนกระโตกกระตาก ส้มฉุนเห็นดังนั้นจึงรีบลุกวิ่งออกจากครัวไป
“ทำให้ลูกแล้วของผัวอย่างข้าล่ะ พ่อแก้ว”
มือใหญ่โอบรัดเอวบางจนเจ้าตัวเซล้มลงบนตักกว้างอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อถึงแม้จะอยู่กับพ่อขาลมาได้ระยะหนึ่ง แต่คนงามก็ไม่เคยชินกับใบหน้าดุจเทวดาสรรสร้าง
“กะ แก้วทำของท่านไว้แล้วจ้ะ”
“งั้นหรือ ขยันเอาอกเอาใจเสียจริงนะ พ่อแก้วของพี่”
มือใหญ่ของสมิงร้ายถือถุงที่อยู่ข้างเอวขึ้นมา พลางชูขึ้นตรงหน้าเมียตัวน้อยที่กำลังดันแผ่นอกของมันอยู่
“อะไรหรือจ๊ะ”
“เปิดดูเองสิ”
มือเรียวรับถุงสีเงินจากพ่อพญามาถือ พลางเปิดออก ข้างในเป็นสร้อยทองมีจี้เล็กๆ ใบหน้าสวยเงยมองชายตรงหน้า มือเรียวยกขึ้นกราบที่อกกว้างอย่างนึกขอบคุณ สร้อยทองเส้นแรกของแก้วตา งามเสียจริง
“ชอบหรือไม่ พ่อแก้วของพี่”
“งามเหลือเกินจ้ะ ท่านซื้อมาที่ไหนหรือจ้ะ”
“ในเมืองน่ะสิ”
ดวงตากลมลุกวาว มือเรียวยกขึ้นกอดแขนพ่อพญาตามประสาเด็กขี้อ้อน ถึงอย่างไรพ่อขาลก็ไม่ชินเสียที พ่อคนงามรู้ว่ามันเป็นเดรัจฉานทำไมถึงยังออดอ้อนตนราวกับเป็นเพียงชายหนุ่มธรรมดา
“ท่านพาแก้วไปเที่ยวบ้างได้ไหมจ๊ะ แก้วสัญญาแก้วจะไม่หนีท่านไปที่ไหน แก้วแค่เพียงอยากออกไปพบปะคนอื่นบ้างจ้ะ”
“ข้าเชื่อได้หรือ เอ็งเคยพยายามหนีข้าแล้วนี่”
“คะ ครั้งนี้แก้วไม่มีทางหนี แก้วไม่มีใครแล้วจ้ะนอกจากท่าน”
คนงามหลุบตาต่ำลงมองถาดสำรับที่เตรียมไว้อย่างนึกน้อยเนื้อต่ำใจ อยู่กับพ่อพญาไม่ได้มีเรื่องทุกข์ร้อนใจอะไร แต่คนงามก็ไม่ได้มีความสุขอย่างเต็มที่อย่างที่อยากมี ใบหน้าสวยซบลงบนแผงอกกว้างของพ่อขาล ยกแขนเรียวขึ้นกอดพ่อพญาอย่างเคยตัว น้ำตาหยดแมะลงบนบ่ากว้าง พ่อขาลแพ้น้ำตาของเมียคนงามอย่างพ่อแก้วเป็นที่สุด
“ไม่ต้องร้อง ข้าจะพาไปตลาดในหมู่บ้านดอนผวา ไม่ไกลจากป่ามาก ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ”
คนงามพยักหน้าหงึกหงึก ยกมือขึ้นปาดน้ำตาด้วยความดีใจ พ่อแก้วหยัดตัวขึ้นรีบวิ่งเข้าห้องเพื่อไปเปลี่ยนชุดตามคำสั่งของพ่อพญา
ตลาดบ้านดอนผวา
หมู่บ้านดอนผวาอยู่ทางทิศเหนือของอาณาเขตป่าพ่อขาลยังคงถอดเสื้อตามเดิมเพียงเปลี่ยนจากนุ่งโสร่งเป็นโจงกระเบนแทน มือใหญ่ของมันยังถือร่มจีนคันงามบังแดดให้แก้วตาคนงามอีกด้วย
แก้วตาคนงามในเสื้อลูกไม้ขาวโชว์เอวบาง ผ้าถุงสีชมพูอ่อนสั้นครึ่งเข่า ใบหูเล็กทัดดอกลีลาวดี ทั้งยังสวมสร้อยทองที่พ่อขาลมอบให้ คนงามประหม่าเหลือเกินเมื่อเดินเข้ามาถึงที่ตลาด แต่คนตัวโตกว่ากลับไม่ได้สนใจสิ่งใด สายตาเสียงมองผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาอย่างสบายอารมณ์
“โอ้โห นี่เมียเอ็งหรือพ่อขาล”
หญิงชราผมหงอกขาวโพลนเอ่ยทักท้วงทันที เมื่อเเห็นชายงามที่ยืนเด่นกว่าพวกชาวบ้านทั่วไป คนงามเองก็ตกใจที่จู่ๆแม่เฒ่าก็คว้าเข้าที่แขนตน คนงามรีบถอยหลบหลังพ่อขาลในทันทีเพราะคิดว่าคงเป็นผีแบบที่เรือน
“ไม่ต้องกลัว นี่ยายทองผกา ไหว้ซะสิพ่อแก้ว”
คนงามที่หลบหลังพ่อขาลอยู่ด้วยอาการประหม่า ค่อยๆเดินออกมาก่อนจะยกมือไหว้หญิงชรา ยายทองผกาเองก็ใช้มือรองรับไหว้พ่อแก้วพลางส่งยิ้มให้
“หาเจอแล้วเรอะ คู่ของเอ็ง”
“คู่อะไรของยาย ฉันพาพ่อแก้วมาเที่ยวตลาด ไว้พูดคุยกันโอกาสหน้าเถอะ”
“พ่อขาล คนผู้นี้แหละจะล้างคำสาปสมิงของพ่อได้”
ยายทองผกาไม่ว่าเปล่า มือเหี่ยวย่นยังยกขึ้นลูบศีรษะเล็กของแก้วตาไปด้วย พ่อขาลมองใบหน้างามที่กำลังงงงวยกับสถานการณ์ตรงหน้า แก้วตาคือคนที่จะล้างคำสาปสมิงได้ แต่การล้างคำสาปพ่อแก้วต้องตาย
“ล้างคำสาปอะไรหรือจ้ะ”
“ไม่มีอะไร ไปดูตรงนู้นสิเผื่อพ่อแก้วของพี่จะอยากได้เข็มขัดนาคไว้รัดเอวน้อยๆยามนุ่งผ้า”
แก้วตาไม่ได้เซ้าซี้พ่อพญา ขาเรียวรีบเดินตรงไปที่ร้านขายเครื่องประดับทัน พ่อขาลเองก็ยกร่มจีนขึ้นแบกบนบ่าอย่างสบายอารมณ์ ขณะที่ยกร่มขึ้นก็ไม่ทันได้สังเกตคนที่กำลังเดินมาใกล้ ร่มจีนคันงามของพ่อขาลจึงไปกระแทกใครบางคนเข้า
“โอ้ย! เอ็งไม่มีตาหรือไง เอ็งรู้ไหมข้าเป็นใคร-”
เสียงหวานวี้ดว้าย แต่ทันทีที่ร่มถูกยกขึ้นบ่าให้เห็นหน้าคนต้นเรื่อง หนุ่มน้อยในชุดเสื้อลูกไม้ ผ้าถุงลุนตยาปักแทรกไหมทอง ท่าทางจะเป็นลูกเจ้าขุนมูลนาย
“อภัยด้วยเถิดขอรับ คุณหนู”
พ่อขาลพูดออกไปด้วยน้ำเสียงแกมประชด เจ้าคนชนต่างหากที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ มาเสียงดังวี้ดว้ายใส่ได้ยังไงกัน
“ขะ ขอโทษจ้ะพี่ชาย เจ็บตรงไหนหรือไม่จ๊ะ”
“พุดซ้อนไม่ได้ตั้งใจจ้ะ แขนพี่ชายเป็นรอยแดงเสียแล้ว”
หนุ่มน้อยถือวิสาสะจับต้นแขนพ่อขาลอย่างหน้าไม่อาย พ่อขาลเองก็เพียงก้มมองคนตรงหน้าเท่านั้น พุดซ้อนส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่มมือเล็กก็แอบลูบไล้ต้นแขนไปพลาง
พุดซ้อน ลูกชายคนงามของผู้ใหญ่บ้านวัย๑๘ปี ใบหน้าสะสวยไม่แพ้แก้วตา ผิวสีน้ำผึ้ง จมูกโด่งเชิดรั้น ท่าทางร่าเริงกว่าแก้วตาเป็นไหนๆ
“ขอโทษนะจ๊ะ เอามืองามๆของท่านออกจากผัวฉันหน่อยได้ไหมจ๊ะ”