เพราะความรักที่พระเอกในนิยายมอบให้นั้นช่างปลอมเปลือก ผมคนนี้จะขอเป็นคนมอบความรักที่แท้จริงให้แก่นายเอกผู้น่ารักเอง
ชาย-ชาย,ย้อนยุค,ดาร์ค,ตะวันตก,แฟนตาซี,ผมตกหลุมรักนายเอกครับ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเราเพราะความรักที่พระเอกในนิยายมอบให้นั้นช่างปลอมเปลือก ผมคนนี้จะขอเป็นคนมอบความรักที่แท้จริงให้แก่นายเอกผู้น่ารักเอง
โปรดอ่านรายละเอียดก่อนอ่านเนื้อเรื่องหลักกันด้วยนะคะ
เล่นแท็ก #ผมตกหลุมรักนายเอกครับ
‘แม็กซ์’ หนุ่มCEOลูกครึ่งไฟแรงผู้ประสบความสำเร็จและยืนอยู่บนจุดสูงสุดตั้งแต่อายุยังน้อย เบื้องหน้าดูเป็นคนน่าเกรงขามเป็นที่เคารพแก่คนในองค์กรและบริษัท แต่หารู้ไม่ว่าเบื้องหลังแม็กซ์เป็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่รักการอ่านนิยายเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะวายพีเรียดตะวันตก
นิยายเรื่องพันธนาการรักของดยุกปีศาจ ได้เข้าไปต้องตาต้องใจแม็กซ์เข้าเพราะมีความนิยมมากจนว่อนไปทั่วอินเตอร์เน็ต ทว่าหลังอ่านจบถึงกับอุทานออกมาดังๆ ว่าอะไรวะ ความรักที่พระเอกในนิยายมอบให้นายเอกนั้นช่างปลอมเปลือกยิ่งเสียกว่าอะไร ตอนจบที่สมบูรณ์แบบนั้นสำหรับแม็กซ์มันเป็นเพียงแค่เรื่องหลอกลวง
‘ถ้าเขาได้เข้าไปในนิยายละก็นายเอกของเรื่องจะได้เจอกับความสุขที่แท้จริง เขาจะแย่งนายเอกมาจากพระเอกของเรื่องเอง!!’ จบคำพูดนั้นแม็กซ์ก็ได้เข้าไปอยู่ในนิยายเรื่องนั้นจริงๆ
Warning
- นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาที่รุนแรง มีการบรรยายเกี่ยวศพ (Body) , ความตาย (Death) , การกระทำที่น่ารังเกียจและขนลุก (Creepy Behavior) , การล่วงละเมิดทางจิตใจและอารมณ์ (mental and emotional abuse) , ฆาตกรรมสังหารหมู่ (Murder) , คำหยาบคาย (Rude) , ความคิดที่บิดเบี้ยว (Cognitive Distortions) , การข่มขืน (Ravishment) , การดูถูกเหยียดหยาม (Contemptibility) , การชักจูงทางจิตวิทยาหลอกเหยื่อ (Manipulator) , การปั่นหัวให้สับสนทางความคิด (Gaslighting) , ซึมเศร้า (Depression) , ความเชื่อทางศาสนา (religion)
- ผู้ชายสามารถท้องได้ (Mpreg)
- สถานที่ ความเชื่อ เหตุการณ์ต่างๆ มาจากจินตนาการของผู้แต่งทั้งหมด
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและห้ามลอกเลียนแบบ
หมายเหตุ
- เรื่องนี้เล่าผ่านมุมมองของพระเอก การกระทำความคิดทุกสิ่งทุกอย่างเป็นมองผ่านมุมมองของพระเอกทั้งหมด
- เนื้อเรื่องจะแบ่งเป็นทั้งหมด 2 arcนะคะ arcนึงเกือบร้อยตอนค่ะ(อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าขึ้นอยู่กับเนื้อหา) แน่นอนว่าเนื้อหาของนิยายยาว กว่าเหล่าตัวเอกจะรักกันย่อมใช้เวลาโดยที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจะค่อยๆ ขยับเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เพราะเริ่มแรกพระเอกจะเป็นเด็กก่อนค่ะกว่าจะเติบโตและพบเจอกันจะต้องใช้เวลา แต่เนื้อหาระหว่างทางก่อนจะไปเจอกันสนุกอย่างแน่นอนค่ะ
- ก่อนอื่นเรื่องนี้ในช่วงตอนแรกๆนั้นนายเอกจะค่อนข้างค่าตัวแพง แต่จะโผล่มาบางช่วงให้หายคิดถึงค่ะเนื่องจากช่วงแรกเป็นวัยเด็กของพระเอกจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของพี่ชายกับพระเอกก่อนเป็นอันดับแรก ค่อยตามด้วยความสัมพันธ์ของพระ-นายค่ะ
- มีการใช้ไทม์สคริปบ่อยครั้งในช่วงตอนแรกๆของเนื้อเรื่อง เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงอายุของพระเอกนั้นหลากหลายและทางเราอยากให้นักอ่านได้รับรู้ช่วงเวลาชีวิตของพระเอกไปพร้อมกันจึงมีการใส่ไทม์สคริปหลายครั้งค่ะ
- การกระทำหลายอย่างของตัวละครนั้นบิดเบี้ยว มีหลายสิ่งที่ทำแล้วไม่ถูกต้องอีกทั้งยังมีเนื้อหาบางจุดที่ละเอียดอ่อน ผู้อ่านโปรดกรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่านเป็นอย่างมาก
ปล.เนื้อหาที่ลงในเว็บยังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์อักษร ถูกแก้ไขผ่านการตรวจทานคร่าวๆ ของผู้แต่งเท่านั้น
**สุดท้ายนี้สามารถติชมเราได้เสมออีกเช่นเคยค่ะ อาจจะผิดพลาดไปบ้างแต่เราเชื่อว่านักอ่านทุกท่านจะสนุกไปกับมันค่ะ อย่าลืมกดติดตามเราไว้เพื่อที่จะได้ไม่พลาดตอนใหม่ๆ ทุกครั้งเวลาอัพ
อัพทุกวัน อังคาร พฤหัสบดี
ช่องทางการติดตามเพิ่มเติมเพื่อติดตามข่าวสารและงานแฟนอาร์ตของนิยาย : @Sagehuggrape30
ประวัติพื้นหลังของเทรย์เวอร์ไม่ค่อยได้ถูกกล่าวเท่าไหร่นักส่วนใหญ่จะเน้นไปฝั่งของลินคอล์นเสียซะมากกว่า ทางด้านเทรย์เวอร์จะมีบทบาทมากมายในเนื้อหาอีกทีตอนขึ้นเป็นจักรพรรดิเรียบร้อยแล้ว เบื้องหลังของเขาก็จะถูกตัดไปหลายจุดเพราะนักอ่านมักจะนิยมให้ความสำคัญกับลินคอล์นมากกว่า
แต่ต้องขอบคุณลินคอร์นถ้าไม่มีเขาผมก็อาจจะไม่รู้ประวัติของเทรย์เวอร์มากกว่านี้ ที่สำคัญคือว่าที่รัชทายาทเช่นผมคนนี้มีแม่เป็นผู้ชาย ขณะที่กำลังครุ่นคิดพี่ชายของผมก็ก้าวเท้าเดินต่อสีหน้าเรียบเฉยทว่ากลับเปี่ยมไปมนต์เสน่ห์อีกทั้งหันมาจับจ้องมองผมอยู่เป็นระยะๆ
“ราชวงศ์ดาร์นีย์แห่งเนธิลอร์ในอดีตกาลนั้นประสบภาวะมีบุตรยากจนราชวงศ์เกือบล่มสลายไป พระผู้เป็นเจ้าทรงเห็นใจและเกรงว่าจักรวรรดิจะล่มสลายตามไปด้วยจึงได้ประทานพรแก่ราชวงศ์ นั่นก็คือความสามารถที่นอกจากจะทำให้สตรีตั้งครรภ์ได้แล้วก็สามารถทำให้บุรุษตั้งครรภ์ได้เช่นเดียวกัน” ลินคอร์นเล่าให้ฟัง
ผมได้ยินก็เอียงคอเหมือนจะคิดอะไรได้ นี่สินะที่มีช่วงหนึ่งลินคอร์นอยากจะได้แร็คน่าร์มาเป็นภรรยาของตนเองคงจะเป็นเพราะสาเหตุนี้นี่เอง ผมคิดว่ามีแค่เอลเลียตคนเดียวซะอีกที่ได้พรนี้จากพระผู้เป็นเจ้ามา ที่แท้ฝั่งราชวงศ์ดาร์นีย์แห่งเนธิลอร์ก็ได้รับเช่นเดียวกัน
มันก็โอเคอยู่หรอกสำหรับผมแต่กลับเอลเลียตผมรู้สึกว่ามันโคตรแย่ เพราะนอกจากที่เอลเลียตจะทำร้ายร่างกายและจิตใจของแร็คน่าร์แล้ว เขายังบ้าคลั่งทำให้แร็คน่าร์ท้องทั้งๆที่เจ้าตัวไม่ได้เต็มใจ อีกทั้งยังไม่ทันอุ้มท้องได้นานแร็คน่าร์ก็แท้งเพราะไม่ได้รับการดูแลอย่างดี
เอลเลียตยังคงทำร้ายแร็คน่าร์แถมช่วงที่แร็คน่าร์กำลังตั้งท้องลูกคนแรกเจ้าหมาบ้านี่ดันส่งแร็คน่าร์ออกไปอยู่ที่บ้านพักตากอากาศแถบชานเมืองซึ่งห่างจากคฤหาสน์ของมันอยู่พอสมควร ครอบครัวของแร็คน่าร์พยายามตามหาเจ้าตัวเพราะไม่ได้กลับมาบ้านหลายวันหลังจากที่บอกว่าจะขอออกไปทำธุระกับเอลเลียต
ออกไปทำธุระบ้าอะไรโดนลากไปข่มขืนชัดๆ ยอมรับเลยว่าผมอ่านฉากเอ็นซีไม่ลงเพราะสงสารแร็คน่าร์มากแม่งมีการมาบอกว่าต้องการลูกมาสืบทอดตระกูลต่อ ซึ่งยังไม่ถามสุขภาพแร็คน่าร์เลยสักคำตอนท้องก็ดูแลไม่ดีจบที่แร็คน่าร์แท้งลูกคนแรกไป
ดูสิ ขนาดเป็นแฟนที่ดียังเป็นไม่ได้แล้วพ่อที่ดีจะเป็นได้เหรอผมถามหน่อย และมันยังไม่หยุดด้วยนะมีการทำครั้งที่สองที่สามตามมา ครั้งที่สองแร็คน่าร์ก็แท้งสาเหตุมาจากมันโมโหหึงบ้าบออะไรไม่รู้เลยไม่ยอมให้แร็คน่าร์ทานอาหารดีๆอีกทั้งขังไว้ให้อยู่แต่ในห้อง
ส่วนสาเหตุที่มันหึงนั้นไร้สาระมากครับ คือแร็คน่าร์ขอร้องอ้อนวอนให้เอลเลียตพาเจ้าตัวออกไปข้างนอกบ้านพักตากอากาศบ้างเพื่อเปิดหูเปิดตา เอลเลียตทำตามระหว่างเดินเล่นในเมืองซึ่งตรงกับงานเทศกาลพอดิบพอดี ผู้คนมากมายอีกทั้งแออัดแร็คน่าร์กับเอลเลียตจึงถูกเบียดเสียด
นายเอกผู้แสนจะน่ารักของผมนั้นถูกมือปริศนาจับเข้าที่บั้นท้าย เจ้าตัวพยายามหาคนที่แอบลวนลามทว่ากลับหาไม่เจอ เอลเลียตโมโหมากจึงพาแร็คน่าร์กลับและขังไว้ในห้องเช่นเดิม คนที่ผิดกลายเป็นแร็คน่าร์ทั้งๆที่เธอเป็นเหยื่อ
ต่อไปคือครั้งที่สามแร็คน่าร์โชคดีที่ครั้งนี้ไม่ได้แท้งและได้กลับไปอยู่คฤหาสน์ ซึ่งครั้งที่สามนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ที่แร็คน่าร์เกือบตายทำเอาเอลเลียตแทบบ้า ฉากพวกนี้หลอกคนดูได้เยอะเลยคิดว่าเอลเลียตจะกลับใจ
สุดท้ายเป็นไงล่ะไม่กลับใจรวมถึงพอแร็คน่าร์อาการดีขึ้นและหายดีในที่สุดมันก็จัดการทำให้แร็คน่าร์ท้องเป็นรอบที่สาม ขังแร็คน่าร์ไว้ในคฤหาสน์จากนั้นก็ออกไปจัดการตระกูลของแร็คน่าให้ย่อยยับจนไม่เหลือชิ้นดี ต่อด้วยเนื้อหาอีกนิดหน่อยแล้วก็จบนั่นแหละครับ
เอลเลียตขอแร็คน่าร์แต่งงานตอนที่เจ้าตัวกำลังท้องไตรมาสแรกแล้วตัดจบเหมือนฉากจบที่สมบูรณ์แบบ แต่หารู้ไม่ว่าแร็คน่าร์คนนี้ไม่เหลืออะไรเลย ไม่มีอะไรเป็นของตนเองเลยสักอย่าง ถูกพรากไปหมดโดยคนที่ตนนั้นรักอย่างสุดหัวใจ
ไอ้หมาบ้านั่นมันพรากทุกอย่างที่แร็คน่าร์พยายามสร้างมันขึ้นมาทั้งหมด บีบให้คุณนายเอกสุดน่ารักไม่เหลืออะไรแม้แต่อย่างเดียวเพื่อที่จะได้มาขอร้องอ้อนวอนอยู่กับเอลเลียตอย่างไร้ทางเลือก ผมไม่ชอบเลยการกระทำแบบนี้ผมเกลียดมันมาก
ผมขอพูดไว้อย่างมั่นหน้าเลยว่าผมจะเป็นตัวเลือกให้แร็คน่าร์เอง ผมไม่กลัวเอลเลียตอยู่แล้วเพราะตำแหน่งทางสังคมขอผมและเอลเลียตนั้นอยู่กันคนละระดับ อีกทั้งยังมีพี่ชายเป็นแบ็คดังนั้นผมจะเป็นตัวเลือกให้แร็คน่าร์ได้เลยรวมถึงเป็นแสงสว่างให้แก่เขา
เนื้อเรื่องอยากให้เอลเลียตเปรียบเสมือนแสงสว่างหนึ่งเดียวของแร็คน่าร์ยามไม่เหลือใคร ยามต้องการที่พักพิง ทั้งๆที่ชายอื่นก็มีกันเยอะแยะมากมายแต่กระนั้นแร็คน่าร์ก็ไม่สามารถหนีไปจากเอลเลียตได้ เพราะอะไรน่ะเหรอก็เพราะเอลเลียตมันเป็นพระเอกทั้งยังเป็นถึงดยุกที่องค์จักรพรรดินั้นโปรดปราน
ใครจะกล้าขัดมันอีก
“คิดอะไรอยู่ ฟังที่เราพูดรู้เรื่องด้วยรึ?” เสียงพี่ชายแทรกเข้ามาในโสตประสาททำให้ผมชะงักเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าตัว ถึงสีหน้าคนที่อุ้มผมอยู่จะเรียบนิ่งแต่แววตาของเขาช่างนุ่มนวล นัยน์ตาสีเหลืองอำพันดั่งดวงตะวันยามเช้านี้ช่างเข้ากับสีผมชมพูดอกคามิเลียของพี่ชายผมมาก
ผมพยักหน้าตอบเพราะเข้าใจ ถึงตัวจะเด็กแต่สมองเป็นผู้ใหญ่นะเว้ย! “โอ้ คงฟังรู้เรื่องจริงๆ หากฟังรู้เรื่องก็จงอย่าแปลกใจล่ะเทรย์เวอร์ รุ่นท่านทวดหรือก่อนหน้านี้ก็มีจักรพรรดินีที่เป็นบุรุษแต่มันก็มีข้อเสียอยู่” ท่านพี่ว่างึมงำกับตัวเองขณะสาวเท้าเดินเข้ามาที่สวนแสนโอ่อ่าหลังวังของผม
“ข้อเสียเท่าที่พี่เรียนกับอาจารย์คือหากไม่ดูแลให้ดีจะเสี่ยงแท้งสูง ยิ่งบุรุษคนไหนไร้พลังเวทย์ยิ่งแล้วใหญ่ต้องได้รับการดูแลอย่างดีโดยนักเวทย์และหมอที่เชี่ยวชาญ ตอนคลอดน่ะอันตรายสุดๆไปเลยล่ะเสี่ยงที่ผู้ให้กำเนิดจะตายเช่นเดียวกัน” ผมอึ้ง
ผมไม่อยากนึกสภาพเลยถ้าแร็คน่าร์เป็นคนไร้เวทย์จะหนักขนาดไหน ขนาดมีพลังเวทย์ยังแท้งลูกไปตั้งสองคนหากแร็คน่าร์เป็นคนไร้เวทย์ชีวิตของแร็คน่าร์คงจะน่าหดหู่กว่านี้อย่างแน่นอน เนื่องจากบักเอลเลียตหมาบ้าคนนั้นปฏิบัติกับแร็คน่าร์และลูกในท้องได้อุบาทว์ที่สุด
พี่ชายผมกระชับแขนทั้งสองข้างยกตัวของผมให้สูงขึ้นจนระดับสายตาของเราประสานกัน “จงอย่าเศร้าไปที่ท่านน้าสวรรคต คนที่ผิดน่ะคือท่านพ่อไล่หมอคนเก่าออกแล้วหมอใหม่ที่เข้ามาดูแลช่างไร้ความสามารถ อย่าโตมาทำตัวไร้ประโยชน์และไร้ความสามารถเหมือนหมอที่ทำให้คลอดให้ล่ะ”
อะไรกันผมจะบอกให้นะคุณพี่ชาย ผมคนนี้นี่แหละจะเป็นคนปกครองจักรวรรดิเนธิลอร์เอง ผมจะแก้ไขทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นกับจักรวรรดินี้จะทำให้จักรวรรดิเกรียงไกรยิ่งใหญ่มากที่สุด สร้างอำนาจให้จักรวรรดิอื่นยังต้องยำเกรง
เมื่อถึงวันนั้นแม้กระทั่งเอลเลียตก็ไม่กล้าที่จะต่อกรกับผม ต่อให้มันเป็นพระเอกแล้วยังไงล่ะแต่เอลเลียตไม่ใช่พระเอกสำหรับแร็คน่าร์ไม่เคยเป็นด้วยซ้ำมั้ง ผมจะเป็นพระเอกให้แร็คน่าร์เอง ผมจะขี่ม้าขาวไปรับเธอออกมาจากดงปีศาจร้ายเหล่านั้น
แกมันก็แค่พระเอกในนิยายเว้ยเอลเลียต แกมันไม่ใช่พระเอกในชีวิตจริง
เสียงหัวเราะของผมดังออกมาจนพี่ชายที่ยืนเหม่อมองเหล่าดอกไม้หันมามอง “ขำอะไร? หน้าพี่มีอะไรให้ตลกงั้นรึ หรือว่าจะสนใจเจ้านกตัวนั้นที่เกาะอยู่บนต้นไม้” ผมเอียงคอมึนงงก่อนที่จะส่ายหน้าปฏิเสธ พยายามบ่ายเบี่ยงหันไปทางดอกไม้แทน
สวนหลวงประจำราชวังผมนั้นสวยและงดงามวิจิตรตระการตามาก ทั้งกว้างใหญ่ ร่มรื่น อากาศเย็นสบาย ที่นี่มีบ่อน้ำขนาดใหญ่เทียบเท่าทะเลสาบอยู่ตรงกลางของสวน อีกทั้งยังมีเรือนกระจกขนาดใหญ่ตั้งอยู่เหนือน้ำต้องข้ามสะพานเพื่อไปเรือนกระจกแห่งนั้น
ระหว่างทางเดินกลิ่นดอกไม้ต่างๆนานาหอมฟุ้งอบอวลถ้วนทั่วน่าเชยชม มีต้นไม้สูงใหญ่คอยให้ความร่มเย็น แรงลมพัดมาแนบเนื้อผิวของผมแผ่วเบาไม่ร้อนมากไปไม่เย็นมากไป กลีบไม้ใบสีเหลืองส้มปลิวพลิ้วมาตามสายลมบ้างก็ร่วงหล่นลงมาเกลื่อนพื้น
“อากาศเย็นขึ้นนิดหน่อย” ลินคอร์นเอ่ยขณะสาวเท้าเดินไปตรงสะพาน “ใกล้จะเข้าฤดูหนาวแล้วสินะ คงจะต้องกำชับสาวใช้ให้เข้มงวดกว่านี้เสียหน่อยซะแล้วสิ เจ้าเด็กหัวแดงคนนี้ยิ่งป่วยง่ายเดี๋ยวก็ตายก่อนได้ขึ้นเป็นรัชทายาทพอดี”
“แอ้!” คนอะไรหยาบคายชะมัด ผมก็พยักหน้าอยู่ว่าฟังรู้เรื่องทำไมถึงยังได้ชอบพูดจาเสียดแทงกันอย่างนี้นะ มันน่าหยุมหัวเข้าสักวันจริงๆรอผมโตกว่านี้หน่อยเถอะผมหยุมหัวพี่แน่ ว่าแต่ว่านี่เข้าใกล้ช่วงฤดูหนาวแล้วอย่างนั้นเหรอผมคงเกิดช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วงสินะ
ที่จักรวรรดิเนธิลอร์ฤดูกาลที่ยาวนานที่สุดคือฤดูใบไม้ร่วงซึ่งก็คือห้าเดือน เนื่องจากภูมิประเทศส่วนใหญ่จะเป็นป่าพงไพรรายล้อมไปถ้วนทั่วทั้งจักรวรรดิการผลัดใบของต้นไม้จึงใช้ยาวนานหลายเดือน ด้วยเหตุนี้จักรวรรดิเนธิลอร์จึงเป็นหนึ่งในจักรวรรดที่น่ามาท่องเที่ยวโดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่แสนจะงดงาม
รายได้เกือบสองในสามของจักรวรรดิก็มาจากการท่องเที่ยวนั่นแหละ ไม่มีที่ไหนมีฤดูใบไม้ร่วงสวยเท่าจักรวรรดิที่ผมเกิดอีกแล้ว ขนาดแร็คน่าร์ยังเคยวาดฝันว่าจะมาเที่ยวกับเอลเลียตที่จักรวรรดิเนธิลอร์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเลยนะ
ทว่าสุดท้ายก็ไม่ได้มาเพราะไอ้หมอนั่นไม่ให้มา
“ลินคอล์น...งั้นรึ?” เสียงเรียกของใครคนหนึ่งดังขึ้นแทรกขึ้นมาขณะที่พี่ชายผมกำลังจะพาผมข้ามสะพานไปที่เรือนกระจก ยามพี่ชายหันไปมองที่มาของเสียงก็พบกับชายหนุ่มเข้าใกล้วัยกลางคนผู้หนึ่ง สีหน้าทรุดโทรมแต่ยังคงความหล่อเหลาเอาไว้ ผมสีแดงปานเพลิงที่ร้อนระอุอาบแสงอาทิตย์แห่งรุ่งอรุณพ่วงด้วยนัยน์ตาสีเดียวกับผมและพี่ชาย
“ขอให้เทพพระเจ้าคุ้มครองแสงสว่างแห่งเนธิลอร์ อรุณสวัสดิ์พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท” ลินคอล์นกล่าวพลางโค้งคำนับเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ผมตก คนตรงหน้าผมคนนี้ที่สวมชุดสุดแสนจะหรูหราคือคุณพ่ออย่างนั้นเหรอไม่แปลกเลยที่เหล่าพี่สาวใช้จะพากันบอกว่าผมเหมือนพ่อทุกประการ พอได้เห็นแบบนี้ถึงจะเข้าใจ
จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่น่าเกรงขามเดินตรงมาที่ผมกับพี่ชายอยู่ตามด้วยทหารที่เป็นองครักษ์หนึ่งคน แววตาที่ฉายวาบออกมาให้เห็นนั้นช่างดูห่างเหินและเย็นชานัก เขาไม่ตอบกลับรับคำของพี่ชายผมแต่กลับเลือกที่จะหลุบตาต่ำมองลงมาที่ผมแทน
ฝ่าบาทแบมือหนามาตรงหน้าลินคอล์น “ส่งเด็กคนนั้นมา แอบพาออกมาเช่นนี้จงใจจะทำอะไรลินคอล์น หากเราไม่เดินมาเห็นจะรู้หรือไม่ว่าแอบพาว่าที่องค์รัชทายาทออกมาในที่อันตรายเช่นนี้” ผมเบิกตากว้างตกใจกับคำพูดของชายร่างสูงใหญ่
“ไม่พ่ะย่ะค่ะ ลูกเพียงแค่อยากจะพาน้องออกมาเล่นก็เท่านั้นไม่ได้วางแผนจะทำอะไรทั้งสิ้น” ลินคอล์นยืนยันและกระชับกอดผมแน่นไม่ยอมปล่อยให้หลุดไปอยู่มือของผู้กุมอำนาจสูงสุดของจักรวรรดิ ผมเองก็กอดพี่ชายเอาไว้แน่นเช่นเดียวกัน
“เด็กคนนี้ไม่ใช่น้องของเธอ!! ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธอทั้งสิ้นเราเคยบอกแล้วไม่ใช่รึว่าให้เอาเวลาไปเรียนหนังสืออย่ามายุ่งกับว่าที่องค์รัชทายาท” น้ำเสียงถูกกดให้ต่ำลงราวกับเป็นการข่มขู่ ยิ่งพอได้เห็นภาพจริงฉายให้เห็นอยู่ตรงหน้าผมยิ่งรู้สึกสงสารลินคอล์นขึ้นมาจับใจ
“เทรย์เวอร์เป็นน้องชายของลูกพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทไม่คิดแม้แต่จะตั้งชื่อให้ด้วยซ้ำมีสิทธิ์อันใดมาห้ามไม่ให้ลูกเจอหน้าน้องหรือพ่ะย่ะค่ะ” ทั้งคำพูดที่ห่างเหินไร้ความสนิทชิดเชื้อและไร้ความรักที่แสนจะอบอุ่นของพ่อที่มีต่อลูกชาย ไม่แปลกใจเลยที่ลินคอล์นนั้นจะรักแม่ของตนเองมากแม้ว่าจะโดนทำร้ายร่างกายก็ตาม
องค์จักรพรรดิผู้เป็นพ่อของผมนั้นหันไปผงกศีรษะสั่งการให้แก่ทหารองครักษ์ เสร็จสิ้นคำสั่งไร้เสียงทหารคนนั้นก็เดินเข้ามาตรงหน้าผมกับพี่ชายก่อนที่จะขออนุญาตผมเพื่อโอบอุ้ม ผมไม่ยินยอมดีดดิ้นยกใหญ่ไม่ให้อีกฝ่ายพาตัวผมไปจากอ้อมอกของพี่ชาย
ผมล่ะอยากจะพูดได้จริงๆ อยากจะตะโกนดังๆว่าอย่าเข้ามาอุ้มสุ่มสี่สุ่มห้านะทำไมถึงต้องใจร้ายกับพี่ชายของผมถึงขนาดนี้ด้วย ทว่าในเมื่อพูดไม่ได้ผมก็จัดการต่อต้านด้วยเสียงร้องของเด็กทารกนั่นแหละ ขัดใจนักก็ร้องไห้งอแงซะเลย
ร่างเล็กอันบอบบางของผมเข้าสู่อ้อมอกของจักรพรรดิผู้เป็นพ่อซึ่งผมผลักไสเขาไม่ยินยอมให้เขาอุ้ม มันจะไม่เท่าเทียมเกินไปแล้วอย่างน้อยคำพูดที่จะพูดกับพี่ชายของผมก็ควรจะดีกว่านี้ พวกคุณเป็นคนทำให้เขาเกิดมาเองนะทำไมถึงได้ใจร้ายกับพี่ชายของผมจังเลย
เสียงร้องไห้ของผมดังลั่นไปทั่วทั้งสวนจนสาวใช้พากันวิ่งมาจากไหนก็ไม่รู้ได้ เหล่าสาวใช้รวมถึงมาดามครั้นเห็นองค์จักรพรรดิก็พากันถวายบังคมเคารพ ผมหันไปสบตามาดามที่คอยเลี้ยงดูผมเพื่อให้เธอช่วย เธอคงไม่อยากเห็นน้ำตาของผมหรอกสัญญากับแม่ของผมแล้วนี่ว่าจะดูแลผมอย่างดีอย่าทำผมร้องไห้เลย
“ฝ...ฝ่าบาทเพคะ องค์ชายสองร้องไห้ไม่หยุด เสียงดังจนหม่อมฉันต้องวิ่งมาหาองค์ชายทรงเป็นอะไรหรือเพคะ” ประโยคของเธอตะกุกตะกักและร้อนรน ภายในแววตาแฝงเร้นความห่วงใยเอาไว้รวมถึงความปรารถนาที่จะอยากโอบอุ้มปลอบผมให้หายสะอื้น
“บางทีอาจจะเป็นเพราะเราที่เป็นพ่อไม่ดี เราแทบไม่มาเจอหน้าบุตรชายเราพออุ้มเลยร้องเช่นนี้ มาดามช่วยดูแลต่อด้วยเถิดไว้เราว่างจากงานจะมาดู” กล่าวจบตัวผมก็ถูกส่งไปที่มาดามมิราน่า พอถึงอ้อมอกเธอผมก็ตัดสินใจหยุดร้องไห้อมนิ้วตัวเองเงียบๆ
เขาเพิ่งรู้ตัวรึไงว่าเป็นพ่อไม่ดีน่ะ ต่อให้ลินคอล์นเกิดมาจากความผิดพลาดก็ตามเขาก็สมควรที่จะได้รับความรักจากพ่อเช่นเดียวกับที่ผมได้รับไม่ว่าจะยังไงก็ตาม อีกอย่างลินคอล์นยังเด็กอยู่เลยเด็กทุกคนย่อมต้องการความรักจากผู้ให้กำเนิดกันทั้งนั้น
ก่อนที่จะเดินจากไปองค์จักรพรรดิก็หันหลังกลับมา “ลินคอล์น กลับไปเตรียมตัวเรียนอย่าให้เห็นว่าแอบมาหาบุตรชายเราอีก” พี่ชายของผมทำได้เพียงก้มหน้ารับฟังอย่างว่าง่าย แม้ว่าสีหน้าจะเรียบนิ่งดุจคนเย็นชา ทว่าแววตาของเขาแสดงออกมาชัดเจนว่ารู้สึกแย่แค่ไหน
หลังจากที่องค์จักรพรรดิและทหารองครักษ์เดินจากไปแล้วผมก็ส่งเสียงอ้อแอ้ของตนเองเรียกลินคอล์น เขาเงยหน้าขึ้นแล้วเอื้อมมือเล็กมาลูบหัวของผมอย่างแผ่วเบา “แย่จังนะ...คงจะมาเจอตัวยากกว่าเดิมแล้วล่ะ แต่ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวพี่จะกลับมาหา”
ลินคอล์นเดินปลีกตัวออกไปอย่างเงียบเชียบ ผมไล่สายตามองไปที่แผ่นหลังของเด็กในวัยสิบปีด้วยความรู้สึกสงสารที่มีอยู่เต็มหัวใจ พี่ชายของผมคนนี้จะต้องได้รับความรักและแน่นอนว่าคนผู้นั้นต้องเป็นผม รอผมหน่อยนะรอผมโตขึ้นสักนิด
ถึงวันนั้นพี่จะไม่ต้องร้องขอความรักจากใครเลยแม้แต่คนเดียว
ตั้งแต่วันนั้นองค์จักรพรรดิผู้เป็นพ่อก็มาหาผมบ่อยๆ ถึงแม้ผมจะไม่ค่อยอยากเจอเขาเท่าไหร่นักเพราะการมาของเขาทำให้ผมไม่สามารถเจอกับพี่ชายหัวชมพูของผมได้ แต่ผมก็จะต้องจำยอมเล่นกับคุณพ่อของผมไปส่งยิ้มให้หรือแม้กระทั่งให้ป้อนนม
ยังพอมีโชคดีอยู่บ้างที่คุณพ่อนั้นยุ่งจากงานเลยมาไม่ได้เป็นบางเวลาทำให้ผมได้เจอกับพี่ชายรวมถึงได้เล่นด้วยกัน บางครั้งพี่ชายผมก็พาผมไปที่ห้องสมุดหยิบหนังสือมาสักเล่มและอ่านให้ผมฟัง ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือเกี่ยวกับการเมืองการปกครอง ไม่ก็หนังสือประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิเนธิลอร์
ซึ่งผมตกใจมากที่เด็กสิบขวบเช่นลินคอล์นนั้นต้องหาความรู้เหล่านี้อ่าน เนื้อหาในหนังสือมันเยอะมากแค่เขาอ่านให้ผมฟังยังแอบง่วงเลย แต่ผมก็พยายามตั้งใจฟังเก็บเกี่ยวให้ครบทุกเม็ดเพราะพอผมอายุห้าขวบก็คงจะต้องเข้าเรียนแล้ว
ว่าที่องค์รัชทายาทของที่จักรวรรดินี้จะต้องเตรียมตัวตั้งแต่เด็กๆ ด้วยเหตุนี้ผมในอีกห้าปีข้างหน้าจะได้มีอาจารย์เป็นของตนเอง มันอาจจะดูรวดเร็วไปหน่อยผมไม่เป็นไรหรอกผมเรียนรู้ไวอีกอย่างจะได้ไปที่จักรวรรดิโซลาสต้าไวๆด้วย
อย่างน้อยขอให้ทันช่วงที่ทั้งสองคนเจอกันครั้งแรกก็ได้ ผมยินดีที่จะแทรกกลางอยู่แล้วและยินดีที่จะช่วยให้ตระกูลของเอลเลียตกลับมาอยู่บนแวดวงสังคมได้เหมือนเดิม มันจะได้ปล่อยวางแล้วไปใช้ชีวิตตามปกติเสียที
และเพื่อป้องกันไม่ให้ชีวิตของแร็คน่าร์ต้องประสบพบเจอกับนรกบนดิน
“นี่เทรย์เวอร์ เห็นแผ่นดินใหญ่ตรงนี้หรือไม่ตรงนี้คือจักรวรรดิโซลาสต้าอยู่ฝั่งตะวันออกของจักรวรรดิเรา ต้องนั่งเรือไปประมาณอาทิตย์ถึงสองอาทิตย์ ที่นั่นสวยนะพี่เคยได้ยินท่านน้าเล่าให้ฟัง” คำพูดของพี่ชายทำผมเงยหน้าขึ้นมอง
จักรวรรดิโซลาสต้าสวยอยู่แล้วที่นั่นเป็นแหล่งอัญมณีที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกเชียวนะ ทุกที่ของจักรวรรดิจะประดับประดาไปด้วยอัญมณีโดยเฉพาะที่ราชวัง ผมจำได้ดีเลยมันมีอยู่หนึ่งฉากบรรยายความสวยงามของปราสาทของจักรวรรดินั้นไว้อยู่
เป็นฉากที่เอลเลียตได้รับการเลื่อนขั้นจากมาร์ควิสเป็นดยุกปกครองหัวเมืองฝั่งใต้ของโซลาสต้า ตอนนั้นแร็คน่าร์ก็ตามไปร่วมพิธีการเลื่อนขั้น เขาดีใจมากที่คนที่เขารักและพยายามจะเปลี่ยนแปลงได้รับในสิ่งที่ควรจะได้รับ
ทว่าแร็คน่าร์กลับไม่รู้ตัวว่าการที่เอลเลียตได้เลื่อนขั้นเป็นดยุกนั้น เปรียบเสมือนกรงขังขนาดใหญ่และแน่นหนา ด้วยอำนาจและเงินตรารวมถึงความโหดร้ายที่เอลเลียตมี เขาใช้มันอย่างคุ้มค่าที่สุดเพื่อกักขังหน่วงเหนี่ยวแร็คน่าร์ไว้
“เป็นทารกนี่ช่างสบายนะ ไม่ต้องเรียนเรื่องที่น่าปวดหัวเหล่านี้” ลินคอล์นเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบก่อนปิดหนังสือลง “แต่...อีกห้าปีเด็กตัวเล็กเช่นเทรย์เวอร์ก็จะต้องเรียนหนังสือเพื่อเตรียมตัวเป็นองค์รัชทายาทต้องเรียนเวทย์ด้วยนะไหนจะวิชาการต่อสู้อีก”
แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว พี่ชายที่ไม่ได้เป็นรัชทายาทยังเรียนเยอะถึงขนาดนั้นผมจะเหลืออะไรล่ะเนี่ย ทั้งเวทมนต์ การต่อสู้ การเมืองการปกครอง ธุรกิจ ไหนจะการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างจักรวรรดิอีกเพื่อติดต่อค้าขายสร้างรายได้
เรื่องพวกธุรกิจอะไรแบบนั้นผมไม่เครียดหรอกเพราะผมเคยเป็นประธานบริษัทมาก่อน ที่น่ากังวลคือการต่อสู้และเวทมนต์ต่างหาก โลกเดิมที่จากมาน่ะมันไม่มีเวทมนต์ไง เรื่องนี้ผมต้องใช้เวลาในการฝึกยาวนานแน่ เครียดเลยอะ
“เอาล่ะคงถึงเวลาที่จะต้องพาน้องชายกลับวังของตนเองแล้ว ตอนนี้รีบเก็บเกี่ยวการนอนและกินไปวันๆของตนเองให้มากๆก็แล้วกัน พออายุเท่าพี่ก็คงจะไม่ว่างแล้ว” เด็กหนุ่มเรือนผมสีชมพูอุ้มผมขึ้นแล้วเดินออกมาจากห้องสมุด
พี่ชายพาผมกลับมาได้อย่างปลอดภัยโดยที่ไม่มีใครรู้ ตอนนี้ถึงเวลาทานนมช่วงค่ำของผมแล้วส่วนทางด้านพี่ชายนั้นจะต้องไปเรียนการฟันดาบกับอัศวินต่อได้กินข้าวเย็นอีกทีตอนไหนก็ไม่รู้ได้ ก่อนที่ผมจะถูกวางลงบนเตียงผมก็ได้แต่ภาวนาให้เด็กวัยสิบขวบตรงหน้าได้ทานข้าวเย็นไวๆ
เด็กต้องทานข้าวให้ตรงเวลานะไม่งั้นจะมีปัญหาด้านสุขภาพ
หลังจากที่พี่ชายเดินออกจากห้องไปเงียบๆสักพักมาดามมิราน่าและสาวใช้คนอื่นๆก็เดินเข้ามาหาผมเพื่อป้อนนมให้ดื่มดั่งเช่นเคยทำทุกวัน ถึงคุณพี่ชายจะบอกว่าให้เก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้ไว้เยอะๆก็เถอะแต่ผมก็เบื่อเป็นนะ
แขนและขาที่ทำได้แค่คลานยังไม่สามารถเดินหรือวิ่งได้เนี่ยมันลำบากจะตายไป อีกอย่างผมรู้สึกชอบการโตเป็นผู้ใหญ่มากกว่าวัยเด็กซะอีกเพราะมันได้รับอิสระในการใช้ชีวิตมากกว่า ซึ่งมันก็แล้วแต่คนนะบางคนอาจจะชอบวัยเด็กก็ได้เพราะไม่ต้องทำอะไร
สำหรับผมวัยผู้ใหญ่มันเหมือนนกที่หลุดออกมาจากกรงและโผบินสยายปีกอยู่บนท้องฟ้าอย่างเสรี แต่สิ่งที่ผมคิดใช้ไม่ได้กับทุกคนหรอกนะคนบางคนก็อาจจะถูกกักขังไว้ในกรงทองเช่นเดิม ไม่สามารถหลุดออกไปไหนได้ ต้องทนทุกข์ระทมกับสิ่งที่ตัวเองเจอไปจนวันตาย
ตัวอย่างไม่ใช่ใครที่ไหนไกลเลยพี่ชายผมกับแร็คน่าร์ยังไงล่ะ ชีวิตสองคนนี้ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่มันก็แย่ทั้งนั้น
_____