เพราะความรักที่พระเอกในนิยายมอบให้นั้นช่างปลอมเปลือก ผมคนนี้จะขอเป็นคนมอบความรักที่แท้จริงให้แก่นายเอกผู้น่ารักเอง

Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเรา - Chapter 3 อากาศหนาว โดย เจ้านายสาเกกอดองุ่น @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ย้อนยุค,ดาร์ค,ตะวันตก,แฟนตาซี,ผมตกหลุมรักนายเอกครับ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเรา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ย้อนยุค,ดาร์ค,ตะวันตก,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ผมตกหลุมรักนายเอกครับ

รายละเอียด

Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเรา โดย เจ้านายสาเกกอดองุ่น @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เพราะความรักที่พระเอกในนิยายมอบให้นั้นช่างปลอมเปลือก ผมคนนี้จะขอเป็นคนมอบความรักที่แท้จริงให้แก่นายเอกผู้น่ารักเอง

ผู้แต่ง

เจ้านายสาเกกอดองุ่น

เรื่องย่อ

โปรดอ่านรายละเอียดก่อนอ่านเนื้อเรื่องหลักกันด้วยนะคะ 

 

เล่นแท็ก #ผมตกหลุมรักนายเอกครับ

 

 

 

‘แม็กซ์’ หนุ่มCEOลูกครึ่งไฟแรงผู้ประสบความสำเร็จและยืนอยู่บนจุดสูงสุดตั้งแต่อายุยังน้อย เบื้องหน้าดูเป็นคนน่าเกรงขามเป็นที่เคารพแก่คนในองค์กรและบริษัท แต่หารู้ไม่ว่าเบื้องหลังแม็กซ์เป็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่รักการอ่านนิยายเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะวายพีเรียดตะวันตก

นิยายเรื่องพันธนาการรักของดยุกปีศาจ ได้เข้าไปต้องตาต้องใจแม็กซ์เข้าเพราะมีความนิยมมากจนว่อนไปทั่วอินเตอร์เน็ต ทว่าหลังอ่านจบถึงกับอุทานออกมาดังๆ ว่าอะไรวะ ความรักที่พระเอกในนิยายมอบให้นายเอกนั้นช่างปลอมเปลือกยิ่งเสียกว่าอะไร ตอนจบที่สมบูรณ์แบบนั้นสำหรับแม็กซ์มันเป็นเพียงแค่เรื่องหลอกลวง

‘ถ้าเขาได้เข้าไปในนิยายละก็นายเอกของเรื่องจะได้เจอกับความสุขที่แท้จริง เขาจะแย่งนายเอกมาจากพระเอกของเรื่องเอง!!’ จบคำพูดนั้นแม็กซ์ก็ได้เข้าไปอยู่ในนิยายเรื่องนั้นจริงๆ

 

 

 

 

 

 

 

Warning

- นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาที่รุนแรง มีการบรรยายเกี่ยวศพ (Body) , ความตาย (Death) , การกระทำที่น่ารังเกียจและขนลุก (Creepy Behavior) , การล่วงละเมิดทางจิตใจและอารมณ์ (mental and emotional abuse) , ฆาตกรรมสังหารหมู่ (Murder) , คำหยาบคาย (Rude) , ความคิดที่บิดเบี้ยว (Cognitive Distortions) , การข่มขืน (Ravishment) , การดูถูกเหยียดหยาม (Contemptibility) , การชักจูงทางจิตวิทยาหลอกเหยื่อ (Manipulator) , การปั่นหัวให้สับสนทางความคิด (Gaslighting) , ซึมเศร้า (Depression) , ความเชื่อทางศาสนา (religion)

- ผู้ชายสามารถท้องได้ (Mpreg)

- สถานที่ ความเชื่อ เหตุการณ์ต่างๆ มาจากจินตนาการของผู้แต่งทั้งหมด

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและห้ามลอกเลียนแบบ

 

 

 

 

หมายเหตุ

- เรื่องนี้เล่าผ่านมุมมองของพระเอก การกระทำความคิดทุกสิ่งทุกอย่างเป็นมองผ่านมุมมองของพระเอกทั้งหมด

- เนื้อเรื่องจะแบ่งเป็นทั้งหมด 2 arcนะคะ arcนึงเกือบร้อยตอนค่ะ(อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าขึ้นอยู่กับเนื้อหา) แน่นอนว่าเนื้อหาของนิยายยาว กว่าเหล่าตัวเอกจะรักกันย่อมใช้เวลาโดยที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจะค่อยๆ ขยับเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เพราะเริ่มแรกพระเอกจะเป็นเด็กก่อนค่ะกว่าจะเติบโตและพบเจอกันจะต้องใช้เวลา แต่เนื้อหาระหว่างทางก่อนจะไปเจอกันสนุกอย่างแน่นอนค่ะ

- ก่อนอื่นเรื่องนี้ในช่วงตอนแรกๆนั้นนายเอกจะค่อนข้างค่าตัวแพง แต่จะโผล่มาบางช่วงให้หายคิดถึงค่ะเนื่องจากช่วงแรกเป็นวัยเด็กของพระเอกจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของพี่ชายกับพระเอกก่อนเป็นอันดับแรก ค่อยตามด้วยความสัมพันธ์ของพระ-นายค่ะ

- มีการใช้ไทม์สคริปบ่อยครั้งในช่วงตอนแรกๆของเนื้อเรื่อง เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงอายุของพระเอกนั้นหลากหลายและทางเราอยากให้นักอ่านได้รับรู้ช่วงเวลาชีวิตของพระเอกไปพร้อมกันจึงมีการใส่ไทม์สคริปหลายครั้งค่ะ

- การกระทำหลายอย่างของตัวละครนั้นบิดเบี้ยว มีหลายสิ่งที่ทำแล้วไม่ถูกต้องอีกทั้งยังมีเนื้อหาบางจุดที่ละเอียดอ่อน ผู้อ่านโปรดกรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่านเป็นอย่างมาก

ปล.เนื้อหาที่ลงในเว็บยังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์อักษร ถูกแก้ไขผ่านการตรวจทานคร่าวๆ ของผู้แต่งเท่านั้น

 

 

 

**สุดท้ายนี้สามารถติชมเราได้เสมออีกเช่นเคยค่ะ อาจจะผิดพลาดไปบ้างแต่เราเชื่อว่านักอ่านทุกท่านจะสนุกไปกับมันค่ะ อย่าลืมกดติดตามเราไว้เพื่อที่จะได้ไม่พลาดตอนใหม่ๆ ทุกครั้งเวลาอัพ

อัพทุกวัน อังคาร พฤหัสบดี 

ช่องทางการติดตามเพิ่มเติมเพื่อติดตามข่าวสารและงานแฟนอาร์ตของนิยาย : @Sagehuggrape30

สารบัญ

Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเรา-Prologue นายเอกผู้อาภัพ,Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเรา-Chapter 1 เกิดใหม่เป็นองค์ชาย,Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเรา-Chapter 2 ถูกกีดกัน,Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเรา-Chapter 3 อากาศหนาว,Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเรา-Chapter 4 ความสัมพันธ์,Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเรา-Chapter 5 คนในฝัน,Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเรา-Chapter 6 พิธีประกาศนาม,Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเรา-Chapter 7 ไว้เจอกัน,Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเรา-Chapter 8 รับโทษ,Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเรา-Chapter 9 การเจรจา,Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเรา-Chapter 10 การศึกษาเล่าเรียน,Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเรา-Chapter 11 สิ่งที่ควรได้รับ,Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเรา-Chapter 12 ความกล้าที่ควรมี,Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเรา-Chapter 13 ใช้เวลาร่วมกัน,Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเรา-Chapter 14 คำสัญญา

เนื้อหา

Chapter 3 อากาศหนาว

อากาศในตอนเช้าเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด สายลมเย็นจากเหมันต์ฤดูโชยพัดเข้ามาผ่านหน้าต่างทำให้อุณหภูมิภายในห้องของผมนั้นต่ำลงกว่าเดิม สาวใช้ที่คอยดูแลผมรีบเดินไปปิดหน้าต่างบานใหญ่มโหฬารอย่างรวดเร็วก่อนลูบแขนทั้งสองข้างเพื่อคลายความหนาว

สักพักหิมะก็โปรยปรายลงมาจุดเริ่มของฤดูหนาวได้เกิดขึ้นนับตั้งแต่นี้ ผมได้สวมผ้าขนสัตว์ราคาแพงพร้อมกับเครื่องประดับอัญมณีระยิบระยับพยายามคลานอย่างเต็มที่ ซึ่งยอมรับเลยว่ายากมากไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลยแม้แต่หน่อยเดียว

แขนกับขาของทารกมันยังอ่อนแรงและอ่อนแอจนเกินไป ผมยังไม่สามารถที่จะคลานหรือเร่งความเร็วตามใจตัวเองได้ เวลาจะทำอะไรเดินต้องมีพี่ๆสาวใช้คอยมาประคองผมไว้ไม่ให้หกล้ม ก่อนที่จะเริ่มเหนื่อยเลยตัดสินใจออดอ้อนให้มาดามมิราน่าโอบอุ้ม

“องค์ชาย อยากจะไปหาองค์ชายหนึ่งหรือไม่เพคะ” มาดามถามมองผมด้วยแววตารักใคร่เอ็นดู ผมพยักหน้าเร็วรี่อยากจะไปเจอลินคอล์นใจจะขาด ผมไม่ได้เจอหน้าพี่ชายตัวเองมาหลายวันแล้วนะ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพี่ชายคนนี้ถึงไม่ยอมแอบมาหาผม

มาดามอุ้มผมออกจากห้องไปเดินเตร็ดเตร่ไปตามทางเดินมุ่งเข้าสู่วังของพี่ชายที่เล็กกว่าของผมถึงสองสามเท่า ต้องขอบคุณความรู้ใจของมาดามจริงๆไม่งั้นผมคงไม่ได้เจอพี่ชายของตนเองแน่ๆ มาดามมิราน่าเคาะขออนุญาตองค์ชายหนึ่งอย่างมีมารยาททว่ากลับไร้เสียงตอบรับ

บรรยากาศเงียบสงัดจนผมกังวลใจ เวลานี้ไม่น่ามีเรียนไม่ใช่เหรอทำไมพี่ชายผมถึงไม่ได้อยู่ในห้องของตนเองกันล่ะมันต้องเกิดข้อผิดพลาดอะไรสักอย่างแน่นอน มาดามใจไม่ดีจึงเดินตามหาสาวใช้ประจำตัวของลินคอล์นเพื่อสอบถาม

เธอส่ายหน้าพลางแสดงสีหน้าที่ตกอกตกใจออกมาราวกับว่าพลัดพรากกับองค์ชายหนึ่ง ผมเห็นแล้วแอบกลอกตามองบนทำมาเป็นไขสือสาวใช้คนนี้แหละตัวดี คนที่แทบจะไม่เห็นหัวของลินคอล์นเลยดีแต่ตีหน้าซื่อขี้โกหกไปวันๆ

แสร้งบอกว่าซื่อสัตย์ต่อองค์ชายแต่ลับหลังรังแกเขานับไม่ถ้วน อยากจะขากถุยเสียจริง

มาดามตัดสินใจบอกให้สาวใช้ที่ตามผมมาด้วยออกตามหาองค์ชายหนึ่ง “ไม่รู้หรืออย่างไรว่าควรดูแลองค์ชายหนึ่งอย่างดี ยิ่งเข้าสู่ช่วงเหมันต์ฤดูแล้วยิ่งต้องใส่ใจ หาพระองค์เจอเมื่อไหร่ฉันจะลงโทษเธอมารีน” มาดามดุเสียงดังจากนั้นวางผมไว้บนเตียงเด็กในห้องรับรองของวังพี่ชายพร้อมกับสาวใช้อีกคน

ไม่ใช่แค่พวกเธอหรอกที่จะต้องตามหาผมเองก็จะต้องตามหาพี่ชายเช่นเดียวกัน ผมแกล้งร้องไห้งอแงให้พี่สาวใช้หันมาสนใจยิ่งกว่าเก่าทำท่าทางว่าอยากให้เธอนั้นโอบอุ้มผมขึ้นมา เธอลังเลสักครู่ก่อนที่จะตัดสินใจดึงตัวผมขึ้นมาจากเตียงเด็ก

ผมขอโทษพี่สาวจริงๆแต่ผมมีความจำเป็น ผมทำท่าทางใสซื่อชี้นิ้วไปที่ประตูคราแรกพี่สาวใช้ไม่เต็มใจเท่าไหร่และบอกกับว่าตอนนี้อากาศหนาวรออยู่ในห้องรับรองคงดีเสียกว่า แต่ผมดื้อรั้นและยังคงปั้นหน้าใสซื่อพยายามให้พี่สาวพาออกไปจนสำเร็จ

เท่าที่จำได้เหมือนมีอดีตเรื่องหนึ่งของลินคอล์นที่ถูกกล่าวไว้ให้ได้อ่านกันอยู่ เนื้อหามันบอกไว้ว่าลินคอล์นถูกอาจารย์ฝึกดาบตำหนิอย่างหนักจนเรื่องไปถึงหูของพระสนมผู้เป็นมารดา ด้วยความคาดหวังและอยากจะให้ลูกเป็นที่หนึ่งจึงเรียกลูกชายของตนเองเข้าไปพบ

หลังจากนั้นก็เริ่มดุด่าฝ่ามือของเธอที่มีเล็บยาวสวยประดับไว้ฟาดลงที่หน้าทั้งสองฝั่งของลินคอล์นอย่างรุนแรง ลินคอล์นเงียบไร้ท่าทีตอบโต้ขบฟันกัดริมฝีปากของตนเองไว้แน่นเพื่อข่มความเจ็บปวดไว้ภายในจิตใจของตนเอง

ต่อให้ถูกตบจนเลือดกลบปากลินคอล์นก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงโทษตนเองที่ไม่ดีพอจะทำให้คนเป็นแม่นั้นภูมิใจได้ คำต่อว่าด่าทอดูถูกสาดและพ่นใส่ลินคอล์นอย่างไม่หยุดยั้ง ก่อนที่จะสั่งให้ทหารพาตัวออกไปจากห้องของเธอไป

เด็กหนุ่มตัวน้อยวัยสิบขวบครอบครองเรือนผมสีชมพูดอกคามิเลียงดงามวิจิตรเดินออกมาด้านนอกท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมา อากาศเย็นยะเยือกเข้ามากัดกินหัวใจพ่วงด้วยความรู้สึกที่เจ็บช้ำ ทวีคูณให้ลินคอล์นนั้นเริ่มดำดิ่งลงสู่ความมืดมิดไร้หนทางออก

เขาทรุดลงนั่งกอดเข่าตนเองใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งหลังวังของตนเอง เก็บเงียบไม่ปริปากพูดเรียกร้องให้สาวใช้ออกมาตามหา ต่อให้อากาศภายนอกจะหนาวจนถึงขั้วปอดเจ้าตัวกลับคิดว่าอากาศยังสู้สิ่งที่ตนเองเจอไม่ได้เลยแม้แต่หน่อยเดียว

ระหว่างที่ลินคอล์นนั่งเศร้าอยู่ใต้ต้นใหญ่ก็พลันริษยาน้องชายต่างแม่ของตนเองที่ได้อยู่สุขสบายได้รับการดูแลอย่างดีมีแต่คนคอยมอบความอบอุ่นให้อยู่โดยรอบ ต่างจากตัวเขาที่แม้กระทั่งมารดาผู้ให้กำเนิดยังผลักไสไล่ส่ง

น่าจะประมาณนี้นะบทบรรยาย ผมจะไม่ยอมให้พี่ชายออกไปนั่งที่คนเดียวหรอกพี่ชายพาผมมาที่วังของตนเองบ่อยผมย่อมรู้ว่าสวนหลังวังและต้นไม้ใหญ่มันอยู่ตรงไหน ดังนั้นยามออกมานอกห้องแล้วผมก็ชี้ไปที่สวนแสร้งว่าอยากจะออกไปเล่น

เมื่อมาถึงด้านนอกตรงทางเข้าของสวนแสนงดงามท่ามกลางเกล็ดหิมะ พี่สาวใช้ลังเลว่าจะพาผมออกไปด้านนอกดีมั้ยเนื่องจากหิมะนั้นตกโปรยปรายลงมาไม่หยุดหย่อน อากาศตอนนี้นั้นเย็นและหนาวเหน็บลินคอล์นสวมผ้าน้อยชิ้น ที่เท้าของเขาก็ไม่ได้สวมแม้กระทั่งถุงเท้าเพื่อเพิ่มความอบอุ่น

ระหว่างที่กำลังลังเลนั้นเองหางตาผมก็หันไปเห็นเรือนผมสีผมชมพูไม่ไกลจากผมเท่าไหร่ เด็กหนุ่มวัยสิบขวบตัวน้อยกำลังนั่งเศร้าจมดิ่งอยู่ในห้วงอารมณ์ของตนเองท่ามกลางบรรยากาศที่ขุ่นมัว ผมตัดสินใจชี้ไปทางที่สายตาผมนั้นเห็น

“อะ...องค์ชายหนึ่งนี่นา องค์ชายเพคะ!” พี่สาวใช้นำผ้าเช็ดหน้าแผ่นหนามาห่อคลุมหัวของผมเอาไว้แล้วสาวเท้าวิ่งออกไปตรงที่ลินคอล์นนั้นกำลังนั่งอยู่อย่างรวดเร็ว สีหน้าของเธอตื่นตระหนกและหวาดหวั่นเป็นอย่างมากเมื่อเห็นสภาพพี่ชายผม

แม้ตอนแรกเสียงจะส่งไปไม่ถึงหูของเด็กน้อยนัยน์ตาสีเหลืองอำพัน แต่พอสาวใช้วิ่งเข้าไปใกล้ลินคอล์นก็เงยหน้าขึ้นมามองหาที่มาของเสียงจนกระทั่งหันมาสบตากับผม “ท...เทรย์เวอร์? เดี๋ยวนะเธอพาน้องชายของเราออกมาตากหิมะเช่นนี้ได้อย่างไร!!”

“องค์ชายสองเป็นคนพาหม่อมฉันออกมาต่างหากล่ะเพคะ องค์ชายหนึ่งตอนนี้ต้องทรงห่วงตัวพระองค์เองก่อนนะเพคะ” เธอย่อตัวลงมองลินคอล์นและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง

ลินคอล์นรีบลุกวิ่งเข้ามาหาผมด้วยเท้าเปล่า ฝ่ามือเล็กของเด็กชายนั้นขยับเลื่อนเข้ามาใกล้แล้วปัดหิมะบนผ้าเช็ดหน้าที่คลุมหัวของผมไว้ ก่อนพูดเสียงอ่อนด้วยริมฝีปากที่แห้งและแตก “เจ้าเด็กคนนี้ มีตาทิพย์หรืออย่างไรกัน”

ผมเงยหน้าของตนเองขึ้นวางมือบางเล็กสีขาวผ่องบนแก้มของพี่ชายก่อนชี้ไปที่ทางเข้าเพื่อให้พี่ชายเดินเข้าไป อย่ามัวแต่เศร้าเลยถึงแม้ว่าแม่จะไม่รักพี่แต่ยังมีผมและเหล่าพี่ๆสาวใช้นะ พวกเขาตามหาพี่กันว่อนไปทั่วเลย ทุกคนเป็นห่วงพี่นะรู้รึเปล่า

“พี่ยังไม่อยากเข้าไปด้านในเลย พี่ร้องไห้มันไม่สมกับเป็นองค์ชายเลยเทรย์เวอร์คิดอย่างนั้นหรือไม่?” ผมส่ายหน้า ไม่ว่าจะเป็นชายและหญิงหรือสถานะอะไรก็ช่าง แม้กระทั่งจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่หรือใครๆต่างก็ร้องไห้ได้ทั้งนั้นไม่จำเป็นต้องอดกลั้นมันไว้ภายในหรอก

“องค์ชาย...อย่าทรงคิดเช่นนี้สิเพคะ กลับไปเข้าด้านในเถิดเพคะ” พี่สาวใช้ที่โอบอุ้มผมขอร้อง

ผมยื่นมือทั้งสองข้างไปประกบเข้าที่แก้มแสนจะงดงามของพี่ชายลูบไล้แผ่วเบาเพื่อเป็นการปลอบประโลมพลางจดจ้องเข้าไปในนัยน์ตาของอีกฝ่าย ผิวของลินคอล์นขาวเหมือนผมรอยแดงบนแก้มฉายให้เห็นชัดเจนมากว่าไปโดนอะไรมา

“แอ้!” ผมดึงดันลดมือลงมาจากหน้าของเขาแล้วขยุมเสื้อ ฉุดอย่างเต็มแรงเพื่อให้ลินคอล์นเข้าไปด้านใน ถามจริงยืนอยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้วไม่หนาวรึยังไงทำไมถึงได้ถึกทนขนาดนี้ สิบขวบจริงรึเปล่าอย่าทำตัวเหมือนเป็นฮีโร่ในหนังดังได้มั้ย

ลินคอล์นคลี่ยิ้มออกมาบางเบา “เข้าใจแล้วพี่จะทำตามคำสั่งของเทรย์เวอร์เอง คงหนาวแล้วสิท่าเพิ่งรู้ตัวตัวหรืออย่างไรว่าไม่ควรออกมา ไม่เจียมตัวเลยนะ” ผมถลึงตาใส่ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ออกมาจากปากของลินคอล์น ว่าผมยังไงให้เข้าตัวเองกัน ฮะ?

ใครกันแน่ที่ไม่เจียมตัวน่ะ!!

“อ...องค์ชายหนึ่ง เจอตัวสักทีเพคะและนั่น! ทำไมเธอถึงพาองค์ชายสองออกไปตากหิมะเช่นนั้น??” เสียงมาดามมิราน่าดังขึ้นพร้อมกับสาวใช้ที่เหลือที่ก่อนหน้านี้พาวิ่งกันวุ่นทั่ววังเพื่อตามหาลินคอล์น

“นี่...เทรย์เวอร์เป็นคนบอกเธอใช่มั้ยว่าเราอยู่ด้านนอก” ลินคอล์นหันไปถามสาวใช้ที่ยืนตัวสั่นด้วยความกลัว เธอพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะบอกว่าผมนั้นอยากให้พาออกมาเอง “เห็นหรือไม่มาดามน้องชายเราเป็นคนบอกสาวใช้เองดังนั้นอย่าดุหรือต่อว่าเธอเลย น้องชายเราชอบทำตัวเหมือนมีตาวิเศษ”

ทุกคนเงียบกับคำพูดของลินคอล์นผู้เป็นองค์ชายหนึ่งราวกับว่าไม่เชื่อคำพูดของเขาแต่กระนั้นก็ไม่มีใครขัดคำสั่งหรือคำพูดของเขา พอได้ยินแบบนี้ผมก็รู้สึกผิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกแต่มันก็ดีกว่าที่ผมเลือกที่จะแอบออกมาหาพี่ชายเองนะ

“โชคดีไปนะที่องค์ชายช่วยเธอไว้ แต่ตอนนี้องค์ชายหนึ่งพระองค์ต้องไปชำระล้างร่างกายก่อนเพคะ ไปเอาผ้ามาคลุมเพื่อมอบความอบอุ่นให้แก่องค์ชาย เร็วเข้า!” มาดามออกคำสั่งสาวใช้ที่เหลือได้ยินเช่นนั้นก็รีบวิ่งพล่านกันไปหาผ้าผืนหนามาเพื่อมอบความอบอุ่นให้แก่ลินคอล์น

ผมกับพี่ชายต้องแยกกันชั่วคราวเพราะลินคอล์นตอนนี้เนื้อตัวมอมแมมต้องไปอาบน้ำทำความสะอาดตนเองให้เรียบร้อย ผมโบกมือตั้งท่ารอพี่ชายผมสีชมพูในห้องรับรอง โชคดีจังที่ผมออกไปเจอหากไม่ไปเจอตามต้นฉบับแล้วลินคอล์นจะนั่งอยู่ตรงนั้นยันเช้า

คนที่ไปเจอคือทหารองครักษ์ เขาตกใจกับภาพตรงหน้าจึงรีบอุ้มลินคอล์นกลับเข้ามาในวังหลังจากนั้นไม่เกินสองสามชั่วโมงลินคอล์นก็ล้มป่วย น่าเสียดายนักที่องค์จักรพรรดิไม่ได้ใส่ใจอะไรลินคอล์นเท่าที่ควรแม้กระทั่งป่วยก็ปล่อยให้นอนอยู่แต่ในห้องจนหายเอง

ผู้เป็นมารดาก็ไม่มาดูแคลนเลยแม้นิดเดียวแล้วมันก็จะเกิดเหตุการณ์คล้ายคลึงกันแบบนี้หลายครั้งจนลินคอล์นเริ่มเฉยชากับมัน ไม่สนว่าร่างกายของตนเองจะเป็นเช่นไร มุ่งแต่ฝึกดาบเพื่อให้ผู้เป็นมารดานั้นภูมิใจและมอบความรักให้

แต่ตอนนี้ไม่เป็นแบบนั้นแล้วล่ะ ผมจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีกเพราะการที่ลินคอล์นไม่สนร่างกายของตนเองนั้นในอนาคตสุขภาพของเขาจะย่ำแย่ลง ในเนื้อหามีหนึ่งบทกล่าวไว้อยู่ว่าถึงลินคอล์นจะมีพลังเวทย์ที่แข็งแกร่งแต่กระนั้นสุขภาพกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

ทั้งน้องชายผู้เป็นจักรพรรดิร่างกายอ่อนแอใช้พลังเวทย์ได้น้อยนิด ทั้งตัวลินคอล์นเองที่เป็นพี่ชายใช้พลังเวทย์ได้อย่างดีเยี่ยม ฝีมือดาบเกรียงไกรกว่าผู้ใดทว่าสุขภาพร่างกายกลับไม่เข้าข้างตัวเขาเลยสักนิด ยิ่งอยู่ท่ามกลางหิมะยิ่งอ่อนแอจึงต้องเสแสร้งว่าแข็งแกร่งอยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ผู้ใดจับได้

ซึ่งเอลเลียตรู้จุดอ่อนตรงนี้เพราะแร็คน่าร์ที่ย้อนเวลากลับมาเป็นคนบอกทำให้เอลเลียตจัดตั้งกองทัพไปรบกับลินคอล์นตอนฤดูหนาวยามที่พายุหิมะโหมกระหน่ำ แน่นอนว่าลินคอล์นตั้งรับไม่ทันและพลาดท่าพ่ายแพ้แก่เอลเลียตในท้ายที่สุด หลังจากนั้นจักรวรรดิเนธิลอร์ก็ล่มสลายเพราะราชวงศ์ดับสิ้นหมดไม่เหลือใคร

พี่ชายผมเป็นคนเก่งนะถ้าเอลเลียตมันไม่ได้แร็คน่าร์คนที่แสนดีของผมละก็มันก็สู้ลินคอล์นไม่ได้หรอกเพราะลินคอล์นนั้นมีไหวพริบมากกว่าเรียกได้ว่าเป็นตัวร้ายที่ฉลาดมีเล่ห์เหลี่ยมมากอยู่พอสมควร เขาเคยสู้กับเอลเลียตชนะมาครั้งหนึ่งด้วยเหมือนกัน เอลเลียตเจ็บใจจนแทบจะเป็นบ้าเชียวล่ะ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้นขณะที่ผมกำลังดื่มนมอย่างสบายใจบนอ้อมอกของมาดาม ครั้นประตูได้ถูกเปิดก็พบกับทหารคนหนึ่งผมไม่คุ้นหน้าค่าตาเท่าไหร่นัก ทว่าพอได้เห็นเขาเข้ามาใกล้แล้วก็ทำให้ว่าคนผู้นี้คือใคร ผมอึ้งจนปากละออกจากจุกเลยทีเดียว

“มาดามครับ ฝ่าบาททรงนำสิ่งนี้มาให้ครับพระองค์ทรงเห็นว่าองค์ชายหนึ่งนั้นออกไปตากหิมะมา ทรงกังวลว่าองค์ชายหนึ่งจะประชวรเลยฝากผมมาครับ” โทนเสียงเข้มและดูจริงจังเอ่ยขึ้นก่อนที่จะวางยาลงบนโต๊ะตรงหน้าผมกับมาดามแล้วก็เดินออกไปอย่างเงียบเชียบ

ผมไม่เชื่อหรอกว่าองค์จักรพรรดิจะหันมาใส่ใจพี่ชายของผมน่ะ ทหารคนเมื่อครู่นี้คือฟินน์เขาคือคนที่ผมเพิ่งพูดถึงไปเองทหารที่เป็นคนไปอุ้มองค์ชายลินคอล์นกลับเข้าวังมายังไงล่ะ ผมเคยเห็นหน้าเขาอยู่เนื่องจากคนเขียนได้ลงในเน็ตให้ดูครั้งหนึ่ง

ฟินน์เป็นบุตรชายคนรองจากตระกูลโอลีนเดอร์ ตระกูลดยุกที่คอยดูแลจัดสรรเรื่องการทหารให้แก่ราชวงศ์รวมถึงเป็นหน่วยอัศวินสีทองที่มีชื่อเสียงและแข็งแกร่ง

เห็นว่าก่อนที่ผมจะเกิดประมาณห้าปีฟินน์ได้ถูกเรียกเข้ามาในวังด้วยเหตุที่ว่าองค์จักรพรรดิต้องการหาองครักษ์แก่ลูกชายคนแรกของเขานั่นก็คือลินคอล์นในวัยห้าปี ฟินน์ยามได้เห็นหน้าของลินคอล์นเป็นครั้งแรกก็คุกเข่าน้อมเคารพด้วยความจงรักภักดีและถวายตัวคอยดูแลลินคอล์นนับตั้งแต่นั้น

ฟินน์ดีมากจริงๆผมยอมรับเขาดูแลลินคอล์นมาดีโดยตลอดแม้ว่าองค์จักรพรรดิจะละความสนใจจากลินคอล์นไปแล้วก็ตามที แต่ลินคอล์นนั้นมีปมกับเหล่าคนใช้จึงไม่ไว้ใจฟินน์เท่าไหร่ ตอนลินคอล์นยังเด็กฟินน์จึงต้องตามดูแลอยู่ห่างๆ เขาทำหน้าที่ได้ดีแม้กระทั่งยอมออกตัวเสียสละโดนฆ่าแทนลินคอล์นในศึกสงครามกับปีศาจที่เขตชายแดนทางตอนเหนือของจักรวรรดิ

ทหารองครักษ์ผู้นี้ช่างซื่อสัตย์และภักดีต่อลินคอล์นจนวินาทีสุดท้ายเลยทีเดียว ยอมเชื่อฟังทำตามคำสั่งของลินคอล์นทุกอย่างโดยไร้ข้อกังขา ลินคอล์นอยากจะทำอะไรฟินน์ก็ยอมทั้งหมด แต่เหมือนจะมีอยู่หนึ่งเรื่องที่ฟินน์ไม่ยอมและคอยเตือนสติลินคอล์นคือการลอบสังหารเทรย์เวอร์ผู้เป็นน้องชาย

เพราะฟินน์มองว่าเทรย์เวอร์ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่สำคัญต่อลินคอล์น อีกทั้งการมีอยู่ของเทรย์เวอร์ทำให้ลินคอล์นยังคงอำนาจไว้ได้ด้วย ทว่าหลังจากการเสียสละของฟินน์ลินคอล์นก็ไม่มีใครคอยห้ามอีกเจ้าตัวจึงตัดสินใจฆ่าเทรย์เวอร์ซะ

ดังนั้นยาถุงนี้ที่ทหารองครักษ์ผู้นี้นำมาให้ผมจึงกล้าที่จะรับประกันได้ว่าเป็นเขานี่แหละที่เอามาเอง องค์จักรพรรดิผู้เป็นพ่อน่ะเลือกที่จะสนใจผมมากกว่า ลองให้ผมป่วยสิยกแพทย์กันมาเป็นโขยงเลยมั้งไม่แน่นักเวทย์ก็อาจจะมาด้วย

เมื่อฟินน์ออกไปได้ไม่นานลินคอล์นก็เดินเข้ามาพร้อมกับสาวใช้ที่เหลือ เจ้าตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าและเนื้อตัวสะอาดสะอ้านบนแก้มได้รับการรักษารอยแดงเริ่มจางลง มาดามที่เห็นพี่ชายผมเดินเข้ามาก็ฝากผมไว้กับสาวใช้อีกคนที่มีเรือนผมสีน้ำตาล

“องค์จักพรรดิทรงนำยามาให้พระองค์เพคะองค์ชายหนึ่ง เสวยด้วยนะเพคะประเดี๋ยวหม่อมฉันจะไปเตรียมให้” ไม่ทันที่ลินคอล์นจะเอ่ยอะไรมาดามมิราน่าก็รีบเดินออกไปตระเตรียมยาให้ เจ้าตัวถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนทิ้งตัวลงมานั่งลงฝั่งตรงข้ามผมกับพี่สาวใช้

ลินคอล์นจดจ้องสายตามาทางผมพลางอ้าแขน “ส่งเทรย์เวอร์มา เราไม่ได้เจอน้องชายเราตั้งหนึ่งอาทิตย์เราอยากอุ้ม” พี่สาวใช้ไร้ท่าทีขัดขืนส่งมอบตัวผมไปให้พี่ชายแต่โดยดี “ออกไปด้านนอก เราอยากอยู่กับน้องเพียงแค่สองคน หากมาดามนำยามาให้เราแล้วค่อยเคาะประตูเราจะออกไปเอาเอง”

เสร็จสิ้นคำสั่งพี่ๆสาวใช้ทุกคนก็พากันออกไปจากห้องรับรองอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เหลือเพียงแค่ผมกับพี่ชายสุดเท่ของผมก็เท่านั้น ฝ่ามือที่ใหญ่กว่าไล่สัมผัสเรือนผมของผมบางเบา แววตาสีเหลืองสว่างของคุณพี่ชายนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่เหมือนความรู้สึกด้านลบภายในใจยังไม่หายไปไหน

ผมเอื้อมมือเล็กทั้งสองไปจับมือของพี่ชายไว้แน่นก่อนดึงมากอดไว้ “โอ้? ไม่อยากให้สัมผัสหรืออย่างไร พี่แค่เห็นว่าสีผมของเทรย์เวอร์นั้นสวยดีก็เท่านั้นเอง บางทีอดคิดไม่ได้ว่าหากพี่ได้สีผมเช่นนี้ฝ่าบาทจะรักพี่เช่นเดียวกับที่รักเทรย์เวอร์รึเปล่า”

พี่ชายผมกล่าวตัดพ้ออย่างสิ้นหวังก่อนนำมือทั้งสองข้างของผมไปแนบที่แก้มนุ่มละมุนของตนเองแล้วเอ่ยแผ่วเบา “รู้หรือไม่ว่ารอยแดงนี้พี่ไปโดนไปอะไรมา...ท่านแม่ตีพี่มาล่ะ หากสงสัยว่าเจ็บหรือไม่ก็ถือว่าเจ็บมากแต่พี่ว่ามันสมควรแล้วเพราะพี่ทำให้ท่านแม่ผิดหวัง”

พอได้ยินแบบนี้ผมอยากจะร้องไห้เลย พี่ชายผมเพิ่งสิบขวบเองนะทำไมถึงต้องมาคอยแบกรับเรื่องอะไรเช่นนี้ด้วยทั้งๆที่ความจริงเขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำเช่นนั้น ลินคอล์นคนนี้เพียงแค่ต้องการความรักที่แสนจะอบอุ่นก็เท่านั้นเอง

“ฮะ...ฮึก แงงง!!” ผมห้ามน้ำตาของตนเองไว้ไม่ไหวแล้ว ขอร้องไห้หน่อยเถอะผมสงสารเขา!

“ดะ...เดี๋ยวสิ ทำไมถึงร้องไห้เป็นอะไรไป? พี่ทำอะไรผิดรึเปล่าเทรย์เวอร์เลยร้องไห้ อย่าร้องสิแล้วควรทำยังไงล่ะเนี่ย??” อีกฝ่ายเลิ่กลั่กยกใหญ่ที่ผมร้องไห้ออกมา ไม่ต้องปลอบอะไรผมทั้งนั้นขอร้องไห้หน่อยแค่ครั้งเดียวต่อจากนี้ผมจะไม่ร้องไห้อีก เพราะผมคนนี้จะช่วยให้พี่ชายของผมรวมถึงแร็คน่าร์นั้นมีความสุข

หลังจากที่ได้ร้องไห้เต็มที่ผมก็ได้หยุดร้องในเวลาต่อมาเนื่องจากมาดามมาเคาะประตูห้อง ผมเกรงว่าหากมาดามมาเห็นผมตอนร้องไห้จะคิดว่าลินคอล์นทำร้ายผม พี่ชายเรือนผมชมพูเดินออกไปเปิดประตูแล้วรับแก้วจากมาดามมิราน่ามาดื่มแก้ขัดไว้เผื่อเป็นไข้

ต่อด้วยการเดินไปที่ห้องสมุดดูเหมือนว่าลินคอล์นจะเริ่มรับรู้ว่าผมนั้นชอบฟังเจ้าตัวอ่านหนังสือ อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นความรู้พอผมโตขึ้นเมื่อไหร่จะได้ไม่ต้องลำบากอาจารย์มาก เรื่องการเมืองการปกครองผมอยากจบมันให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้จัดการเรื่องการฝึกดาบและเวทย์

ผมไม่อยากอ่อนแอเหมือนในนิยาย ผมอยากปกป้องทุกคนได้เป็นจักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่และที่สำคัญเอลเลียตก็จะได้รู้ตัวว่าตนเองนั้นไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดยังมีคนที่เหนือกว่าเขาตั้งมากมายนับไม่ถ้วน และผมจะเป็นหนึ่งในนั้น

บรรยากาศในห้องสมุดยังคงเหมือนเดิม แต่ที่ต่างออกไปคือวันนี้พี่ชายของผมไม่ได้นำหนังสือความรู้มาอ่านให้ผมฟัง หนังสือวันนี้ที่นำมาเล่ามันเป็นบันทึกเกี่ยวกับปีศาจที่คนบันทึกนั้นคือนักเวทย์มือหนึ่งของสถาบันที่จากไปเมื่อนานมาแล้ว

“เทรย์เวอร์อาจจะไม่รู้ จักรวรรดิที่พวกเราอยู่มักจะมีปีศาจมาตีอยู่เสมอเลยล่ะ” ผมพยักหน้า

เรื่องนี้ผมกล้ายืนยันได้เลยว่าถึงจักรวรรดิเนธิลอร์จะรุ่งเรืองมากแต่ก็มีปีศาจบุกมามากเช่นเดียวกัน บุกมาเยอะจนลินคอล์นในต้นฉบับเคยคิดจะจับมือกับจอมปีศาจเพื่อเอาพวกมันมาเป็นพวกด้วยซ้ำ โชคดีที่ฟินน์นั้นห้ามไว้ทันไม่งั้นจักรวรรดิจะประสบปัญหามากมายตามมา

“ว่ากันว่าปีศาจเกิดจากแก่นพลังงานปริศนาที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินทางทวีปฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ แก่นพลังงานเปรียบเสมือนกับพลังชีวิตของพวกมันด้วยเหตุนี้ต่อให้ฆ่าเท่าไหร่ พวกมันก็จะกลับไปเกิดที่แก่นพลังงานใหม่อีกครั้ง” พี่ชายผมอ่านอย่างเชื่องช้า

ดูเหมือนว่าในต้นฉบับจะเล่าไว้อยู่ซึ่งแร็คน่าร์นั้นรับรู้จากคำพยากรณ์ เจ้าตัวจึงขอออกเดินทางไปพร้อมกับเอลเลียตเพื่อจัดการเจ้าแก่นพลังงานอันนี้ ด้วยความที่มันอันตรายมากอีกทั้งยังมีจอมปีศาจคอยคุ้มครองดูแลเจ้าแก่นพลังงานนั่นแร็คน่าร์จึงเกือบตาย

แต่ดีที่รอดมาได้ ตอนอ่านผมน้ำตาไหลพรากเสมือนน้ำป่าไหลหลากเลย

“วิธีการทำลายแก่นพลังงานยังไม่แน่ชัดนัก เนื่องจากยากที่จะมีคนเข้าใกล้ดงของปีศาจได้จึงไม่เคยมีใครได้ลองใช้หลากวิธีทำลายมัน มนุษยชาติจึงจำเป็นต้องต่อสู้กับพวกมันด้วยเวทมนตร์เพื่อแก้ขัดไปก่อน” คุณพี่ชายหยุดอ่านไว้เท่านั้นก่อนปรายตามองลงมาที่ผม

“...?” ผมเงยหน้าไปมองอีกคน

“ที่จริงพี่มีคำถามอยากจะถามเทรย์เวอร์อยู่หรอก แต่ไว้ตอนที่เทรย์เวอร์ได้เป็นองค์รัชทายาทก็แล้วกันนะถึงตอนนั้นเทรย์เวอร์เตรียมคำตอบให้พี่หน่อยละกัน” ลินคอล์นเอ่ยปากพูดกับผม ทำเอาคนที่ได้ยินมึนงงไปเลยว่าพี่ชายคนนี้ต้องการสื่ออะไรกันแน่

หรือว่าอยากจะรู้อย่างนั้นเหรอว่า หากผมเป็นจักรพรรดิแล้วจะมีวิธีการจัดการกับเจ้าแก่นพลังงานนั่นยังไง?

โถ่พี่ผมไม่ใช่คนที่พระเจ้าเลือกนะ ผมจะไปจัดการมันได้ยังไงกันเล่าคนที่จัดการได้อยู่อยู่จักรวรรดิหนึ่งต่างหาก!!

 

 

_____