เพราะความรักที่พระเอกในนิยายมอบให้นั้นช่างปลอมเปลือก ผมคนนี้จะขอเป็นคนมอบความรักที่แท้จริงให้แก่นายเอกผู้น่ารักเอง
ชาย-ชาย,ย้อนยุค,ดาร์ค,ตะวันตก,แฟนตาซี,ผมตกหลุมรักนายเอกครับ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Between you and me เปลี่ยนเรื่องราวระหว่างเราเพราะความรักที่พระเอกในนิยายมอบให้นั้นช่างปลอมเปลือก ผมคนนี้จะขอเป็นคนมอบความรักที่แท้จริงให้แก่นายเอกผู้น่ารักเอง
โปรดอ่านรายละเอียดก่อนอ่านเนื้อเรื่องหลักกันด้วยนะคะ
เล่นแท็ก #ผมตกหลุมรักนายเอกครับ
‘แม็กซ์’ หนุ่มCEOลูกครึ่งไฟแรงผู้ประสบความสำเร็จและยืนอยู่บนจุดสูงสุดตั้งแต่อายุยังน้อย เบื้องหน้าดูเป็นคนน่าเกรงขามเป็นที่เคารพแก่คนในองค์กรและบริษัท แต่หารู้ไม่ว่าเบื้องหลังแม็กซ์เป็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่รักการอ่านนิยายเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะวายพีเรียดตะวันตก
นิยายเรื่องพันธนาการรักของดยุกปีศาจ ได้เข้าไปต้องตาต้องใจแม็กซ์เข้าเพราะมีความนิยมมากจนว่อนไปทั่วอินเตอร์เน็ต ทว่าหลังอ่านจบถึงกับอุทานออกมาดังๆ ว่าอะไรวะ ความรักที่พระเอกในนิยายมอบให้นายเอกนั้นช่างปลอมเปลือกยิ่งเสียกว่าอะไร ตอนจบที่สมบูรณ์แบบนั้นสำหรับแม็กซ์มันเป็นเพียงแค่เรื่องหลอกลวง
‘ถ้าเขาได้เข้าไปในนิยายละก็นายเอกของเรื่องจะได้เจอกับความสุขที่แท้จริง เขาจะแย่งนายเอกมาจากพระเอกของเรื่องเอง!!’ จบคำพูดนั้นแม็กซ์ก็ได้เข้าไปอยู่ในนิยายเรื่องนั้นจริงๆ
Warning
- นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาที่รุนแรง มีการบรรยายเกี่ยวศพ (Body) , ความตาย (Death) , การกระทำที่น่ารังเกียจและขนลุก (Creepy Behavior) , การล่วงละเมิดทางจิตใจและอารมณ์ (mental and emotional abuse) , ฆาตกรรมสังหารหมู่ (Murder) , คำหยาบคาย (Rude) , ความคิดที่บิดเบี้ยว (Cognitive Distortions) , การข่มขืน (Ravishment) , การดูถูกเหยียดหยาม (Contemptibility) , การชักจูงทางจิตวิทยาหลอกเหยื่อ (Manipulator) , การปั่นหัวให้สับสนทางความคิด (Gaslighting) , ซึมเศร้า (Depression) , ความเชื่อทางศาสนา (religion)
- ผู้ชายสามารถท้องได้ (Mpreg)
- สถานที่ ความเชื่อ เหตุการณ์ต่างๆ มาจากจินตนาการของผู้แต่งทั้งหมด
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านและห้ามลอกเลียนแบบ
หมายเหตุ
- เรื่องนี้เล่าผ่านมุมมองของพระเอก การกระทำความคิดทุกสิ่งทุกอย่างเป็นมองผ่านมุมมองของพระเอกทั้งหมด
- เนื้อเรื่องจะแบ่งเป็นทั้งหมด 2 arcนะคะ arcนึงเกือบร้อยตอนค่ะ(อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่าขึ้นอยู่กับเนื้อหา) แน่นอนว่าเนื้อหาของนิยายยาว กว่าเหล่าตัวเอกจะรักกันย่อมใช้เวลาโดยที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจะค่อยๆ ขยับเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เพราะเริ่มแรกพระเอกจะเป็นเด็กก่อนค่ะกว่าจะเติบโตและพบเจอกันจะต้องใช้เวลา แต่เนื้อหาระหว่างทางก่อนจะไปเจอกันสนุกอย่างแน่นอนค่ะ
- ก่อนอื่นเรื่องนี้ในช่วงตอนแรกๆนั้นนายเอกจะค่อนข้างค่าตัวแพง แต่จะโผล่มาบางช่วงให้หายคิดถึงค่ะเนื่องจากช่วงแรกเป็นวัยเด็กของพระเอกจะเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของพี่ชายกับพระเอกก่อนเป็นอันดับแรก ค่อยตามด้วยความสัมพันธ์ของพระ-นายค่ะ
- มีการใช้ไทม์สคริปบ่อยครั้งในช่วงตอนแรกๆของเนื้อเรื่อง เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงอายุของพระเอกนั้นหลากหลายและทางเราอยากให้นักอ่านได้รับรู้ช่วงเวลาชีวิตของพระเอกไปพร้อมกันจึงมีการใส่ไทม์สคริปหลายครั้งค่ะ
- การกระทำหลายอย่างของตัวละครนั้นบิดเบี้ยว มีหลายสิ่งที่ทำแล้วไม่ถูกต้องอีกทั้งยังมีเนื้อหาบางจุดที่ละเอียดอ่อน ผู้อ่านโปรดกรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่านเป็นอย่างมาก
ปล.เนื้อหาที่ลงในเว็บยังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์อักษร ถูกแก้ไขผ่านการตรวจทานคร่าวๆ ของผู้แต่งเท่านั้น
**สุดท้ายนี้สามารถติชมเราได้เสมออีกเช่นเคยค่ะ อาจจะผิดพลาดไปบ้างแต่เราเชื่อว่านักอ่านทุกท่านจะสนุกไปกับมันค่ะ อย่าลืมกดติดตามเราไว้เพื่อที่จะได้ไม่พลาดตอนใหม่ๆ ทุกครั้งเวลาอัพ
อัพทุกวัน อังคาร พฤหัสบดี
ช่องทางการติดตามเพิ่มเติมเพื่อติดตามข่าวสารและงานแฟนอาร์ตของนิยาย : @Sagehuggrape30
ทว่าตอนนี้กลับไม่ใช่เวลาที่จะต้องมาชื่นชมเพราะสถานการ์ณ์ในตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ผมรู้ว่าพี่ชายผมทำไปเพื่อปกป้องผมและเกียรติของผม แต่กระนั้นหากอาจารย์มาเจอก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเข้าข้างลินคอล์น พี่ชายผมน่ะต่อให้เขาไม่ผิดทุกคนก็หาอะไรมายัดให้ผิดได้อยู่ดี
ผมตัดสินใจตะเบ็งเสียงออกไปก่อนที่เรื่องมันจะใหญ่ไปมากกว่านี้ “ท่านพี่พอได้แล้ว! ทุกคนหยุดเดี๋ยวนี้นี่คือคำสั่งของเรา!” สิ้นเสียงทุกคนก็หันมามองกันเป็นตาเดียว เจ้าของพลังเวทย์สีน้ำฟ้าสว่างดั่งอัญมณีหยุดตามที่ผมเอ่ยก่อนละมือลง ไอเวทย์พลันหายไปภายในพริบตา
“อะ...องค์ชาย” เหล่าเด็กที่โตกว่าหันมามองพลางเอ่ยเรียกผมด้วยความตกใจราวกับเจอสิ่งที่ไม่ควรเจอเข้าเสียแล้ว ในส่วนของลินคอล์นนั้นเขากลับก้มหน้าไม่สบตาผมแม้แต่หน่อยเดียว มือของเขานั้นสั่นระริกและกำแน่นจนแทบจะห้อเลือด
“ถึงตอนนี้เรายังจะทำอะไรไม่ได้แต่ก็อย่าลืมว่าเราเองก็เพิ่งจะห้าขวบย่างหกขวบ อย่างไรเสียรอเราโตเทียบเท่าพวกคุณเราจะทำประโยชน์ให้มากกว่านี้ดีกว่าคอยจับกลุ่มนินทาว่าร้ายและหาเรื่องผู้อื่นไปวันๆเช่นพวกคุณ ออกไปให้พ้นหน้าพี่ชายเราเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นเราเองนี่แหละที่จะแจ้งอาจารย์ใหญ่” ผมออกคำสั่งพลางยืนเท้าเอว
“พะ...พ่ะย่ะค่ะ เร็วสิรออะไรอยู่เล่าอยากโดนตัดคะแนนจากอาจารย์ใหญ่หรือไม่ล่ะ!” พวกเขารีบเบียดเสียดตัวกันเพื่อออกไปจากบริเวณนี้อย่างรวดเร็ว ส่วนคนที่ล้มอยู่นั้นได้จังหวะก็รีบลุกขึ้นและหนีไปทันที ลินคอล์นอาศัยจังหวะนั้นหันไปร่ายเวทย์ใส่เล็กน้อยก่อนที่จะเลือกไม่สบตาผมอีกครั้ง
ผมไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่านพี่ของผมถึงทำแบบนั้นจึงเดินเข้าไปหา พลางถามด้วยความสงสัย “ท่านพี่ ท่านพี่เป็นอะไรพวกเขาว่าท่านพี่หนักเลยหรือก่อนหน้านี้”
“เปล่าหรอก ต่อให้พวกเขาไล่พี่ไปตายพี่ก็ไม่เสียใจอะไรหากเทียบกับเทรย์แล้วนั้น” เขาตอบด้วยน้ำเสียงสั่นที่เจือความเศร้าโศกเล็กๆ “พี่...พี่แค่รู้สึกละอายใจน่ะขนาดเกียรติของน้องชายตัวเองพี่ยังปกป้องไว้ไม่ได้เลย ต้องให้เทรย์เข้ามาช่วยตลอด” ว่าจบเจ้าตัวก็ขำแห้งคล้ายสมเพชตัวเอง
“แต่การใช้เวทย์ของท่านพี่เมื่อครู่ก็ถือว่าดีมากแล้วนะ! ขอเพียงแค่ท่านพี่เลือกที่จะใช้เวทย์ปกป้องตนเองถึงแม้จะมีสาเหตุมาจากผมก็ตาม ผมก็ดีใจมากแล้วเพราะฉะนั้นอย่าละอายใจเลยท่านพี่” ผมสับเท้าเล็กเข้าไปหาและโอบกอดเอวของคนตัวสูง
วินเซนต์เสริมทันควัน “ใช่ครับ องค์ชายเท่สุดๆเลยนะแถมเวทย์ที่องค์ชายปลดล็อกได้สุดยอดจะตาย!”
“องค์ชายใช้เวทย์อะไรหรือคะ ใช่เวทย์วารีที่หายากรึเปล่าเพราะยากนักที่จะเห็นคนสามารถปลดล็อกและมีเวทย์สีเช่นนี้ได้!” ไอวี่เข้ามถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผมเองก็อดเห็นด้วยไม่ได้เพราะเท่าที่จำได้เวทย์ของลินคอล์นไม่น่าจะใช่สีฟ้าแบบนี้นะ
ถึงเนื้อหาในนิยายจะเปลี่ยนไปในหลายๆเรื่อง ทว่าเรื่องเวทย์ผมคิดว่าไม่น่าเปลี่ยนได้นะเพราะลินคอล์นมีเชื้อสายของราชวงศ์ที่ส่วนใหญ่ไม่สิต้องเรียกเกือบทั้งหมดจะสืบทอดเวทย์ธาตุไฟกันมารุ่นสู่รุ่น ไม่งั้นจะมีผมสีแดงดั่งเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วงได้อย่างไรกันล่ะ
ผมครุ่นคิดและพยายามวิเคราะห์อย่างมีหลักการ เนื่องจากมันอาจจะมีสาเหตุที่พี่ชายของผมเปลี่ยนไปปลดล็อกเวทย์แขนงเดียวกับแร็คน่าร์ก็เป็นได้ ระดับอัจฉริยะเช่นพี่ชายผมบางสิ่งบางอย่างได้มาไม่ยากเย็นหรอกเพราะเขาเก่ง
จู่ๆลินคอล์นก็ส่ายหัว “ไม่ใช่หรอก เวทย์พื้นฐานที่เราปลดล็อกได้คืออัคคี แต่ที่ไอเวทย์มันแสดงออกเป็นสีฟ้าแบบนั้นเพราะเรายกระดับจากเวทย์อัคคีเป็นเวทย์เพลิงสมุทรอย่างไรล่ะ เลยทำให้มันออกมาเป็นเช่นนี้” ว่าจบคนที่ฟังถึงกับตาเบิกกว้าง
โดยเฉพาะวินเซนต์ที่มีพ่อเป็นอาจารย์ผู้เปี่ยมไปด้วยความรู้ยิ่งตกใจไปกันใหญ่ “พะ...เพลิงสมุทรเช่นนั้นหรือครับองค์ชาย ท่านทำได้อย่างไรกันอะ!?” เด็กหนุ่มตัวเล็กถามด้วยความไม่เข้าใจ ผมกับไอวี่เองก็พากันพยักหน้ากันอย่างพร้อมเพรียง
เวทย์เพลิงสมุทรคือเวทย์ชั้นสูงที่ยกระดับขึ้นได้ยากมาก ต้องศึกษาคัมภีร์โบราณที่มีชื่อว่าศาสตร์แห่งอัคนิรุทรที่มีไว้สำหรับผู้ใช้เวทย์อัคคีชั้นสูงหรือระดับปราชญ์เท่านั้นถึงจะแตกฉานและสามารถยกระดับเวทย์พื้นฐานที่ตนเองมีอยู่นั้นได้
เจ้าคัมภีร์นี้ก็ไม่ต่างจากศาสตร์อรรณพที่แร็คน่าร์นั้นได้มีโอกาสอ่านหรอกเพียงแต่กว่าแร็คน่าร์จะได้อ่านนั้นก็หลังจากที่เรียนพอดิบพอดี แร็คน่าร์ได้เดินทางไปหอคอยเวทย์และศึกษาตำราหาความรู้เกี่ยวกับเวทย์เพิ่มเติมจนได้ไปอ่านคัมภีร์ศาสตร์อรรณพที่ถูกวางไว้ในบริเวณหมวดคัมภีร์โบราณและศาสตร์ขั้นสูงนั่นแหละ ซึ่งบริเวณหมวดนั้นไม่ค่อยมีคนเข้าไปเพราะส่วนใหญ่จะอ่านไม่ออก ต่อให้มีลูกแก้วแปลภาษาโบราณก็ยังคงไม่เข้าใจเนื้อหาอยู่ดี
“องค์ชายใช้ลูกแก้วโบราณเป็นตัวช่วยในการศึกษาคัมภีร์ที่มีชื่อว่าศาสตร์แห่งอัคนิรุทรหรือครับ เพราะภาษามันเข้าใจยากไม่ต่างจากศาสตร์แห่งอรรณพเลย” วินเซนต์ถามด้วยความใคร่รู้ สีหน้าบ่งบอกได้ถึงความตกตะลึงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
พี่ชายของผมยกมือปฏิเสธ “เราไม่ใช้ลูกแก้วแปลภาษาโบราณหรอกนะ เพราะมันแปลคลาดเคลื่อนในบางครั้งดังนั้นการแปลด้วยตัวเองจึงดีที่สุดแล้ว”
“ฮะ!!!” ผมและอีกสองคนอุทานพร้อมกัน
เด็กอายุสิบหกสามารถอ่านและแปลภาษาโบราณได้แล้วอย่างนั้นเหรอ พี่ผมมันอัจฉริยะเกินคนไปรึเปล่า เอาเวลาไหนไปอ่านและศึกษาเกี่ยวกับภาษาโบราณกัน ไหนจะตอนอ่านคัมภีร์ยังจะต้องใช้ทั้งสมาธิรวมถึงการวิเคราะห์ศาสตร์เวทย์อย่างหนักหน่วงเพื่อเอามาประยุกต์ใช้อีก เก่งเกินไปแล้วรึเปล่า
“ท่านพี่ไปยกระดับเวทย์ของตนเองได้ตั้งแต่เมื่อไหร่หรือ ที่สำคัญท่านพี่แอบไปหอคอยเวทย์ตอนไหนเหตุใดผมถึงไม่รู้” ผมถามต่ออย่างไม่ลดละในขณะที่ไอวี่กับวินเซนต์รีบกลับห้องเรียนเพื่อไปจองโต๊ะให้แก่ผม
เนื่องจากความสงสัยของผมนั้นมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในเนื้อหาต้นฉบับนักเขียนรังสรรค์ว่าเขาเป็นคนที่เก่งมากแล้วนั้น ทว่าตอนนี้กลับเก่งยิ่งกว่าเก่า
“เมื่อสามสี่เดือนก่อนน่ะ พอดีพี่มีโอกาสได้แวะไปหอคอยเวทย์ยามพบคัมภีร์อัคนิรุทรก็เลยถือวิสาสะอ่านจากนั้นก็ยกระดับพลังเวทย์ของตนเองได้แล้ว” ลินคอล์นอธิบายพลางย่อตัวลงให้ระดับสายตาอยู่เทียบเท่าผม “พี่ขอโทษที่ไม่ได้บอกเทรย์นะ มันฉุกละหุกเกินไปน่ะ”
“เช่นนั้นให้ผมแจ้งเรื่องกับท่านพ่อดีหรือไม่ครับท่านพี่ ทีนี้ท่านพ่อก็จะได้ลดทิฐิเลิกทำเหมือนพี่ไร้ตัวตนเสียที” ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เวทย์ประเภทนี้น้อยคนนักที่จะมีอีกทั้งในอนาคตยังจะสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่จักรวรรดิได้มากมาย บางทีท่านพ่อก็อาจจะเปิดใจกลับมารักคุณพี่ชายเช่นเดิมอย่างที่ควรจะเป็น
ทว่าลินคอล์นกลับยกมือห้ามทันที “อย่าเลย มีแต่จะทำให้เรื่องวุ่นวายไปมากกว่านี้เปล่าๆ บางทีถ้าเรื่องถึงหูฝั่งตระกูลทานส์อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดี เขาอาจจะหลอกใช้พี่เพื่อกำจัดเทรย์นะ” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจากปากเขานั้นเปี่ยมไปด้วยความกังวลใจ
“แต่ท่านพี่ไม่มีทางทำเช่นนั้นกับผมเพราะผมคือครอบครัวของท่านพี่ ไม่ว่าอย่างไรผมก็เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในใจท่านพี่อยู่แล้ว” ผมกล่าวด้วยแววตาสดใสไร้ซึ่งความขมุกขมัว ภายในใจนั้นเชื่อมั่นอย่างเต็มร้อยว่าพี่ชายคนนี้จะไม่มีวันหักหลังจะอยู่เคียงข้างกันตลอดไปอย่างแน่นอน
“ฮ่าๆ เชื่อใจพี่สุดๆไปเลยสินะ” เขาหัวเราะมือหนาขยับเข้ามาบีบแก้มของผมแผ่วเบาและนิ่มนวล “พี่ไม่มีวันทำร้ายเทรย์แน่นอน เพราะแทบทั้งชีวิตของพี่นอกจากท่านน้าและเทรย์แล้วพี่ก็แทบจะไม่เหลือใครอีก ที่พี่มีพลังนี้ก็เพื่อปกป้องเทรย์ให้พ้นจากอันตรายทั้งปวง”
ช่างเป็นคำพูดที่หนักแน่นและเชื่อถือได้พร้อมทั้งนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจ พี่ชายคนนี้ของผมนั้นดีที่สุดในโลกใครเล่าจะดีเท่าเขาได้อีก เพราะฉะนั้นถ้าใครจะเข้ามาทำร้ายลินคอล์นผู้เป็นพี่ชายของผมล่ะก็ ผมคนนี้ก็จะปกป้องพี่ชายของตนเองอย่างสุดความสามารถเช่นเดียวกัน
“ท่านพี่สัญญาแล้วนะเพราะผมเองก็จะปกป้องท่านพี่เช่นเดียวกัน ท่านพี่อย่าลืมล่ะว่าท่านไม่ได้ตัวคนเดียว” ผมทำท่าทางเกี่ยวก้อยยื่นไปทางคนตรงหน้า
“อื้อ พี่สัญญาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพี่จะปกป้องเราอย่างแน่นอน” เขาพยักหน้าก่อนที่รอยยิ้มแสนจะสวยงามปรากฏออกมาสู่สายตาให้ผมได้เห็นพร้อมกับนิ้วก้อยที่ใหญ่กว่าขยับเข้ามาเกี่ยวพันกับอันเล็ก
ผมหวังว่าการเกี่ยวก้อยสัญญานี้จะไม่มีวันพังทลายลง สิ่งที่ผมพยายามทำมาทั้งหมดนั้นส่วนหนึ่งคือเพื่อให้ตนเองมีชีวิตต่อไปได้อีกยาวนาน อีกส่วนคือให้พี่ชายผู้แสนหล่อเหลาของผมตรงหน้านี้ได้พบเจอกับความสุข ได้ทำในสิ่งที่ตนเองปรารถนา มีชีวิตที่ดีโดยที่ไม่ถูกใครทำร้ายอีกต่อไปแล้ว
สายลมอ่อนของสาทฤดูโชยพัดผ่านเหล่าพฤกษาที่เอนเอียงผะแผ่ว ฟากฝั่งกิ่งไม้ก็พลันกระทบกันไปมาเชื่องช้าจนเกิดเสียงเล็กแทรกกับบรรดานกน้อยหลากชนิดที่ส่งเสียงร้องแสนหวานและเสนาะหู ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่นและภิรมย์ในช่วงยามบ่ายหลังจากที่พักเที่ยงเสร็จ สองพี่น้องสายเลือดแห่งอัคนีที่ต่างเป็นตัวหมากบนกระดานของเหล่าขุนนางมากมายได้เริ่มทำสัญญากันเพื่อปกป้องชีวิตของกันและกันนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
ต่อจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมก็จะไม่ยอมให้มันมาพรากพี่ไปจากผม
ในส่วนฝั่งของโซลาสต้านั้นแร็คน่าร์ในวัยสิบปีกำลังเตรียมตัวสอบอย่างหนักเพื่อวัดระดับความสามารถของเวทย์และฝีมือในการต่อสู้ของตนเอง ถึงแม้จะเพิ่งสิบขวบเขาก็ควรที่จะเพียรพยายามมากกว่านี้ เนื่องจากเขามีความต้องการที่จะเป็นซอร์ดมาสเตอร์ที่ยิ่งใหญ่
เด็กหนุ่มผมดำขลับขยับย้ายปลายผมของตนเองไปไว้ด้านหลังเพื่อสะดวกต่อการฝึกซ้อมมากยิ่งขึ้น เขาฝึกเช่นนี้เข้าสู่อาทิตย์ที่ห้าแล้ว ตอนนี้ฝีมือเริ่มพัฒนาขึ้นต่างจากเมื่อตอนแรกที่แรงขยับดาบยังไม่ค่อยมีหรือแม้กระทั่งการร่ายเวทย์พื้นฐานที่เวลานี้สามารถใช้ได้อย่างคล่องแคล่ว
คราแรกนั้นแร็คน่าร์อยากจะไปเรียนแลกเปลี่ยนที่สถาบันแอสเพนอันมีชื่อเสียงของจักรวรรดิเนธิลอร์ อาจารย์ได้ลองสอบถามเขาว่ามีความสนใจหรือไม่เนื่องจากเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ไปลองแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมดู ที่บ้านเองก็ตามใจขึ้นอยู่กับตัวแร็คน่าร์ว่าจะไปหรือไม่
แน่นอนว่าตอนที่ได้ยินคำพูดจากปากของอาจารย์แร็คน่าร์ดีใจจนตัวแทบโยนเพราะโอกาสนี้ไม่ได้หามาได้ง่ายๆอีกทั้งในอดีตเจ้าตัวก็ไม่ได้รับโอกาสนี้เลยสักครั้ง ทว่าเมื่อแร็คน่าร์มานั่งไตร่ตรองๆดีคิดอีกทีไม่ไปคงจะดีกว่าสาเหตุหลักๆเลยเพราะสถาบันแอสเพนมันใกล้กับพระราชวังมหาปราสาทของเนธิลอร์
แร็คน่าร์ยังคงฝังใจกับองค์ชายหนึ่งเรือนผมสีชมพูคนนั้นแม้ว่าจะเกิดใหม่แล้วก็ตาม ชายที่ร้ายกาจทำร้ายจิตใจเขา มีพละกำลังและเวทย์ที่แสนจะแข็งแกร่งเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งที่ยากต่อกรในอดีต องค์ชายผู้นั้นในอดีตที่แร็คน่าร์ยังทำนิสัยโหดร้ายใส่เอลเลียตนั้นได้เคยหลอกใช้แร็คน่าร์เพื่อหมายจะยึดโซลาสต้าไปเป็นของตนเอง
เขาที่แสนโง่ง่มได้หลงเชื่อคำลวงถูกปั่นหัวอย่างหนักจึงจำยอมทำตามโดยง่าย หากไม่ได้เอลเลียตในอดีตเข้ามาช่วยตนเองไว้ให้หนีรอดออกมาคงจะมีเรื่องที่ฝังใจเขาเพิ่มขึ้นไปอีก ถึงแม้ในภายหลังจะถูกเอลเลียตฆ่าตายก็ตามทว่าเขานั้นเข้าใจเพราะสิ่งที่เขาทำต่อเอลเลียตนั้นไม่ถูกต้อง
ทั้งทำลายตระกูลเมอร์ฟี ไปหลอกให้เอลเลียตมาหลงรักตนตามที่มารดาผู้ให้กำเนิดบอกก่อนที่จะหักหลังเขาอย่างไร้เยื่อใยแล้วไปเข้าร่วมกับองค์ชายลินคอล์น สุดท้ายก็ถูกกรรมสนอง ด้วยเหตุนี้ยามได้รับโอกาสให้ย้อนเวลามาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งแร็คน่าร์จึงเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองใหม่
และครั้งนี้เขาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเอลเลียต เมอร์ฟีอีก รวมถึงองค์ชายลินคอล์นแห่งราชวงศ์ดาร์นีย์จากฝั่งของจักรวรรดิเนธิลอร์ แร็คน่าร์จะหลบหลีกให้หมดอีกทั้งเตรียมตัวฝึกฝนให้ตนเองแข็งแกร่งเพื่อเตรียมตัวจัดการองค์ชายลินคอล์นในอนาคตที่หมายจะมาทำร้ายจักรวรรดิโซลาสต้าอันเป็นบ้านเกิดของตนอง
จู่ๆแร็คน่าร์ก็นึกถึงแผนการหนึ่งขึ้นมาได้ หากเขาเลือกที่จะไปช่วยองค์ชายเทรย์เวอร์ผู้เป็นน้องชายล่ะอีกทั้งยังช่วยสังหารพี่ชายที่อนาคตจะขึ้นเป็นทรราชสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นอีกมากมาย เรื่องมันจะเปลี่ยนไปรึเปล่า? เท่าที่จำได้จากอดีตเหมือนองค์ชายเทรย์เวอร์นั้นถึงร่างกายจะอ่อนแอทว่ากลับมีสติปัญญาเป็นเลิศทั้งยังเป็นกษัตริย์ที่ดี ความจริงที่ถูกพี่ชายสังหารก็เพราะเจ้าตัวนั้นรักพี่ชายมากเชื่อใจจนไม่รู้ว่าตนเองนั้นจะถูกฆ่า
“แร็คน่าร์ครับ มาทานของว่างก่อนเร็ว” เสียงอันแสนคุ้นเคยทำเอาแร็คน่าร์หลุดจากภวังค์ความคิด พี่ชายที่ใบหน้าละม้ายคล้ายกับเจ้าตัวเดินเข้ามาในลานฝึกพร้อมกับตะกร้าที่ใส่ของว่างไว้ด้านใน แร็คน่าร์ยกแขนเช็ดคราบเหงื่อตามกรอบหน้าเรียวสง่าพลางส่งยิ้ม
“ขอบคุณนะครับพี่ ไม่คิดว่าจะเป็นพี่ที่มาหาปกติจะเป็นพี่รูเอลนี่นา ว่างจากการเรียนแล้วหรือครับ” แร็คน่าร์ถามเสียงใสพลางหยิบพายสตรอว์เบอร์รีขึ้นมาทานด้วยสีหน้าชื่นมื่นแจ่มใส พอได้ทานของหวานที่เป็นของโปรดของตนก็ทำให้ความเหนื่อยหายลงไปเยอะโข
“วันนี้ไม่มีเรียนน่ะพี่เลยไปช่วยคุณพ่อดูงานแทน ขากลับเลยแวะซื้อพายของโปรดที่เราชอบกินให้นี่ไงครับ พายฝีมือมาดามซาร่าห์ยังคงอร่อยเหมือนเดิมใช่หรือไม่” ไรเกอร์ลูกชายคนโตตระกูลโลคาซันเดอร์ส่งรอยยิ้มละมุนละไมไปให้น้องชายตนเอง ไม่วายลูบหัวด้วยความเอ็นดู
แร็คน่าร์พยักหน้าถี่รัว “ครับ อร่อยมากช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงนี่ดีจริงๆสตอรว์เบอร์รีเกิดเต็มไปหมดเลย ผมคงกินของพวกนี้ได้ทั้งวัน”
“ว่าแต่เรื่องที่จะไปเรียนแลกเปลี่ยนที่เนธิลอร์น่ะ จะไม่ไปจริงๆหรือแร็คน่าร์” พี่ชายเปิดประเด็นคำถามขึ้นมา แร็คน่าร์ได้ยินดังนั้นก็เงียบไปก่อนวางพายลงในตะกร้าดังเดิมจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นสบตาพี่ชายของตนเอง เขารู้ว่าท่านพี่ของเขาไม่เคยบังคับเขาแต่คงมีมีเรื่องอะไรแน่ๆเลยถาม
“ครับพี่ ผมคิดว่าการได้เรียนอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้แย่อะไรถึงสถาบันแอสเพนจะดีเป็นอันดับต้นๆของโลกก็ตาม ว่าแต่ท่านพี่ถามทำไมหรือครับ” เด็กหนุ่มตัวเล็กว่าเอียงคอสงสัย
“ตอนพี่ไปดูงานมากับคุณพ่อ พี่ไปรู้มาว่าทางหอคอยเวทย์ได้ย้ายเหล่าคัมภีร์โบราณทั้งหลายเช่นศาสตร์แห่งอรรณพไปไว้ที่สถาบันแอสเพนชั่วคราวน่ะเนื่องจากที่หอคอยเวทย์เหมือนจะมีปัญหาอะไรนิดหน่อย เราเคยเล่าให้พี่ฟังไม่ใช่หรือว่าสนใจจะอ่าน” พอได้ยินคำพูดเช่นนี้ของพี่ชายก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
แร็คน่าร์เป็นผู้ปลดล็อกพลังเวทย์วารีที่เป็นเวทย์ที่หายากได้ ดังนั้นการได้อ่านคัมภีร์ศาสตร์แห่งอรรณพและนำมาปรับใช้กับเวทย์ของตนเองถือว่าเป็นหนึ่งในที่สิ่งเจ้าตัวอยากทำมากที่สุด เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ชายของเขาถึงได้มาถามเขาอีกครั้ง
หากเขาได้ไปเรียนแลกเปลี่ยนที่เนธิลอร์ก็คงจะได้มีโอกาสอ่านคัมภีร์เล่มนั้นตามที่ตนเองต้องการและใฝ่ฝันมาโดยตลอด แต่กระนั้นอีกใจหนึ่งของแร็คน่าร์กลับกำลังหวาดกลัวเพราะที่สถาบันนั้นย่อมมีราชวงศ์ไปเรียนด้วยอยู่แล้ว เขายังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับอดีตที่แสนโหดร้ายมากถึงขนาดนั้น
เรื่องของครอบครัวดูเบาไปเลยเมื่อเทียบกับเรื่องของเอลเลียตและองค์ชายลินคอล์นที่พบเจอในอดีต ดังนั้นแร็คน่าร์จึงก้ำกลืนฝืนใจตนเองพูดออกไป “ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ เห็นว่านำไปไว้ชั่วคราวนี่นาเดี๋ยวก็คงกลับไปไว้ที่หอคอยเวทย์เช่นเดิมแล้ว”
“แต่นั่นคือสิ่งที่เรา—” ผู้เป็นพี่ชายพยายามที่จะพูดต่อ
“ไม่เป็นไรเลยครับ อีกอย่างผมเพิ่งสิบขวบเองยังเหลือเวลาอีกมากตอนนี้ก็อ่านหนังสือเวทย์ขั้นสูงไปก่อนก็ย่อมได้ถือเป็นการเตรียมพร้อมก่อนที่จะไปอ่านคัมภีร์นั้น รวมถึงผมเองก็จะอยากจะอ่านภาษาโบราณให้คล่องกว่านี้ก่อน” แร็คน่ากล่าวอย่างใจเย็น
“เข้าใจแล้ว หากเราว่าแบบนั้นพี่ก็ย่อมไม่ขัดอะไร อยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกันไม่งั้นคุณพ่อกับคุณแม่คงคิดถึงเราน่าดูเลยจริงหรือไม่” ผู้เป็นพี่ชายเข้าใจในสิ่งที่น้องชายตัวเล็กพูดจึงยอมและไม่กล่าวถึงเรื่องนั้นอีก หลังจากนั้นเขาก็ขอตัวกลับเข้าไปในคฤหาสน์เพื่อช่วยคุณพ่อจัดการเอกสารต่อ
เด็กหนุ่มตัวน้อยผู้มีใบหน้าเพริศแพร้วโบกมือลาพลางเก็บมือหนึ่งไขว่หลังไว้เพื่อปกปิดความสั่นเทิ้มที่ปะทุออกมาจากจิตใจ ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้ก็ยังคงทำไม่ได้ ขอให้เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้ก่อนถ้าแข็งแกร่งมากพอแร็คน่าร์ก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ามันอย่างแน่นอน
เขาทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นอย่างอ่อนล้าไม่วายนั่งนึกถึงความทรงจำในอดีตไปพลาง การที่เขาย้อนเวลากลับมาในครั้งนี้จุดประสงค์มาเพื่อแก้ไขอดีตของตนเองเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก ไม่ให้ท่านพ่อติดพนันจนทำให้ตระกูลล่มจม ไม่ให้จักรวรรดิต้องพบเจอกับปัญหา รวมถึงไม่ให้เอลเลียตสังหารตนเองเฉกเช่นอดีต
แร็คน่าร์จะเติบโตไปเป็นซอร์ดมาสเตอร์ผู้ยิ่งใหญ่และปกป้องจักรวรรดิให้พ้นจากอันตรายทั้งปวง พร้อมทั้งช่วยเหลือผู้อื่นยามลำบากเป็นคนดีมอบความสุขให้ผู้คนอีกมากมาย แร็คน่าร์คนเก่าได้ตายจากไปแล้วต่อจากนี้แร็คน่าร์คนใหม่จะเข้ามาแทนที่เปลี่ยนโชคชะตาอันแสนหดหู่และโหดร้ายของตัวเขาเอง
ถึงเวลาที่จะเริ่มต้นใหม่แล้ว ทอดทิ้งตัวตนเก่าแล้วก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ
“โอ้ดูเหมือนว่าพี่จะแนบหนังสือพิมพ์ใส่ตะกร้ามาดวยแฮะ อ่านระหว่างพักผ่อนสักหน่อยก็ดีเหมือนกันไหนดูซิว่าเนื้อหาข่าวตอนนี้กล่าวเกี่ยวกับอะไร” เจ้าของเรือนผมสีดำขลับเงางามสะท้อนเสียงแดดยามบ่ายเลื่อนสายตาลงไปอ่านเนื้อหาภายในหนังสือพลางหยิบพายของโปรดใส่ปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย
เนื้อหาข่าวไม่มีอะไรที่พิเศษมากนัก ไม่กล่าวถึงสภาพเศรษฐกิจก็กล่าวถึงเหล่าชนนั้นสูงที่มีชื่อเสียงรวมถึงราชวงศ์ต่างๆ ซึ่งเนื้อหาข่าวในตอนนี้เป็นการกล่าวแสดงความยินดีกับทางองค์ชายเทรย์เวอร์ที่เลือกเข้าลองเรียนกับทางสถาบันแอสเพนรวมถึงองค์ชายลินคอล์นที่ตามไปเรียนด้วย
ภายในเนื้อหาของข่าวมีภาพถ่ายสลักเวทย์แนบไว้ด้วย โดยภาพที่ปรากฏให้แร็คน่าร์เห็นนั้นคือเด็กชายตัวเล็กวัยห้าขวบก้าวลงจากรถม้าราคาแพงพร้อมกับคนตัวสูงที่คาดเดาได้ไม่ยากว่านั่นคือองค์ชายหนึ่งแห่งเนธิลอร์ที่ติดตามน้องชายตัวน้อยไปเรียนที่สถาบันด้วย
“ไอ้หมอนี่มันตามน้องชายของตัวเองไปทุกๆที่เลยสินะ น่าสงสารน้องชายที่มีแกเป็นพี่จริงๆองค์ชายลินคอล์น ถ้าทำตัวดีสักนิดเช่นการรักน้องชายให้มากๆแบบเดียวกับที่น้องชายรักแกคงจะดีมากเลย” เจ้าของนัยน์ตาสีดำนิลในวัยสิบปีเอ่ยแผ่วเบาด้วยสีหน้าที่คล้ายจะระอาเต็มที
เจ้าตัวอ่านข่าวเนื้อหาเกี่ยวกับราชวงศ์ของฝั่งเนธิลอร์อย่างเพลิดเพลินจนลืมอย่างที่สองที่ตนเองได้บังเอิญคิดไปช่วงก่อนที่พี่ชายนั้นจะเดินเข้ามาหาที่ลานฝึก ช่างน่าแปลกที่ไม่ว่าแร็คน่าร์จะนึกถึงเรื่องราวเกี่ยวกับองค์ชายสองแห่งเนธิลอร์กี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็มักจะลืมอยู่เสมอ
ในทางกลับกันชายในฝันที่นายเอกนิยายผู้งามพริ้มเพรานั้นมักพบเจอยามหัวถึงหมอนกลับจำได้ดีไม่มีวันลืม ต่อให้ลืมตาตื่นขึ้นมาจากฝันนั้นก็ยังคงที่นั่งนึกถึงอยู่เช่นนั้นร่วมนาทีไม่วายเสียดายที่ต้องลืมตาตื่นขึ้นจากห้วงวิมานสวรรค์ที่ตนเองนั้นได้พบเจอ ด้วยเหตุนี้ในบางคราแร็คน่าร์ก็รักการนอนหลับมากกว่าการฝึกเพื่อเป็นซอร์ดมาสเตอร์ที่เก่งกาจเสียอีก
เพราะชายในฝันได้มอบความสุขให้แก่เขาจนล้น คร้านจะลืมตาขึ้นตื่น อีกทั้งยังมอบคำมั่นสัญญาให้ในความฝันว่าสักวันจะมาหา
______