อกหักมาตั้งไม่รู้กี่รอบก็ไม่ตายสักที แต่หัวใจก็ชักบอบช้ำเกินทน ดังนั้นเขาจึงเลือกมอบหัวใจให้ใครคนหนึ่งดูแล
รัก,ชาย-หญิง,ไทย,โรแมนติก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ฝากหัวใจให้คุณดูแลอกหักมาตั้งไม่รู้กี่รอบก็ไม่ตายสักที แต่หัวใจก็ชักบอบช้ำเกินทน ดังนั้นเขาจึงเลือกมอบหัวใจให้ใครคนหนึ่งดูแล
ลิขิตรออยู่หลายอึดใจ สุดท้ายสายก็ตัดไป...
ชายหนุ่มยกมือขึ้นเกาหัว ไม่รู้ว่าอวิกาไม่อยากรับสายหรือว่าไม่สะดวกที่จะรับสายตอนนี้กันแน่ เขาขอเข้าข้างตัวเองก็แล้วกันว่าเธออาจจะยังไม่สะดวกรับสายตอนนี้
ในขณะที่กำลังคิดเรื่อยเปื่อย เขาก็ต้องสะดุ้ง! เพราะโทรศัพท์ในมือกำลังสั่นไหวเพราะมีคนโทรเข้า และชื่อที่เขาบันทึกไว้ก็คือเพชร(อวิกา) เพราะมีคนในแผนกชื่อเล่นเหมือนหญิงสาว เขาจึงต้องวงเล็บชื่อจริงเอาไว้ด้วย
“ฮัลโหลครับคุณเพชร สะดวกคุยกับผมหรือเปล่าครับ”
“สะดวกค่ะ” เธอยังคงมีน้ำเสียงอ่อนหวานชวนฟังเหมือนเดิม นี่คงเป็นหนึ่งในเสน่ห์ของเธอที่มีผลดีกับงาน เห็นปรายฟ้าบอกเดือนหนึ่งหญิงสาวได้ค่าคอมมิชชั่นจากการขายเยอะกว่าเงินเดือนประจำตำแหน่งเสียอีก
“ผมขอเวลาไม่มากหรอกครับ ไม่เท่าเมื่อคืนแน่นอน” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
“ตอนนี้สบายใจขึ้นหรือยังคะ จริงๆ เพชรค่อนข้างตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่เงียบอย่างเดียว ตอนที่คุณลีร้องไห้น่ะค่ะ”
“ไม่เป็นอะไรแล้วครับ ขอบคุณที่ฟังผมระบายความในใจ แล้วก็ผมต้องขอโทษที่รบกวนเวลาของคุณเพชรมากๆ ครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณลีอย่าคิดมากเลยนะคะ”
“ไม่คิดมากได้ยังไงล่ะครับ เล่าไปซะหมด” ลิขิตคร่ำครวญ “ตอนนี้คุณเพชรคงคิดว่าผมเป็นแค่ผู้ชายขี้แพ้ที่ไม่ยอมเสี่ยงพูดกับเพื่อนไปตรงๆ ว่ารู้สึกยังไง”
“ไม่เห็นจะเป็นคนขี้แพ้เลยนี่คะ เรื่องความรักมันไม่มีแพ้ชนะหรอกค่ะ มีแค่จังหวะเวลาที่ใช่หรือไม่ใช่ค่ะ”
“แต่ในเมื่อเขาแต่งงานไปแล้ว ผมก็คงได้เวลาตัดใจอย่างเด็ดขาดแล้วรอเลี้ยงหลานแหละครับ”
ในที่สุดอวิกาก็หัวเราะเสียงใสออกมา “นั่นสิคะ คงต้องรอเลี้ยงลูกของเพื่อนแล้วล่ะค่ะ”
“ถึงยังไงผมก็ยังรู้สึกผิดนะครับ ก็เลยอยากจะขอเลี้ยงอาหารคุณเพชรสักมื้อ ไม่ทราบว่าคุณเพชรจะสะดวกหรือเปล่า”
“ก็สะดวกนะคะ ส่วนใหญ่เลิกงานแล้วเพชรก็กลับคอนโด ไม่ค่อยได้ออกไปไหน นอกจากไปยิมค่ะ”
“คุณเพชรชอบอาหารประเภทไหนหรือร้านอาหารแบบไหนเป็นพิเศษ บอกผมได้นะครับ”
“เพชรเป็นคนกินง่ายค่ะ ได้หมดทุกอย่างเลยค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะพาไปร้านที่ผมเคยไปแล้วคิดว่าอร่อยแล้วกันนะครับ”
“ได้ค่ะ”
“ถ้ายังไง เป็นพรุ่งนี้เลยได้ไหมครับ เดี๋ยวผมไปรับคุณเพชรที่คอนโด”
“ได้ค่ะ แต่บอกเพชรสักหน่อยได้ไหมคะว่าเป็นร้านแบบไหน เพชรจะได้เลือกเสื้อผ้าถูก”
“เป็นร้านอาหารริมคลอง บรรยากาศสบายๆ ครับ”
“โอเคค่ะ แล้วเจอกันนะคะคุณลี”
“แล้วเจอกันครับ”
หลังจากวางสาย ความกังวลก็ถูกยกออกจากอก อวิกาไม่โกรธ แถมยังดูเข้าอกเข้าใจเขาเป็นอย่างดีอีก สมกับที่โปรดปรานเคยบอกเอาไว้ว่าเธอเป็นสาวหวาน ใจดี น่ารัก
*****
วันนี้อวิกาเลิกงานแล้วก็ตรงกลับคอนโดของตัวเองทันที ไม่ได้แวะที่ไหนเพื่อซื้อมื้อเย็นกลับไปกินเพียงลำพังเหมือนเช่นทุกวัน
หลังหญิงสาวอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ก็ออกมาเป่าผมให้แห้งอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรวบผมยาวลอนสีน้ำตาลขึ้นเป็นหางม้า จากนั้นจึงหยิบชุดจัมป์สูทแขนกุดสีเทาอ่อนมาสวม แล้วแต่งหน้าเพียงบางๆ เท่านั้น
เมื่อเหลือบมองดูเวลาว่าใกล้หนึ่งทุ่มตามที่นัดกับลิขิตไว้ อวิกาจึงลงมานั่งรอที่ล็อบบี้ของคอนโด ทว่านั่งเพียงไม่ถึงห้านาทีชายหนุ่มก็โทรมาบอกว่ามาถึงหน้าคอนโดของเธอแล้ว หญิงสาวจึงเดินออกไปขึ้นรถของลิขิตที่เป็นรถเก๋งคันใหม่ป้ายแดง
อวิกายิ้มให้ชายหนุ่มที่เผลอเล่าเรื่องความรักของตัวเองให้เธอฟังทั้งหมดเพราะเมา หลังจากเปิดประตูขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว
“คุณลีเพิ่งซื้อรถใหม่เหรอคะเนี่ย”
“ครับ” ลิขิตยิ้ม “ยังไม่มีใครได้นั่งเลยนอกจากผม”
“เพชรโชคดีนะคะเนี่ย ได้นั่งรถใหม่ด้วย”
“ถ้าต้องใช้คันเก่ามารับคุณเพชรคงอายแย่ วันดีคืนดีก็ดื้อไม่ยอมวิ่งซะอย่างนั้นจนต้องส่งซ่อมบ่อยๆ”
รถคันเก่าของลิขิตนั้นเป็นรถเต่ารุ่นคุณปู่ที่มาริษาชอบเป็นอย่างมาก หญิงสาวตื๊อขอซื้อต่อหลายหนเขาก็ไม่ใจอ่อนขายให้ เพราะเธอจะชอบมาขอนั่งให้เขาขับพาไปไหนมาไหนด้วยกัน(ในช่วงที่เธอโสด) ทว่าสุดท้ายแล้วเมื่ออยากจะตัดใจก็เลือกที่จะขายมันให้เพื่อนสนิทไปเสีย เพราะเธอคงจะไม่ได้มานั่งอยู่ข้างกันอีกแล้วและเรื่องนี้เขาก็เผลอเล่าให้อวิกาฟังไปด้วย
เมื่อทั้งสองมาถึงร้านอาหารก็ตรงไปยังโต๊ะที่ลิขิตโทรมาจองไว้ เป็นจุดที่มีวิวดีๆ ริมน้ำ ชวนให้เพลิดเพลินระหว่างรับประทานอาหารมื้อนี้ด้วยกันนั่นเอง
“ที่นั่งตรงนี้ถ้าไม่โทรมาจองล่วงหน้า ต้องโชคดีมากจริงๆ ถึงจะได้นั่งครับ” ลิขิตเอ่ยปากบอกหลังบริกรหยิบป้ายที่มีคำว่าจองออกจากโต๊ะและรับออเดอร์ไปด้วย
“บรรยากาศดีมากค่ะ แต่ทางที่มาลึกลับอยู่เหมือนกันนะคะ คุณลีรู้จักร้านนี้ได้ยังไงคะ”
“เพื่อนเป็นคนพามาครับ”
“คุณคนนั้นเหรอคะ”
“เปล่าครับ” ลิขิตรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไอ้สน เพื่อนที่ผมกับไอ้โปรดเช่าบ้านมันอยู่น่ะครับ สนิทกันมาตั้งแต่สมัยมหา’ลัย ช่วงแรกๆ ที่มันลาออกมาทำงานฟรีแลนซ์ก็เลยอยากได้รายได้ที่เข้าบัญชีทุกเดือนด้วย เลยชวนผมกับไอ้โปรดมาเช่าบ้านมันอยู่ ตอนเย็นๆ บางทีก็ออกมาหาอะไรกินด้วยกัน แล้วมันถึงได้พามาที่ร้านนี้ครับ”
“อ๋อค่ะ เป็นแบบนี้นี่เอง” เธอยิ้มรับเบาๆ
“บอกตามตรงนะครับ ผมตั้งใจจะตัดใจจริงๆ แต่ถ้าวันหน้าผมพาคุณเพชรไปร้านที่ผมเคยไปกับเขา ไม่ใช่เพราะผมอยากจะรำลึกความหลัง แต่เป็นแค่ที่ที่ผมอยากพาคุณไป”
อวิกามองเขาตาแป๋ว ดวงตากลมโตของเธอจ้องเขานิ่ง “วันหน้าเหรอคะ”
“ผมคิดว่าต้องมีวันหน้าแน่ๆ ครับ อย่างน้อยๆ ตอนนี้เราก็เป็นเพื่อนกันแล้ว คุณเพชรอยากเป็นเพื่อนกับผมไหมครับ” ชายหนุ่มที่ดูหน้าดุหากไม่ยิ้ม ขยับยิ้มกว้าง ทำให้ใบหน้าของเขาดูดีขึ้นจนพาให้ใจของอวิกาเต้นตึกตักๆ ขึ้นมา
“ค่ะ ด้วยความยินดี” ทว่าในใจของหญิงสาวกลับไม่ค่อยกล้าคาดหวังไปมากกว่านี้ เพราะกลัวว่าลิขิตจะอยากเป็นแค่เพื่อนกับเธอเท่านั้นจริงๆ
อาหารที่ทยอยมาเสิร์ฟขัดจังหวะการพูดคุยของอวิกากับลิขิตพอดี หลังจากนั้นในระหว่างรับประทานอาหารด้วยกัน เรื่องที่คุยจึงเปลี่ยนไปเรื่องเรื่อยเปื่อยไปจนกระทั่งอิ่มและเดินทางกลับ
*****
“แกกับพี่ลีไปกันถึงไหนแล้ววะ” ปรายฟ้าที่วันนี้ไม่ได้ทะเลาะกับแฟนหนุ่มคนล่าสุดแต่อย่างใด แค่ชายหนุ่มไปเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัว เจ้าตัวเลยมาค้างกับเพื่อนเพราะอยู่คนเดียวแล้วเหงา
อวิกากับลิขิตตกลงเริ่มคุยทำความรู้จักกันอย่างจริงจังมาได้ราวๆ เดือนหนึ่งแล้ว แต่ความสัมพันธ์ก็ยังเป็นแค่คนคุย ดูชักช้าไม่ทันใจปรายฟ้าสักเท่าไร
“ยัยปราย แกใจเย็นๆ ได้ไหม ให้เวลาเรากับพี่ลีได้ทำความรู้จักกันมากกว่านี้หน่อย นี่แฟนคนแรกเลยนะ เราก็อยากมั่นใจมากกว่านี้อีกนิด”
“เออก็จริงว่ะ แต่ก็อย่าคุยให้นานจากเดือนเป็นปีนะแก”
“คงไม่ขนาดนั้นหรอก”
“อย่าประมาทนะแก บางคนเป็นได้แค่คนคุยไปทั้งชาติก็มี”
“รู้น่า แต่รับรองว่าถ้าเผลอคุยๆ ถึงปี แล้วพี่ลีเขาไม่ชัดเจน เราก็ว่าตัวเองคงเหมาะจะเป็นสาวโสดมากกว่า”
“อะไรแกเพิ่งจะอายุเท่านี้ ตั้งเป้าจะอยู่เป็นโสดละ อย่างน้อยๆ ลองแซ่บกับผู้ชายสักครั้งหนึ่งก่อนเถอะ”
“แกนี่ อย่าลากลงเรื่องใต้สะดือได้ไหม” หญิงสาวเอ็ดเพื่อน
“จากทรงของพี่ลี โสดแต่ไม่สดแน่นอน” ปรายฟ้าทำหน้าทะเล้น
อวิการู้สึกอยากจะตีเพื่อนสักทีสองที แต่เสียงของโทรศัพท์กลับดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน เธอจึงได้แต่ค้อนเพื่อนและเดินหนีออกจากห้องนอนไปคุยกับลิขิตที่โทรมาหา
“คะพี่ลี ขอโทษที่รับช้านะคะ ตีกับยัยปรายนิดหน่อย” หญิงสาวเปลี่ยนจากเรียกคุณลีเป็นพี่ลีแล้ว หลังจากที่เริ่มคุยกันมาได้ระยะหนึ่ง
“อยู่ที่คอนโดด้วยกันเหรอครับ”
“ค่ะ อยู่ด้วยกันที่คอนโดเพชรนี่แหละค่ะ แฟนไอ้ปรายไปต่างประเทศค่ะ มันเหงาก็เลยมาค้างกับเพชร”
“นี่พี่ก็จะไปต่างประเทศเหมือนกัน ปีนี้บริษัททำกำไรโตสุดในรอบสิบปี ให้โหวตว่าอยากไปประเทศไหนที่สุด สรุปว่าได้ไปญี่ปุ่นกันน่ะ พี่เลยจะมาถามว่าอยากได้อะไรเป็นของฝาก รับหิ้วพิเศษสำหรับน้องเพชรคนเดียว” น้ำเสียงของชายหนุ่มทำให้อวิกาจินตนาการว่าเขากำลังยิ้ม
“เพชรชอบพวกเครื่องรางถุงผ้าจากวัดญี่ปุ่นค่ะ สะสมเอาไว้เยอะเหมือนกัน ทั้งเรื่องงาน เรื่องความรัก เรื่องสุขภาพ แมวกวักก็ชอบนะคะ ขอสักตัวก็พอค่ะ”
“ได้ครับ” เขารับคำด้วยน้ำเสียงจริงจัง อวิกาเดาว่าคงได้แมวกวักตัวใหม่มาตั้งคู่กับตัวที่เธอเคยซื้อมาด้วยตัวเองแน่ๆ จากนิสัยเอาจริงจริงเอาจังของลิขิต “แต่ช่วงที่ไปพี่อาจจะขาดการติดต่อไปบ้างนะครับ เพราะพี่รับหน้าที่เป็นหัวหน้าประจำกลุ่ม นอกจากดูแลตัวเองยังต้องดูแลคนอื่นอีกนิดหน่อย”
“ไม่เป็นไรค่ะ เพชรเข้าใจ พี่ลีเที่ยวให้สนุกเถอะค่ะ”
“มันไม่สนุกน่ะสิ” ชายหนุ่มถอนหายใจ
“อ้าวเหรอคะ นึกว่าอยากไปเที่ยว”
“คนอื่นอาจจะชอบ แต่พี่ไม่ชอบไปเที่ยวกับบริษัทสักเท่าไร รู้สึกวุ่นวาย เหมือนไม่ได้มาพักหรอก แถมตารางก็แน่นมาก แวะหลายที่เพราะหลายคนบอกอยากเอาคุ้ม แต่พี่ชอบแบบที่แช่อยู่กับที่ที่หนึ่งนานๆ”
“เอาไว้เราหาวันลาพักร้อนไปด้วยกันดีไหมล่ะคะ รับรองว่าพี่ลีได้พักผ่อนเต็มที่แน่ๆ”
“พี่ก็สนใจนะ เอาเป็นว่าพี่กลับจากญี่ปุ่นเมื่อไร เราลองมาคุยเรื่องวันลากับที่ที่จะเที่ยวกันอีกทีดีไหมครับ”
“ดีค่ะ”
“เอาเป็นว่าอยากจะไปที่ไหนบ้าง น้องเพชรก็ลองเลือกๆ ไว้ก่อน แล้วเดี๋ยวเรามาสรุปกันอีกทีว่าจะไปกี่วัน”
“ได้เลยค่ะ” อวิกาเอ่ยด้วยน้ำเสียงดีใจ
“แต่ก่อนจะไปเที่ยว พี่มีร้านอาหารที่อยากพาน้องเพชรไปดินเนอร์ก่อนนะครับ”
“ร้านสไตล์ไหนเหรอคะ”
“เป็นร้านอาหารบนดาดฟ้า วิวดีเหมาะแกการแต่งชุดสวยๆ ไปถ่ายรูปครับ”
“โอเคค่ะ”
อวิกาใช้เวลาคุยกับลิขิตประมาณชั่วโมงหนึ่งเหมือนทุกทีแล้วก็จะวางสายในช่วงราวๆ สี่ทุ่ม ซึ่งเป็นเวลาเข้านอนโดยปกติของเธอ ส่วนปรายฟ้าผู้แสนหลับง่ายดาย ถ้าไม่มีอะไรทำก็มักจะนอนหลับสนิทไปก่อน ดังนั้นเมื่อเปิดประตูเข้าห้องจึงไม่มีเสียงล้อเลียนจากอีกฝ่ายให้ได้ยินแม้แต่คำเดียว